ก้าวข้ามทุกความต่างด้วยพลังแห่งรักกับ ละติจูดที่ 6

"ละติจูดที่ 6" ภาพยนตร์แนวโรแมนติก ดราม่า ส่งเสริมภาพลักษณ์ใหม่ๆ ของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ฝีมือการกำกับของ "เจมส์ - ธนดล นวลสุทธิ์" ที่เคยฝากผลงานมาแล้วหลายเรื่อง อาทิ "ศพเด็ก 2002" "รักเอาอยู่" "ตายโหง ตายเฮี้ยน" ตอน "ทุบกรรม" ซึ่งงานนี้ได้หนุ่ม "ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล" มาแสดงนำในบทบาทของ ต้น ตัวแทนคนกรุงเทพฯ ผู้มีบุคลิกอบอุ่น ประคู่นางสาวไทยปี 2555 อย่าง "โบว์ลิ่ง - ปริศนา กัมพูสิริ" ที่มาสวมบทคุณครูสาวชาวมุสลิม นอกจากนี้ยังมีนักแสดงมากฝีมืออีกคับคั่งไม่ว่าจะเป็น "ต๊อบ - สหัสชัย ชุมรุม" "เม้าส์ - ณัชชา จันทพันธ์" "มายด์ - วิรพร จิรเวชสุนทรกุล" "ภีม - ภาคิน บวรศิริลักษณ์" "บ่าววี" หรือ "พันจ่าอากาศเอก วีรยุทธิ์ นานช้า" และ "ใยไหม - ชินารดี อนุพงษ์ภิชาติ"

ผู้อำนวยการสร้าง "กุ้ง - ปนัดดา รักษาแก้ว" พร้อมผู้กำกับและนักแสดงมาร่วมพูดคุยอย่างเจาะลึกในงานแถลงข่าวภาพยนตร์ ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2558 ณ โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดย กุ้ง เผยถึงจุดเริ่มต้นของการทำภาพยนตร์ว่า "ก็เริ่มแรกเลยนะคะก็เรามีแนวคิดแนวร่วมกัน ซึ่งเราได้รับมอบหมายจากทาง กอ.รมน. (กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร) เชิญเข้าไปคุยว่าเราจะทำยังไงดีกับเรื่องปัญหาที่เกิดขึ้นในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งก็มีแนวคิดต่างๆ นะคะมากมาย ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ กอ.รมน. เล็งเห็นว่าการทำภาพยนตร์น่าจะเป็นสิ่งที่ดีนะคะ แล้วก็เป็นภาพจำที่ดี ก็เชิญเราเข้าไปคุย ทางเราก็ได้เข้าไปคุยแล้วพอรับนโยบาย รับวิธีการ รับแนวคิดว่าภาพต่างๆ ที่บอกให้เราฟังให้เรารับรู้ เรารู้สึกว่ามันเป็นเรื่องท้าทายแล้วน่าที่จะลงไปทำ แล้วก็คิดว่ามันจะเป็นประโยชน์ต่อสังคมของเราได้ด้วยค่ะ"

ผู้อำนวยสร้างคนเก่งเผยถึงจุดประสงค์ที่ได้ลุยเข้าไปถ่ายทำถึงสถานที่จริงว่า "ก็ต้องบอกเลยค่ะว่าไหนๆ เราจะทำนะคะภาพยนตร์ดีๆ สักเรื่องหนึ่ง แล้วเราต้องการสื่อภาพอัตลักษณ์ต่างๆ นะคะ ความเป็นพหุวัฒนธรรมต่างๆ ของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เราเลือกจังหวัดปัตตานีเป็นตัวแทนของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ แล้วทำไมเราจะไม่ลง ถูกไหมคะ เพราะว่าถ้าเราจะถ่ายหลอกเราถ่ายได้ แต่ถามว่าเราก็ไม่ได้เต็มร้อยจากความที่เราได้เห็นหรือประชาชนทุกคนที่ได้มาสัมผัสภาพในโรงภาพยนตร์ก็จะเป็นภาพหลอก ดังนั้นถามว่าถ้าเราลงไปทำกันได้จริงทีมงานเต็มใจพร้อมใจ ทีมนักแสดงทุกท่านพร้อมใจให้ใจกับการที่จะลงไป ดังนั้นเรามองว่าการลงไปเนี่ยเป็นประโยชน์สูงสุดที่จะนำกลับมาให้กับคุณผู้ชมค่ะ"

