ดนตรีไม่มีข้อจำกัด เบิร์ด-เสก เชื่อมป๊อปกับร็อกเข้าด้วยกัน
เบิร์ด - ธงไชย แมคอินไตย์ และ เสก - เสกสรร ศุขพิมาย การพบกันครั้งแรกในอัลบั้ม เบิร์ด-เสก อีกหนึ่งโครงการพิเศษครบรอบ 20 ปี จีเอ็มเอ็มแกรมมี่ โดย เบิร์ด เล่าให้ฟังว่า
"งานเพลงชุดนี้เป็นโปรเจ็กต์ที่เกิดขึ้นเนื่องในโอกาสครบรอบยี่สิบปีจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ พี่เบิร์ดจะนำสองฝั่งดนตรีมาเจอกัน คือ ป๊อบกับร็อก พี่เบิร์ดว่าไม่ว่าดนตรีจะเป็นสไตล์ไหน พอเราฟังแล้วรู้สึกสนุกกับมันก็เพียงพอแล้ว
พอพี่เบิร์ดได้มาทำงานร่วมกันครั้งแรกกับเสกมีความสุขมากๆ คือ เค้าจริงหมดเลย คือเป็นคนคิดจริง ทำจริง คิดจากที่เห็น คิดจากที่เข้าใจ ไม่ได้แค่ทำแต่เค้าทำจากใจ ใช้เวลาในการทำ จริงๆ แล้วเสกแต่งเพลงให้พี่เบิร์ดหลายเพลงแล้ว แต่ครั้งนี้มันพิเศษคือเรามาร้องด้วยกัน ซึ่งก็จะมีทั้งร้องเดี่ยวร้องด้วยกัน เหมือนเราเดินไปด้วยกันทุกก้าว คือ ถ้าเพลงไหนพี่เบิร์ดร้อง เสกก็จะประสานไป
สำหรับเพลง อมพระมาพูด เสียงกีต้าร์แบบจัดจ้านแบบนี้เป็นใครไปไม่ได้เลย ถ้าไม่ใช่เสก และภาษาของเสกเป็นภาษาที่สัมผัสได้ ใช้ภาษาเก่งมาก เรื่องราวที่หยิบมาใช้ไม่ต้องเอื้อมไกลเป็นเรื่องราวใกล้ตัว ชีวิตคนเรายี่สิบสี่ชั่วโมงต้องเจออะไรมากมายเยอะแยะ แต่เสกเค้าหยิบเรื่องราวที่เห็นได้ชัดไม่น่าเบื่อ เป็นคำที่สนุก ทำให้เรารู้สึกอยากร้อง อยากรู้ว่าคำต่อไปจะร้องว่าอย่างไร แล้วฮุคเค้าจะพูดว่าอะไร
ได้มาทำงานด้วยกันกับเสกก็ทำให้รู้ว่าร็อกเกอร์ที่เห็นในทีวีที่เวลาเล่นกีตาร์ดูดุดัน มันไม่ใช่แบบนั้นเสมอไป ตัวจริงของเสกเค้าเป็นคนที่อ่อนไหว อ่อนโยนมาก พออยู่ใกล้กันแล้วแปลกมากเหมือนคนขั้วคล้ายกัน มันเป็นพี่น้องกัน อบอุ่นมาก"
ส่วน เสก บอกว่า "บอกตามตรงว่าไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี เพราะช่วงชีวิตที่ทำงานเพลงมาเคยเห็นพี่เบิร์ด อยู่ในความฝันตลอดทั้งในมุมของนักดนตรีและคนทั่วไป จริงๆ แล้วผมรู้จักพี่เบิร์ดมาหลายปีแล้ว พอมาร่วมงานกับพี่เบิร์ดจริงๆ ผมทำอะไรไม่ค่อยถูก ตื่นเต้นมาก ซึ่งพี่เบิร์ดก็จะคอยช่วยผมตลอด ทำให้ผมรู้ว่ามีสิ่งนึงที่เราชาวร็อกแอนด์โรลทำไม่ได้เลย คือ การสร้างความสุขให้กับคนได้ตลอดเวลา
ครั้งแรกที่ผมร้องเพลงในห้องอัดด้วยกัน พี่เค้าทำให้ทุกอย่างมันสุขหมดเลย คือ ก่อนที่จะกลับบ้าน พี่เบิร์ดเค้ารู้ว่าผมเครียดนิดหน่อย เค้าก็มาหยอดว่าเดี๋ยวพี่นอนรออยู่ที่นี่และมาร้องกันต่อ ได้เจออะไรแบบนี้ทำให้ผมรู้สึกว่าจะมีซักกี่คนที่ทำอะไรได้แบบนี้ ก็ต้องขอบคุณพี่เบิร์ดตรงนี้ด้วยครับ และพี่เบิร์ดเป็นคนที่เตรียมตัวมาดีมากๆ เคยต้องขึ้นคอนเสิร์ตเดียวกันและมีเพลงที่แต่งขึ้นเพื่องานนั้นโดยเฉพาะ เราต้องกางเนื้อกันแต่พี่เบิร์ดใส่ทีเดียวเสร็จเลย พี่เค้าไม่เคยน้อยกว่าสิ่งที่ผมคาดหมาย
ช่วงที่อัดเสียงวันแรกๆ พอเราอัดเสียงเสร็จก็มานั่งคุยกันก็ทำให้รู้ว่าพี่เบิร์ดที่เป็นซูเปอร์สตาร์ของพวกเรา ติดดินมาก คือ ผมก็นั่งอยู่บนเก้าอี้ แต่พี่เบิร์ดลงไปนั่งที่พื้น ทุกคนเลยลงมาหมด ทำให้ภาพที่คิดว่าพี่เบิร์ดที่สูงมากเปลี่ยนไป คือ พี่เบิร์ดเป็นคนง่ายๆ สบายๆ ออกจะติดดินด้วย
พี่เบิร์ดยังบอกว่าจะพาไปชมแฟนเพลงของพี่เบิร์ดทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองต่างๆ ด้วย ซึ่งผมคิดว่าสไตล์ดนตรีไม่ว่าจะป๊อบหรือร็อก มันเป็นอีกเรื่องนึง เพราะเพลงมันเป็นภาษาที่พาเราไปได้หมดไม่มีข้อจำกัด อัลบั้มนี้ผมก็จะเป็นไกด์พาแฟนเพลงพี่เบิร์ดไปรู้จักกับแฟนเพลงของผม ส่วนผมและแฟนขาร็อกก็จะได้ไปพบกับแฟนเพลงพี่เบิร์ดที่น่ารักอยู่แล้ว"