ออกตามหารักแรกในความทรงจำกับ กาลครั้งหนึ่ง...จนวันนี้
"กาลครั้งหนึ่ง...จนวันนี้" ภาพยนตร์โรแมนติกที่จะพาทุกคนตามหาความรัก นำแสดงโดย "เป้ - อารักษ์ อมรศุภศิริ" "นิกแน๊ก - อธิศาพัฒน์ วงศ์เงินยวง" "นิค - พาวิช ทรัพย์รุ่งโรจน์" "แม็กกี้ - อาภา ภาวิไล" ร่วมด้วยนักแสดงมากฝีมืออย่าง "ปราปต์ปฎล สุวรรณบาง" "หนิง - กมลา กำภู ณ อยุธยา" และ "แชมเปญ เอ็กซ์" ผ่านการกำกับโดย "ลิด - ผดุง สมาจาร" ที่เคยร่วมเป็นหนึ่งในผู้กำกับภาพยนตร์สั้นเรื่อง "น้ำทะเลที่เซาะทราย" โดยงานแถลงข่าวเปิดตัวภาพยนตร์ "กาลครั้งหนึ่ง...จนวันนี้" เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2556 ณ บริเวณชั้น 5 โรงภาพยนตร์ พารากอน ซีนีเพล็กซ์ เริ่มต้นงานด้วยนักร้องเจ้าของตำแหน่ง เดอะวอยซ์ไทยแลนด์ ปี 1 "นนท์ - ธนนท์ จำเริญ" ที่มาร้องในเพลงประกอบภาพยนตร์ที่มีชื่อว่า "นี่คือรักแท้ใช่ไหม" และนักร้องมากฝีมืออย่าง "อู๋ - ธรรพ์ณธร ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา" ที่มาในเพลงประกอบภาพยนตร์อีกเพลง "ยิ้มแค่รอยยิ้ม"
ผู้กำกับ ลิด เล่าถึงที่มาที่ไปของภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า "เรื่องนี้จะเป็นเรื่องระหว่างรักแท้กับรักแรก คนที่จะนำพาคนดูไปรู้จักเรื่องนี้ก็คือตัวละครที่ชื่อต้น ซึ่งต้นก็จะมีความรักของเขาในสมัยที่เป็นวัยรุ่น หลังจากนั้นก็เกิดเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับความรักในช่วงวัยรุ่น ซึ่งจะรักกันยังไงจะประสบความสำเร็จไหม ก็เลยมีจุดหักเหในเรื่อง หลังจากนั้นเสร็จปุ๊บพอโตมาก็จะเป็นต้นตอนโต ซึ่งในเรื่องเริ่มต้นมาเขาก็กำลังจะแต่งงาน แล้วก่อนที่เขาจะแต่งงานเขายังคงมีปมฝังใจว่ารักครั้งแรกของเขากับรักครั้งสุดท้ายครั้งนี้เขาจะเลือกอันไหนดี ก็เลยเกิดเป็นเรื่องราวเกิดขึ้น"
ด้านหนุ่ม เป้ ที่มาแสดงในเรื่อง พูดถึงบทบาทที่ได้รับว่า "ผมรับบทเป็นต้นนะครับ เป็นนิคตอนโตครับผม ต้นตอนเด็กๆ นี่จะเป็นเด็กที่เป็นลูกไล่เป็นคนตามแต่ว่าก็ไม่ได้ติ๋มมาก พอโตขึ้นมาก็เปลี่ยนไป เพราะว่ามีเหตุการณ์ที่รักแรกของเขาหายไป พอโตขึ้นมาต้นก็กลายเป็นคนที่ไม่ได้ซ่าอย่างนั้นแต่ว่าก็พูดน้อยลงเยอะ แล้วก็ค่อนข้างจะเป็นคนเหมือนกับเก็บความเศร้าไว้ในหัว มีปมอยู่ในใจ ทำให้การแสดงออกของเขาจะค่อนข้างแฮปปี้ไม่สุด เวลามีเพื่อนมาตลกใส่ก็จะไม่พูดตลกด้วย" สำหรับเหตุผลที่เลือกหนุ่ม เป้ มารับบทเป็น ต้น ตอนโตนั้น ผู้กำกับเผยว่า "คาแรกเตอร์ที่ถูกเขียนมาเนี่ยตอนนั้นเราก็มองไว้หลายคน คืออันหนึ่งเลยที่พยายามจะมองหาก็คือคนที่ดูแล้วรู้สึกเหงาๆ ซึมๆ เราก็เลยอยากจะได้คนที่เป็นดาราที่ดี ไม่เพลย์บอย ไม่ใช่ไปจีบคนนู่นคนนี้ (หัวเราะ) ก็เป็นคนที่ดูท่าทางมีความดรามาหน่อย แล้วก็มีปมอะไรในใจ ด้วยบุคลิกของเป้เนี่ยเวลาที่นิ่งๆ หรือเวลาเขาไม่พูดจะดูดรามาขึ้นมาทันทีเลย"
นิค ที่มารับบทเป็น ต้น ในช่วงวัยรุ่น บอกว่า "รับบทเป็นต้นครับ คือเป็นพี่เป้ตอนวัยรุ่นครับ คือคาแรกเตอร์ช่วงวัยรุ่นจะมีเพื่อนสนิทชื่อแก้ว คือสนิทกันตั้งแต่ 6 ขวบเพราะว่าบ้านเราใกล้กัน แล้วก็ส่วนคาแรกเตอร์ในตัวต้นเนี่ยเป็นผู้ชายที่ไม่ค่อยพูดครับ คือเวลามีอะไรก็เหมือนจะเก็บไว้ แล้วก็จะแสดงออกมาทางสีหน้าแววตา" นิค ยอมรับแสดงบทนี้ยากมาก "ยากมากครับ เพราะว่าปกติเวลาผมแสดงแล้วหน้าตากับท่าทางก็จะออกด้วย แต่ว่าเรื่องนี้คือต้องเก็บไว้ภายในแล้วก็อินเนอร์ออกมาครับ"
สำหรับนางเอกของเรื่องอย่าง นิกแน๊ก เล่าถึงบทบาทของตัวเองว่า "รับบทเป็นแก้วค่ะ แก้วแสนซนที่เห็นอยู่นะคะว่าแบบแกล้งๆ ต้น คาแรกเตอร์ของแก้วจะห้าวๆ หน่อยค่ะ จะไม่ค่อยผู้หญิงแต่งตัวค่ะ เป็นคนเหมือนนำต้นตลอดเลยแกล้งต้นค่ะ" ทางด้าน แชมเปญ กล่าวว่า "ก็ได้เล่นเป็นแขกรับเชิญเป็นคุณครูจันทร์เพ็ญ ดุด้วยแล้วก็ใจดีด้วย" ส่วน ปราปต์ปฎล ที่ครั้งนี้มารับบทเป็นคุณพ่อเล่าว่า "แก่แล้วก็ต้องเป็นพ่อ (หัวเราะ) ก็อยู่ในช่วงของลูกตั้งแต่เด็กจนถึงมัธยม จะเป็นคุณพ่อของนางเอก โดยนิสัยจะเป็นคนอารมณ์รุนแรงอารมณ์ร้อน แต่ว่าโดยพื้นฐานแล้วเป็นคนที่รักลูกรักภรรยา แล้วก็ทำทุกอย่างขอให้ได้ตังให้ได้เงินมาเลี้ยงดูภรรยา" ฟาก หนิง บอกว่า "เป็นคุณแม่ที่เรียบร้อย บ้านๆ (หัวเราะ) แต่ก็จะเถียงกับคุณพ่อบ่อย ก็จะเป็นคนดีคนเรียบร้อยแต่ในขณะเดียวกันเราก็สามารถเถียงกลับได้"
ฟาก แม็กกี้ ที่มารับบทเป็นสาวมั่นเผยว่า "รับบทเป็นตาลค่ะ ก็จะเป็นคนรักของต้นก็คือพี่เป้ค่ะ ก็จะเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างจะทะมัดทะแมง เป็นคนค่อนข้างแต่งตัวดี แล้วก็ทำอะไรคล่องแคล่วว่องไว แล้วที่สำคัญก็คือว่าตาลโตมากับแม่ แม่เลี้ยงดูเราคนเดียว อาจจะไม่ผูกพันกับพ่อ ทำให้เราขาดความรักความอบอุ่นในช่วงนี้ไป จนกระทั่งเราได้มาเจอกับต้น ก็คือเป็นคนที่ทดแทนทุกสิ่งทุกอย่างให้กับเราแทนพ่อได้ ผู้ชายคนเดียวที่ให้ความรักแล้วความดูแลเรา มาทดแทนสิ่งที่ขาดหายไปในชีวิตของเราได้ แล้วก็ทำให้เรารักผู้ชายคนนี้มาก เรายอมทำทุกอย่างเพื่อเขาได้ ไม่ว่าเขาจะมีปมปัญหาในใจอะไร เราก็พร้อมที่จะเข้าใจเขา แต่ว่าขอเขาแค่เรื่องเดียวก็คือเรื่องแต่งงาน มันเป็นสิ่งที่สำคัญมาก มันเป็นสิ่งที่ผู้หญิงอย่างเราต้องการ อาจจะไม่ได้บอกรักเราอย่างชัดเจน แต่ถ้าสมมติตกลงว่าจะแต่งงานกับเรา ก็ถือว่าโอเคเราจะไม่ถามอะไรคุณอีกแล้ว เราถือว่าเรายอมรับได้ทุกอย่าง"
