1. สยามโซน
  2. ภาพยนตร์
  3. ข่าววงการภาพยนตร์

เผือก ให้การกระทำแทนคำมั่นสัญญา เข้าวิวาห์หวานชื่น

เผือก ให้การกระทำแทนคำมั่นสัญญา เข้าวิวาห์หวานชื่น

หลังจากบ่มเพาะความรักกันมานานกว่า 5 ปี นักจัดรายการวิทยุหนุ่มอารมณ์ดี "เผือก - พงศธร จงวิลาส" ก็จูงมือเจ้าสาวคนสวย "ลูกจ๋า - วรินทรา ฤทธิ์สกุลชัย" เข้าประตูวิวาห์ไปอย่างชื่นมื่นเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2558 ณ โรงแรมสุโขทัย ท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่นในสวนสวย โดยมีการจัดพิธีเช้าตามแบบจีน ทั้งการแห่ขันหมาก การเชิดสิงโตที่ได้เพื่อนสนิทของเจ้าบ่าวอย่าง "เจม - จิตตริน กุลกัลยาดี" และ "อาร์ต - มารุต ชื่นชมบูรณ์" มาเป็นคนเชิดด้วย ทั้งยังมีพิธียกน้ำชาและรับพรจากผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่าย เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่การใช้ชีวิตคู่ ซึ่งก่อนที่จะเริ่มงานเลี้ยงฉลองในช่วงบ่าย ทั้งสองคนก็เคียงคู่กันมาให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องความความรักอันหอมหวาน

ความรู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง

เผือก "ก็ร้อนครับ อย่างแรก (หัวเราะ) เพราะว่าเราจัดงานกลางวันครับ ล้อเล่นนะ ก็มันก็เป็นอีกหนึ่งวันที่เราทำการบ้าน เตรียมตัวกันมานานครับ ประมาณเดือนหนึ่ง ไม่หรอก ก็เตรียมนานครับ แต่ว่าสุดท้ายมันก็ถึงวันนี้จนได้ แล้วก็กำลังค่อยๆ ซึมซาบกับมัน ให้มันค่อยๆ ผ่านไปทีละสเต็ป ทีละขั้นตอนครับ ก็ลุ้นดีครับ เหมือนปกติเราไปงานอีเวนต์ เราก็แค่จับไมค์เนอะ แต่นี่มันหมือนเป็นอีเวนต์ที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตของเราเอง ที่เราสร้างขึ้นเองครับ"

เล่าถึงพิธีการต่างๆ หน่อย

เผือก "เมื่อเช้าก็เป็นพิธีจีนครับ ก็บ้านเราก็เป็นครอบครัวคนจีนทั้งคู่ ก็เลยมีพิธีแห่ขันหมาก ยกน้ำชา แล้วก็ตามธรรมเนียมจีนน่ะครับ ปกติครับ"

ความรู้สึกตอนที่ทำพิธียกน้ำชาและรับพรจากผู้ใหญ่เป็นอย่างไรบ้าง

ลูกจ๋า "ก็ซาบซึ้งค่ะ ก็เป็นผู้ใหญ่ที่เราเคารพแล้วก็รักทุกคนมาที่งานนะคะ"

เผือก "ก็ลุ้นด้วยครับ ลุ้นตอนที่ยกน้ำชาด้วยว่าผู้ใหญ่เขาจะวางซองมาหนา มันเห็นด้วยตาครับว่าใครบางใครหนา ส่วนบางเราก็ลุ้นให้มันเป็นเช็ค เป็นอะไรอย่างนี้ครับ ก็ลุ้นตรงนั้นมากเลย (หัวเราะ) ส่วนใหญ่เมื่อเช้ามันค่อนข้างเฮฮาครับ ตอนแรกก็คิดว่าตัวเองน่าจะร้องไห้ร้องห่มแน่เลย แต่เอาเข้าจริงๆ ทั้งเพื่อน ทั้งญาติ บรรยากาศมันเฮฮามาก งานสนุกสนานครับ"

เห็นว่าทั้งคู่รอคอยวันนี้มานาน เพราะมีการเลื่อนมาหลายครั้งแล้ว

เผือก "ก็เราหาฤกษ์ที่เหมาะสมที่สุด แล้วก็ที่สำคัญคือสถานที่ด้วย เพราะว่ามากันวันแรกที่โรงแรมนี้ แล้วก็ไปเห็นที่สวนตรงนั้น แล้วก็เราชอบเลย แล้วเราไม่ดูที่อื่นอีกแล้ว ก็เลยต้องทำทุกอย่างเพื่อที่จะสามารถจัดงานที่นี่ได้ ต้องมีเลื่อนฤกษ์ ทั้งเลื่อนเข้าเลื่อนออกเยอะครับ"

