เจมส์ มาร์ เขิน แสดง Micro Love กับ อึนจอง ทีอาร่า
"เจมส์ มาร์" ได้ฤกษ์ลงจอเงินครั้งแรก แถมยังมีโอกาสได้ประกบคู่กับศิลปินสาวสวยจากแดนกิมจิอย่าง "ฮัมอึนจอง" (Ham Eun Jung) หนึ่งในสมาชิก วง "ทีอาร่า" (T-ARA) ในภาพยนตร์รัก "Micro Love" ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวความรักระหว่างหนุ่มนักเขียนโปรแกรมชาวไทย และลูกสาวเจ้าของบริษัทพัฒนาโปรแกรมของประเทศเกาหลี โดยงานนี้มีนักแสดงชื่อดังมาร่วมสร้างความสนุกสนานด้วย อาทิ "แม็กซ์ - ณัฐวุฒิ เจนมานะ" และ "ใบเฟิร์น - พัสกร พลบูรณ์" โดยจะได้ฤกษ์เปิดกล้องถ่ายทำในเดือนพฤศจิกายน พร้อมมีกำหนดฉายให้ได้ชมกันในปีหน้า
พระเอกคนเก่งของเรื่องเผยความรู้สึกที่ได้เดินทางไปพบกับนางเอกชาวเกาหลีเป็นครั้งแรกว่า "ดีใจมากที่ได้เจอครับ เพราะว่าเราก็ตื่นเต้นนะ เป็นหนังเรื่องแรกของเรา แล้วเราก็ได้ร่วมงานกับศิลปินที่ดังมากท่านหนึ่ง แล้วก็ไม่ได้เป็นคนไทยด้วย ก็เป็นต่างชาติ ซึ่งผมว่าการทำงานแบบนี้เป็นการทำงานที่ใหม่สำหรับเรา แล้วเราก็จะได้เรียนรู้ว่าการทำงานของชาวต่างชาติเป็นยังไง แล้วก็อาจจะได้เก็บเกี่ยววิชาอะไรหลายๆ อย่างมาจากตัวเขาด้วยครับ เพราะว่าเท่าที่เจอกัน เขาเก่งมากๆ ครับ" เจ้าตัวแง้มว่าไม่มีปัญหาเรื่องการสื่อสาร เพราะมีล่ามคอยช่วยแปลให้ตลอด "ไม่ค่อยติดนะครับ เพราะว่าเราก็จะมีล่ามใช่ไหมครับ ล่ามก็จะคอยแปลให้ เวลาเขาพูดภาษาเกาหลี แต่ว่านอกจากนั้นเราก็คุยกันเป็นภาษาอังกฤษได้ครับผม"
ส่วนประเด็นที่หลายคนจับให้ทั้ง 2 คนเป็นคู่ขวัญกันเรียบร้อยแล้ว พระเอกหนุ่ม บอกว่า "ก็ต้องขอขอบคุณแฟนคลับทุกคนมากครับ ที่มาจิ้นผมกับอึนจอง ทั้งๆ ที่หนังก็ยังไม่ออกใช่ไหมครับ ก็ขอบคุณมากๆ แล้วก็อยากจะให้เป็นกำลังใจให้พวกเราไปเรื่อยๆ ครับผม ขอบคุณที่ให้การตอบรับที่ดีแล้วกันนะครับผม ขอบคุณมากครับ" หนุ่ม เจมส์ แจงเหตุผลที่ตัดสินใจรับงานภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า "ถ้าเกิดในส่วนของผมก็คงจะเป็น พอเขาติดต่อมาแล้วเราคิวได้พอดีด้วย แล้วก็อยากเล่นหนังด้วยครับผม อยากเล่นหนังปัจจุบันอยากเล่นหนังที่วัยใกล้เคียงกับเราครับ อะไรที่มันดูเด็กลงมาหน่อย เราก็เลยรับด้วยครับ เพราะว่าคิวว่างด้วย แล้วก็พอดีเขาติดต่อเข้ามาด้วยครับผม บทก็มีทางพี่เอ (ศุภชัย ศรีวิจิตร) ทางผู้ใหญ่เขาก็คุยๆ กัน ก็บอกว่าบทมันประมาณนี้ครับผม แล้วก็คือไม่ว่างานอะไรที่เข้ามาก็ตาม ก็ต้องผ่านพี่เอ ผ่านผู้จัดการเราอยู่แล้วใช่ไหมครับ ซึ่งพอผ่านแล้ว เราก็คุยแล้วคิวว่างได้พอดี และมีช่วงเวลาแค่นี้ก็ถ่ายเลยดีกว่าครับผม เพราะว่าเราก็อยากเล่นหนังมากๆ เพราะว่าอยากลองดูว่าการถ่ายหนังจะเป็นยังไงครับผม"
