เติมเต็มหัวใจด้วยรักใน โปสการ์ดที่ไม่มี....ที่มา
"โปสการ์ดที่ไม่มี....ที่มา" หรือ "Postcard From Nowhere" ภาพยนตร์โรแมนติกดราม่าสะท้อนเรื่องราวมุมใหม่ของความรัก เชื่อมโยงความสัมพันธ์ของตัวละครผ่านภาพถ่ายหนึ่งใบ ผลงานการกำกับของ "ต้อง - พงษ์วัฒน์ ตันนุกูล" นำแสดงโดย "ลีโอ พุฒ" หรือ "พุฒ - พุฒิพงศ์ ศรีวัฒน์" กับบทบาทของ สายลม ช่างภาพหนุ่มอารมณ์ศิลปิน "อ้น - สราวุธ มาตรทอง" ในมาดชายหนุ่มที่แสนอบอุ่นนามว่า เขต และสาวสวยเพียงหนึ่งเดียว "จุ้มจิ้ม - วรนันท์ จันทรัศมี" รับบทเป็น กานดา ร่วมด้วยพลพรรคดาราที่จะมาเติมเต็มเรื่องราว อาทิ "จุ๊บจิ๊บ เชิญยิ้ม" "วอ - จิราวัฒน์ วชิรศรัณย์ภัทร" และ "ปรีชาญาณ ปิยชาติวงศ์"
ภายในงานรอบปฐมทัศน์ของภาพยนตร์ เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2558 ณ โรงภาพยนตร์เอสพลานาด รัชดาภิเษก มีการแสดงจากนักร้องสาวเสียงดี "เจี๊ยบ - วรรธนา วีรยวรรธน" กับบทเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้ที่มีชื่อว่า "Postcard From Nowhere" ซึ่งผู้กำกับคนเก่งเผยถึงแรงบันดาลใจในการสร้างภาพยนตร์ว่า "ผมอยากให้รูปภาพใบเดียวกันมีการเดินทาง ผมก็เลยคว้า 3 ตัวละครนี้เพื่อมาถ่ายทอดโปสการ์ดใบหนึ่งส่งไปถึงหลายๆ คน หนึ่งคือเรามองว่าโปสการ์ดใบหนึ่ง บางครั้งมันเดินทางไปแล้วมันสามารถบอกความรู้สึกให้กับคนหนึ่งได้ แล้ว 3 ตัวละครนี้มันก็มีจุดเชื่อมโยงของโปสการ์ดหนึ่งใบด้วย"
ลีโอ พุฒ กล่าวถึงตัวละคร สายลม ว่า "มันก็เป็นคนที่เหมือนกับทุกๆ คนแหละครับ เราย่อมมีสเปซที่เรารู้สึกว่าเราปลอดภัย แต่ก็ในขณะเดียวกันยังอยากจะติดต่อสื่อสารกับคนข้างนอกอยู่ ตัวละครของสายลมเนี่ยนะครับก็เลยเลือกที่จะใช้กล้องถ่ายรูปเพื่อที่จะติดต่อกับคนภายนอก แล้วก็หวังว่าสักวันหนึ่งจะมีใครสักคนหนึ่งที่ยอมเข้ามาอยู่ในสเปซตรงนั้น แต่จริงๆ ลึกๆ ก็เป็นคนเหงาๆ คนหนึ่งครับ" ส่วนสาว จุ้มจิ้ม พูดถึงการสวมบท กานดา ว่า "เรียกว่า กานดา เป็นบทที่เป็นผู้ใหญ่ที่สุดตั้งแต่เคยได้รับบทบาทมา ส่วนใหญ่เมื่อก่อนที่รับงานแสดงจะได้แต่บทที่เด็กกว่าอายุจริง"
ด้าน อ้น ที่เงียบหายจากวงการภาพยนตร์ไปยาวนาน นับจาก "ความรักครั้งสุดท้าย" เมื่อ พ.ศ. 2546 หนุ่มคนนี้เปิดเผยถึงบทบาทที่ได้ว่า "เขตครับ คือพี่ต้องเขาวางคาแรกเตอร์ไว้ให้เป็นผู้เสียสละความทรงจำครับ หลักๆ ก็คือเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ฐานะดี มีความสำเร็จในชีวิต อบอุ่น อ่อนโยน น่ารัก (หัวเราะ) ประมาณนั้นแหละฮะ แล้วก็วันหนึ่งก็จะเจอจุดพลิกผันทำให้ความสุขกลายเป็นความกล้ำกลืนฝืนทนทุกอย่าง มันก็มีเรื่องของการเสียสละทุกอย่างพวกนี้ขึ้นมาด้วย อันนี้คือเป็นดราม่าค่อนข้างเยอะเหมือนกัน ผมไม่ได้เล่นปริมาณของฉากเยอะ แต่ความยากมันคือจำนวนของฉากที่เล่นเนี่ย มันเป็นฉากสำคัญที่เอาไว้มีเอฟเฟกต์กับหนังในเรื่องนี้ครับ"
