ตีแผ่ความแรงในสังคมอย่างตรงไปตรงมาใน พ่อและลูกชาย
"พ่อและลูกชาย" หรือ "Father & Son" ภาพยนตร์ที่สร้างมาจากการ์ตูนแนวชายรักชายเนื้อหาเข้มข้นที่ "โน๊ต - สราวุธ อินทรพรหม" เป็นผู้เขียน และรับหน้าที่เป็นผู้กำกับด้วยตนเอง ตีแผ่ชีวิตจริงเกี่ยวกับความรัก ความสัมพันธ์ ในแง่มุมของเพศที่ 3 พร้อมยกขบวนกองทัพหนุ่มๆ อย่าง "แบงค์ - ธนาพล ประสงค์ทรัพย์" "เฟรชชี่ - ตวงภพ ตันเจริญ" "เอมีน ศิริตา" "เธโอ - ชิระ จีระกุลชาญ" และ "ฟลุท - กานต์ กุลานุพงศ์" มาประชันบทบาทกันอย่างถึงพริกถึงขิง โดยผู้กำกับและเหล่านักแสดงนำได้มารวมตัวกันอย่างพร้อมเพรียง ทั้งยังให้สัมภาษณ์กับสยามโซน.คอม แบบไม่มีปิดบัง ในงานฉายภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์ เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2558 ณ โรงภาพยนตร์เอสพลานาด รัชดาภิเษก
ผู้กำกับเล่าถึงจุดเริ่มต้นในการทำภาพยนตร์เรื่องนี้ให้ฟังว่า "เกิดจากว่าเราอยากจะทำหนังภาพยนตร์เกย์สำหรับผู้ใหญ่ดู เพราะว่าช่วงนี้มีคนทำหนังแนวหนังเกย์เยอะ ทั้งหนังทั้งละคร แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นหนังรักวัยรุ่นใสๆ อะไรอย่างนี้ ซึ่งเราก็มองว่ามันเป็นวรรณกรรมสำหรับเยาวชน แต่เรารู้สึกว่าเราอยากจะสร้างวรรณกรรมสำหรับผู้ใหญ่ สำหรับให้ผู้ใหญ่ดูโดยเฉพาะขึ้นมา ก็เลยคิดว่าเราอยากจะนำเสนอหนังที่ว่าด้วยเรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ในครอบครัว ปัญหาของครอบครัว ซึ่งจะเป็นเรื่องที่ใหญ่ขึ้นมา แล้วก็นำเสนอเรื่องการมีเพศสัมพันธ์แบบตรงไปตรงมา ก็เหมือนกับพวก Fifty Shades of Grey อะไรพวกนี้ เป็นวรรณกรรมสำหรับผู้ใหญ่โดยเฉพาะ"
นอกจากความสนุกแล้ว โน๊ต มองว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ยังให้แง่คิดในเรื่องอื่นๆ ด้วย "สิ่งที่ผู้ชมจะได้รับก็คือได้ความสนุก สองก็คือได้แง่คิดว่าคนที่เป็นเกย์เนี่ยก็สามารถใช้ชีวิตแบบคนปกติได้ สามารถมีครอบครัวมีลูก แล้วสามารถเลี้ยงลูกให้เป็นคนดีของสังคมได้ ไม่ใช่ว่าคนเป็นเกย์จะต้องเป็นตัวตลกเฮฮาอย่างเดียวเหมือนที่เราเคยเห็นที่ผ่านมา" ส่วนสิ่งที่ยากที่สุดสำหรับการทำภาพยนตร์เรื่องนี้ ผู้กำกับมากฝีมือเอ่ยว่า "มันยากในส่วนเรื่องของก่อนการถ่ายทำมากกว่า ในการหานักแสดงเพราะว่าเราต้องการคนที่หน้าตาดี แอ็กติงได้ แล้วก็กล้าเล่นฉากเลิฟซีนแรงๆ ด้วย เพราะปกติแล้วคนที่หน้าตาดีเขาก็จะไม่ค่อยกล้าเล่นฉากเลิฟซีน ส่วนคนที่กล้าเล่นก็มักจะหน้าตาอาจจะไม่ค่อยหล่อถูกใจชาวเกย์นะ"
