ออย ธนา ถือฤกษ์งามยามดีเข้าประตูวิวาห์สาวนอกวงการ

ดาราหนุ่ม "ธนา อาจาริยางกูล" หรือที่รู้จักกันในวงการบันเทิงว่า "ออย - ธนา สุทธิกมล" ถือฤกษ์งามยามดีจูงมือแฟนสาวนอกวงการอย่าง "เธอ - รวรีย์ ทองคำกูล" เข้าประตูวิวาห์ ซึ่งมีพิธีหมั้นแบบไทยผสมจีนไปเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 16 พฤศจิกายน 2556 เวลา 06.30 น. ณ โพธาลัย เลเชอร์ ปาร์ค ท่ามกลางสายฝนปรอย โดย ออย สวมชุดเสื้อสูทสีเทาและกางเกงโจงกระเบนลายไทย ส่วนฝ่ายสาวสวมชุดไทยศิวาลัย ห่มทับด้วยสไบแบบชายเดี่ยวสีชมพูปักดิ้นทอง เริ่มด้วยการแห่ขบวนขันหมากที่มีผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าวอย่าง "ตู่ - นพพล โกมารชุน" และเจ้าบ่าวนั่งเรือขันหมากไปสู่ขอเจ้าสาว โดยถือฤกษ์เวลา 07.09 น. ในการสวมแหวนหมั้น และในช่วงค่ำของวันเดียวกันก็ได้มีพิธีเลี้ยงฉลองมงคลสมรสของทั้งคู่ภายใต้บรรยากาศที่ประดับไปด้วยดอกไม้สีขาวดูอบอุ่นเรียบง่าย

ด้านของชำร่วยที่ใช้มอบแทนคำขอบคุณแขกที่มาร่วมแสดงความยินดีคือพัดลมมือถือสีชมพูที่มีชื่อของทั้งคู่เขียนติดเอาไว้ และก่อนหน้าที่พิธีการด้านในจะเริ่มขึ้น เวลาประมาณ 17.45 น. หนุ่ม ออย ได้พาเจ้าสาว เธอ ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงความรู้สึกของทั้งคู่ในวันนี้

พิธีการเมื่อเช้าเป็นอย่างไร

ออย "ตอนเช้านะครับ ก็เป็นพิธีการทั้งหมดนะครับ ตั้งแต่เริ่มแห่ขันหมากตั้งแต่ 6 โมง แล้วก็มีพิธีทางสงฆ์นะครับ แล้วก็รดน้ำสังข์แล้วก็ไหว้ผู้ใหญ่ พิธีหมั้นครับ"

รู้สึกอย่างไรบ้าง

ออย "ตื่นเต้นครับ จริงๆ แล้วก็เคยแต่งงานในละครหลายครั้งแล้ว ก็ไม่เหมือนนะ จริงๆ แล้วก็ไม่เหมือน ความรู้สึกอะไรต่างๆ แล้วก็คนรอบข้างเราก็เป็นคนที่เราเชิญมา เป็นผู้ใหญ่ที่เรารักแล้วก็เป็นเพื่อนๆ เราหมดเลย แล้วก็บรรยากาศมันคนละเรื่องเลยครับ"

ตื่นเต้นไหม

ออย "ก็ไม่ได้นอนอ่ะครับ"

เธอ "ตื่นเต้นค่ะ"

ประทับใจกันตอนไหน

ออย "ตอนที่เริ่มรู้จักกันอ่ะครับ ก็ตอนแรกเจอกันครั้งแรกบนเครื่องบินครับ เขาทำงานเป็นแอร์โฮสเตส แต่ว่าเจอกันครั้งแรกเนี่ยด้วยความที่เราก็รู้ว่าแอร์โฮสเตสเนี่ยภูมิต้านทานการจีบนี่เยอะมาก (หัวเราะ) ก็เลยไม่ได้จีบครับ เราก็รู้สึกว่าเราชอบคนนี้นะ ก็ประมาณหนึ่งครับ ก็ยังไม่ได้ชอบมากครับ ก็รู้สึกว่าเวลาผมชอบใครผมก็ไม่ค่อยกล้าพูดอะไร ก็จะแค่มองๆ เฉยๆ ครับ กลัวเขาหาว่าเป็นดาราแล้วเจ้าชู้นะไปขอเบอร์เขาหรือเปล่า วันแรกก็ไม่ได้ขออะไรเลย ก็ไม่รู้ทำไงครับก็ทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน ก็คิดว่า เออ ขอถ่ายรูปเขาดีกว่า (หัวเราะ) ผมเดินไปขอเขาถ่ายรูป ไม่ได้ขอเบอร์ครับ"