สินสอดทองหมั้นเท่าไร

เผือก "สินสอดนี่ก็ให้ไปทั้งชีวิตที่มีแหละครับ แต่ชีวิตมันไม่ได้มีเยอะ (หัวเราะ) มันก็ทั้งหมดที่ทำมา ที่ทำงานมานี่แหละครับ วางอยู่บนโต๊ะเมื่อกี้หมดแล้วครับ ให้เขาคนเดียว"

แหวนกี่กะรัต

เผือก "แถวๆ 3 ครับ 30 กะรัตครับ เอาจริงๆ เหรอฮะ ประมาณ 3 ครับ"

ความประทับใจที่มีต่อกันและกัน

เผือก "ลูกจ๋าเขาเอาเท่าที่เห็นก็เขาเป็นคนสวยนะครับ แล้วก็ตอนเราเห็นแวบแรก เขาสามารถเลือกผู้ชายคนไหนก็ได้ในปฐพีนี้ คือเขาเป็นเหมือนนางฟ้า เราเจอกันที่เอไทม์ครับ เขาเป็นเออี ผมเป็นดีเจ แล้วก็ธรรมดาฮะ ดีเจมันก็ต้องกะลิ้มกะเหลี่ยเออีเป็นธรรมดาครับ เราก็กะลิ้มกะเหลี่ยไป โดยที่ไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะมาสนใจอะไรเรามากสักเท่าไร แต่ว่าพอเวลาผ่านไปเรื่อยๆ จากที่เคยคิดว่ามันคงไม่ใช่หรอก เฮ้ย เราเล่นๆ น่ะ เขาเองก็เปลี่ยนแปลงตัวเอง แล้วก็พิสูจน์ให้ผม ผมเองก็ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง แล้วก็พิสูจน์ให้เขาเห็นว่า ถ้าเรารักกันจริง เราอยู่ด้วยกันได้ ผมรู้สึกว่ามันมหัศจรรย์ที่คนๆ หนึ่งจะทำให้ผมรู้สึกว่าอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองทุกอย่าง อะไรที่เคยเป็นนิสัยไม่ดี ที่ไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้จะไม่ต้องเปลี่ยนแล้ว ผมเปลี่ยนทุกอย่าง ให้เขามีความสุขครับ เพราะฉะนั้นก็ไม่แต่งคนนี้ก็ไม่รู้คนไหนแล้วครับ"

ลูกจ๋า "ก็จริงๆ ตอนแรกที่ชอบเขาก็เพราะเขาตลก ก็คงเหมือนที่พี่ๆ ก็เห็นเขาเฮฮาอะไรอย่างนี้ค่ะ แต่พอรู้จักเขาไปจริงๆ แล้ว ตัวตนจริงๆ ของเขาจะไม่ได้เป็นคนแบบนี้ จะเป็นคนเรียบร้อย รักครอบครัว เขาจะมีมุมของเขาที่ไม่กินเหล้า ไม่เที่ยวกลางคืน เราก็เลยรู้สึกว่าเขาสามารถเป็นผู้นำครอบครัวได้"

ตั้งแต่รู้จักกันมา เผือก เปลี่ยนแปลงตัวเองไปอย่างไรบ้าง

ลูกจ๋า "แต่จริงๆ สำหรับจ๋า จ๋ารู้สึกว่าเขาเหมือนเดิม และเขาก็ดีขึ้นหลายๆ อย่าง เขาพยายามเข้าใจ บางทีจ๋าก็ขี้หงุดหงิด เขาพยายามจะเข้าใจว่าไม่โกรธที่เราเป็นแบบนั้นค่ะ"

คำมั่นสัญญาที่มีให้กัน

เผือก "จริงๆ ทุกอย่างที่ทำตั้งแต่ก่อนแต่งแล้ว มันก็เหมือนกับคำสัญญาครับ เพราะว่าเขาก็บอกไว้แล้วว่าถ้าเริ่มต้นยังไงเนี่ย มันจะเป็นอย่างนั้นไปตลอด ห้ามเปลี่ยนแล้วนะ เราก็เริ่มต้นด้วยโปรโมชันเต็มที่ครับ (หัวเราะ) เพราะฉะนั้นมันก็หมดโปรไม่ได้ครับ เราก็ต้องพยายามทำไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ ก็ไม่ได้เชิงสัญญากันเป็นจริงเป็นจังครับ แต่ว่าทุกอย่างที่ทำ ให้เขารู้ว่าเราทำให้เขาครับ"

