เปิดตัวรอบปฐมทัศน์ ชุมเสือแดนสิงห์ ตอน กระตุกติ่งเจ้าพ่อ

เปิดตัวรอบปฐมทัศน์กันไปแล้วกับภาพยนตร์ ชุมเสือแดนสิงห์ ตอน กระตุกติ่งเจ้าพ่อ ผลงานการกำกับของ หน่อย - ศักดิ์ชัย ศรีนาค ซึ่งสะสมประสบการณ์การทำงานด้านภาพยนตร์มากว่า 20 ปี และได้รับความไว้วางใจจากไฟว์สตาร์ โปรดักชั่นทุ่มทุนเกือบ 40 ล้านบาทในการผลิตภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยมี ปื๊ด - ธนิตย์ จิตนุกูล เป็นโปรดิวเซอร์

บรรยากาศในงานประกอบด้วยผู้คนในวงการภาพยนตร์ไทยมากมาย โดยมีนักแสดงจากเรื่องนี้ อาทิ แอนดี้ - วัชระ ตังคะประเสริฐ, อาร์ต - อัจฉริยา บัวสุวรรณ, กั๊ม - กัมปนาท แย้มวิมล, ชาลี - ชาตินันท์ กรรณสูตร, โอ๊ค - เกรียงศักดิ์ แก้วหล้า, ต้น - วรนันท์ พร้อมมูล และ นักแสดงจากภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ อาทิ อำพล ลำพูน และ ขจรศักดิ์ รัตนนิสสัย มาร่วมงานด้วย

เปิดตัวการพูดคุยบนเวทีแบบเท่สุดๆ ด้วยการซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์เข้ามาในงาน เริ่มต้นด้วย อาร์ต รองอันดับ 1 มิสไทยแลนด์เวิร์ล ปี 1997 และ แอนดี้ ที่ทิ้งมาดสาวหลงจาก ขุนแผน สู่มาดโทรมแบบคนทะเลทราย โดย แอนดี้ ได้เล่าให้ฟังว่า

“บทบาทในเรื่องนี้ยังคงเป็นฮีโร่เหมือนเดิม แต่คนละยุคคนละสมัยจากอดีตในเรื่อง ขุนแผน มาสู่โลกอนาคตในจินตนาการของผู้กำกับ ที่เลือกให้โลกผ่านพ้นช่วงหลังสงครามโลกมาใหม่ๆ บ้านเมืองจึงแปลกตาเป็นไปในแบบแฟนตาซี มีซากปรักหักพัง มีดีไซน์ทั้งเรื่อง”

แอนดี้ ยังเผยความลับให้ฟังว่าบทบาทของ ยอด หรือ Mr. Climax ถอดแบบมาจากผู้กำกับ หน่อย ส่วนเสื้อผ้าที่ใส่ในวันนั้นดูเก่าๆ เพราะใส่ถ่ายทำภาพยนตร์มาตลอดทั้งเรื่องแล้ว

อาร์ต เล่าให้ฟังว่า "ที่ได้ร่วมแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้ คงเป็นเพราะความสูง เพราะนักแสดงในเรื่องนี้สูงๆ กันทั้งนั้น" ความสูงของแต่ละคนก็ไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน โดย แอนดี้ สูง 182 ซม. อาร์ต สูง 179 ซม. กั๊ม (เสือใหญ่) สูง 187 ซม. ชาลี (เสือเล็ก) สูง 188 ซม. ปีเตอร์ (ดิน) สูง 186 ซม. ปลา (น้ำ) สูง 178 ซม. โอ๊ค (ลม) สูง 176 ซม. และ ต้น (ไฟ) สูง 182 ซม.

ถัดจาก อาร์ต และ แอนดี้ ก็มาถึง เสือใหญ่ ลม และ ไฟ ของเรื่อง ได้แก่ กั๊ม โอ๊ค และ ต้น ตามลำดับ โดย กั๊ม เคยมีผลงานแสดงในเรื่อง น.ช. นักโทษชาย ส่วน โอ๊ค ก็เคยผ่านแสดงในเรื่อง ผีสามบาท ตอน น้ำมันพราย มาแล้ว โดย กั๊ม และ โอ๊ค ได้แซว ต้น ว่า “สาเหตุที่บท ไฟ ในเรื่องนี้ ต้องสวมหน้ากากอยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่เพราะกันควันไฟ แต่เป็นเพราะต้องการปิดบังความหล่อไม่ให้เกินหน้าเกินตานั่นเอง”

จากนั้น ก็ถึงเวลาพูดคุยกับผู้กำกับ หน่อย และโปรดิวเซอร์ ปี๊ด โดย ปี๊ด เล่าว่าร่วมงานกับ หน่อย เป็นครั้งแรกในเรื่อง เสือ โจรพันธุ์เสือ และที่เลือกทำเรื่องนี้เป็นเพราะอยากได้เงินบ้าง ส่วนชื่อภาพยนตร์ที่ต้องมีชื่อตอน เป็นเพราะ “ความจริงแล้วเรื่องนี้จะมี 3 ภาค เหมือน The Lord of the Rings เกิดไอเดียไล่ๆ กัน แต่ของเขาทำเสร็จก่อน” (ฮา..) ถ้าอยากรู้เหตุผลจริงๆ พี่ปี๊ดแนะนำว่าให้ไปชมภาพยนตร์แล้วจะรู้เอง