พอได้เจอกับ อึนจอง ครั้งหนึ่งแล้ว เจมส์ ก็ออกปากว่าร่วมงานกันได้ดี เพราะเป็นคนตั้งใจทำงานกันทั้งคู่ "ผมว่าก็เข้ากันได้โอเคนะครับ เพราะด้วยความที่ว่าเขาก็ตั้งใจทำงานมาก เราก็เป็นคนที่ตั้งใจทำงาน แล้วก็มันต้องมีภาวะตื่นเต้นอยู่แล้วแหละครับ แต่ว่าด้วยความที่ว่าหนังมันเป็นหนังระหว่างคนสองประเทศใช่ไหมครับ การที่เวลา อย่างสมมติเราต้องพยายามพูดภาษาเกาหลีเพื่อที่จะบอกรักเขา เขาก็ต้องพยายามพูดภาษาไทยเพื่อที่จะบอกรักเรา ซึ่งผมว่าตรงนี้แหละครับ มันจะมีฟีลลิงที่มีความเป็นจริงครับ มันจะเขินๆ กันนิดหนึ่งอยู่แล้วครับผม ก็ดีครับ" เมื่อถูกแซวว่าดังไกลไปถึงต่างแดนแล้ว นักแสดงหนุ่มก็แย้งว่า "ไม่โกอินเตอร์หรอกครับ จริงๆ ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นหนังไทยใช่ไหมครับ เราก็ยังสเต็ปเหมือนเดิมครับ เราก็ยังอยู่ทำงานที่เมืองไทย แต่ว่าเห็นเขาบอกว่าแค่มีโอกาสที่จะได้ไปฉายที่ต่างประเทศด้วย ซึ่งเราก็ดีใจที่เราจะได้นำหนังไทยไปฉายที่ต่างประเทศด้วยครับผม"
ถามว่ามีบทพูดภาษาเกาหลีเยอะไหม หนุ่มหน้าตี๋ตอบว่า "ไม่เยอะหรอกครับ เพราะว่าในเรื่องเราก็เล่นเป็นคนไทยนี่แหละครับ หลักๆ ก็พูดภาษาไทย ภาษาอังกฤษกันซะมากกว่า ภาษาเกาหลีอาจจะมีบ้างเป็นบางช่วงของเรื่องเท่านั้นเอง ต้องไปติดตามดูครับว่าจะมากน้อยแค่ไหนครับผม" ส่วนเรื่องฝึกภาษาเกาหลีนั้น หนุ่ม เจมส์ ขอลองดูบทภาพยนตร์ก่อนว่าต้องใช้ภาษาเกาหลีมากน้อยแค่ไหน "ตอนนี้ก็ยังไม่ได้คิดถึงขั้นนั้นครับ เพราะว่าเราก็ยังไม่ได้เห็นบทที่ไฟนอล เดี๋ยวพอเห็นบทจริงๆ แล้วก็เดี๋ยวค่อยคุยกันอีกทีครับว่ามันต้องมากน้อยแค่ไหนอีกทีหนึ่งครับ เพราะสุดท้ายมันก็เป็นหนังไทย เราเป็นคนไทย เราก็ต้องคุยกับเพื่อนๆ เป็นภาษาไทยอยู่แล้วครับผม ยากเกินตัวไหมเหรอครับ อันนี้ผมก็ไม่รู้ครับ เพราะเป็นหนังเรื่องแรกครับ แต่ว่าเราก็อยากทำ เพราะว่ามันเป็นโปรเจกต์ใหม่ เป็นงานใหม่ใช่ไหมครับ เราก็เลยพร้อมที่จะทำให้เต็มที่ครับผม ไม่ว่าจะเป็นงานอะไรก็ตาม ก็อยากให้คนดู ดูแล้วมีความสุขเหมือนเดิมครับ"