ถ่ายทอดชีวิตจริงพ่อลูก พงษ์วิไล ลงมิวสิกฯ รอยกรีดที่ข้อมือ
เริ่มส่งเพลงเปิดตัว "รอยกรีดที่ข้อมือ" จากอัลบั้ม "สถานีชีวิต" จนแฟนเพลงอยากรู้จักตัวจริงของนักร้องเจ้าของเพลงนี้ นั่นคือ "เบียร์" ภานุพงศ์ จำปาเฟื่อง เด็กหนุ่ม วัย 21 ปี ที่กำลังศึกษาอยู่ที่ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม สาขานฤมิตศิลป์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ชั้นปีที่ 4 อายุเพียงแค่ 21 ปี แต่ประสบการณ์ด้านดนตรีมีมากมาย ตั้งแต่ประกวดเวทีต่างๆ ทั่วจังหวัดมหาสารคาม มีอัลบั้มใต้ดินตั้งแต่อยู่มัธยมศึกษาปีที่ 3 เป็นโปรดิวเซอร์ให้กับวงใต้ดินแบบทำเองทุกอย่างตั้งแต่ ปี 1 เป็นแบ็กอัพให้กับ "เป้ ไฮร็อค" ฯลฯ
เบื้องหลังมิวสิกฯ เปิดตัวเพลงแรก รอยกรีดที่ข้อมือ ได้นักแสดงรุ่นใหญ่ "สุเชาว์ พงษ์วิไล" และลูกสาว "เอ๊ะ" ณิฐา พงษ์วิไล (อายุ 23 ปี) ที่นำเรื่องราวในชีวิตจริงของตัวเองและมาแสดงร่วมกันเป็นครั้งแรกอีกด้วย
งานนี้ทีมงานได้ยกกองถ่ายไปถ่ายทำกันที่ ซ.ลาดพร้าว 71 เพื่อเซ็ทเป็นห้องของเอ๊ะ เริ่มถ่ายทำตั้งแต่ 6 โมงเช้า โดยผู้กำกับ "สมบุญ โพธิพิทักษ์กุล" บอกถึงเรื่องราวในมิวสิกฯ ว่าเป็นเรื่องความผิดหวังของวัยรุ่นคนหนึ่งในเรื่องความรักจนคิดหาทางออกด้วยการทำร้ายตัวเอง แต่ยังได้กำลังใจที่ดีจากครอบครัวทำให้รอดพ้นปัญหามาได้
เปิดกล้องฉากแรกด้วยการฉากกุ๊กกิ๊กของเอ๊ะกับคนรัก เอ๊ะออกจะเขินเล็กน้อย แต่ดีที่ได้กำลังใจจากคุณพ่อสุเชาว์ที่ถึงแม้จะยังไม่มีฉากต้องแสดงแต่ก็มากองตั้งแต่เช้า พอช่วงบ่ายก็เป็นฉากเริ่มเศร้าบ้างแล้ว เมื่อคนรักเริ่มปันใจไปให้หญิงคนอื่น ฉากนี้เป็นฉากอารมณ์ที่ต้องสื่อถึงความสับสนต่างๆ ของเอ๊ะที่เสียใจมากจนถึงขนาดคิดฆ่าตัวตาย ซึ่งเป็นฉากที่หนักมาก ต้องเค้นอารมณ์อย่างหนัก กว่าจะผ่านไปได้ก็เป็นช่วงเย็นพอดี