ตอนที่ ออย ไปขอถ่ายรูปด้วยตกใจไหม

เธอ "ตกใจค่ะ ก็งงๆ"

ออย "ก็ไม่รู้ว่าจะติดต่ออะไรต่อไปยังไง แต่ก็ไม่กล้าครับ เพราะว่ากลัวเขาว่าเราเจ้าชู้นะ ก็ขอถ่ายรูปเขาแล้วก็ลงไปเลย แล้วก็ค่อยมาถามเพื่อนทีหลังว่าคนนี้ใคร เพราะว่าเพื่อนๆ ก็ทำงานรู้จักกัน เพื่อนก็บอกว่าตอนนั้นเนี่ยเขาไม่ว่าง (หัวเราะ) ผมก็เลยโอเคก็มีแฟนแล้วก็ไม่ยุ่ง ก็หายไปประมาณครึ่งปีครับ ก็ไม่ได้เจอเลยครับ ก็เลิกคิดล่ะ เพราะว่าเขามีแฟนแล้วก็ไม่ยุ่งอ่ะครับ ก็เลิกคิด แล้วก็ไปเจออีกทีในช่วงที่ไปเชียงใหม่ด้วยกัน ไม่ได้ไปด้วยกันต่างคนต่างไป ไปเจอกันที่นั่นครับ แล้วก็ได้เจอกัน ตอนแรกผมก็ไม่ได้คุยอ่ะครับ เพราะว่าเราก็รู้ว่าเขามีแฟนแล้วเราไม่ยุ่งดีกว่า แต่ว่าเผอิญเพื่อนกลุ่มเดียวกันเนี่ยเผอิญได้ไปเที่ยวด้วยกัน เราไม่ได้ไปคุยกับเขาหรือไม่ได้ไปขอเบอร์เขา แต่เราขอไปอยู่ใกล้ๆ ดีกว่า ก็แอบไปอยู่ในกลุ่มเพื่อน แต่เราก็ไม่คุยนะ เราก็ยืนเฉยๆ ของเรา ไม่คุยไม่จีบไม่อะไรทั้งสิ้นเลย"

แล้วรู้ไหมว่าตอนนั้น เธอ โสดหรือเปล่า

ออย "ตอนนั้นไม่รู้ไงฮะเพราะว่าไม่ได้คุย ก็ไม่ได้คุยเลยครับ หลังจากนั้นไม่ได้ขอเบอร์ ไม่ได้ขออะไรทั้งสิ้นเลยครับ ก็แค่เป็นวันเกิดเขาพอดี ผมก็เลยแอบแฝงเข้าไปในกลุ่มฮะ ก็เป็นในกลุ่มใหญ่ 2 คนไปเที่ยวด้วยกัน ก็เลยไปอยู่ด้วย เหมือนได้อยู่ใกล้ๆ ก็พอละเราก็แค่นี้ จนกระทั่งกลับกรุงเทพฯ ครับ เพื่อนเขาก็มีโอกาสได้คุยกับเรา เพื่อนเขานะไม่ใช่เรานะ เขาก็บอก เออ จริงๆ แล้วเนี่ยเขาไม่มีใครแล้วนะ เราก็ถึงแบบ อ๋อเหรอ โอเค (หัวเราะ)"

