โอปอล์ หมอโอ๊ค ครองคู่พิสูจน์ความรักชนะทุกกระแส
ใครว่าเหตุการณ์น้ำท่วมนำมาแต่ผลเสีย ผลดีก็มี เพราะกระแสน้ำอาจจะพัดความรักมาจ่อที่หน้าบ้านเลยก็ได้ อย่างคู่หวาน "โอปอล์ - ปาณิสรา พิมพ์ปรุ" และนายแพทย์ "โอ๊ค - สมิทธิ์ อารยะสกุล" ที่พบรักกันตอนเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ เมื่อปี 2554 หลังจากนั้นทั้งสองคนก็พัฒนาความสัมพันธ์เรื่อยมา จนกระทั่งความรักแข็งแรงมั่นคง ตกลงปลงใจใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน โดยเข้าพิธีหมั้น พิธีแต่งงาน และจดทะเบียนสมรส ที่โรงแรมแกรนด์ไฮแอท เอราวัณ เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2557
ครองรักกันในฐานะสามีภรรยามาได้ 2 สัปดาห์ ข้าวมันปลามันคู่นี้ก็จูงมือกันมาอวดความหวานในพิธีฉลองมงคลสมรส ในวันที่ 6 เมษายน 2557 ที่โรงแรม พลาซ่า แอทธินี รอยัล เมอริเดียน ซึ่งเจ้าบ่าวเจ้าสาวป้ายแดงเล่าความรู้สึกให้ฟังว่า
พอมาถึงวันนี้รู้สึกอย่างไรบ้าง
โอปอล์ "ที่รัก รู้สึกอย่างไงบ้างคะ"
โอ๊ค "ดีครับ ไม่รู้จะพูดอะไรเหมือนกัน ดีใจครับเพราะว่าก็มีแต่คนที่เรารักเนอะ ทุกคนๆ ก็มาแสดงความยินดีกับเรา ขอบคุณมากๆ เลยนะครับ"
วันนี้เจ้าสาวสวยไหม
โอ๊ค "แน่นอนสวยทุกวันครับ"
โอปอล์ "วันนี้ก็แต่งตัวตามปกติ หน้าผมก็ทั่วไปแต่เขาก็ชอบ (หัวเราะ)"
หลังจากที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมาแล้วเป็นอย่างไรบ้าง
โอปอล์ "ก็ตั้งแต่วันที่ 23 ที่เป็นจดทะเบียนนะคะ แล้วก็จดทะเบียนก็จดไป แล้วก็เพิ่งมาตระหนักว่าเราเป็นนางแล้วจริงๆ (ยิ้ม) แล้วก็วันนั้นก็ 4 ทุ่มครึ่งก็มีฤกษ์ปูเตียง แล้วพอตื่นมาอีกวันหนึ่งอ่ะ แล้วพอตระหนักได้ว่าเรานอนอยู่ที่ไหน สถานภาพเราเปลี่ยน วันนั้นค่อยตื่นเต้นจริง แล้วก็ใช้เวลาแป๊ปเดียวชินทันที ชินทันทีเลยนะฮะแล้วก็รอให้ถึงวันนี้เร็วๆ เพราะว่าอันนั้นเป็นญาติๆ แล้วก็เพื่อนสนิท แต่วันนี้เราอยากจะเชิญพี่ๆ สื่อมวลชนแล้วก็บอกกับคนทั่วไปว่าเนี่ยเราตกลงใจใช้ชีวิตกันแล้ว"
ตอนที่ใช้ชีวิตร่วมกันเป็นอย่างไรบ้าง
โอ๊ค "ดีครับ มีความสุขดีครับ ก็เหมือนกับมีคนดูแลเราอีกหนึ่งคน น้องเขาก็เป็นคนที่"
โอปอล์ "คุณพิศุทธิ์หลั่งน้ำตาเหรอคะ"
