บัวขาว ก้าวสู่สังเวียนของชายชาตินักสู้ ทองดีฟันขาว
สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จับมือกับ บิณฑ์ บูม บิสซิเนส นำเสนอภาพยนตร์ต่อสู้อิงประวัติศาสตร์ในเรื่อง "ทองดีฟันขาว" ผลงานเรื่องล่าสุดของผู้กำกับมากความสามารถ "ท็อป - บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์" พร้อมคว้านักชกระดับโลก "บัวขาว บัญชาเมฆ" มารับบทนำ ร่วมด้วยนักแสดง อาทิ "มะนาว - ศรศิลป์ มณีวรรณ์" "วุฒิ - นันทวุฒิ บุญรับทรัพย์" "ภูมิ - วรรณภูมิ ทรงสุภาพ" "ปุยฝ้าย - ชุติรดา จันทิตย์" โดยเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2560 ได้จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวภาพยนตร์ ณ โรงภาพยนตร์ เอสเอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ นักแสดงและผู้กำกับรวมถึงโปรดิวเซอร์ "ปื้ด - ธนิตย์ จิตนุกูล" ต่างร่วมพูดคุยถึงภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างสนุกสนาน
ผู้กำกับคนเก่งเล่าถึงที่มาที่ไปของภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า "ประวัติของคนคนหนึ่งนะฮะ ซึ่งชอบในการชกมวยตั้งแต่เด็กๆ จนกระทั่งต้องหนีออกจากบ้านไปชกมวยไปหาสถานที่ ก็ไปค่ายไหนแล้วค่ายนี้รู้สึกว่าไม่มีอะไรจะสอนแล้ว คือย้ายไปเรื่อย ผมกำลังจะทำว่าทำไมถึงมาเป็นพระยาพิชัยดาบหัก ผมถามว่ามีใครรู้ไหมครับนายทองดีฟันขาวคือใคร ผมถามหลายคนนะ ผมเลยรู้สึกว่าผมเสียเซลฟ์มากเลยทำไมไม่มีใครรู้จักนายทองดีฟันขาว ผมถามว่ารู้จักพระยาพิชัยดาบหักไหม คือเขาไม่รู้ว่าคนเดียวกัน ผมอยากจะสร้างทำให้รู้ว่านายทองดีฟันขาวคือพระยาพิชัยดาบหัก แต่ไม่มีใครนำเสนอชีวิตตั้งแต่ตอนเด็กเลย กระทั่งตอนโตกระทั่งเป็นมือขวาพระเจ้าตากสินมหาราช แล้วก็มาต่อสู้จนกระทั่งกอบกู้เอกราชได้อะไรได้ นี่คือคนสำคัญ แต่ไม่มีใครรู้จักนายทองดีฟันขาว"
โปรดิวเซอร์มากประสบการณ์กล่าวถึงหัวใจสำคัญของเรื่องว่า "มันคือเรื่องราวของลูกผู้ชายคนหนึ่งนะครับที่ต่อสู้ชีวิตมาอย่างหนัก ผ่านร้อนผ่านหนาวมา ความมุ่งมั่นความพยายามของเขาสามารถที่จะสร้างประวัติศาสตร์ของคนบ้านเราได้จนโด่งดังจนกระทั่งทุกวันนี้นะครับ ทองดีฟันขาวจริงๆ แล้วท่านก็คือพระยาพิชัยดาบหัก มือขวาของพระเจ้าตากสินที่กอบกู้เอกราชให้เราเป็นไทมาจนถึงทุกวันนี้นะครับ" บิณฑ์ ออกปากว่าถ้าไม่ใช่ บัวขาว