ตอนที่เริ่มเข้าไปคุยกับ เธอ ยากไหม

ออย "ก็เริ่มๆ คุยกันธรรมดาครับ ไม่ได้คาดหวังอะไรมากกับอนาคต ภาพแรกของเราก็คือเรารู้สึกว่าเราชอบคนนี้นะ ถูกชะตานะ แล้วลองคิดไปในหัวว่าถ้าเขาจะอยู่กับเราไปนานๆ แล้วเราจะเบื่อเขาไหมอีก 10 ปี เราจะเบื่อเขาไหม เขาเป็นแม่บ้านแก่แล้วอ้วนแล้วเราจะเบื่อเขาไหม (หัวเราะ) ผมก็จินตนาการของผมไปเรื่อยๆ ครับ"

เรียกว่ารักแรกพบได้ไหม

ออย "ก็ยังครับ เพราะว่าเราก็ไม่ได้รักใครง่ายๆ เราต้องดูก่อน ก็คุยกันไปเรื่อยๆ ก็เริ่มรู้สึกว่าเราเป็นทางเดียวกันนะ เป็นคนที่มีอะไรคล้ายๆ กัน แล้วก็มีบางอย่างที่ไม่ไกลกันมาก แล้วก็อย่างบางข้อที่ความแตกต่างก็ยังเข้ากันได้เลย จริงๆ เราก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากแต่เราก็ตั้งใจที่จะคุย ที่จะมอบสิ่งดีๆ ให้กันครับ ก็เลยดูกันไปเรื่อยๆ"

กว่าจะขอแต่งงานนานไหม

ออย "2 ปีครับ จริงๆ แล้วเนี่ยผมค่อนข้างพร้อมที่จะมีครอบครัว ไม่ได้พร้อมที่จะมีแฟนด้วยซ้ำ ก็ตั้งใจว่าอยากจะมีครอบครัวแล้วนะ ความรักครั้งนี้คือการตั้งใจ จุดมุ่งหมายของเราคือการมีครอบครัว ถ้าไม่ได้อย่างที่ตัวเองต้องการก็ขอเป็นโสดดีกว่า ก็รู้สึกว่าถ้าการคบครั้งนี้คือคบเพื่อที่จะหาคนมาเป็นแม่บ้าน เป็นภรรยา เป็นแม่ของลูกเรา เป็นคนที่อยู่กับเราไปนานๆ เลยครับ จนกระทั่งปีที่แล้ววันเกิดเขาอีกปีหนึ่ง ผมก็ขอเขาแต่งงาน (น้ำตาคลอ)"

เล่าบรรยากาศตอนขอแต่งงานให้ฟังหน่อย

ออย "(น้ำตาคลอ) ตอนนั้นไปเที่ยวญี่ปุ่นครับ ก็วันเกิดเขาพอดีครับก็เลยขอเขาแต่งงาน เล่าบ้างดิจะได้ร้องไห้บ้าง (หัวเราะ)"

เธอ "ก็พาไปเที่ยวค่ะ พาไปเที่ยวที่ๆ หนึ่ง เขาก็เป็นคนตรงๆ อยู่แล้ว เขาก็ขอ ก็พูดตรงๆ ว่าแต่งงานกันนะ"

วันที่ ออย ขอแต่งงาน มีเสียน้ำตาไหม

เธอ "ไม่ค่ะ (หัวเราะ)"

ออย "ไม่ซึ้งเลย (หัวเราะ) ก็พูดตรงๆ ครับ ก็คือผมเป็นคนที่ไม่ค่อยขายฝันครับ กลัวว่าพูดอะไรไปแล้วเหมือนโฆษณาชวนเชื่อหรือว่าทำไม่ได้ คือไม่ฟุ้งอ่ะ ดูเองเลยเราก็ทำอยากเห็นอะไร เขาเคยถามว่าเป็นอะไรยังไง ดูเองเลยค่อยมาคบ ไม่ชอบก็คงจะอยู่ด้วยกันไม่ได้ ดูเองเลยส่วนมากจะให้ดูเองเลย"

