ชมพู่ ควงแขนแฟนหนุ่ม ผ่านคำครหาเข้าสู่ประตูวิวาห์
พิธีกรและนักแสดงตลกสาวสวย "ชมพู่ ก่อนบ่าย" หรือ "ชมพู่ - ธัณย์สิตา สุวัชราธนากิตติ์" ถือฤกษ์ดี เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2562 ควงแขนแฟนหนุ่ม "บอย - วัชรพงศ์ พลเมืองดี" เข้าสู่ประตูวิวาห์กันอย่างชื่นมื่น โดยมีนักแสดงตลกอาวุโสของวงการ "เป็ด เชิญยิ้ม" ผู้เป็นที่เคารพรักของเจ้าบ่าวเจ้าสาวมาเป็นผู้ใหญ่ในพิธี ซึ่งก่อนงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสในช่วงค่ำจะเริ่มขึ้น ณ โพธาลัย เลเชอร์ ปาร์ค กรุงเทพมหานคร ทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาวก็ได้ออกมาเปิดใจถึงความรู้สึกและเรื่องราวสุดประทับใจในตัวกันและกัน พร้อมทั้งอุปสรรคและคำครหาต่างๆ ที่ร่วมกันฟันฝ่ากันมาจนมีวันนี้ รวมถึงแผนในอนาคตที่วางไว้สำหรับชีวิตครอบครัว
วันนี้มาถึงแล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง
ชมพู่ "มีแต่คนถามว่าตื่นเต้นไหม บอกทุกคนเลยว่าไม่เห็นตื่นเต้นเลย ยังไม่ตื่นเต้นเลย มีแต่เหนื่อย ไปมาเมื่อเช้าความไม่ตื่นเต้นทั้งคู่ ร้องไห้หนักมากค่ะ คือมันไม่ใช่ความตื่นเต้น มันเหมือนเป็นความตื้นตัน ไม่รู้มีใครเคยเป็นหรือเปล่าเวลาไปร่วมงานแต่งงานคนอื่น แล้วเวลาเห็นเจ้าบ่าวเจ้าสาวร้องไห้ เราจะรู้สึกว่าถ้าเป็นเราเราจะร้องไหม แต่เมื่อเช้าตอนที่เราได้กราบผู้ใหญ่ มีการอวยพร มีการรดน้ำสังข์ เจ้าบ่าวไปก่อนเลยค่ะ"
บอย "ก็มีทั้งความตื้นต้น และก็ปลื้มปิติครับ"
ชมพู่ "เขาเรียกว่าน้ำตาลูกผู้ชายถ้าพูดแทนเขานะ เพราะว่าอย่างอาเป็ด เชิญยิ้ม ก็เป็นคนดูแลเขามา เหมือนผู้ชายจะไม่ค่อยได้แสดงออกความรักกัน แต่วันนี้เป็นวันดี ความในใจเหมือนแบบพอมองตากันลุงกับหลานเขาก็โฮใส่กัน"
ได้รับคำอวยพรว่าอย่างไรบ้าง
บอย "ก็ขอให้ใช้ชีวิตรักกันยืนยาว และก็ให้ขยันทำมาหากินสร้างครอบครัว"
ตลอดระยะเวลาที่คบกัน ผ่านอุปสรรคอะไรด้วยกันมาบ้าง
ชมพู่ "จริงๆ รู้จักกันมา 10 ปี และก็คบกันมาประมาณ 4 ปีกว่าๆ มีเหมือนทุกคู่ อุปสรรคลิ้นกับฟัน ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ว่าโชคดี เมื่อก่อนเราจะรู้สึกว่าเวลาทะเลาะกันมันจะเป็นอะไรที่รุนแรงแน่ๆ เลย มันต้องหนักแน่ๆ เลย แต่ว่าเห็นข้อดีของการทะเลาะกันอย่างหนึ่งคือเวลาเราทะเลาะกันทุกครั้ง เราจะมีการคุยกัน พอทุกครั้งที่คุยกันมันจะมีการร้องไห้ใส่กันและมีการพูดสิ่งที่ต้องการแก้ไข สิ่งที่ต้องการให้เปลี่ยนในอนาคต แล้วเราสองคนก็พยายามทำ มันก็เลยผ่านจุดนั้นจนมาถึงวันนี้ ก็ค่อนข้างลงตัวและแฮปปี้ค่ะ"
