ภาพและเรื่องสนุกๆ ของ แดน และ บีม ดีทูบี ในออสเตรเลีย
วันนี้มีภาพและเรื่องสนุกๆ ของสองหนุ่มขวัญใจแฟนเพลงทั่วประเทศมาฝาก รับรองได้หายคิดถึงกันแน่นอน เริ่มจากหนุ่มเข้มคนแรก "แดน" วรเวช ดานุวงศ์ หรือที่รู้จักกันดีในนาม "แดน D2B" ที่หอบหิ้วสัมภาระไปพร้อมกับทีมงานรายการสัญญามหาชน พาชาวคณะไปเยี่ยมเยียนพี่ใหญ่ใจดี "บีม" กวี ตันจรารักษ์ หรือ "บีม D2B" ที่ไปเรียนภาษาอังกฤษอยู่ที่บริสเบน เมืองหลวงของรัฐควีนแลนด์ ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปออสเตรเลีย ตั้งแต่เดือนมีนาคม ต้นปีที่ผ่านมา
แต่กว่าจะไปเจอกับบีม ก็ทำเอาขวัญเสีย เพราะเครื่องบินล่าช้าไปเกือบ 1 ชั่วโมง ซึ่งพอได้เจอหน้ากันก็ดีอกดีใจกันใหญ่ แต่ไม่วายมีแซวกัน โดยเฉพาะทรงผมของบีมที่สั้นขึ้น กับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมา 5 กิโลกรัม
เริ่มเดินทางเวลา 17.35 น. ในวันที่ 11 ก.ค. ใช้เวลาประมาณ 11 ชั่วโมง ซึ่งเวลาที่นี่จะเร็วกว่าไทยเรา 3 ชั่วโมง อากาศก็กำลังเย็นได้ที่ต่ำสุด 10 องศา ซึ่งได้นัดหมายกับบีมให้มาเจอกันที่สนามบินบริสเบน เพื่อนั่งรถบัสต่อไปยังท่าเรือข้ามไปที่เกาะ Tangalooma ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองบริสเบนเพียง 40 กิโลเมตร
พอเก็บสัมภาระเข้าที่พัก ก็เริ่มกิจกรรมผจญภัยกันเลย เริ่มจาก นั่งรถบัสคันใหญ่ขึ้นไปบนภูเขา เพื่อไปเล่น โทบ็อกเกน (Toboggaing) เลื่อนไม้ชนิดยาวที่ลื่นลงมาจากทะเลทราย หลังจากฟังวิธีการเล่นจาก เจ้าหน้าที่แล้ว สองหนุ่มก็ขึ้นไปลุยทันที รอบเดียวไม่พอ ขอสองรอบ ปรากฏว่าเจอทรายเข้าปากไปเต็มๆ โดยเฉพาะบีม ส่วนแดนบอกยังไม่สะใจ เพราะความเร็วในการไหลลื่นลงมายังไม่เท่าไร
จากนั้นก็เตรียมตัวไปให้อาหารปลาโลมา ที่สะพานหน้ารีสอร์ท สองหนุ่มก็ค่อนข้างตื่นเต้นเพราะได้ให้อาหารกับมือเลย แต่กว่าจะได้ให้ ก็ออกอาการสั่น ไม่ใช่อะไร ก็น้ำทะเลตอนค่ำของที่นี่ เย็นได้ใจจริงๆ แถมพอซักพักมีฝนตกลงมาอีก วิ่งหลบฝนกันแทบไม่ทัน
วันที่ 2 ของทริปนี้ สองหนุ่มได้ล่องเรือไปดูปลาวาฬ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่บอกว่าไม่รับรองว่าออกไปแล้วจะได้เห็นวาฬหรือเปล่า เอาละซิ แรกๆ เรือก็แล่นเพลินๆ สบายๆ แต่พอไปไกลก็เริ่มมีคลื่นเล็กน้อยถึงปานกลาง กระทั่งถึงรุนแรง ทำเอาเมาคลื่นเมาเรือกันไป แต่ก็โชคดีมากๆ เพราะทริปนี้ได้เห็นปลาวาฬใกล้มากๆ ตัวใหญ่มากๆ แถมเห็นพร้อมกันหลายตัวด้วย
วันที่ 3 ของการเดินทางเริ่มต้นแต่เช้าตรู่ เพื่อเตรียมตัวไปยัง Sea World ที่รวมของสัตว์ทะเลในซีกโลกใต้ รวมถึงกิจกรรมอื่นๆ เช่น โชว์โลมา ซึ่งสองหนุ่มก็ไม่พลาดที่จะเข้าไปชม แถมยังได้รับการอนุญาตเข้าไปให้อาหารปลาโลมาอีกด้วย เรียกว่าเป็นทริปโลมาได้เลยนะเนี่ย จากนั้นก็เดินลัดเลาะชมสัตว์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น หมีขั้วโลกใต้ สีขาวตัวใหญ่ ขวัญใจของเด็กตัวเล็กๆ และฉลามทั้งตัวใหญ่ ตัวเล็ก ก็กว่าจะเดินชมกันทั่ว Sea World ก็ทำเอาเมื่อยไปตามๆ กัน