นิกแน๊ก เล่าถึงฉากที่ประทับใจว่า "จริงๆ ถ้าจะบอกว่าชอบทุกฉากเลยนะคะ แต่ถ้าเกิดให้ความรู้สึกมันจำแบบจำแม่นเลยเป็นฉากที่แก้วโดนงูกัด จะมีฉากนั้นซึ่งเกิดมาไม่เคยคลุกน้ำคลุกดินที่แบบเปียกๆ ทั้งวัน ตั้งแต่ 6 โมงเช้าถึงตี 2 ตี 3 ก็เปียกอย่างนั้นทั้งวันเลย เป็นฉากที่สวยมาก แล้วก็เป็นฉากที่แก้วกับต้นเริ่มรู้สึกดีๆ ต่อกัน" ด้าน เป้ บอกว่าชอบฉากที่ได้ไปถ่ายทำที่อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี "เป็นครั้งแรกที่มีโอกาสได้ไปสังขละบุรีแล้วก็สวยงามมากสะพานมอญ แต่ว่าตอนนั้นสะพานมอญขาดไปแล้ว แล้วก็มีการสร้างสะพานใหม่ขึ้นมา เป็นบรรยากาศที่ดี แล้วการถ่ายทำก็สนุกสนาน สวยงาม ฝนตกเอาๆ"
ผู้กำกับแบ่งปันแง่คิดดีจากนักดนตรีระดับโลกให้ฟังว่า "เมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้วผมได้ไปสัมภาษณ์นักดนตรีทูบาระดับโลก ผมก็ถามเขาว่าการที่เป็นนักดนตรีที่เก่งระดับโลกมีปัจจัยอะไรบ้าง เขาก็บอกว่าต้องมีเรื่องของแพสชัน ต้องมีความรักในงานที่ทำก่อน อันที่สองคือต้องมีความพยายาม เพราะว่าหลายคนได้มาเพราะพรสวรรค์ ต่อมาก็คือเรื่องของโอกาสที่บางคนไม่ได้มีโอกาส อย่างผมโชคดีที่มีโอกาส อันที่สี่ซึ่งคนไทยหลายๆ ครั้งมองข้ามจุดๆ นี้ไป ไม่ว่าจะศิลปิน จะหนัง ไม่ว่าจะใครจะทำงานในแผนกไหนก็แล้วแต่ ฝรั่งเขาให้ความสำคัญกับซัปพอร์ตเตอร์ค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่หรือว่าครูบาอาจารย์เอง ซึ่งในหนังเรื่องนี้จริงๆ ผมก็ต้องขอบคุณรัตน์ (รัตน์ โอสถานุเคราะห์) มากๆ ถือว่าเป็นซัปพอร์ตเตอร์ตคนสำคัญของหนังเรื่องนี้ สำหรับเด็กคนหนึ่งที่อยากจะทำหนัง วันดีคืนดีได้ขึ้นมาทำหนัง ถ้าไม่มีซัปพอร์ตเตอร์ผมไม่รู้ว่าโอกาสนี้จะมาถึงมือผมได้ยังไง แล้วก็คนดูก็คือซัปพอร์ตของเราที่สำคัญมากๆ ยังไงก็ฝากหนังเรื่องนี้ไว้ด้วยครับ อยากให้ทุกคนมาช่วยกันดูแล้วก็สนับสนุนหนังไทยกันครับผม"
ออกตามหารักแรกเพื่อยุติปมที่ค้างคาอยู่ในใจร่วมกันได้ กาลครั้งหนึ่ง...จนวันนี้ เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ วันที่ 30 มกราคม 2557 เป็นต้นไป