หนุ่ม แบงค์ กล่าวถึงบทบาทที่ได้รับว่า "รับบทเป็น เอก นะครับ ก็คือเป็นคุณพ่อในเรื่อง Father & Son นะครับ บทบาทที่ได้รับก็คือจะเป็นคนที่เครียด ทำงาน แล้วก็รักลูกมาก ยอมทำทุกอย่างได้เพื่อลูก แม้กระทั่งยอมตายเลยก็ได้ คือเรากลัวมาก กลัวที่สุดก็คือกลัวลูกไม่รัก เพราะลูกเนี่ยมีปมตั้งแต่ตอนเด็ก เพราะว่าเขาเป็นเด็กที่ถูกอุ้มบุญมานะครับผม แล้วก็เลยทำให้เขาต้องเลี้ยงเขามาท่ามกลางสังคมที่ก็ไม่ค่อยจะยอมรับในเรื่องของเกี่ยวกับรสนิยมทางเพศของคนที่เป็นพ่อ เพราะว่าเขาอาจจะโดนล้อว่าพ่อเป็นเกย์ พ่อเป็นตุ๊ดอะไรอย่างนี้ครับผม แต่ว่าเราก็ไม่ได้แคร์ ไม่สนใจ กับคนอื่นเนี่ยเราสามารถแฮนเดิลจัดการได้หมดเลย แต่กับลูกเนี่ยเรายอมมากๆ หมายถึงทำทุกอย่างเพื่อจะให้เขามีความสุข แต่มันก็มีเรื่องวุ่นวายเข้ามา ตามประสาที่ลูกเขาเป็นวัยรุ่น เขาต้องมีความรักของเขาบ้างครับ แล้วก็มีเรื่องวุ่นวายเข้ามาเยอะมาก ทำให้เราต้องมีการเลือก มีการตัดสินใจแล้วก็มีอะไรที่เครียด กดดันหลายอย่างประมาณนี้ครับผม"
แม้ว่าในชีวิตจริงจะยังหนุ่มยังแน่น แต่กลับต้องมาสวมบทเป็นคุณพ่อ ซึ่ง แบงค์ เปิดใจว่า "เราก็คิดว่าทุกบทบาทมันมีความยากง่ายแตกต่างกันอยู่แล้ว แต่ว่าการที่เขาให้บทอะไรมาเนี่ยเราได้คุยว่ามันเหมาะสมไหม แล้วก็คุยถึงคาแรกเตอร์แล้วเนี่ย พอทุกอย่างมันแมตช์กัน ผมถือว่าเป็นการที่ผู้ใหญ่ให้เกียรติมากกว่า ซึ่งการข้ามมาเล่นบทนี้เลยเนี่ยถามว่าในส่วนตัวผมไม่ซีเรียส แต่ถามว่ายากไหมตอบเลยว่ายาก เพราะว่าชีวิตจริงผมเป็นลูกคนเล็กด้วยซ้ำ แล้วก็มีพี่น้องทั้งหมด 4 คน อยู่ดีๆ ต้องมาเล่นบทพ่อ คือเป็นบทที่ต้องมีลูกด้วย ชีวิตจริงก็มีแต่น้องหมาเนอะเป็นลูกเรา แล้วก็บทมันก็ยากอยู่แล้ว แล้วที่สำคัญคือเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิตแล้วก็ดราม่าเยอะ ร้องไห้หนัก แล้วก็มีเลิฟซีน มีดราม่า บทมันไปหนักพวกนั้นมากกว่า ส่วนตัวไม่ได้หนักใจในภาพลักษณ์ที่ว่ามารับบทพ่อ หนักใจตอนแรกมากกว่าที่ว่าบทมันเยอะ แต่ผลสุดท้ายเราก็ตั้งใจทำเต็มที่ ก็อยากฝากให้ไปดูกันเพราะว่าแสดงเต็มที่ครับผม"
ด้านหนุ่ม เฟรชชี่ พูดถึงบทบาทของตนเองว่า "ในคาแรกเตอร์ของตัวละครเฟรชนะครับก็จะเป็นชื่อ หนึ่ง ก็จะเป็นลูกชายของพ่อ ซึ่งพ่อก็เป็นเกย์ ก็จะเป็นคนที่ไม่ชอบพ่อที่พ่อเป็นเกย์ แล้วพ่อก็ทำกิริยาไม่เหมาะสมในบ้านเรา เราก็ไม่ชอบครับ" ดาราหนุ่มเผยว่าเป็นการแสดงแนวชายรักชายเรื่องแรกของตนเอง "ถือว่าหนังแนวนี้เป็นเรื่องแรกของผมด้วย แล้วก็จะเป็นหนังที่แบบว่าตัวเองยังไม่เคยเล่นแนวนี้ด้วย แล้วก็แบบเขินครับ เพราะยังไม่เคยแสดงแนวนี้มาก่อนด้วย" เฟรชชี่ แง้มถึงฉากรักให้ฟังเล็กน้อย "มีครับฉากหนึ่ง ก็จะเป็นฉากดาดฟ้า ไปดูหนังเองดีกว่า (ยิ้ม)" เฟรชชี่ เอ่ยถึงการทำงานร่วมกับหนุ่ม แบงค์ ว่า "พี่แบงค์ก็นิสัยดีครับ แล้วก็ร่วมงานง่าย แล้วก็ตอนถ่ายทำพี่แบงค์เป็นกันเองสุดๆ"