รู้สึกอย่างไรกับวินาทีที่ ออย บอกว่าแต่งงานกันนะ

เธอ "ก็ตกใจนิดนึงค่ะ แต่ว่าคือพี่ออยเขาเป็นคนที่พูดเรื่องแต่งงานมานานแล้วตั้งแต่แรกที่คบกันว่า ถ้าเขาคุยเขาคบเนี่ยเขาจริงจังนะ เขาอยากจะมองอนาคตอยากจะแต่งงาน เขาก็ปูๆ ไว้บ้างแล้วค่ะ วันนั้นก็เซอร์ไพรส์เหมือนกันค่ะ จริงๆ เขาเป็นคนไม่ค่อยชอบทำอะไรเซอร์ไพรส์อยู่แล้ว"

ตั้งใจขอแต่งงานในวันเกิดเจ้าสาวหรือเปล่า

ออย "น่าจะตั้งใจด้วย แล้วก็เหมือนกับช่วงเวลามันพอดีกันครับ แล้วก็เป็นโอกาสที่ดี จริงๆ แล้วเนี่ยผมกะว่าขอปุ๊บแล้วก็อีก 3-4 เดือนผมแต่งเลยครับ แต่ว่าไม่สะดวกด้วยอะไรหลายๆ อย่างด้วย จริงๆ แล้วเนี่ยความตั้งใจก็คือจัดงานเล็กๆ ครับ ก็ไม่ได้แบบว่าคนเยอะขนาดนี้ คือผมเนี่ยเป็นคนที่ค่อนข้างปิดตัวเองฮะ ก็เพื่อนน้อย ผมก็คิดแล้วว่า เอ๊ะ เพื่อนเราก็ไม่ถึง 10 คนนะ ผมก็กะแค่นั้น ญาติผู้ใหญ่เราก็มีแค่ แม่ก็เสียแล้ว ไม่ค่อยมีครับ แล้วก็กะแบบงานเล็กๆ ครับ ก็เลยคิดว่าการจัดงานครั้งหนึ่งไม่น่าจะยากอะไรมาก ก็คือการเตรียมการเนี่ยไม่ต้องนานมาก ผมกะแบบขอปุ๊บแต่งเลย"

ทำไมถึงเลือกผู้หญิงคนนี้เป็นภรรยา

ออย "ตอนแรกนะครับจริงๆ แล้วผมชอบผู้หญิงทำงาน ผู้หญิงเก่ง ผู้หญิงที่สวยด้วยความสามารถครับ ผมก็นั่งดูเขานั่งทำงานบนเครื่อง ผมก็นั่งดู อืม ขยันดีนะ (หัวเราะ) ดูทะมัดทะแมง ดูบุคลิก ก็ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกเราก็ต้องเห็นแค่นั้นก่อนครับ ก็เลยรู้สึกว่าถ้าลองคบกันดูก็น่าจะดีนะ พอคบกันไปเรื่อยๆ ก็จากภาพแรกที่ดูมั่นใจ ดูกล้าแสดงออก ดูเป็นคนความเชื่อมั่นสูงครับ มันไม่มีเลยนะ (หัวเราะ) เป็นคนขี้อายไม่กล้าพูด แล้วก็แบบขี้เขิน แล้วก็แบบงุ้งงิ้งๆ อะไรอย่างนี้ แตกต่างจากภาพลักษณ์ภายนอกมาก"

เธอ "ก็อย่างที่พี่ออยบอกค่ะ พี่ออยไม่เคยขายฝัน ไม่เคยพูดให้คาดหวังว่าจะได้อะไร เขาทำให้เห็นว่าเขาเป็นอย่างนี้ นี่แหละคือตัวเขา เขาก็เป็นอย่างนี้ตั้งแต่วันแรกจนถึงทุกวันนี้ค่ะ เขาก็มั่นคงมาตลอด"

ลำบากใจไหมที่มาคบกับดารา

เธอ "แรกๆ ก็คิดว่าอาจจะแปลกๆ แต่ว่าพี่ออยไม่เคยทำให้เธอรู้สึกว่าเขาเป็นดารา เขาอยู่ด้วยแล้วก็เหมือนเป็นแฟนธรรมดา"