โอ๊ค "ก็เป็นคนน่ารักครับ ดูแลเราดีมากครับผม เป็นแม่บ้านเต็มตัวก็แบบบีบยาสีฟันให้"
โอปอล์ "คือเราอ่ะไม่สวยอะไรมาก แต่เราครบจริงๆ ดูแลเอาใจทำกับข้าวเนอะ"
อาหารฝีมือ โอปอล์ อร่อยไหม
โอ๊ค "ดีครับ"
โอปอล์ "ขอบคุณฟู้ดแลนด์นะคะ กับอาหารที่ฉีกเทได้เลย ดีค่ะ ก็พยายามทำตัวเป็นแม่บ้าน แล้วก็ปรับชีวิตเพราะว่าตั้งแต่แต่งเข้าบ้านพี่โอ๊คมา 2 อาทิตย์นะคะ ปอล์ก็ต้องตื่น 6 โมงเช้าทุกวันจริงๆ เพราะว่าพี่โอ๊คต้องตื่นไปทำงานตอน 6 โมงครึ่ง ซึ่งหมายความว่า 6 โมงครึ่งที่เขาออกจากบ้าน ปอล์แต่งหน้าแล้ว นั่งสวยๆ เสิร์ฟอาหารแล้วก็ยิ้ม เป็นเวลา 2 อาทิตย์ชินแล้วค่ะ"
โอ๊ค "งานเช้าหน่อยครับ พอดีเข้างาน 8 โมง"
โอ๊ค ดูแล โอปอล์ อย่างไรบ้าง
โอ๊ค "โห ก็เต็มที่"
โอปอล์ "เขาดูแลดีมาก"
โอ๊ค "เรื่องสุขภาพเรื่องอะไรอย่างเนี่ยครับ ก็อยากให้เขาชินกับบ้านใหม่ที่เป็นเรือนหอของเรา ก็อาจจะมีขลุกขลักบ้าง เพราะว่าทั้งหมดเป็นระบบไฟฟ้าตามความชอบของผม เขาอาจจะไม่ค่อยชอบเท่าไร"
เตียงไฟฟ้าด้วยหรือเปล่า
โอปอล์ "เตียงไฟฟ้า ดูทีวีเยอะเนอะ ของเราเป็นแค่ม่านเป็นแค่โรงรถ ยังไม่ชิน รอพี่โอ๊คเปิดทุกอย่าง"
โอ๊ค "กำลังฝึกอยู่ แต่เก้าอี้ยังไม่ไฟฟ้านะครับ"
จัดแจงตู้เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วหรือยัง
โอปอล์ "ประทับใจพี่สื่อมวลชนใส่ใจในทุกรายละเอียดของเรา อย่างแต่งงานคืนแรกก็พี่ๆ สื่อถามว่าได้นอนไหม แต่งงานคืนแรกไม่ได้นอนเรียงตู้เสื้อผ้า เรียงตู้เสื้อผ้าแล้วก็ที่เคยคิดว่าตู้จะไม่พอ พอทุกอย่างเหมือนกล่องข้าวน้อยฆ่าแม่ที่แบบยัดเข้าไปแล้วที่เหลือแล้วตกใจ แต่ทุกอย่างโอเคขอบคุณนะคะ"
หลังจากนี้จะไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ที่ไหน
โอ๊ค "ครับช่วงประมาณมิถุนาฯ ประมาณกลางๆ ปี ต้องเทคิวกันนิดนึง"
โอปอล์ "พี่โอ๊คอยากไปยุโรป แต่ไม่รู้ว่าไปไหนกันแน่"
ไปกี่วัน
โอปอล์ "ไม่กี่วัน ใส่ใจรายละเอียด หล่อนใส่ใจรายละเอียดฉัน"
โอ๊ค "พูดเหมือนจะไปด้วย อาทิตย์กว่าๆ"
โอปอล์ "เพราะพี่โอ๊คทำงานประจำก็ลาไม่ค่อยได้"
หมอโอ๊ค ขอแต่งงานอย่างไร
