ด้วยหัวใจศรัทธาสู่ ขรัวโต อมตะเถระกรุงรัตนโกสินทร์
"ขรัวโต อมตะเถระกรุงรัตนโกสินทร์" ภาพยนตร์สนองคุณแผ่นดินถ่ายทอดชีวประวัติของ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ด้วยฝีมือการกำกับของ "สมเกียรติ เรือนประภัสสร์" ประธานกรรมการบริษัท อกาลิโก เอ็นเตอร์เทนเม็นท์ จำกัด ที่ได้คว้าตัว "ต้อย - เศรษฐา ศิระฉายา" มาแสดงเป็น ขรัวโต ช่วงปัจฉิมวัย นอกจากนี้ยังมีนักแสดงที่ได้รับบท ขรัวโต ในช่วงวัยอื่นๆ อีก 3 คน ประกอบไปด้วย "น้ำแข็ง - ปรัชญา ประทุมเดช" "เพลง - เจษฎาพร ชมศรี" และ "เพชร - ชัยธวัฒน์ เนื่องจำนงค์" ร่วมด้วยคลื่นลูกใหม่ที่จะมาโลดแล่นในวงการบันเทิง อาทิ "คานน์ - กวีวัฒน์ คานน์" "โอ๊ต - ปกรณ์ เจตน์วิทยาชาญ" "โอ๊ต - รัฐธีร์ วรโรจน์โยธิน" "พลอย - พลอย ไพลิน" "ลูกพลับ - วิภาวี เวชวงศ์วาน" "นัท - กาญจณี ดอกไม้ขาว" "มิ้นท์ - ทัศนันทน์ เมธโยดม" "แจ๊คพ็อต - คณาธิป เปียงใจ" "อิธ - ธนากร พันกาแด" "ตั้ม - ดีพร้อม เกตุงาม" "ฟิล์ม - อธิเบตร์ หนูนิ่ม" "นัตเตอร์ - อรรณพ สืบศรี" "โอม - ศุภกฤต ฐิติคุณรัตน์" "เซฟ - อดิเทพ อนันต์" และ "เอิร์ท - บารมี ชำนาญกิจ" นักล่าฝันจากเวทีเอเอฟ 9
เปิดตัวรอบปฐมทัศน์กันไปแล้วสำหรับภาพยนตร์เรื่อง ขรัวโต อมตะเถระกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2558 บริเวณโรงภาพยนตร์เอสพลานาด รัชดาภิเษก โดยมีผู้กำกับและเหล่านักแสดงได้มารวมตัวกันอย่างคับคั่ง ภายในงานมีการร้องเพลงประกอบภาพยนตร์จาก "ป๋อม บอยไทย" หรือ "ชัยยุทธ โตสง่า" ในเพลง "หลวงพ่อโต" ก่อนที่จะเข้าสู่การพูดคุยกับผู้กำกับและคณะนักแสดงของเรื่องนี้ ซึ่ง ต้อย เผยความรู้สึกว่า "ก็ไม่ตื่นเต้นแต่ดีใจ ดีใจที่ในที่สุดผลงานก็ได้ออกสู่สายตาของประชาชน" ด้านผู้กำกับ สมเกียรติ ย้ำความทุ่มเทของนักแสดงอาวุโสว่า "พี่ต้อยยอมทิ้งงานเป็นปีนะฮะ ก็จากการที่ท่านต้องตัดผม ต้องโกนหัวเนี่ย เพื่อให้เห็นเนื้องาน แปลว่าพี่ต้อยเคยมีงานแล้วต้องละงานจนกว่าผมจะทำงานเสร็จก็จึงจะไปทำอย่างอื่นได้ นี่แหละคือความตั้งใจ ความตั้งใจที่เป็นครู เป็นครูเลยที่ต้องการทำหนังร่วมกัน ต้องการสร้างเรื่องราวของภาพยนตร์ในตำนานของท่านเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์โต อยากจะถ่ายทอดให้ชาวพุทธได้เห็นถึงบุญบารมีของท่าน"