ความรู้สึกของ เจมส์ ที่ได้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้มีทั้งดีใจและเป็นกังวล "อย่างแรกก็คงดีใจฮะ แต่อีกส่วนหนึ่งก็คือความกังวล เพราะว่าเรารู้สึกว่าการเล่าเรื่องที่มันเซนซิทีฟค่อนข้างเยอะ ก็ต้องทำการบ้านเยอะ ทำงานก็ยากขึ้น แล้วยิ่งเราต้องลงไปถ่ายทำถึงจังหวัดจริงๆ มันเป็นรายละเอียดที่ยิบย่อยเยอะมาก ก็เลยค่อนข้างกังวล" ผู้กำกับกล่าวถึงการทำงานซึ่งแตกต่างจากที่เคยว่า "แตกต่างกันเยอะครับ เพราะว่าเรื่องอื่นเราทำงานอยู่ในกระแสหลัก รายละเอียดหลายๆ อย่างก็น้อยกว่านี้ แต่พอมาเป็นเรื่องนี้มันไม่ใช่ ทุกอย่างต้องลงรายละเอียดเยอะมาก ตั้งแต่การเตรียมงาน บท จนกระทั่งถ่ายทำไปแล้ว แม้แต่ขั้นตอนการโพสต์ฯ ซึ่งใช้เวลาในการเดินทางค่อนข้างยาวนาน"

หนุ่ม ปีเตอร์ เล่าให้ฟังถึงบทบาทที่ตนเองได้รับว่า "บทที่ได้รับจริงๆ ผมเล่นเป็นตัวละครที่ชื่อ ต้น นะครับ จะเป็นคนที่เป็นตัวแทนของคนกรุงเทพฯ ทั่วไปที่ได้ลงไปภาคใต้ โดยที่สิ่งเดียวที่เขารู้เนี่ยคือข่าวที่เขาเห็นในโทรทัศน์ เขาก็จะค่อนข้างกลัวว่าจะเจออะไรบ้าง เพราะมีหลานสาวไปด้วยครับ แสดงโดยน้องใยไหมครับ ซึ่งพอลงไปเนี่ยก็คือไม่ได้แค่ระวังเพื่อตัวเองนะครับ แต่ระวังที่จะแบบว่าเกิดอุบัติเหตุกับหลานสาวด้วยครับ ต้องระวังมากๆ เพราะว่าเป็นเด็กเล็กอยู่ แล้วก็เราจะค่อยๆ เรียนรู้ จริงๆ ที่ภาคใต้เนี่ยครับมันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดตลอดเวลา คนที่ภาคใต้นี่น่ารักมาก ซึ่งมันเป็นความเป็นจริง เป็นอะไรที่ผมรู้อยู่แล้ว แต่ว่าอยากจะให้ทุกคนได้รู้เหมือนกันนะครับ นี่คือเหตุผลที่ได้รับเล่นครับ"

ปีเตอร์ กล่าวถึงการทำงานในเรื่องนี้ว่ามีความละเอียดอ่อนหลายรูปแบบ "จริงๆ แล้วต้องบอกว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่ค่อนข้างจะเซนซิทีฟในหลายๆ รูปแบบครับ แล้วก็ยิ่งสำหรับคนที่อยู่ภาคใต้เนี่ยครับ เราไม่อยากจะทำอะไรที่มันผิดกฎผิดกติกาครับ ซึ่งเราคุยกันไว้ว่าเราเงียบไว้ก่อน เราไม่ปล่อยข่าวอะไรกันเลย เพราะมันเป็นเรื่องที่เซนซิทีฟมาก การที่จะสร้างหนังเรื่องนี้ขึ้นมา ทุกขั้นตอนจะถูกเช็กโดยสมาคมมุสลิมที่เขาจะเช็กให้ทุกอย่างเรียบร้อยตามศาสนา เราไม่ทำอะไรที่ผิดแน่ๆ เราก็แก้กันไปแก้กันมา มันเลยเป็นโครงการที่ยืดไป จนถึงตอนนี้ประมาณเกือบ 3 ปีนะครับ" ด้านสาว โบว์ลิ่ง เปิดใจถึงการแสดงภาพยนตร์ครั้งแรกว่า "เป็นงานแสดงที่รับบทเต็มตัวครั้งแรก ตื่นเต้นมากค่ะ เพราะว่าจริงๆ ด้วยตัวบท พอเราเห็นบทแล้วรู้สึกว่าบทนี้มันยาก ค่อนข้างยากมากทั้งด้วยความดราม่าของบทด้วย แล้วก็เรื่องความเป็นมุสลิม เพราะว่าจริงๆ โบว์ลิ่งเป็นคนพุทธค่ะ แล้วก็เป็นร้อยเปอร์เซ็นต์เลย แต่ว่าเราต้องมารับบทเป็นชาวมุสลิม เพราะงั้นเราจะมีคำถามเกี่ยวกับตัวละครตัวนี้เยอะมากว่าเขาคิดยังไง เขาเชื่อยังไงค่ะ เราก็ต้องทำการบ้านกับบทค่อนข้างเยอะ"

