1. สยามโซน
  2. ภาพยนตร์
  3. ข่าววงการภาพยนตร์

รวมพลผู้กำกับ ถ่ายทำฉากใหญ่ 102 ปิดกรุงเทพฯ ปล้น

รวมพลผู้กำกับ ถ่ายทำฉากใหญ่ 102 ปิดกรุงเทพฯ ปล้น

ปื๊ด - ธนิตย์ จิตนุกูล ผู้กำกับร้อยล้าน และไทเกอร์ทีม ทำการใหญ่ร่วมกับ สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นเนล เปิดตัวภาพยนตร์แนวแอ็คชั่นเรื่องใหม่ 102 ปิดกรุงเทพฯ ปล้น พร้อมถ่ายทำฉากยิ่งใหญ่ในประวัติการณ์ กลางสี่แยกปทุมวัน ใจกลางกรุงเทพฯ ในวันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม ที่ผ่านมา

ครั้งแรกกับการรวมตัวผู้กำกับชั้นแนวหน้าเกือบ 20 ชีวิต อาทิ บัณฑิต ฤทธิ์ถกล, อดิเรก วัฎลีลา, สนานจิตต์ บางสพาน, ราเชนทร์ ลิ้มตระกูล, พิสุทธิ์ แพร่งแสงเอี่ยม, กิตติกร เรียวศิริกุล, สุรศักดิ์ วงษ์ไทย และ เฉลิม วงศ์พิมพ์ มาร่วมถ่ายทำในฉากสำคัญ พร้อมตากล้องมือดีนับสิบ เพื่อถ่ายภาพมุมต่างๆ โดยใช้กล้องทั้งหมด 15 ตัว ตัวประกอบร่วม 500 คน ตามบริเวณจุดต่างๆ เนื่องจากเป็นฉากใจกลางเมืองที่มีประชาชนพลุกพล่าน ที่ต่างหลบหนีวิถีกระสุนของเหตุการณ์ในครั้งนี้ อีกทั้ง ยังได้เช่ารถ และอุปกรณ์ประกอบฉาก ไม่ว่าจะเป็นรถตำรวจ รถดับเพลิง และรถพยาบาลจำนวนมาก เพื่อเข้าฉากอีกด้วย

ซึ่ง ปื๊ด แสดงความรู้สึกดีใจ กับการร่วมมือร่วมใจกับผู้กำกับสาขาอาชีพเดียวกัน "ตอนแรกผมก็ทำตัวให้น่าสงสารว่าฉากนี้ทำคนเดียวไม่ไหว พี่ๆ เพื่อนๆ คงเห็นใจก็เลยมาช่วยกันใหญ่ รู้สึกดีใจมาก เพราะทุกคนก็มีงานของกันทุกคน แต่ก็เต็มใจมาช่วยเหลือกัน ถือเป็นประวัติศาสตร์ก็ว่าได้ เพราะการถ่ายทำหนังในประเทศไทย ยังไม่เคยมีใครขอให้ผู้กำกับมาช่วยเยอะขนาดนี้มาก่อนเลย"

กับฉากการไล่ล่าระหว่างฝ่ายตำรวจ นก - ฉัตรชัย เปล่งพานิชย์ รับบทนายตำรวจมือหนึ่งของประเทศไทย นำกำลังตำรวจล้อมจับฝ่ายโจรของ หนุ่ย - อำพล ลำพูน รับบท นาวิน พร้อมทั้งลูกสมุนอย่าง วิทิด แลด รับบท เหม ที่ขนเอาอาวุธร้ายแรงมายิงสาดใส่กันกลางสี่แยกปทุมวัน ตั้งแต่สะพานหัวช้าง มาบุญครอง จนถึงสยามเซ็นเตอร์