ต้อย เล่าถึงการเตรียมตัวรับบทนี้ว่า "ศรัทธาเนี่ยพันเปอร์เซ็นต์ ความรู้สึกที่ได้รับรู้ครั้งแรกว่าได้เป็น ขรัวโต คือตกใจ ศรัทธาแต่ตกใจ เพราะว่าผมถือว่าท่านเป็นพระที่มีบุญมีบารมีสูงส่งมากครับ ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือว่าคนที่อยู่รอบๆ เรา มาเลฯ สิงคโปร์เนี่ย ก็ล้วนแล้วแต่นับถือแล้วก็ศรัทธาสมเด็จโต ผมก็ว่าถ้าผมได้เล่นเนี่ยผมจะเป็นอะไรหรือเปล่า กลัวเหมือนกันนะ ผมกลัวว่าเอ๊ะ เดี๋ยวใครจะหาว่าผมอุตริหรือเปล่า ผมก็เลยขอเขาว่ารอผมสักนิดหนึ่ง ขอให้ผมไปบวชซะก่อน แล้วค่อยไปบวช เพราะผมโชคดีจริงๆ แล้วผมก็กราบท่าน กราบสมเด็จเจ้าประคุณฯ บอกว่าผมจะขออนุญาตแสดงบทนี้ แต่ว่าผมจะไปบวช เพื่อถวายเป็นกุศลให้กับท่านด้วย แล้วโชคดีอยู่ๆ ผมยังไม่คิดว่าจะไปบวชที่ไหนนะครับ ก็มีคนแจ้งมาจากทางวัดเทพศิรินทร์ว่าได้ข่าวว่าจะบวชเหรอ เจ้าประคุณสมเด็จพระธีรญาณมุนี ท่านเจ้าอาวาสที่วัดเทพศิรินทร์ท่านจะพาไปบวชที่พุทธคยา (ประเทศอินเดีย) ไปกัน 108 รูปนะครับ ขบวนใหญ่มาก เป็นการบวช 13 วันที่ผมคิดว่าผมเป็นคนมากที่สุด แล้วปฏิบัติจริงไม่มีวอกแวกครับ เป็น 13 วันที่ผมคิดว่าในชีวิตผมเนี่ยช่วงนั้นผมทำดีที่สุดแล้ว"
ด้านหนุ่ม เพลง กล่าวถึงเรื่องราวน่าเหลือเชื่อที่บังเอิญเกิดขึ้นกับตนเองว่า "เราไม่คาดฝันมาก่อนว่าการที่เราได้รับบทนี้จะทำให้เราได้พบเจอกับสิ่งมหัศจรรย์ขนาดนี้ที่ว่า ปานเรามีเหมือนท่าน พ่อเราเกิดวันเดียวกับท่าน แล้วไหนจะแม่ของสมเด็จโตในตำราก็บอกว่าชื่อเกด แม่เพลงก็ชื่อการะเกด ซึ่งเป็นเรื่องที่บังเอิญจนน่าตกใจ" นักแสดงวัยรุ่นคนนี้เอ่ยถึงฉากที่ยากที่สุดว่า "ฉากเทศน์ครับ เพราะว่าคือตัวเพลงเองเนี่ยเป็นวัยรุ่นคนหนึ่งเท่าที่ทุกคนรู้จัก เพลงไม่สามารถที่จะเทศน์ได้ เพราะเพลงไม่เคยเลยที่จะต้องมาขึ้นธรรมาสน์ แล้วมาเทศน์ให้กับบุคคลทั่วไปหรือว่าทุกๆ คนฟัง หรือกระทั่งคุณย่าคุณยายนั่นแหละครับ ซึ่งทำให้ระหว่างถ่ายทำเนี่ยเพลงเครียดมาก ทำไมถึงทำไม่ได้เพราะอะไร ท่องมาขนาดนี้แล้วทำไมถึงทำไม่ได้ แต่พอวันนั้นก็เกิดปาฏิหาริย์ครับ เพลงได้ขึ้นธรรมาสน์เพื่อจะถ่ายฉากนั้น ป๊าสมเกียรติก็ได้ทำพิธีไหว้ครูเพื่อขอให้บุญบารมีช่วยเรา ก็เกิดปาฏิหาริย์ครับเทกเดียวผ่าน (หัวเราะ) บอกเลยว่าสิ่งที่เราศรัทธาส่งผลไปถึงจิตใจ แล้วก็สิ่งที่เราทำออกมาครับผม"
หนุ่ม น้ำแข็ง เปิดใจถึงความรู้สึกที่ได้แสดงเป็น ขรัวโต ในช่วงวัยหนุ่มว่า "ก็อย่างแรกคือภาคภูมิใจมากครับ คือภูมิใจในตัวเอง แล้วก็ภูมิใจในครอบครัวด้วยที่ได้มารับบทสำคัญอย่างนี้ครับผม ก็คือเป็นพระอริยสงฆ์ที่มีที่วัดทุกๆ วัดที่ทุกคนกราบไหว้ครับผม ก็เรียกว่ากดดัน กดดันมากเล่นแล้วกลัวเล่นไม่ถึง กลัวว่าเล่นปุ๊บแล้วคนดูจะไม่เชื่อว่าเราเล่นเป็นสมเด็จฯ ท่านจริงๆ ก็กดดันมาก" ส่วนการเตรียมตัวในการแสดงบทบาทนี้ น้ำแข็ง เล่าว่า "เตรียมตัวมากครับผม อยู่บ้านป๊าสมเกียรติครับ ประมาณ 2 เดือนครับ คืออยู่ตรงนั้นเลย ซ้อมบท เรียนรู้ทุกอย่างครับ เพื่อในการที่เราจะเป็นพระครับ แต่ว่าก่อนที่ผมจะได้เป็นผมต้องบวชจริงๆ ก่อนนะครับ เพราะว่าหนึ่งกลัวบุญไม่ถึง บวชกันหมดเลยตัว ผมก็บวช แล้วก็เพลงก็บวช แล้วก็อาต้อยก็บวช"