ฟากหนุ่ม เอมีน เล่าถึงตัวละคร นัท ให้ฟังว่า "ในเรื่องผมเล่นเป็นนัทครับผม คาแรกเตอร์ก็เป็นเด็กกวนๆ เด็กแว๊นประจำแฟลตครับ แล้วก็รับบทเป็นแฟนของลูกชาย ซึ่งแอบชอบคุณพ่อ แล้วก็มีอะไรกับคนในแฟลต ก็ดีครับ สนุกดีครับ (หัวเราะ)" หนุ่มคนนี้บอกว่าการแสดงฉากรักเป็นสิ่งที่ยากที่สุด "ฉากที่ยากน่าจะเป็นฉากเลิฟซีนนะครับ มันก็น่าจะยากสุดแล้ว เพราะว่าอย่างบางทีคนนี้ได้คนนั้นไม่ได้ ซึ่งทุกคนก่อนหน้าที่จะมาถ่ายเนี่ยทุกคนได้ทำความรู้จักกันมาก่อน มันก็เลยทำให้งานมันง่ายขึ้น จากการที่จะยากๆ ก็กลายเป็นขำๆ ไปครับ" เอมีน มองว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เน้นเรื่องครอบครัวมากกว่าเรื่องอื่นๆ "จริงๆ แล้วเรื่องนี้ทุกคนอาจจะมองไปว่าเป็นหนังเกย์หรือเป็นหนังสื่อเกี่ยวกับเรื่องเซ็กซ์หรือเรื่องอะไร จริงๆ มันไม่ใช่นะครับ จริงๆ มันเกี่ยวกับเรื่องครอบครัวมากกว่า ถ้าผู้ชมได้เข้ามาดูจริงๆ ทุกคนจะรู้ว่ามันสามารถสื่อสารอะไรถึงครอบครัวหลายๆ ครอบครัวได้ดีครับ สื่อให้เห็นว่าสังคมตอนนี้เป็นยังไงครับ"
เธโอ รับประกันความสมจริงของการดำเนินเรื่อง "จริงๆ แล้วเรื่องนี้มันไม่ใช่เหมือนหนังเกย์ใสๆ ทั่วไปนะ อันนี้ก็ต้องบอกก่อน มันเป็นหนังชีวิตจริงของเกย์ที่มีอยู่จริงครับผม มันก็อาจจะสะท้อนถึงว่าสังคมของเรามีแบบนี้นะ มีเป็นเกย์แบบนี้อยู่จริงๆ นะ ซึ่งผมว่าคนที่เป็นเกย์หรือว่าใกล้ชิดกับเกย์ ถ้าเกิดดูหนังเรื่องนี้ก็จะสัมผัสได้เลยว่าเออมันเป็นเรื่องจริง เพราะว่ามันไม่ได้มีฉากสวยหรูอะไรมากครับ คือมันเป็นดิบๆ เลย เป็นชีวิตจริงเลยครับ ก็ขอฝากภาพยนตร์เรื่อง Father & Son นะครับ เพราะว่านักแสดงกับผู้กำกับคือตั้งใจทำเต็มที่มาก แข่งกับเวลาสถานที่ แล้วก็ด้วยความที่เราอยากจะสะท้อนสังคมอีกแง่หนึ่งของเกย์ครับผม ที่มันมีอยู่จริง ที่ไม่ได้เพ้อฝันเหมือนหนังทั่วไปอย่างนี้ครับ ก็อยากให้มาดูกันเยอะๆ นะครับ" ส่วนหนุ่ม เฟรชชี่ ยืนยันว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ครบรสแน่นอน "ก็ฝากหนังเรื่องนี้ด้วยนะครับ เพราะมันเป็นหนังที่ครบรส แล้วก็มีทั้งดราม่า เลิฟซีน แล้วแง่คิดต่างๆ ในครอบครัวที่เรายังไม่รู้ครับ"
ร่วมค้นหาสิ่งที่อยู่เบื้องหลังภายใต้จิตใจอันดำมืด กับการเดิมพันครั้งสำคัญของผู้เป็นพ่อ ในภาพยนตร์สุดร้อนแรงแห่งปีเรื่อง พ่อและลูกชาย ติดตามได้ตั้งแต่วันที่ 12 พฤศจิกายน 2558 เป็นต้นไปในโรงภาพยนตร์