โอ๊ค "อันนี้เป็นการวางแผนระยะยาวเลยครับเพราะว่าไปขอกันที่ฮอกไกโดที่ทุ่งลาเวนเดอร์ครับ ก็คือเป็นที่ที่เขาอยากไปเที่ยวมานานแหละ ก็เลยตั้งใจเอาแหวนไปซ่อนไว้ในกอลาเวนเดอร์แล้วก็ไปขอแต่งงานครับ เขาจะไม่เชื่อก็ตรงนี้แหละ"
โอปอล์ "ปอล์ก็ยังยืนยันว่าตอนนั้นไม่รู้ว่าเป็นขอแต่งงาน รู้ว่าเขาน่าจะซื้อแหวนให้นะคะ จนเราเข้ามานั่งกินข้าวเช้า แล้วเขาบอกว่ากลับไปดูฤกษ์กันนะ ถึงรู้ว่าฤกษ์แต่งงานเหรอ"
เวลาทำงานลดน้อยลงไหม
โอ๊ค "จริงๆ ก็งานก็ยังทำเหมือนเดิมนะครับ แต่ว่าพยายามหาเวลาให้อยู่ด้วยกันได้มากขึ้น ก็เลยตกลงใจกันแหละว่าวันอาทิตย์ต้องเป็นวันของเราทั้ง 2 คนที่ต้องมีเวลาให้กัน"
โอปอล์ "วันอื่นๆ รับอีเวนต์เหมือนเดิมนะคะ ถ้าเป็นวันอาทิตย์ก็เคลียร์ว่าจะอยู่ด้วยกัน เพราะพี่โอ๊คทำงานจันทร์ถึงศุกร์ พอเราแต่งงานแล้วก็คือชีวิตเราไม่ได้เป็นของเราคนเดียวแล้ว ทำอะไรก็ได้มันก็ต้องมีเวลาให้กัน ต้องใส่ใจกันมากๆ ต้องสร้างครอบครัวเนอะ พี่โอ๊คใช้คำว่าเดี๋ยวเราต้องสร้างครอบครัวกันแล้วมันก็เลยได้สติ เออ ไม่ใช่แค่เราสร้างเนื้อสร้างตัว เงินก็แค่ส่วนหนึ่งแต่ว่าจริงๆ แล้วเราต้องรอดูแลเขา เป็นครอบครัวกันค่ะ"
ความรู้สึกก่อนกับหลังแต่งงานแตกต่างกันไหม
โอปอล์ "เปลี่ยนมากค่ะ ไม่เหมือนเลย"
โอ๊ค "ต้องลองดู"
โอปอล์ "แล้วไปท้าทายเขาอีก ไม่เหมือนอ่ะ ตอนเป็นผู้หญิง หญิงโสด มันก็เรื่องหนึ่ง พอเรามีแฟนแล้วมันก็เรื่องหนึ่ง แต่พอคำว่ามีสามีแล้วมันคือเราไม่ใช่คนๆ เดียวแล้วอ่ะ มันคือคำว่าภรรยา มันคือต้องดูแลเขา แล้วเราการวางตัวเรา การจะไปเที่ยวไหน เราต้องมีความละอายต่อสถานภาพปัจจุบัน ตั้งแต่เปลี่ยนเฟซบุ๊กว่าสมรสแล้วอ่ะ มันก็ต้องเปลี่ยนค่ะ"
มีคำเรียกแทนกันไหม อย่างคุณสามี
โอปอล์ "สามี โหดไปมาก อันนั้นดูละคร สามีขาอะไรอย่างเนี่ย (ส่ายหน้า)"
โอ๊ค "มีใครเรียกด้วยเหรอ"
โอปอล์ "มีๆ ในละคร ที่รัก"
มีข้อตกลงอะไรอีกนอกจากที่จะอยู่ด้วยกันวันอาทิตย์
โอ๊ค "ก็คงไม่ทะเลาะกันข้ามวัน มีอะไรก็คุยกัน"
เวลางอนกันใครง้อก่อน
ปอล์ "ปอล์ไม่ค่อยผิดเลยตั้งแต่คบกันมา ปอล์ไม่ค่อยผิดเท่าไร ส่วนใหญ่ก็เป็นพี่โอ๊ค"
โอ๊ค "ผมถือว่าการทะเลาะเกิดขึ้นเมื่อมีทั้ง 2 ฝั่งนะครับ ถ้าทะเลาะอยู่ฝั่งเดียวก็จะไม่เกิดขึ้น"
ทายาท