ทางสาว ลูกพลับ แง้มถึงเรื่องราวสอนใจที่สอดแทรกอยู่ในภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า "ก็คือในเรื่องของความรักนะคะ คือบอกก่อนเลยว่าในเรื่องของขรัวโตเนี่ย คือคนอาจจะสงสัยว่ามันจะเป็นเรื่องของประวัติของท่านอย่างเดียวหรือเปล่า แต่สำหรับหนังเรื่องนี้นะคะ เราก็ได้มีการสอดแทรกในเรื่องของความรักเข้ามาด้วย เพื่อให้หนังเรื่องนี้มีสีสันมากขึ้นในด้านของความรักค่ะ ซึ่งทางด้านของข้อคิดนะคะ ก็คือเหมือนเราก็จะได้พบว่าคือการมีรักก็เป็นความทุกข์ การไม่มีรักก็เป็นความทุกข์ค่ะ เพราะฉะนั้นเนี่ยเราจะต้องรักให้เป็นค่ะ" ส่วนหนุ่ม คานน์ พูดถึงแง่คิดของเรื่องรักสามเส้าที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์ว่า "คือรักสามเส้านะครับ ต้องพูดก่อนว่าความรักเนี่ยเป็นสิ่งที่สวยงามครับ เราต้องใช้สติให้มากครับเวลาเราจะรักใครคนหนึ่ง ถ้าเราไม่ใช้สติในความรักเนี่ยมันจะกลายเป็นการทำร้ายคนๆ หนึ่งได้ครับ"
ต้อย เผยถึงความตั้งใจที่จะผลักดันให้เรื่องนี้ประสบความสำเร็จว่า "จริงๆ ก็มีหลายคนท้วงติงเหมือนกันนะฮะว่ามีแต่หนังวัยรุ่น เข้าไปเอ๊ะมันจะไหวเหรอ เราเคยได้ยินที่คุณสมเกียรติพูดว่าเรามีความมุ่งมั่น เรามีความตั้งใจจริง เพราะว่าต้องการจะทำให้เกิดสิ่งที่ดีๆ สิ่งที่เป็นมงคลในวงการภาพยนตร์ให้กับทุกๆ คนได้ชม ถามว่าเรื่องรายได้เรามีปัญหาไหมเราต้องการหรือเปล่า ต้องการครับเพราะอะไรล่ะครับ เพราะว่าจริงๆ แล้วเดี๋ยวนี้ดัชนีวัดผลความสำเร็จเนี่ยมันอยู่ที่รายได้นะครับ แต่จริงๆ แล้วอย่างที่คุณสมเกียรติบอกว่ารายได้เราจะเอาไปทำบุญ เราตั้งใจไว้แบบนี้จริงๆ" ฟากหนุ่ม น้ำแข็ง เป็นตัวแทนเพื่อนๆ นักแสดงกล่าวฝากภาพยนตร์ว่า "ก็ฝากสื่อมวลชนแล้วก็พี่ๆ น้องๆ ด้วยนะครับว่าพวกผม ทีมงานภาพยนตร์ ขรัวโต แล้วก็เพื่อนๆ นักแสดงทุกคน อยากจะให้ทุกคนได้ดู เพราะว่าพวกผมทำงานกันเต็มที่มาก กว่าที่จะผ่านไปแต่ละฉากๆ ทุกคนมีความตั้งใจ เพราะว่าป๊าสมเกียรติอยากให้ฉากออกมาแต่ละฉากออกมาดีมาก กว่าที่จะผ่านแต่ละเทกๆ มันยากมากครับที่จะออกมาเป็นแบบนี้ พวกผมตั้งใจกันแบบเต็มที่จริงๆ"
จากศรัทธาอันแรงกล้าสู่ภาพยนตร์สนองคุณแผ่นดิน ติดตามชม ขรัวโต อมตะเถระกรุงรัตนโกสินทร์ กันได้ตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคม 2558 เป็นต้นไป ในโรงภาพยนตร์