ก็จะไม่ทำเรื่องนี้แน่นอน "ไม่ได้บัวขาวผมไม่ทำหนังเรื่องนี้จริงๆ นะ อ้อนวอนแล้วอ้อนวอนอีก คือพยายามทุกอย่าง เขาก็ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเขาเท่าไร เพราะเขาไม่เคยเล่นหนังแบบนี้มาก่อน ผมบอกรับรองผมเนี่ยทำหนังเรื่องนี้มา รับรองคุณออกมาเป็นตัวของตัวเอง แล้วเป็นอะไรที่ผมรู้สึกว่าผมทำบุญมาดีอ่ะ เขาตอบตกลงเล่น"
บัวขาว เอ่ยว่าตัวละคร นายทองดีฟันขาว กับตนเองมีความคล้ายคลึงกัน "ในบทบาทคาแรกเตอร์ต่างๆ นะครับ การที่ชีวิตของบัวขาวในการต่อสู้หรืออะไรต่างๆ ก็โอเคในการชกต่อยตีกันเป็นเรื่องปกตินะครับ แอ็กชันอะไรต่างๆ แล้วก็การต่อสู้ แล้วก็การเดินทางค้นคว้าหาประสบการณ์เพื่อจะทำให้ตัวเองเก่งแล้วก็เรื่องราวต่างๆ คล้ายคลึงกัน" หนุ่มนักมวยแง้มถึงการถ่ายทำในฉากต่อสู้ว่า "เวลาเข้าฉากที่เราได้ต่อสู่หรืออะไรมันเป็นเข้าทางผมอยู่แล้วไง ก็เลยแบบถ้าเล่นเปาะแปะมันไม่สนุก เวลาเล่นกับคู่เล่นด้วยกันเขาก็เก้ๆ กังๆ เขาก็ไม่กล้าเล่นกับผม ผมบอกว่าผมเจ็บมาเยอะแล้วเอาให้เต็มที่เอาให้ผ่านเลย เพราะว่าเราพยายามที่จะให้มันสมจริงที่สุด ไม่ใช่พอทำเล่นๆ เหมือนแบบผู้กำกับก็สั่งเป็นนักมวยหนักกว่านี้สิ ไม่ผ่าน เอาใหม่ๆ ก็เลยไม่อยากฟังคำว่าเอาใหม่ก็เลยทีเดียว"
ด้าน นาว เผยความรู้สึกว่าโชคดีที่ได้มาแสดงภาพยนตร์ร่วมกับ บัวขาว แล้วยังได้ร่วมงานกับ บิณฑ์ อีกด้วย "ก่อนที่จะรับเรื่องนี้เรารู้อยู่แล้วว่าพี่ท็อปจะเปิดหนัง ก็ไม่ได้คิดอะไรว่าเราจะได้เล่น แล้วพอวันหนึ่งเห็นมีน้องๆ เด็กมิสทีนฯ ในสังกัดเนี่ยแหละไปแคสต์ เราก็โอเคเหมือนรับรู้ว่าจะเปิดหนัง พอวันหนึ่งปุ๊บพี่บิณฑ์โทรมาว่านาวพี่มีเรื่องรบกวน พี่มีหนังเรื่องหนึ่งอยากจะให้น้องนาวเล่นถ้าไม่ได้น้องนาวนะนึกใครไม่ออกแล้ว แต่เราก็เต็มใจนะ ดีเหมือนกันครั้งหนึ่งเราได้เล่นหนังร่วมกับพี่บัวขาวแล้วก็พี่บิณฑ์ด้วย ก็ถือว่าเป็นความโชคดีของเราค่ะ"
และแล้วก็มาถึงการแสดงเด็ดของงานเมื่อ บัวขาว รับคำท้าผู้กำกับ บิณฑ์ อวดความแข็งแกร่งบนเวที โดยการเตะต้นกล้วยยักษ์หักเป็นสองท่อนด้วยลูกเตะพิฆาตอันหนักหน่วงเพียง 2 ครั้งเท่านั้น เป็นการเรียกน้ำย่อยก่อนชมภาพยนตร์จริงที่มันสะใจยิ่งกว่านี้แน่นอน ติดตามชมภาพยนตร์ของชายเลือดนักสู้ ทองดีฟันขาว เริ่มวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2560 เป็นต้นไปในโรงภาพยนตร์