ภาพลักษณ์ของ ออย ดูเหมือนจะเป็นคนที่เข้าถึงยาก

เธอ "ตอนแรกที่รู้จักพี่ออยก็ถามคำถามนี้เหมือนกันว่า พี่ออยโลกส่วนตัวสูงแล้วเธอจะเข้าไปถึงเหรอ เขาบอกว่า ถ้าอยู่ด้วยกันเขาก็จะเอาเธอเข้าไปอยู่ในโลกของเขา"

ออย "บอกเขาเหมือนกันว่า ถ้าเรามีโลกส่วนตัวแล้วเนี่ย โลกปัจจุบันเราน้ำท่วม เราไปอยู่ในโลกส่วนตัวของเราได้"

วางแผนไว้อย่างไรหลังแต่งงาน

ออย "จริงๆ แล้วชีวิตคู่สำหรับผมนะครับก็น่าจะเริ่มหลังจากนี้มากกว่ อันนี้อาจจะเป็นการดูทำความรู้จักกัน แล้วก็เดินมาถึงจุดนี้ คือต่อจากนี้คือการใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมากกว่า ก็น่าจะมีแนวทางที่ชัดเจนขึ้น ทะเลาะกันน้อยลง (หัวเราะ) งอแงน้อยลง แล้วก็มีแนวทางที่เราจะร่วมทำด้วยกันชัดเจนขึ้น"

สินสอดทองหมั้น

ออย "ยกนี่ปวดแขนเลยครับ ทองอ่ะครับ (หัวเราะ) ก็ไม่เท่าไรครับเพราะว่าก็มีไม่ค่อยเยอะครับ ก็ทอง 200 กว่าบาทเอง เงินอีกนิดหน่อยครับ"

เงินหลักล้านไหม

ออย "ก็ประมาณใกล้ๆ ครับ"

แหวนกี่กะรัต

ออย "แหวนก็ไม่ใหญ่ครับ นิดเดียวครับ กะรัตเดียวเท่านั้นครับ"

หลังจากนี้จะมีทายาทเลยไหม

ออย "จากความมุ่งมั่นของผมแล้วเนี่ยก็มีเลยครับ ก็อยากมีครับเพราะว่าตั้งแต่เห็นเพื่อนๆ มีแล้วก็กลัวว่าเดี๋ยวโตไม่ทันเล่นกัน ถ้าจากความตั้งใจนะครับ ก็อยากมีเลยครับ"

อยากมีกี่คน

ออย "สำหรับผมนะครับ ผมอยากมีสักสี่สามคน (หัวเราะ) แต่เขาบอกไม่ไหว (หัวเราะ)"

วางแผนไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กันที่ไหน

ออย "ที่วางไว้คราวๆ ก็ยังไม่มีครับ เพราะว่าก็อาจจะติดละครนะครับ แล้วก็อาจจะแค่เที่ยวในเมืองไทยก่อนครับ จริงๆ แล้วชอบเที่ยวเมืองไทย แต่เขาก็อยากจะไปเที่ยวไกลๆ ด้วย จริงๆ แล้วก็ไม่ใช่ฮันนีมูนครับ จริงๆ แล้วคือเที่ยวไปเรื่อยครับ อาจจะเที่ยวไปเรื่อยๆ อาจจะเที่ยวเมืองไทยก่อนแล้วค่อยไปเที่ยวญี่ปุ่น แล้วก็ไปอเมริกาครับ"

เรือนหออยู่ที่ไหน

ออย "เรือนหอจริงๆ แล้ว ตอนแรกก็อยู่บ้านผม แต่ว่ามีแพลนว่าจะต้องสร้างบ้านใหม่ครับ"

เมื่อเช้าใครลืมแหวนหมั้น

ออย "(เธอ ชี้ไปที่ ออย) ผมน่ะไม่ลืมของเขา แต่เขาน่ะลืมของผม"

เธอ "ไม่ใช่ เขาเอามา ตัวเองลืม"

ออย "เขาเอามา แต่ลืมเอาออกจากกระเป๋าครับ"