ที่ผ่านมาเจ้าบ่าวพิสูจน์ตัวเองอย่างไรบ้าง
ชมพู่ "ที่ผ่านมาบอยพิสูจน์ยังไงเหรอคะ เขาเป็นคนที่ให้ความรัก คือผู้หญิงหลายคนก็ไม่ต้องการอะไรมาก เรารู้สึกว่าต้องการคนดูแลเอาใจใส่ ให้ความรัก ให้กำลังใจ เป็นห่วงคอยเทกแคร์ แค่นี้เราก็มีความสุขแล้ว และส่วนนั้นเราบอกได้เลยว่าเจ้าบ่าวคนนี้ทำได้ดี เวลาเราเหนื่อย เวลาเราท้อ เวลาเรามีปัญหา เรากลับมาแล้วเราเจอเขาให้กำลังใจ แค่ทำกับข้าวอร่อยๆ ให้กิน หรือว่าส่งข้อความว่าเป็นห่วงนะ คิดถึงนะ หนูเก่งมาก สู้ๆ แค่นี้เราก็หาย แล้วนอกเหนือจากนั้นที่เขาทำให้เรามีความสุขก็คือช่วยกันวางแผนชีวิต เวลาเราคิดขึ้นมาอยากทำผลิตภัณฑ์นี้เขาคิดได้ต่อยอดให้เราได้ เราทำตรงนี้กันไหมเขาก็ต่อยอดให้เราได้ด้วยการตลาดที่เขาเรียนมาก็ช่วยเราได้เยอะ ในตรงนี้ก็เลยเหมือนมันค่อนข้างลงตัวในเรื่องของการช่วยกันคิด เขาเรียกว่าคู่คิด ก็สามารถช่วยกันสร้างรายได้ และก็ค่อนข้างเป็นอนาคตที่ชัดเจนได้"
มอบคำมั่นสัญญาอะไรให้กัน
บอย "จริงๆ แล้วมันไม่ได้มีคำมั่นสัญญาอะไรมากมาย ก็เป็นชีวิตคู่รักทั่วไปที่วันหนึ่งเราสร้างครอบครัวด้วยกันแล้วเราก็ต้องยึดมั่นในคู่ของตัวเอง และก็มองถึงอนาคตข้างหน้าอนาคตครอบครัวเป็นหลัก"
อะไรที่ทำให้เรามั่นใจในผู้หญิงคนนี้
บอย "ก็จริงๆ แล้วสังเกตได้จากการที่เขาดูแลครอบครัว ชมพู่เป็นคนที่รักครอบครัวดูแลครอบครัว พ่อ แม่ พี่ น้อง ญาติทุกคน คือชมพู่เป็นเสาหลักของบ้าน เขาจะห่วงครอบครัวมากกว่าตัวเองเสมอ เพราะฉะนั้นถ้าวันหนึ่งเราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว ผมก็คิดว่าเขาก็จะเป็นคนๆ หนึ่งที่สามารถดูแลครอบครัวของเราให้ดีเช่นกัน"
หลังจากนี้วางแผนจะมีทายาทกันเลยไหม
บอย "ก็จริงๆ ก็แพลนไว้ว่าอยากจะมีเลยครับ แต่ว่าตอนนี้มีแพลนที่สำคัญกว่าคือตอนนี้กำลังสร้างบ้านอยู่ กำลังทำบ้านปลูกบ้านเพื่อที่จะรองรับก่อน"
ชมพู่ "ทิศทางก็จะเป๋ๆ หน่อย ตอนนี้กำลังงงๆ ว่าตอนแรกเรากะว่าหลังแต่งจะมีน้องเลย แต่พอเรามีแพลนเรื่องบ้านกับที่ดินออกมา เราก็เลยยังไงดีหรือเราจะบ้านที่ดินเราให้เสร็จก่อนค่อยมี แต่ไปมาเราก็อาศัยธรรมชาติค่ะ ถ้าจังหวะเขาจะมาหรือว่ามันลงตัวเราว่าก็ปล่อย ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ"
ชมพู่ งานเยอะ จัดการเวลาในการทำงานและการแต่งงานอย่างไร
ชมพู่ "อย่างชมพู่เหรอ จริงๆ รับงานยันวันที่ 29 เลยนะ ลืมว่าตัวเองจะแต่ง 30 แล้วพี่ผู้จัดการบอกว่าเธอพักหน่อยไหม เธอจะไม่สปาไม่ดูแลหน้าเหรอ ก็เลยมาหยุดประมาณวันครึ่ง ก็คือวันที่ 28 ทำงานเดียว แล้วก็ 29 ได้หยุดเต็มวัน แล้วก็แต่งวันนี้ 30 เราเชื่อว่าถ้าหลังจากนี้บาลานซ์ชีวิตง่ายมากเลยเพราะชอบทำงาน เรารู้สึกเลยว่าวันไหนที่ไม่ได้ออกมาทำงาน เรารู้สึกเหมือนขาดอะไรไปสักอย่าง จะต้องได้ออกมา"