ทาง บ่าววี เผยถึงตัวละคร มูซา ที่แสดงว่า "รับบทเป็นเพื่อนของปีเตอร์ เป็นมูซาครับ ซึ่งเป็นคนในพื้นที่ แล้วก็โดยจริงๆ ตัวเองก็นับถือศาสนาอิสลามด้วยนะครับ ก็เลยเป็นบทที่เข้ากับตัวเองมากครับ" นักร้องมากความสามารถเอ่ยถึงเพลง "บ้านฉันน่าอยู่" ประกอบภาพยนตร์ ละติจูดที่ 6 ว่า "บทเพลงที่ผมได้เขียนขึ้นก็เพราะว่าไปแต่งเอาตรงนั้นเลยครับ 5 นาที พอไปดูบทหนังแล้วก็ดูตอนเราไปเล่นนะครับ แล้วเลยมีความคิดขึ้นมาอย่างหนึ่งว่าอันนี้บ้านของฉัน ก็เลยมีความคิดว่าสักเพลงที่เราจะเขียน ก็เลยตั้งขึ้นมาว่า บ้านฉันน่าอยู่ เขียน 5 นาทีครับ มีภาษายาวีด้วย ก็แต่งเป็นแบบลิเกฮูลูครับผม"

ซึ่งในภาพยนตร์เรื่องนี้หนุ่ม เม้าส์ ได้ร่วมแสดงลิเกฮูลูด้วย โดยเจ้าตัวเล่าให้ฟังว่า "การแสดงลิเกฮูลูเนี่ยคือผมได้เรียนก่อนจะไปถ่ายประมาณ 2 ชั่วโมง ก็น้องๆ ที่เขามาเล่นที่วันนั้นเขามาสอนให้ผม ณ เดี๋ยวนั้นเลยครับ ผมว่าสิ่งที่ยากก็คือการที่ร้องไปด้วยนี่แหละ" ส่วนหนุ่ม ภีม ก็ได้ทักษะใหม่ๆ จากกีฬาปันจักสีลัต ซึ่งต้องฝึกเพื่อใช้แสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยหนุ่มคนนี้บอกว่า "เป็นกีฬาทางแถบอินโดฯ มาเลเซีย มลายูอะไรอย่างนี้ครับ เป็นกีฬาที่คนไม่ค่อยรู้จักครับ ตอนแรกผมก็ไม่รู้จัก มารู้จักเพราะหนังเรื่องนี้นี่แหละครับ คือมันเป็นกีฬาที่ร่ายรำแล้วก็ต่อสู้ครับ เป็นกีฬาต่อสู้ครับ ฝึกนานไหมเหรอครับ ประมาณ 2 เดือนครับ อันนี้นานหน่อยเพราะว่าคือหนึ่งเราต้องเรียนรู้ตั้งแต่ท่ารำท่าที่หนึ่งถึงท่าที่สิบ แล้วไหนจะเข้าต่อสู้กันอีก แล้วก็คิวบู๊อีกครับ คือมันยากมาก"

กุ้ง ฝากให้ทุกคนมาร่วมให้กำลังใจคนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า "ก็อยากฝากค่ะว่าทุกๆ คนทำงานอย่างเต็มที่ และอยากให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกมาอย่างดีที่สุด อยากจะฝากให้ทุกๆ คนนะคะ ถ้ามีโอกาสค่ะอยากให้ไปเป็นส่วนหนึ่งนะคะ เป็นสิ่งเล็กๆ ที่จะช่วยกันดูแลคนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ อย่างน้อยค่ะเราไปดูภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เหมือนการให้กำลังใจกับคนที่นั่นนะคะ เพราะว่าเราอาจจะไม่มีโอกาสได้ลงไป แต่ภาพความสวย ภาพในมุมบวก ภาพดีๆ ของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ จะกลับมาให้ทุกคนได้เห็นนะคะในภาพยนตร์เรื่องนี้ค่ะ ขอบคุณค่ะ" ด้าน เจมส์ ชวนให้ทุกคนมาค้นหาความหมายของคำว่า ละติจูดที่ 6 "อยากให้ทุกคนลองหันมามองนะครับ ขณะที่พวกเรายังอยู่ที่นี่ลองกลับไปมองว่ามันยังมีอีกหลายๆ คนที่ยังใช้ชีวิตอยู่ที่โน่น อยากให้ลองเข้าไปดูหนังเรื่องนี้ เข้าไปร่วมกันหาความหมายของคำว่าละติจูดที่ 6 ด้วยกัน ขอบคุณครับ"

เรื่องราวความรักของหนุ่มชาวไทยพุทธและสาวไทยมุสลิมจะลงเอยเช่นไร วัฒนธรรมที่แตกต่างจะสามารถตัดสินชะตาชีวิตได้จริงหรือไม่ ร่วมค้นหาคำตอบได้ในภาพยนตร์ ละติจูดที่ 6 เข้าฉายตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคม 2558 เป็นต้นไปในโรงภาพยนตร์