รัก ข้าม เลือด สะท้อนความเป็นแม่อยู่ที่ใจไม่ใช่เพศ
"รัก ข้าม เลือด" เรื่องราวความรักอันยิ่งใหญ่ที่ทำให้เกิดโศกนาฏกรรม เรื่องราวของสาวประเภทสองที่มีหัวใจของแม่อย่างเต็มเปี่ยม นำแสดงโดย "เหินฟ้า - สรวิศ บุญมาก" "พริ้ม - จันทร์ทิพย์ แสงรังษี" "เนตร - ภัทรนันท์ รวมชัย" กำกับภาพยนตร์โดย "ต้อ - มารุต สาโรวาท" และ "ท็อป - บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์" มั่นใจและพร้อมนำเสนอสู่สายตาผู้ชม ในวันที่ 18 มกราคม 2561 ในโรงภาพยนตร์
ต้อ เผยว่า "เรื่องนี้จะไม่เหมือนหนังที่ผมเคยทำมา เป็นหนังฟอร์มใหญ่ที่ผมและทีมงานตั้งใจสร้างสรรค์มากๆ จะเกี่ยวข้องกับความรักล้วนๆ ซึ่งคุณจะได้ทั้งความบันเทิงสนุกสนาน และร่วมลุ้นไปกับตัวละครตลอดเรื่อง และได้เห็นอะไรแปลกใหม่จากภาพยนตร์เรื่องนี้ รวมถึงแง่คิดจากหนังหลายอย่างด้วยครับ และฉากที่ผมคิดว่าไม่น่าพลาด เป็นฉากที่วัยรุ่นสมัยนี้น่าจะชอบมากๆ คือฉากการแสดงคอนเสิร์ตเป็นฉากใหญ่ของเรื่องนักแสดงวัยรุ่น พระเอก นางเอกของเรื่อง โชว์ความสามารถที่ตัวเองถนัดได้กันอย่างเต็มที่และฉากนี้ก็คงต้องยกให้พระเอกของเรื่องอย่าง เหินฟ้า - สรวิศ บุญมาก ดีกรีนักร้องเอเอฟ 10 เขาจะเข้าใจเรื่องของการแข่งขันบนเวทีได้อย่างชัดเจน ใช้ประสบการณ์ตัวเองบอกเล่าให้กับเพื่อนๆ ได้เป็นอย่างดี"
ด้าน เหินฟ้า พูดถึงบทบาทที่ได้รับว่าเหมือนได้กลับไปประกวดร้องเพลงอีกครั้ง "บท มาวิน เป็นชายหนุ่มที่มีความฝัน อยากเป็นนักร้องตั้งแต่เด็กๆ เหมือนชีวิตจริงของผมที่มาจากการประกวดเอเอฟและอยากเป็นศิลปิน ตรงกับตัวเองมากๆ ฉากคอนเสิร์ตนี้เป็นการขึ้นเวทีอีกครั้งหลังออกจากบ้านเอเอฟ ทำให้ผมเหมือนได้ย้อนกลับไปวันที่ผมเริ่มเข้าประกวดเอเอฟ นึกถึงตอนอยู่บนเวที เหมือนได้กลับไปอีกครั้งเราได้ทำสิ่งที่เรารัก ได้ร้องเพลง ได้เต้น เห็นแฟนคลับถือป้ายไฟ ชอบเสียงกรี๊ด ชอบแสงสีที่สาดลงมาหาเรามันมีความสุขมากที่ได้ทำสิ่งที่รัก ผมก็ขอฝากภาพยนตร์เรื่อง รัก ข้าม เลือด ภาพยนตร์เรื่องแรกของผมด้วยนะครับ ให้กำลังใจผม ทีมงาน และผู้กำกับด้วยนะครับ ทุกคนตั้งใจกันมาก ขอบคุณครับ"
เนตร บอกอย่างตรงไปตรงมาว่าความเป็นแม่อยู่ที่หัวใจไม่ใช่เพศ "เนตรตื่นเต้นมาก เพราะบทดีมากๆ ทุกอย่างเหมือนกับสร้างมาให้เนตรเล่นโดยเฉพาะ เหมือนเป็นชีวิตเราจริงๆ ชีวิตที่แบ่งเป็นสองทาง สุข ทุกข์ และมีอีกหลายอารมณ์เกิดขึ้น ครบรสมากจนทำให้เรารู้สึกอินกับมัน ยิ่งเล่นยิ่งอิน บทบาทที่ได้รับเป็นการแสดงออกถึงความร้ายที่ไม่ใช่เกิดขึ้นโดยสันดานแต่เป็นเหตุการณ์พาไป เรื่องนี้ตรงกับคำนิยามที่ว่าความเป็นแม่อยู่ที่หัวใจไม่ใช่เพศ สะท้อนให้เห็นชีวิตของสาวประเภทสอง สะท้อนถึงความฝัน ความคิด ที่อยากจะมีครอบครัวครบ พ่อ แม่ ลูก พบผู้ชายที่รักจริง ซึ่งมันเป็นอะไรที่ยากมากสำหรับเราสาวประเภทสอง แต่ทุกอย่างกลับพังทลาย ชีวิตที่ครบถ้วน กำลังดีอยู่แล้ว กลับต้องมาสูญเสีย เหลือแต่ลูกอีกหนึ่งชีวิตที่ต้องประคับประคองให้ดีที่สุด เนตรเชื่อว่ามันต้องกินหัวใจของสาวประเภทสองและทุกคนที่ได้มาดู"
ส่วน พริ้ม รับบทนางเอกของเรื่องและร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ "อยากพูดแต่ไม่มีคนฟัง" เจ้าตัวเผยความต่างของการเป็นนักแสดงกับการเป็นนักร้องว่า "การแสดงกับการเป็นนักร้อง ต่างกันตรงโหมดนักแสดงต้องเป็นอีกคาแรกเตอร์หนึ่งที่ไม่ใช่เรา การเป็นศิลปินนักร้องจะเป็นตัวของเราเองมากกว่า แต่ทั้งสองก็สามารถมารวมกันได้ ถ้าเราเอาทั้งสองมาใส่เสริมกัน พริ้มคิดว่าทั้งสองอย่างคือศิลปะ มันจึงไม่ค่อยจะแตกต่างกันมากเท่าไร หนังเรื่องนี้ก็เหมือนเป็นการเปิดตัวซิงเกิลใหม่ของพริ้มด้วยค่ะ เพราะใช้เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ พริ้มว่าเป็นเพลงที่ตรงกับหนังเรื่อง รัก ข้าม เลือด มากๆ ถ้าใครได้ฟังจะรู้ว่ามันเศร้ามากๆ ค่ะ พริ้มร้องเองยังเครียดร้องไห้ตลอด ก็ขอฝากผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกของพริ้มด้วยนะคะ ยังไงก็ขอให้ทุกคนให้กำลังใจไปดูกันด้วยนะคะ"