อัลบัม Lovestrong - Christina Perri

จากสาวน้อยธรรมดาในฟิลาเดเฟียกลายมาเป็นที่รู้จักในชั่วข้ามคืน เมื่อได้รับเชิญให้ขึ้นแสดงในเพลงที่แต่งเองอย่าง Jar of Hearts ในรายการประกวดเต้นชื่อดังของประเทศสหรัฐอเมริกา So You Think You Can Dance ซึ่งหลังจากนั้นไม่นาน คริสตินา เพอร์รี (Christina Perri) ก็ได้รับโอกาสจากค่ายเพลงในการเปิดตัวสู่เส้นทางนักร้องอาชีพ พร้อมส่งผลงานอัลบั้มแรก Lovestrong ให้ยลโฉมอย่างเป็นทางการ

แม้จะกังวลและหวาดหวั่นกับผลงานชิ้นแรก แต่ คริสตินา ก็ทุ่มเทจนผ่านมันไปได้ด้วยดี เธอบันทึกเสียง 12 เพลงสำหรับอัลบั้มนี้ภายในเวลาอันจำกัดเพียง 33 วัน ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่าเป็นช่วงเวลาที่เธอรู้สึกหลากหลาย ทั้งยอดเยี่ยมและเลวร้ายที่สุดในชีวิตไปพร้อมๆ กัน เพราะมีบางครั้งที่เธอต้องอัดเสียง 2 เพลงภายในวันเดียว

คริสตินา แต่งเนื้อร้องเองทั้งหมด 4 เพลง ได้แก่ Bluebird, Arms, Mine และ Sad Song ขณะที่เธอได้เขียนเนื้อเพลงอื่นๆ ร่วมกับนักแต่งเพลง อาทิ ดรูว์ ลอว์เรนซ์ (Drew Lawrence) แบร์เร็ตต์ ยีเรตเซียน (Barrett Yeretsian) เกร็ก เคิร์สติน (Greg Kurstin) เดวิด ฮอดเจส (David Hodges) อดีตสมาชิกวง อีวานเนสเซนส์ (Evanescence) รวมถึง นิก เพอร์รี (Nick Perri) พี่ชายของเธอ ในเพลง Tragedy

นอกจากนี้ คริสตินา ยังได้โปรดิวเซอร์มากประสบการณ์อย่าง โจ ชิกคาเรลี (Joe Chiccareli) ที่เคยทำผลงานให้กับนักร้องสาว โทรี เอมอส (Tori Amos) และวงร็อกอย่าง เดอะ ไวต์ สไตรป์ส (The White Stripes) มาช่วยสร้างสรรค์อัลบั้มนี้

เพลงส่วนมากในอัลบั้ม เป็นเพลงบัลลาดช้าๆ ที่เน้นน้ำเสียงมีพลังของ คริสตินา ในเพลงดัง Jar of Hearts ที่ได้รับเลือกให้เป็นซิงเกิลแรกสำหรับเปิดตัวอัลบั้ม ใช้เสียงเปียโนเป็นตัวช่วยเพิ่มอรรถรสเรื่องราวในเพลงให้หนักแน่น ส่วน Arms และ Distance ซิงเกิลลำดับถัดมา มีเสียงกีตาร์โปร่งขับเคลื่อนอารมณ์ของเพลงให้ผู้ฟังคล้อยตาม ซึ่งในเพลงหลัง คริสตินา ได้ศิลปิน เจสัน มราซ (Jason Mraz) มาร่วมถ่ายทอดอารมณ์เพลงให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

ขณะเดียวกัน ยังมีเพลงอื่นๆ ภายในอัลบั้ม ซึ่งบ่งบอกตัวตนของ คริสตินา ที่มีต่อเนื้อเพลงเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์เช่นนี้ ไม่ว่าจะเป็น Bluebird, The Lonely, Sad Songs หรือแม้แต่ Tragedy ซึ่งนอกจากจะเป็นบัลลาดชวนเศร้าแล้ว ยังสะท้อนความรู้สึกที่มาจากประสบการณ์ความรักในอดีตของเธออีกด้วย