หลังจากนี้มีการวางแผนครอบครัวอย่างไร

เผือก "ก็เดี๋ยวจ๋าก็คงมาอยู่ที่บ้านแล้ว แล้วก็ปะป๊าเองก็เร่งอยากจะอุ้มหลานเหลือเกินครับ ก็เขาเห็น โอปอล์ (ปาณิสรา อารยะสกุล) มีลูกแฝด เขาก็อยากให้ทีเดียวออกมา 2 เลยแบบนั้น ซึ่งผมดูจากอาการโอปอล์แล้วเนี่ย ทีละคนก็ดีนะฮะป๊า โอปอล์นอนโรงพยาบาล 2 เดือนนะครับ เพื่อรอให้ลูกคลอดเนี่ย เราก็ค่อยๆ ครับ เป็นไปตามธรรมชาติ แต่ว่าก็คงจะเริ่มปล่อยให้ลูกเขาได้มีโอกาสมาเกิดได้เลยครับ"

อยากมีลูกกี่คน

เผือก "จริงๆ ใจอยากมี 1 คนก่อนครับ แล้วก็เลี้ยงคนนี้ให้ดีเลย แต่ว่าบรรดาญาติๆ นี่ 2 บ้าง 3 บ้างครับ ขอกันมาเยอะครับ ก็เลยเดี๋ยวลองดูอีกทีเนอะ"

จะไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กันที่ไหน

เผือก "ต้องถามเขาแล้วล่ะฮะอันนี้ เพราะว่าจริงๆ ผมดื่มได้ทุกที่เลยนะครับ (หัวเราะ) ต้องถามเขาว่าเขาอยากไปไหน ไปไหน ไปไหนดี"

ลูกจ๋า "ยังไม่ได้คิดตัดสินใจว่าเป็นที่ไหนค่ะ เหมือนช่วงนี้เรายุ่งเรื่องงานแต่ง ก็เดี๋ยวพอเสร็จงานแล้วคงต้องกลับไปลุยงานที่ทำอยู่ก่อน แล้วก็เดี๋ยวค่อยดูช่วงจังหวะที่ว่าง แล้วก็ค่อยไปฮันนีมูนเนอะ"

เผือก "เคยบอกเขาไว้ว่าไปบางปูก็ได้เนอะ เขาไม่โอเคฮะ เขาบอกว่ามันน่าจะไกลกว่านั้นอีกนิดหนึ่ง"

ลูกจ๋า "ไม่มีใครโอเค (หัวเราะ)"

เรือนหอเป็นอย่างไร

เผือก "พอดีบ้านที่อยู่ตอนนี้ก็อยู่คนเดียว แต่ว่ามันจะใกล้ แล้วก็ติดกับบ้านคุณพ่ออยู่แล้วครับ จ๋าก็คงจะย้ายเข้ามาอยู่ชั่วคราวก่อน ก็ตอนนี้ยังมีแค่ 2 ใช่ไหมฮะ ถ้าวันหนึ่งมีน้อง น้องโต ก็คงขยับขยาย สร้างเรือนหอกันต่อไป ตอนนี้ตังค์ไม่มีสร้างเรือนหอแล้วนะครับ อยู่บ้านเดิมไปก่อนครับ"

จดทะเบียนสมรสกันหรือยัง

เผือก "ยังครับๆ แต่ว่าจดครับ ก็วันนี้กลัวคิวมันจะแน่น แล้วก็มีหลายอย่างเกินไป ก็เลยเดี๋ยวไปจดกันวันหลังครับ"

มีฤกษ์จดทะเบียนสมรสหรือเปล่า

เผือก "ฤกษ์ไม่ได้ดูฤกษ์จดเลยครับ ฤกษ์แต่งก็ไม่ได้ดูเนอะ เดี๋ยวรอดูโอกาสเหมาะๆ ก็เดี๋ยวไปจดเลยครับ"