วันที่ 4 ของการเดินทางแล้ว ทุกคนเตรียมตัวกันแต่เช้า กลับไปบริสเบน เพื่อไปชมชีวิตประจำวันของบีมในออสเตรเลีย งานนี้บีมทำหน้าที่เป็นไกด์นำทางพูดภาษาอังกฤษ ฟุตฟิตฟอไฟบอกทางกับคนขับรถ เริ่มต้นที่โรงเรียนสอนภาษา Queensland College of English บีมพาไปที่ห้องเรียนที่เรียนทุกวันจันทร์-ศุกร์ ก็เจอกับคุณครูประจำชั้นและเพื่อนร่วมชั้นเรียน มีทั้งคนไทย เกาหลี ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส ฯลฯ พอเพื่อนๆ เห็นกองคาราวาน ของทีมงานก็แตกตื่นกันพอสมควร ส่วนบีมก็เขินอายไปตามระเบียบ
จากโรงเรียนก็นั่งรถมาที่บ้านผู้ปกครองโฮมสเตย์ของบีม ซึ่งไกด์คนเก่งมาหลงจนได้ โดนแซวจนต้องรีบชี้แจงว่าปกติผมขึ้นรถเมล์ไปเรียน คุ้นแต่เส้นทางที่รถเมล์วิ่ง ไม่คุ้นเส้นทางอื่นเลยครับ
พอไปถึงที่บ้านก็ตกใจกันใหญ่ เพราะบ้านสวยมาก ๆ แล้วพอได้เจอ เจสัน กับ ชารอน ผู้ปกครองของบีม ก็ยิ่งตกใจเป็นครั้งที่สอง เพราะยังหนุ่มยังสาวมาก แถมยังมี ชิสะ สาวน้อยชาวญี่ปุ่นวัย 15 ปี นักเรียนที่ เจสัน ชารอนเป็นผู้ปกครองด้วย
บีมพาเดินชมบ้านที่พัก ที่หลายๆ คนแซวว่า เหมือนบ้านตัวอย่าง เพราะสวยมาก จนไม่มีใครกล้าแตะอะไร ยกเว้นหนุ่มแดนที่พอเห็นเปียโนก็เลยขออนุญาตเจ้าของบ้าน ขอลองเล่นเสียหน่อย
นอกจากจะพาเดินชมบ้านแล้ว บีมยังแสดงฝีมือทำอาหาร Chicken คาบับ ให้ลองทานกันด้วย เพราะตอนเช้าบีมมีหน้าที่ทำอาหารเช้าให้ที่บ้านทานกัน โดยมี เจสัน ชารอน ยืนให้กำลังใจอยู่ห่างๆ ซึ่งทั้งคู่บอกว่าภาพแรกที่คิดถึงบีมช่างแตกต่างจากความเป็นจริง คือเข้าใจว่านักร้องต้องดูโหดๆ ผมยาวๆ เป็นร็อกเกอร์อะไรประมาณนั้น แต่พอเห็นตัวจริงแล้ว ตกใจ เพราะเรียบร้อยมากๆ
หลังจากเอร็ดอร่อยกับเมนูพิเศษของบีมแล้ว พวกเราก็ยกทีมกันไปในเมือง เพื่อไปร้าน Bow Thai ร้านอาหารที่บีมทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟ ซึ่งปกติบีมจะมาทำทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 16.00 - 23.00 น. ได้วันละ 50 เหรียญ ตกประมาณ 1,500 บาท ก่อนอื่นบีมก็ต้องเข้าไปเปลี่ยนชุดพนักงานเสิร์ฟก่อน
ทางเจ้าของร้าน น้าแพท ได้เล่าให้ฟังว่า ที่นี่ก่อนเสิร์ฟต้องแปรงฟันก่อน แล้วเวลาเสิร์ฟก็ห้ามรับประทานอาหาร เพื่อความสะอาด พอทำขั้นตอนดังกล่าวเสร็จ บีมก็ออกมาในชุดเสื้อลายดอกสีส้มกับกางเกงขาก๊วย ทำเอาแดนอดยิ้มไม่ได้ เพราะไม่เคยเห็นพี่บีมในชุดแบบนี้มาก่อน เจ้าตัวเองก็ยังเขินๆ เหมือนกัน เพราะทั้งชีวิตก็เพิ่งจะได้ใส่เสื้อผ้าแบบนี้ บีมก็ทำหน้าที่อย่างดีเยี่ยม ดูแลลูกค้า ซึ่งก็มีทั้งคนไทยและชาวต่างประเทศ เรียกว่าเป็นการฝึกภาษาได้อีกช่องทางหนึ่ง
บีมบอกว่าเพิ่งมาทำได้ประมาณ 1 เดือนแล้ว พอดีทางพี่โอ๋ที่เดินทางไปเรียนภาษาพร้อมบีมมาตีขิมที่ร้านนี้ ก็เลยมีการชักชวนให้มาทำด้วยกัน เพราะอยู่ว่างๆ เสาร์-อาทิตย์ ตรงนี้ก็ถือเป็นรายได้พิเศษ
และแล้ววันสุดท้ายของทริปนี้ก็มาถึง บีมรับหน้าที่เป็นไกด์พาแดนไปเดินเล่นย่านศูนย์การค้า แหล่งช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุด Queen Street Mall งานนี้สองหนุ่มก็เพลิดเพลินน่าดู แต่ก็มีเวลาจำกัดแค่ 2 ชั่วโมงเท่านั้น เพราะต้องไปถึงสนามบินบริสเบนเวลา 13.00 น. แต่ถึงเวลาจะน้อยแค่ไป ทุกคนก็มุ่งมั่นหาของฝากกันสุดฤทธิ์
งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา แต่ไม่ต้องเสียอกเสียใจ เพราะอีก 2 เดือน บีมก็บินกลับมาที่เมืองไทยแล้วล่ะ