จากนั้นเหล่านักแสดงต่างผลัดกันพูดถึงผู้กำกับอย่างสนุกสนาน โดยเฉพาะ อ้น ที่สงสัยในตัวผู้กำกับคนนี้เป็นทุนเดิม เอ่ยปากถามว่า "ถามจริงๆ เหอะบทนี่พี่เขียนเองเปล่า คือผมเนี่ยปกติเวลาผมจะรับละครอะไรก็แล้วแต่เนี่ย ขั้นตอนแรกทุกๆ ที่ต้องส่งบทมาให้อ่านก่อน ผมก็ได้รับทราบว่าคนชื่อพี่ต้องเนี่ย เป็นผู้กำกับแต่ผมนึกหน้าไม่ออก ผมก็อ่านบท โห น่าสนใจมาก ผมก็เริ่มเช็กคิวแล้วสรุปว่าคิวทำงานได้ แต่วันแรกที่ผมมาเจอพี่ต้อง คนนี้เขียนบทเหรอ คือนี่พี่เขียนบทจริงๆ ป่ะ เนี่ยแหละที่ผมคาใจอยู่เพราะว่ามันดราม่า ละเอียดอ่อน อ่อนโยน" ก่อนที่หนุ่ม ลีโอ พุฒ จะเสริมว่า "ใช่คือดูภายนอกเหมือนเขาเป็นคนไม่ค่อยแสดงความรู้สึกอะไรครับ มันก็เลยแบบว่า เหมือนไม่นึกว่าเขาจะเขียนอะไรแบบนี้ได้ครับ"
ต้อง ซึ่งเป็นทั้งผู้กำกับ และผู้เขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้เอ่ยถึงความคาดหวังที่มีต่อคนดูว่า "คือผมเนี่ยเขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาเล่มหนึ่ง เพื่ออยากจะถ่ายทอดให้คนทุกคนได้รับรู้ มันเป็นหนังสือที่รวบรวมความทรงจำของผมไว้ ผมไม่ได้คาดหวังว่าทุกคนดูแล้วจะชอบทั้งหมด แต่ผมขอแค่หนึ่งบรรทัดของหนังสือเล่มนี้ให้ทุกคนได้รอยยิ้มแล้วก็น้ำตา หนังสือเล่มนี้มันคือ Postcard From Nowhere" ทางหนุ่ม ลีโอ พุฒ ก็ชวนทุกคนมาตรวจสอบความรักในภาพยนตร์ว่า "เรามาเช็กอัพกันดีกว่าว่าความรักของคุณนั้นเป็นแบบไหนกันแน่นะฮะ แล้วก็ภาพยนตร์เรื่องนี้อาจจะทำให้เราได้เห็นมุมมองใหม่ๆ ของความรักแล้วก็รู้จักตัวเองมากขึ้นด้วย ความรักสำหรับบางคนเนี่ยอาจจะต้องเป็นความรักที่สมหวังถึงจะมีความสุขได้ ถึงจะรู้สึกกระชุ่มกระชวยกับความรักได้ ผมเชื่อว่าจริงๆ แล้วความรักยังมีอีกหลายแง่มุมนะครับที่เราอาจจะมองข้ามมันไป บางครั้งอาจจะไม่ได้จบลงด้วยการที่จะต้องสมหวังทุกอย่าง แต่ก็ยังคงมีความสุขได้เช่นกัน"
หนุ่ม อ้น เองก็อยากให้คนที่รู้สึกดีกับภาพยนตร์ช่วยกันบอกต่อ "ถ้ารู้สึกดีๆ กับหนังเรื่องนี้ก็ขอให้บอกต่อๆ กัน ผมว่าสิ่งหนึ่งคือเป็นการช่วยวงการหนังด้วย แล้วถ้าเกิดคุณรู้สึกประทับใจอะไรเก็บไปกลับบ้านแล้วเนี่ย ผมขอให้มันเป็นความทรงจำที่ดี ผมคิดว่านี่เป็นหนังเรื่องที่ 2 ที่ผมไม่ได้เล่นมั่วๆ ครับ ผมก็ตั้งใจจะสื่อสารอะไรบางอย่าง ถ้าคุณคิดถึงกันบ้าง ผมก็ขอบคุณแล้วครับ" ฝั่ง จุ้มจิ้ม ก็รับประกันความเป็นที่สุดของภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า "พี่ต้องเองก็ตั้งใจมากบทนี้เขียนเกลาแล้วเกลาอีก แก้แล้วแก้อีกเป็นปีๆ กว่าจะออกมาเป็นบทภาพยนตร์ที่ใช้ถ่ายทำจริงค่ะ แล้วก็ภาพสวยมาก บางคนได้ดูเป็นช็อตๆ เทรลเลอร์มีแต่คนพูดว่าภาพสวยมากจริงๆ โลเคชันที่ไปถ่ายทำก็สวยก็คือวังน้ำเขียว หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเมืองไทยมีสถานที่สวยขนาดนี้ นึกว่าไปยุโรป คือแค่ฟังเพลงพี่เจี๊ยบบวกกับภาพก็คุ้มแล้ว บวกกับบทที่แบบซึ้งอีก ทั้งรักสุดๆ ซึ้งสุดๆ หวานสุดๆ เศร้าสุดๆ มีหลายสุดมากค่ะ รับรองว่าฟินแน่นอน"
สายสัมพันธ์ของคนทั้ง 3 คน จะจบลงเช่นไร ร่วมสัมผัสประสบการณ์แห่งรักครั้งนี้ไปกับพวกเขาใน โปสการ์ดที่ไม่มี....ที่มา ตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคมนี้ ที่โรงภาพยนตร์