เธอ "(ส่ายหัว) ไม่ใช่"

มีคนแซวว่าในอนาคตคงกลัวภรรยาแน่เลย

เธอ "ก็ดีค่ะ"

ออย "ก็จริงๆ แล้ว ก็น่ารักดีนะครับคนกลัวภรรยา"

จริงๆ แล้วกลัวไหม

ออย "ไม่กลัวครับ เราให้เกียรติกันดีกว่าครับ"

ความต่างของอายุ 8 ปีจะมีปัญหาไหม

เธอ "ไม่มีเลยค่ะ พี่ออยเด็กมาก"

ออย "ไม่ใช่อย่างนั้น หน้าเด็ก"

เจ้าสาวมีอะไรจะขอเป็นพิเศษบ้างหรือเปล่า

เธอ "ไม่ขออะไร ขอก็ไม่รู้จะได้หรือเปล่า (ออย หัวเราะ) ก็เขาเป็นคนไม่ขายฝันน่ะ ก็เลยให้เขาทำให้เห็นดีกว่ามานั่งขอ"

จดทะเบียนสมรสหรือยัง

ออย "เรื่องจดทะเบียนนี่ก็เป็นความเชื่อครับ คือเขาก็ไปดูดวงมาบอกว่า ถ้าตัวเขานะครับจดทะเบียนจะต้องหย่ากัน เขาก็เลยกลัว ผมก็เลยงั้นเอาไว้ก่อน ส่วนถ้าจะอยากจดจริงๆ แล้วไปหย่าแล้วก็จดใหม่ค่อยว่ากัน ก็คือก็อาจจะแก้เคล็ด แต่ผมก็เฉยๆ ยังไงก็ได้ (หัวเราะ)"

มีคำมั่นสัญญาอะไรให้กันไหม

ออย "ไม่เคยให้คำมั่นสัญญาอะไรครับ ไม่เคยบอกว่าจะต้องรักไปนานๆ หรือว่าสัญญาว่าจะทำอะไร ผมว่าดูที่เราเป็นอยู่นะตอนนี้ แล้วก็เราเชื่อกันอยู่แล้วดีกว่า จริงๆ แล้วคำมั่นสัญญาผมว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรถ้าเราไม่ทำ ผมก็ทำอยู่ตลอดให้เขารู้ดีกว่า"

หลังจากนั้นคู่บ่าวสาวได้ออกมาต้อนรับแขกผู้ใหญ่ รวมถึงเหล่านักแสดงที่มาแสดงความยินดี อาทิ "แอ๊ด - สมบัติ เมทะนี" มากับภรรยา "ตุ๊ - กาญจนา เมทะนี" "ดาว - ดวงดาว จารุจินดา" ที่มากับ "หน่อง - พลากร สมสุวรรณ" คู่ของ "ตู่ - นพพล โกมารชุน" และ "นุช - ปรียานุช ปานประดับ" "แจ๊ส ชวนชื่น" หรือ "ผดุง ทรงแสง" กับภรรยา "แจง - ปุณณาสา พรหมยศ" "กระแต - ศุภักษร ไชยมงคล" "ตั้ม - วิชญะ จารุจินดา" รวมถึง 3 หนุ่ม "ต๊ะ - วินรวีร์ ใหญ่เสมอ" "ดิ๊พ - ธนพงศ์ คล้ายพงษ์พันธ์" และ "โจ - ธนัท ฉิมท้วม" ที่รู้จักกันดีในนาม "บอยสเก๊าท์" "เอก - รังสิโรจน์ พันธุ์เพ็ง" "เบนซ์ - ปุณยาพร พูลพิพัฒน์" "ปาน - ธนพร แวกประยูร" "กลม - นพพล พิทักษ์โล่พานิช" "บิ๊ก - ศรุต วิจิตรานนท์" และที่ขาดไม่ได้กับคู่หูนักร้อง "ลิฟท์ - สุพจน์ จันทร์เจริญ" กับภรรยา "หญิง - นราวัลย์ จันทร์เจริญ"