โอ๊ค "มาตามธรรมชาติเนอะ ถือว่าแล้วแต่โชคครับ ก็รอครับ"
โอปอล์ "ค่ะ ก็ปล่อย จริงๆ อยากมีทั้งคู่ก็ไม่ได้มากะเกณฑ์ว่ามีเลยนะ มันดูมุ่งมั่นนะคะ เราปล่อยไปเลยถ้าเขามาก็เป็นเรื่องที่ดีมากด้วยทุกอย่างเราพร้อม ไม่ว่าจะเป็นน้องยุโรปหรือน้องหลักสี่ถ้ามาก็พร้อม ไม่ว่าจะถือกำเนิดที่ใดเราโอเคมาก"
โอปอล์ พร้อมเป็นคุณแม่ทันที
โอปอล์ "ใจหนึ่งก็อยากอยู่กับพี่โอ๊คก่อน 2 คน แต่เรารู้สึกว่าถ้าเขามา มาเลยค่ะ แต่ใจหนึ่งก็อยากอยู่กันสองคนก่อนเนอะ"
โอ๊ค "เดี๋ยวๆ ใจเย็นนะ เอาไปฝากไม่ได้นะ มาแล้วมาเลยนะ"
รู้สึกอย่างไรบ้างที่สุดท้ายทั้งคู่ก็ฝ่าฟันกระแสด้านลบต่างๆ มาด้วยกัน
โอปอล์ "ก็ถ้าเป็นปอล์นะคะ ช่วงตอนเราตัดสินใจคบกัน เราไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องเล่นตั้งแต่แรก แล้วเรารู้สึกว่าเราโชคดีจังเลยที่เจอคนที่เขารักเราแล้วเรารักเขาขนาดนี้ ดังนั้นภาวะอื่นๆ ตอนแรกที่คนนั้นไม่พอใจ คนนั้นไม่ชอบ คนนั้นเมาท์เรา มันเป็นสิ่งที่หนักแต่มันก็แค่ผ่านมาแล้วผ่านไปตั้งแต่แรก มันไม่ได้ทำให้เรารู้สึกว่าเป็นอุปสรรคอะไรทั้งนั้น แล้วก็เมื่อวันนี้มาถึงเพราะว่ามันถึงเวลาแล้วเราก็ไม่อยากอยู่โดยที่ไม่มีเขาแล้วอ่ะ ดังนั้นปัจจัยใดที่เกิดขึ้นไม่ว่าใครจะรู้สึกมันดีจังเลยคู่นี้หรือแหวะคู่นี้ มันไม่ได้ส่งผลอะไรกับเราอยู่แล้วค่ะ"
โอ๊ค "คือทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตเรามองได้ 2 อย่าง ผมว่าจะมองว่าเป็นสิ่งที่บั่นทอนเราก็ได้ จะเก็บไปคิดแล้วก็เสียใจกับตัวเองตลอดชีวิตก็ได้ หรือจะคิดในแง่ดีก็ได้ว่ามันคือบททดสอบบทหนึ่งที่ทำให้เรารู้ว่าใครที่รักเราและอยู่ข้างเราตลอดนะครับ แล้วก็ใครที่เรารักจริงๆ พร้อมที่จะฝ่าฟันกันไปได้นั่นแหละ แม้แต่เรื่องร้ายที่สุดมันจะมีสิ่งที่ดีอยู่ในนั้น"
ทำไมถึงเป็นผู้หญิงคนนี้
โอ๊ค "จริงๆ เขาเป็นคนที่คิดถึงคนอื่นเสมอนะครับ แล้วเป็นคนที่มีความรัก รักมากมายให้ผม ให้ครอบครัวของผม ให้ครอบครัวของเขา และทุกๆ คนจริงๆ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่สำคัญจริงๆ เขาทำให้ผมเข้าใจว่า ความรักเนี่ยมันสำคัญนะ มันสำคัญต่อแบบคนรอบข้าง และมันก็สำคัญต่อโลก ต่อโลกใบนี้เลย"