ตัดสลับด้วยการถ่ายไลน์ซิงค์เพลง รอยกรีดที่ข้อมือ บทหนักเลยตกมาอยู่ที่ เบียร์ เจ้าของเพลงแทน พอมาถึงช่วงกลางคืนก็ได้เวลาถ่ายไลน์เรื่องต่อคราวนี้พ่อลูกต้องเข้าฉากร่วมกันแล้ว บทหนักขนานแท้จึงตกอยู่กับเอ๊ะอีกครั้ง ที่ว่าฉากตอนบ่ายหนักแล้วพอมาเจอฉากที่ต้องแสดงร่วมกับคุณพ่อทั้งในชีวิตจริงและในจอ เอ๊ะก็ออกอาการตื่นเต้นจนเก็บไว้ไม่อยู่ แต่ด้วยความเป็นเด็กตั้งใจในการทำงานก็เลยสามารถข่มความตื่นเต้นเอาไว้ได้
ฉากนี้เป็นฉากที่คุณพ่อสุเชาว์กลับจากข้างนอกแล้วเห็นพยาบาล ตำรวจ คนมุง มาที่ห้อง เลยรีบวิ่งขึ้นมาดูเลยเห็นเอ๊ะกรีดข้อมือตัวเองเสียชีวิตเลยวิ่งมากอดศพลูกสาว สำหรับฉากนี้เล่นเอาอึ้งทั้งกองถ่าย ขนาดรู้ว่าเป็นการแสดงแต่ก็อดสะเทือนใจกับเหตุการณ์จำลองครั้งนี้ไม่ได้ เพราะเรื่องราวแบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้ในชีวิตจริงของคนทุกคน แต่บทสรุปสุดท้ายของมิวสิกฯ เพลงนี้จะเป็นอย่างไรคงต้องไปพิสูจน์กันเอาเอง แต่รับรองได้แง่คิดต่างๆ ในชีวิตแน่นอน
เบียร์ เผยว่า "สำหรับเพลง รอยกรีดที่ข้อมือ จะเป็นเพลงเปิดตัวเพลงแรกของ เบียร์ ครับ เป็นเพลงแนวป๊อปร็อกช้าๆ เนื้อหาของเพลงก็เหมือนอย่างชื่อเพลงเลย เป็นเรื่องจริงที่อาจเกิดขึ้นกับใครก็ได้ อาจจะเป็นปัญหาต่างๆ ที่เราเคยเจอแล้วไม่สามารถลืมมันได้ เหมือนเป็นรอยแผลลึกในใจของเรา อย่างที่มาถ่ายมิวสิกฯ วันนี้เบียร์ก็ได้เห็นการทำงานของพี่ๆ ทีมงาน นักแสดง เก่งทุกคนครับ
เอ๊ะ บอกว่าเนื้อเรื่องในมิวสิกฯ ค่อนข้างตรงกับช่วงชีวิตหนึ่งของเค้า แต่มันก็ผ่านมาได้ด้วยดีก็เพราะได้กำลังใจจากคุณพ่อ ครอบครัว และทุกวันนี้ เอ๊ะ ก็สามารถยืนหยัดได้ด้วยบทเรียนจากอดีตที่ผ่านมา เบียร์ค่อนข้างทึ่งในตัว เอ๊ะ และ อาสุเชาว์ ที่พร้อมเปิดเผยเรื่องราวในชีวิตช่วงหนึ่งให้กับทุกคนได้ศึกษากัน เบียร์ ก็ต้องขอขอบคุณอาสุเชาว์ แล้วก็ เอ๊ะ มากๆ ครับ"
สุเชาว์ เผยถึงการร่วมงานกับลูกสาวครั้งแรกให้ฟังว่า "ร่วมงานกับ เอ๊ะ ครั้งแรกครับ ก็รู้สึกแปลกๆ แต่ได้บทที่เป็นตัวเราคือเป็นพ่อลูกกัน ก็เลยไม่มีปัญหาทำงานได้ง่าย อย่างเวลา เอ๊ะ เข้าฉากก็จะคอยดูๆ ให้กำลังใจ แต่จะไม่สอน ไม่เคยสอนใคร เพราะคิดว่าเวลาแสดงทุกคนจะต้องมีความรู้สึกจริงๆ ด้วยตัวของเค้าเอง ไปสอนกันไม่ได้ ซึบซับความเป็นตัวละครตัวนั้นด้วยความรู้สึกของตัวเอง แต่เท่าที่ดู เอ๊ะ แสดงก็โอเคน่ะ ไม่หนักใจ