ปื๊ด ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้บอกเล่าความยากลำบากในการถ่ายทำฉากยิ่งใหญ่ ทั้งเวลาที่มีอยู่จำกัดว่า "ใช้เวลาในการวางแผน และเวลาในการเตรียมงานกว่า 3 เดือน เพราะฉากนี้เป็นฉากที่สำคัญ เรื่องราวมันต้องเกิดที่ใจกลางเมืองที่มีคนพลุกพล่าน เป็นฉากที่ นาวิน (หนุ่ย) ต้องการใช้สถานที่ที่มีคนจำนวนมาก เพื่อใช้สร้างเหตุการณ์ให้มีผลกระทบต่อรัฐบาลจะได้ลาออก และใช้เป็นกำบังในการหลบหนีทีมตำรวจของปกรณ์ (นก)

หนุ่ยนั่งรถตู้มาจากแยกสะพานหัวช้างพร้อมสมุน ส่วนนกวิ่งฝ่ารถตำรวจที่สะกัดอยู่ทางหน้ามาบุญครอง มาเจอกันที่แยกแล้วมาปะทะกันที่ถนนหน้าโรงหนังสกาล่า ก็ช่วยกันคิด กว่าจะมาลงตัวที่ สี่แยกปทุมวัน อีกอย่างในเรื่องจะต้องมีฉากที่นาวิน ยิงเฮลิคอปเตอร์ตก ชนตึกมาบุญครอง ซึ่งตรงนี้คงต้องใช้คอมพิวเตอร์กราฟิก และโมเดลเข้ามาช่วยอีกเยอะ คงต้องใช้เวลาในการทำอีกนาน และใช้ทุนสูง คิดว่าคงอยู่ที่ประมาณ 50 ล้านบาท

ตอนแรกก็มีคนเสนอว่าให้ไปถ่ายที่แยกอื่น แต่ในส่วนตัวคิดว่าที่แยกปทุมวันภาพจะสวยสุด และสมบูรณ์แบบมากที่สุด ต่อจากนั้นก็เป็นเรื่องยากอีกเรื่อง คือ การขอพื้นที่ในการถ่ายทำ ที่เราจะทำยังไงให้เราสามารถมาถ่ายบริเวณนั้นได้ ยากมากว่าจะได้ถ่ายและมาลงตัวถ่ายทำในวันนี้ พอมาถ่ายจริงต้องเล่นกับเวลาอีก เพราะถือเป็นโอกาสทองเพียงสามชั่วโมง ได้ถ่ายตอนเช้าช่วงหกโมงเช้าถึงเก้าโมงเช้า เพราะเป็นเวลาที่คนยังไม่ค่อยเยอะก็ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดีในอุตสาหกรรมการถ่ายทำของหนังไทย ที่ได้รับการไว้วางใจให้ถ่ายหนังได้

วันนั้นถ่ายได้ทั้งหมด 3 เทค เทคละประมาณ 7 นาที ใน 3 ชั่วโมงตามที่ตกลงกัน แต่มีเพิ่มอีกเทคสุดท้าย เพราะภาพบางภาพมันไม่ได้ เรื่องของค่าใช้จ่าย ถ้าประมาณดูก็น่าจะไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาทในสามชั่วโมง ก็ถือว่ายากมากในการถ่ายทำ เพราะใช้หลายกล้อง หลายมุม แต่สุดท้ายก็ผ่านไปได้ด้วยดี ก็เหลือแต่เอาภาพวันนี้ที่ได้ไปทำให้เป็นเรื่องเป็นราวที่สมบูรณ์"

102 ปิดกรุงเทพฯ ปล้น นำแสดงโดย ฉัตรชัย เปล่งพานิชย์ (ปกรณ์) อำพล ลำพูน (นาวิน) ขจรศักดิ์ รัตนนิสสัย (มือปืนขององค์กร) ประกาศิต โบสุวรรณ (ผู้คุมนักโทษ จักร) วิทิต แลด (เหม) พงศ์นาถ วินศิริ (จำรัส) และนักแสดงอีกคับคั่ง กับเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดจากผลกระทบจากวิกฤตทางเศรษฐกิจ ผู้มีอิทธิพลผู้หนึ่งซึ่งเป็นฐานรากสำคัญในการบริหารประเทศ ต้องลุกขึ้นมาต่อสู้กู้ชาติให้พ้นจากสิ่งที่ถูกเรียกว่าล่าอาณานิคมแบบใหม่ของชาวต่างชาติ

