แม็กกี้ เชื่อคนดูจะได้แรงบวกจาก ความหวังแห่งศรัทธา
นางเอกสาว "แม็กกี้ - อาภา ภาวิไล" เป็นนักแสดงจิตอาสาที่มีแรงศรัทธาในเรื่องพระพุทธศาสนา ได้รับโอกาสดีมาถ่ายทอดบท เมธาวี ในภาพยนตร์อิงธรรมะเรื่อง "Dharamsala ความหวังแห่งศรัทธา" ภาพยนตร์โดย "มิ้งค์ - เพ็ญจันทร์ วงศ์สมเพ็ชร" ในนาม บริษัท ใบลานเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด โดยได้ฤกษ์ลงโรงฉายเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2560 ณ โรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ โดย แม็กกี้ ให้สัมภาษณ์ถึงการทำงาน ทั้งยังเผยว่าการได้มาเป็นส่วนหนึ่งของการเผยแพร่พระพุทธศาสนาเป็นหน้าที่ของชาวพุทธแท้ แม้จะไม่ได้รับค่าตัวก็ตาม
บท เมธาวี ค่อนข้างยาก สำหรับตัว แม็กกี้ หรือเปล่า
"บทบาทนี้ไม่ใช่ใครจะมาเล่นก็ได้ เป็นความรับผิดชอบต้องอาศัยคนที่มีการศึกษาเรื่องธรรมะและเข้าใจอย่างถ่องแท้ด้วย ซึ่งแม็กกี้ไม่ได้บอกว่าตัวเองจะสามารถบรรลุหรือเข้าใจในพุทธศาสนาได้อย่างถ่องแท้นะคะ แต่ด้วยความที่เรามีครอบครัว มีวิถีชีวิตที่มีพระพุทธศาสนาในหลักธรรมคำสอน ตั้งแต่เล็กจนโต มันมีบางสิ่งบางอย่างเป็นเหตุผล ที่ทีมงานหรือผู้กำกับต้องเลือกว่าบทนี้ต้องเป็นแม็กกี้มารับผิดชอบในหน้าที่ตรงนี้ค่ะ"
ได้ใส่ชุดเป็นสาวอินเดียด้วย
"แม็กกี้ไม่เคยใส่ชุดแบบนี้เลยค่ะ เป็นการทำงานต่างประเทศที่ท้าทายมาก หลายๆ คนบอกอยากไป ภายใต้ความอยากไป ไม่มีใครรู้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น มันเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถคอนโทรลได้ เพราะว่าหนึ่ง ไม่ใช่บ้านเรา สภาพภูมิอากาศก็ไม่ใช่บ้านเรา สิ่งที่เราต้องเตรียมคือการเตรียมตัว เตรียมพร้อมร่างกายของเรา เราจะต้องพร้อม เราจะต้องแข็งแรง สามารถปรับตัวได้ตามสภาพอากาศ แล้วก็ตามสถานการณ์ด้วย ต้องมีเรื่องของไหวพริบ ทักษะพอสมควร เพราะเราไม่รู้ว่าอะไรมันจะเกิดขึ้นบ้าง ต้องมีแผนการของตัวเอง เก็บเอาไว้ เพื่อเราจะดึงแผนการอันไหนออกมาใช้ มันเป็นกลยุทธ์ของแต่ละคนในการทำงาน ไม่ใช่ว่าเป็นการทำงานที่เขามาจ้างเรา เราทำตามสัญญา แล้วจบไป"
เป็นครั้งแรกกับการร่วมงาน ธันน์ ธนากร หรือเปล่า
ก่อนหน้านี้เคยเจอกับพี่ธันน์บ้าง แต่ยังไม่เคยร่วมงานกันค่ะ พอทราบว่าจะได้มาร่วมงานบุญกัน ก็รู้สึกดีใจและตื่นเต้นมาก เพราะไม่ค่อยได้เห็นพี่ธันน์เล่นละครบ่อยในช่วงนี้ ก็เลยคิดว่าแฟนๆ และหลายคนคงอยากได้ดูผลงานของพี่ธันน์ในภาพยนตร์เรื่องนี้ แม็กกี้ยังทราบว่าพี่ธันน์ไม่ใช่แค่นักแสดงในเรื่องนี้อย่างเดียว แต่พี่ธันน์ทำหลายหน้าที่คือโปรดิวเซอร์และผู้ช่วยกำกับ ก็ทำให้เราทราบว่าพี่ธันน์ก็มีอีกมุมหนึ่งในการทำงานเหมือนกัน ชอบในการทำงานในมุมมองของเขา และความเขินอายที่พี่ธันน์มี น่ารักดีค่ "
คิดว่าคนดูจะได้อะไรจากการดูภาพยนตร์เรื่องนี้
" ิ่งที่แม็กกี้ได้ทำ เราได้บอกความรู้สึกทุกสิ่งทุกอย่างผ่านเป็นภาพยนตร์ไปหมดแล้ว ขั้นตอนต่อไปคืออยากให้คนดูเข้าใจ ซึ่งคนดูสมัยนี้ฉลาดนะ เขาเข้าใจด้วยการมองภาพได้ เข้าใจด้วยการรับรู้ถึงพลังงานบางอย่างที่เราได้ส่งไป อาจจะไม่ได้พูดเป็นคำพูด คนเราจะมีสัญชาตญาณ มีเซนส์ ที่จะสามารถเข้าใจได้ว่าอะไรคืออะไร คนเราสามารถแยกออกได้ สิ่งไหนถูก สิ่งไหนผิด สามารถแยกได้จากกระบวนการทางความคิดหรือจิตใจบางอย่าง เรื่องนี้เราทำจิตด้วยบริสุทธิ์ และเราส่งไป เราเชื่อว่าคนดูที่ได้ดู จิตของเขาจะสามารถรับรู้ถึงตรงนี้ได้ และมันเกิดการเปลี่ยนแปลงแน่นอน อย่างน้อยในเรื่องของมุมมองว่า เขาจะต้องมีแรงบวกมากขึ้น เราไม่ต้องทำอะไรเลย ถ้าเขามีแรงบวก มีแรงศรัทธา เขาก็จะบอกต่อคนอื่นๆ ไปอีกเรื่อยๆ"