แรงบันดาลใจในการถ่ายภาพก่อนแต่งงานคืออะไร

เผือก "ก็จริงๆ ทั้งคู่เป็นคนที่เวลาเห็นภาพพรีเวดดิงที่เขาแบบ แล้วก็มีดวงอาทิตย์อยู่ข้างหลังอะไรอย่างนี้ เราก็จินตนาการว่าถ้าเราไปอยู่ตรงนั้นมันจะแปลกมากเลยครับ ด้วยบุคลิกของเรา แล้วก็เราสองคนก็ชอบแบบแฟชั่นๆ ก็เลยโอเค มีเพื่อนๆ ที่ทำงานสายนี้ ขี้ร้อนด้วย ถ้าไปยืนถ่ายทะเล หรือสวนรถไฟ มันจะเหงื่อแตกมากๆ เลยครับ ก็เลยคิดว่าเราถ่ายสตูดีกว่า แล้วก็เอาคอนเซปต์ที่เรารู้สึกว่ารูปนี้เราสองคนจะดูไปได้เรื่อยๆ จนแก่ จนเราดูแล้วเราไม่ อุ๊ย ทำไมยิ้มอย่างนี้ เราจะไม่เป็นอย่างนั้น ก็เลยถ่ายให้มันออกแฟชั่นฮาๆ หน่อยครับ"

คบกันมานานเท่าไรแล้ว

ลูกจ๋า "อีก 10 วัน 5 ปีค่ะ"

เผือก "วันที่ 14-15 นี่ก็จะครบ 5 ปีครับ"

มีเคล็ดลับดูแลความรักอย่างไร

เผือก "จริงๆ แล้วเนี่ย เคล็ดลับอยู่ที่ฝ่ายชายนะครับ ถ้าพี่ๆ นะครับ ตากล้องนะครับ ถ้ามีเมีย เราก็ต้องยอมเมียใช่ไหมพี่ ก็คือผมถือคติที่ว่าเรายอม ถ้าเรายอมเนี่ย ทุกอย่างมันไม่มีปัญหาครับ ไม่ว่าเขาจะมีเหตุผล หรือบางครั้งเขาจะไม่มีเหตุผล เขาจะใช้อารมณ์ ถ้าเรายอมซะอย่างนะครับ ทุกอย่างมันก็จะราบรื่น คืออยู่ด้วยกันเนี่ย ถ้าไม่มีใครยอมใครเนี่ย มันคงอยู่ด้วยกันลำบาก แล้วก็เป็นคนอารมณ์ขี้หงุดหงิดทั้งคู่ กับคนอื่นนี่จะไม่เป็นนะครับ แต่กับแฟนเนี่ยจะเป็น เราก็ต้องเป็นฝ่ายที่เบาลงๆ แล้วพอเวลาผ่านไป มันก็ทำให้เราเป็นคนดีขึ้นด้วย ใจเย็นขึ้น เพื่อเขาครับ"

ดูเหมือน เผือก จะกลัวภรรยา

เผือก "ผมกลัวมานานแล้วนะครับ เห็นหวานๆ อย่างนี้เนี่ย เวลาดุ ดุนะครับ หลายท่านเคยสอนผมไว้ว่าคนที่กลัวเมีย หรือว่ากลัวภรรยาเนี่ยจะเจริญทุกคนครับ หัวหน้าผมหลายคน ตั้งแต่ออฟฟิศเก่า มาจนถึงพี่ฉอด (สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา) เขาก็ให้พรแบบนี้ครับว่ายอมๆ ไว้เถอะ ก็เลยยินดีที่จะกลัวนะครับ ผมว่าเป็นเรื่องดี น่ารักดีออกเนอะ ผู้ชายกลัวเมียเนอะ"

หลังจากนี้จะเบางานในวงการลงไหม

เผือก "ตอนนี้รับหมดนะครับ ฝากไว้ด้วยนะครับ ทุกๆ สื่อเลยครับ ก็รับเหมือนเดิมครับ แล้วก็อาจจะต้องขยันเพิ่มขึ้นอีกครับ เพราะว่าก็เราสองคนแล้ว ถ้าเราจะมีลูก ก็ต้องขยันขึ้นกว่านี้ครับ รับเหมือนเดิมครับ งานคู่ก็รับครับ รับหมดครับ"

จะรับงานคู่กันมากขึ้นหรือเปล่า

เผือก "ก็เนอะ ตามโอกาสเนอะ เพราะปกติก็เป็นคนขี้เกียจทั้งคู่ครับ เธอไปสิๆ เป็นตัวแทน แต่ว่าต่อไปนี้คงต้องควงกันไปเป็นคู่แล้วครับ"