กลุ่มคนเหล่านี้อาศัยสถานการณ์เพื่อให้ตนมีส่วนร่วมในการบริหารประเทศเพื่อเปลี่ยนแปลงคณะรัฐบาล โดยใช้คนที่เป็นเหยื่อจากพิษเศรษฐกิจ หนึ่งในนั้นคือ จำรัส (พงศ์นาถ วินศิริ) อดีตผู้ว่าการณ์แบงค์ชาติที่ต้องตกเป็นแพะรับบาปและถูกทำให้กลายเป็นคนพิการ เรื่องราวต่างๆ ถูกเน้นไปที่บุคคลต่างๆ หลากหลายอาชีพในสังคมที่มีบทบาทแตกต่างกันไปอีก จนทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นทั่วทั้งเมือง

กลุ่มโจรจำนวน 20 คน จึงถูกเลือกขึ้นมาให้กระทำการอย่างหนึ่ง หนึ่งในนั้น คือ นาวิน (อำพล ลำพูน) นายทหารคนหนึ่งที่ถูกลากเข้ามามีส่วนร่วมในแผนด้วย โดยต้องติดต่อกับคนอีก 80 คน ต่างอาชีพ ต่างความถนัดที่ไม่มีส่วนร่วมรู้เห็น แต่ทั้งหมดถูกเลือกเฟ้นไว้แล้วจากผู้มีอิทธิพลกลุ่มนั้น เพื่อมาร่วมในแผนปฏิบัติการที่แยบยลอย่างลับๆ เมื่อแผนเริ่มดำเนินตามขบวนการของมัน การปล้นอย่างอุกอาจจึงเกิดขึ้น

ปกรณ์ (ฉัตรชัย เปล่งพานิชย์) คือ นายตำรวจผู้หนึ่ง ผู้ซึ่งมีความช่ำชองในการสืบคดี จนเรียกได้ว่าเป็นมือหนึ่งของเมืองไทย ได้เข้ามาสืบสวน และติดตามคดีนี้ ความเชือดเฉือนและชั้นเชิงที่ทันกันของฝ่ายตำรวจ และฝ่ายโจรก็เริ่มขึ้น จนในที่สุดขณะที่แผนขั้นสุดท้ายของโจรกำลังจะสำเร็จ ตำรวจสามารถรู้ทันแผนการของโจรทั้งหมด การไล่ล่าปะทะกันอย่างดุเดือดของทั้งสองฝ่าย เป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง มันกลายเป็นสงครามขนาดย่อมในกรุงเทพฯ

ในที่สุดผู้ร้ายก็ไม่อาจจะชนะตำรวจได้ ตำรวจสามารถคลี่คลายเหตุการณ์ทุกอย่างลงได้ จนเมื่อเปลี่ยนแปลงรัฐบาลได้สำเร็จ และนั่นก็คือสิ่งที่ปกรณ์รู้ได้อย่างดีในภายหลังว่าเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะอะไร

เตรียมพบกับ 102 ปิดกรุงเทพฯ ปล้น โปรแกรมภาพยนตร์ ปี 2546 โดย สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นเนล

ความคิดเห็น

วันนี้ในอดีต

เกร็ดภาพยนตร์

  • Unbroken - เดน ดีฮาน เกือบได้แสดงบท หลุยส์ แต่สุดท้ายแล้วบทนี้ตกเป็นของ แจ็ก โอ'คอนเนลล์ อ่านต่อ»
  • Focus - เป็นภาพยนตร์เรต R เรื่องแรกของ วิลล์ สมิธ ผู้รับบท นิกกี หลังจาก Bad Boys II (2003) อ่านต่อ»
เกร็ดจากภาพยนตร์สามารถดูได้ในหน้าข้อมูลภาพยนตร์แต่ละเรื่อง

เปิดกรุภาพยนตร์

เรื่องราวเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวของมิจฉาชีพตัวแม่ที่ใช้เสน่ห์หลอกลวงคนในสังคมชั้นสูง ซึ่งจะมาถ่ายทอดวิชา 18 มงกุฎให้กับมือ...อ่านต่อ»