ทำไมงานแต่งงานไม่มีขบวนแห่
ชมพู่ "ไม่มีขบวนแห่ เราอยากมีให้ครบถ้วนทุกขบวนนะ แต่เรารู้สึกว่าในความสุขของเราบางทีบางอันที่เราจะต้องลดทอนเรื่องเวลาหรืออะไรที่จำเป็นในจุดอื่น เพราะผู้ใหญ่เราสองคนเยอะ เวลาตรงนั้นใช้เป็นชั่วโมงแน่ๆ เราก็เลยลดบางขั้นตอนไป แต่ว่าความสุขทั้งมวลตอนเช้าก็อิ่มจริงๆ อิ่มมาก ได้ผู้ใหญ่อวยพรร้องไห้กันก็แฮปปี้แล้ว แต่ไม่มีขบวนขันหมากแต่โดนเซอร์ไพรส์หน่อยหนึ่ง เพื่อนเจ้าสาวแอบกั้นประตูแกล้งเจ้าบ่าวหน่อยหนึ่ง"
อยากบอกอะไรกันและบ้าง
ชมพู่ "จริงๆ ก็บอกไปหมดแล้วแหละ เราก็รู้สึกว่าเราจะไม่มีวันนี้ถ้าเกิดว่าเราไม่ได้รักกันโดยบริสุทธิ์ใจ เราอาจจะห่างกันไปหรือว่าอาจจะแยกกันไปตั้งนานแล้วก็ได้ถ้าเราไม่อยากจะเป็นครอบครัวเดียวกัน ที่ผ่านมามันก็พิสูจน์อะไรมากมาย และเขาก็พิสูจน์ตัวเองด้วยว่าเขาเป็นผู้ชายที่ผ่านคำครหาต่างๆ ว่าคู่นี้มันไปไม่รอดหรอก เขาทำให้เรารู้สึกว่าเราผ่านจุดนั้น เขาทำให้เรามีความสุขจริงๆ ในการใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันสองคน เราไม่ต้องมาอธิบายคู่เราว่าเรามีความสุขนะ เรารักกันนะ ไม่ต้องบอกแต่เรารู้สึกได้เองว่าเวลาเราโทรหากันกลับบ้านเจอกัน หรือว่าแค่วันนี้ที่มีงานดีๆ กัน เราก็รู้สึกได้แล้วว่าเรารักกัน ก็ขอบคุณเขาที่เป็นเจ้าบ่าวในวันนี้"
บอย "ส่วนผมก็ดีใจที่ได้เขามาเป็นคู่ชีวิตนะครับ ผมไม่เคยสัญญาว่าผมจะดูแลเขาหรืออะไร แต่สิ่งที่ผมทำเสมอคือการกระทำให้เขาเห็นว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ในตอนนี้ เราดูแลเขายังไง คำสัญญามันก็แค่คำพูดแต่ว่าการกระทำสำคัญกว่า ก็รักเสมอ"
สำหรับบรรยากาศภายในงานก็อบอวลไปด้วยความสุขและความอบอุ่น โดยในงานฉลองมงคลสมรสนี้ เหล่าเพื่อนพ้องน้องพี่ในวงการบันเทิงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาวกันมากมาย อาทิ "ซาร่า - นลิน โฮเลอร์" "มิ้น - มิณฑิตา วัฒนกุล" "แอร์ - ภัณฑิลา ฟูกลิ่น" "ต้นหอม - ศกุนตลา เทียนไพโรจน์" "หนูเล็ก - ภัทรวดี ปิ่นทอง" "พีเค - ปิยะวัฒน์ เข็มเพชร" "แอฟ - ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ" "อาร์ต - พศุตม์ บานแย้ม" "ปอ - อรรณพ ทองบริสุทธิ์" "มิค - บรมวุฒิ หิรัณยัษฐิติ" "เชาเชา - ชวลิต ศรีมั่นคงธรรม" "เสนาลิง - สมเกียรติ จันทร์พราหมณ์" "พล่ากุ้ง - วรชาติ ธรรมวิจินต์" "ป๋อง - กพล ทองพลับ" และ "หญิงลี ศรีจุมพล"