เพลงนี้มีโครงเรื่องที่น่าสนใจดี สามารถเกิดขึ้นได้จริง กับคนที่มีครอบครัว เป็นเรื่องของความคิดต่างมุมมอง ผู้ใหญ่อาจจะคิดว่าเรื่องความรักแบบนี้เป็นเรื่องเล็กๆ แต่เด็กวัยรุ่นอาจจะใหญ่โตก็ได้สำหรับเค้า ก็อยากจะฝากถึงคนที่เป็นพ่อ แม่ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับบุตรหลาน อยากให้พูกกันดีๆ ให้รับฟังเค้า พูดกันให้มากๆ แล้วปัญหาต่างๆ ก็จะทุเลาลงได้เอง และก็อยากฝากให้ช่วยดูมิวสิกฯ รอยกรีดที่ข้อมือ อาจจะได้แง่คิดอะไรให้กับชีวิตได้บ้าง ถ้าไม่อยากให้จุดจบของปัญหาเกิดขึ้นเหมือนอย่างในเพลงนี้ครับ"
เอ๊ะ เผยถึงการทำงานในวันนี้ให้ฟังว่า "วันนี้ เอ๊ะ มารับบทเป็นผู้หญิงที่เลิกกับแฟนแล้วคิดสั้นฆ่าตัวตาย มาทำงานวันนี้ก็อุ่นใจมากค่ะ เพราะได้เล่นกับคุณพ่อ (คุณสุเชาว์ พงษ์วิไล) ซึ่งเราไม่เคยเล่นคู่กันมาก่อน ก็มีตื่นเต้นตลอดเวลาค่ะ แต่ก็จะพยายามทำทุกอย่างให้เต็มที่ เอ๊ะกล้าพูดได้เลยว่าเรื่องราวในมิวสิกฯ เป็นเรื่องราวในชีวิตจริงที่ เอ๊ะ เคยผ่านมันมา การคิดสั้น กรีดข้อมือตัวเอง เป็นปัญหาของเด็กทั่วๆ ไป ตอนนั้นคือคิดว่าไม่มีใครเข้าใจเรา แต่จริงๆ แล้วเปล่าเลยเราคิดมากไปเองฝ่ายเดียว
พอผ่านช่วงนั้นมาได้มองกลับไปแล้วคิดว่ายังไงชีวิตนี้จะไม่ทำอย่างนั้นอีกแล้ว เสียใจมากๆ เพราะทุกครั้งที่คุณพ่อเห็นรอยแผลที่ข้อมือ เอ๊ะ ก็จะรู้สึกไม่ดี รู้เลยว่าเค้าเสียใจมากกว่าเราเสียอีก ตอนนั้นถ้าเราอดทนอีกนิดหนี่งหรือปรึกษาผู้ใหญ่ก็คงไม่ต้องมาเสียใจในวันนี้ เอ๊ะว่าเด็กมีปัญหาทุกคนทำก็เพื่อเป็นการเรียกร้องความสนใจเท่านั้น ฉะนั้นอยากฝากบอกกับทุกคนว่าอย่าเลือกแก้ปัญหาด้วยการคิดสั้นเลยค่ะ เพราะคนที่รักเราด้วยใจจริงและหวังดีกับเราก็คือครอบครัวของเรา อย่าทำให้เค้าเสียใจด้วยการกระทำที่ผิดๆ ชั่ววูบของเราเลยค่ะ"
ติดตามชมเรื่องราวมิวสิกวิดีโอที่เป็นชีวิตจริงของสองพ่อลูก "พงษ์วิไล" ในเพลง รอยกรีดที่ข้อมือ ได้วันนี้ และพบกับอัลบั้ม สถานีชีวิต ได้ 3 มิ.ย. นี้ ทุกแผงทั่วประเทศ