ทำไมถึงต้องเลือก โอ๊ค
โอปอล์ "เวลาเราเจอใครสักคนแล้วเราไม่มีคำถามอะไรเลย ไม่มีคำถามเลยว่าตกลงเขายังไง ตกลงเรายังไงมันคือความรู้สึก ที่แบบเจอแล้ว แล้วหลังจากเนี่ยชีวิตฉันจนตายจะไม่มีวันไหนจะไม่มีคนนี้ ปอล์ไม่เคยคิดว่ามันจะมี ปอล์ไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งปอล์ต้องมาแต่งชุดแต่งงานแล้วแถลงข่าว หรือว่ามีงานแต่งงานของตัวเอง เพราะปอล์ไม่เคยคิดว่าปอล์จะแต่งงาน จนปอล์เจอพี่โอ๊คแล้ววันที่เราได้เจอกันแรกๆ วันที่เราตกลงคบกันแรกๆ เรารู้เลยว่าพอคนเขาบอกว่าใช่มันเป็นอย่างนี้ มันไม่ลังเล มันไม่คิดหน้าคิดหลัง มันไม่ต้องอะไรเลย มันรู้แค่หลังจากนี้ไม่อยากไม่มีเขาแล้ว แล้วพอทุกวันนี้ตื่นมาแล้วเจอเขาทุกวัน ชีวิตลำบากแค่ไหนในแต่ละวัน แล้วกลับมาเจอเขา อืม มันจบ"
มีคำมั่นสัญญากันไหม
โอปอล์ "ปอล์บอกพี่โอ๊คว่าเนี่ยตั้งแต่ก่อนจดทะเบียนแล้ว ทั้งชีวิตปอให้เขาแล้วนะ ดูแลฉันด้วย ปอล์บอกเขาอย่างนี้"
โอ๊ค "ก็คือพูดกันอยู่ตลอดครับว่าจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตลอดไป จนถึงวันที่แก่เฒ่าไปเรื่อยๆ ผมว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด"
เหล่าคนบันเทิงมาร่วมแสดงความยินดีกับทั้งคู่กันอย่างคั่บคั่ง อาทิ "เก้ง - จิระ มะลิกุล" "ไก่ - สมพล ปิยะพงษ์สิริ" "เต๋อ - ฉันทวิชช์ ธนะเสวี" "เกรท - วรินทร ปัญหกาญจน์" "ยิปโซ - รมิตา มหาพฤกษ์พงศ์" "พลอย - เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์" "บอย - ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์" "อ้อม - สุนิสา สุขบุญสังข์" ที่ใส่ชุดราตรียาวเพื่องานนี้ รวมถึงคู่รัก "อเล็กซ์ เรนเดลล์" กับ "เต้ย - จรินทร์พร จุนเกียรติ" คู่สามีภรรยา "ชาคริต แย้มนาม" กับ "วุ้นเส้น - วิริฒิพา ภักดีประสงค์ แย้มนาม" และ "บอย - อนุวัฒน์ สงวนศักดิ์ภักดี" ที่มาพร้อมกับ "เจี๊ยบ - พิจิตตรา สิริเวชชะพันธ์" โดยมีของชำร่วยเป็นเข็มกลัดสีน้ำตาลที่เขียนคำว่า I Do ด้านเจ้าบ่าวเพิ่มความพิเศษ ด้วยการครวญเพลง "If I Ain't Got You" ให้เจ้าสาวผู้เฉิดฉาย ส่วนผุ้ที่รับดอกไม้ของเจ้าสาวเรียกเสียงฮาไปไม่น้อย เพราะอยู่ในมือของ "มาดามมด"