ตอนนี้ ลูกจ๋า ทำงานอะไรอยู่

ลูกจ๋า "จ๋าเปิดเป็นบิวตี้เซ็นเตอร์ค่ะ การ์เดท ที่สุขุมวิท ก็ดี ใกล้ๆ ตึกแกรมมี่ เราใกล้กัน บางครั้งเขาก็มารับเรา แล้วก็ไปทำงานพร้อมๆ กัน มันก็อาจจะเป็นอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้เหมือนเราใช้เวลาด้วยกันเยอะมากๆ เหมือนออกมาทำงานพร้อมกัน กินข้าวเย็นด้วยกัน มีอะไรเราก็มีเวลานั่งคุยกันมาก มันก็เข้าใจกันมาก"

เห็น เผือก เคยบอกว่า ลูกจ๋า ไม่ชอบให้เข้าฉากรัก

เผือก "ผมก็หน้าตาโอเคนะครับ มันก็เป็นธรรมดา ถ้าเรามีแฟนหล่อๆ เราก็ต้องหวง เอาความจริงดีกว่า ทำไมหวงขนาดนี้"

ลูกจ๋า "คือไม่รู้ มันก็ต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ก็ต้องห้ามไปก่อนเลย เราก็จะได้สบายใจทั้งคู่"

เผือก "เพราะว่าคู่เราเนี่ย มันก็เริ่มจากการหยอดเหยิด แกล้งกัน แซวกัน รักนะ อย่างนี้ แล้วมันก็เป็นจริงขึ้นมา ถ้าเขาไม่ตัดไฟ มันก็ใช่ไหม มันไม่ได้แล้ว เขาก็เลยต้องควบคุมกันนิดหนึ่ง ไม่ต้องถึงกับรายงาน แต่ว่าถ้ามีฉากที่ถึงเนื้อต้องตัว อันนี้ต้องแจ้งนิดหนึ่งครับว่าเดี๋ยวมีจับมือนะ เดี๋ยวเขาหอมเรานะ เราไม่หอมเขานะ อะไรอย่างนี้โอเค ถ้าโดนกระทำโอเค ยังไม่เคยไปหอมใครในซีนเลยครับ คิดว่าน่าจะเรื่องใหญ่ (หัวเราะ)"

แต่งงานกันแล้ว ลูกจ๋า จะเบาใจลงไหม

เผือก "เออ เบาใจลงไหม"

ลูกจ๋า "คิดว่าไม่ (หัวเราะ)"

เผือก "ว่าแล้วครับ ก่อนแต่งหลังแต่งต้องเหมือนเดิมครับ ก็ขออภัยทางผู้จัดทุกท่านไว้ด้วยนะครับ เล่นได้ทุกอย่างครับ แก้ผ้า อะไรได้หมด แต่ว่าเลิฟซีนขอไว้ครับ (หัวเราะ)"

บอกความในใจถึงกันและกันหน่อย

เผือก "วันนี้ก็เป็นวันสำคัญของเราทั้งคู่นะครับ แล้วก็เหนื่อยกันมานานเหมือนกันเนอะ แล้วก็เครียด บางทีเขาก็เครียด พยายามบอกเขาว่าอย่าเครียดๆ แล้วก็วันนี้ก็ครึ่งทางแล้ว เดี๋ยวงานแต่งเราก็จะผ่านไป แล้วก็นับจากวันพรุ่งนี้ เราก็จะเป็นครอบครัวเดียวกัน ก็มาสร้างครอบครัวที่ดีด้วยกันครับ"

ลูกจ๋า "ก็อยากจะบอกว่าคือจริงๆ จ๋าก็ไม่เคยคิดว่าเราจะมีงานแต่งงานที่เรารู้สึกว่าทุกอย่างเรามีความสุขขนาดนี้ เป็นอะไรที่เราแฮปปี้ทั้งหมด จ๋ารู้ว่าเขาทำทุกอย่าง ไม่ว่าชีวิตประจำวัน หรือแม้จนกระทั่งวันนี้ จ๋ารู้ว่าเขาทำเพื่อเราสองคน ก็ขอให้เขาเป็นคนที่ดีอย่างนี้ตลอดไป"

หลังจากนั้นบ่าวสาวก็พากันไปร่วมงานเลี้ยงฉลองซึ่งจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายในสวนกลางแจ้ง ท่ามกลางญาติพี่น้องและเหล่าคนบันเทิงที่มาร่วมแสดงความยินดีและเป็นสักขีพยานในความรักของทั้งคู่ อาทิ "โบ - ธนากร ชินกูล" "อ๋อง - เขมรัชต์ สุนทรนนท์" "ต้นหอม - ศกุนตลา เทียนไพโรจน์" "ดาด้า - วรินดา ดำรงผล" "เป้ - วิศวะ กิจตันขจร" "จิ๊บ - ปกฉัตร เทียมชัย" "พุฒ - พุฒิชัย เกษตรสิน" "เต๋อ - ฉันทวิชช์ ธนะเสวี" "ไอซ์ - ปรีชญา พงษ์ธนานิกร" "พลอย หอวัง" "เชาเชา - ชวลิต ศรีมั่นคงธรรม" "ว่าน - ธนกฤต พานิชวิทย์" "ดาว - ณัฐภัสสร สิมะเสถียร" "ฟรอยด์ - ณัฏฐพงษ์ ชาติพงศ์" "โจ๊ก - กรภพ จันทร์เจริญ" หรือ "โจ๊ก โซคูล" "ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์" "ปุ๊กกี้ - ปวีณ์นุช แพ่งนคร" และ "โอปอล์ - ปาณิสรา อารยะสกุล" ที่มาพร้อมสามีหนุ่ม "โอ๊ค - สมิทธิ์ อารยะสกุล" ซึ่งแขกที่มาในงานนี้จะได้รับของที่ระลึกเป็นหน้ากากปิดตาเวลานอนหลับลวดลายสวยงาม

สงวนลิขสิทธิ์ © ห้ามคัดลอก ตัดต่อ
ดัดแปลงหรือเผยแพร่ในสื่อใดๆ ก่อนได้รับอนุญาต
กดเพื่อดูรูปใหญ่ ปัดซ้าย-ขวาเพื่อดูรูปถัดไป
  • รูปภาพ 1
  • รูปภาพ 2
  • รูปภาพ 3
  • รูปภาพ 4
  • รูปภาพ 5
  • รูปภาพ 6
  • รูปภาพ 7
  • รูปภาพ 8
  • รูปภาพ 9
  • รูปภาพ 10
  • รูปภาพ 11
  • รูปภาพ 12
  • รูปภาพ 13
  • รูปภาพ 14
  • รูปภาพ 15
  • รูปภาพ 16
  • รูปภาพ 17
  • รูปภาพ 18
  • รูปภาพ 19
  • รูปภาพ 20
  • รูปภาพ 21
  • รูปภาพ 22
  • รูปภาพ 23
  • รูปภาพ 24
  • รูปภาพ 25
  • รูปภาพ 26
  • รูปภาพ 27
  • รูปภาพ 28
  • รูปภาพ 29
  • รูปภาพ 30
  • รูปภาพ 31
  • รูปภาพ 32
  • รูปภาพ 33
  • รูปภาพ 34
  • รูปภาพ 35
  • รูปภาพ 36
  • รูปภาพ 37
  • รูปภาพ 38
  • รูปภาพ 39
  • รูปภาพ 40
  • รูปภาพ 41
  • รูปภาพ 42
  • รูปภาพ 43
  • รูปภาพ 44
  • รูปภาพ 45
  • รูปภาพ 46
  • รูปภาพ 47
  • รูปภาพ 48
  • รูปภาพ 49
  • รูปภาพ 50

ความคิดเห็น

วันนี้ในอดีต

เกร็ดภาพยนตร์

  • Wolves - เดิมทีผู้กำกับและผู้เชียนบท เดวิด เฮย์เตอร์ ตั้งชื่อภาพยนตร์ในบทว่า Slaughter's Road อ่านต่อ»
  • The Water Diviner - รัสเซล โครว์ ผู้กำกับและนักแสดงบท โจชัว อยากให้นักแสดงตลก เจม ยิลมาซ มารับบท เจอมาล ตั้งแต่แรก อ่านต่อ»
เกร็ดจากภาพยนตร์สามารถดูได้ในหน้าข้อมูลภาพยนตร์แต่ละเรื่อง

เปิดกรุภาพยนตร์

เรื่องราวของ หลินเก๋อ (หลี่หงฉี) ชายหนุ่มที่มีพรสวรรค์พิเศษ เขาย้อนเวลาได้ หลินเก๋อ ตกหลุมรัก ชิวเชี่ยน (หลี่อี้ถง) มาต...อ่านต่อ»