จับนักแสดงพลิกบทบาทเล่าเรื่องฮาปะทะบู๊ใน รักฝังเขี้ยว
เริ่มถ่ายทำไปได้สักระยะแล้วสำหรับ "รักฝังเขี้ยว" ของค่ายภาพยนตร์น้องใหม่ บริษัท 108 สยามฟิล์ม ร่วมกับ บริษัท เบลสซิ่ง โปรดักชั่น จำกัด โดยมี "ดำ - ธนาวุฒิ เกสโร" เป็นผู้ควบคุมงานสร้าง และ "ประพาส ศรีอ่อน" หรือที่รู้จักในวงการตลกว่า "ต๊ะ ติ๊ง โหน่ง" ทำหน้าที่กำกับภาพยนตร์เป็นครั้งแรก นำแสดงโดย "อาร์ตี้ - ธนฉัตร ตุลยฉัตร" "จีน - เกล้าแก้ว สินเทพดล" ร่วมด้วย "เซกิ โอเซกิ" (Seigi Ozeki) "บอย - ธวัชชัย เพ็ญภักดี" "อ่าง เถิดเทิง" "หม่อมเหยิน" หรือ "ประสิทธิ์ เทศทะวงศ์" "เอ็กซ์ - อัศนัย เทศทะวงศ์" "เอ็ม - อรรถพล เทศทะวงศ์" และ "ข้าวโอ๊ต - ภุมมารินทร์ ชัยสิทธิ์"
ผู้กำกับหน้าใหม่เผยถึงการกำกับภาพยนตร์ครั้งแรกว่า "มีคนถามมามากมายว่าผมเข้ามาทำหนังได้อย่างไร คือจริงๆ แล้วผมเองก็อยู่กับวงการหนังไทยมานานก็ประมาณ 31 ปีแล้วครับ ตอนนั้นผมเข้ามาในวงการภาพยนตร์ด้วยการจัดคิวบู๊ ทำงานในกองถ่ายเป็นสแตนด์อิน ผมแสดงมาก็เป็นร้อยๆ เรื่องนะ แต่พอหนังไทยช่วงหลังๆ เริ่มซบเซา ผมก็เลยหันมาเล่นตลกโดยมี โน้ต เชิญยิ้ม ที่ผมถือว่าเขาเป็นอาจารย์ เพราะผมจำจังหวะท่าทางเขาที่พอพูดแล้วคนขำ ผมไปนั่งดูเขาทุกวันเลยนะ จนผมคิดว่าผมเองก็เล่นได้ก็เลยไปสมัครเล่นตลก ประสบการณ์ส่วนใหญ่ของผมพูดได้เลยว่าเกิดขึ้นมาจากตลก แล้วก็มาทำรายการทีวี และอยู่เบื้องหลังการถ่ายทำมิวสิกวิดีโอ
กับผลงานเรื่อง รักฝังเขี้ยว ถ้าเมื่อก่อนคิดถึงแดรกคูลาของไทยก็ต้องนึกถึงเรื่องแดรกคูลาต๊อก ผมคิดว่าอยากทำหนังเกี่ยวกับแดรกคูลาสักเรื่อง ตอนนั้นผมคิดถึง เหี่ยวฟ้า (พรมมา สระทองแก้ว) แต่พี่เหี่ยวก็เสียก่อน ผมก็มานึกตลกอาวุโสก็ได้หม่อมเหยิน พอเล่าเรื่องให้แกฟังแกก็ขำชอบใจและก็โอเค ส่วนอาร์ตี้พระเอกของเรื่อง ในเรื่องนี้เขาก็พลิกคาแรกเตอร์มากเลย เป็นคนขรึมๆ ที่ต้องพลัดพรากจากคนรักไม่ได้เจอกันมา 500 ปี ต้องบู๊กับเซกิทั้งเรื่อง เซกิรับบทเป็นแวมไพร์ ซึ่งเขาก็แสดงหนังบู๊มาตลอดนะ เรื่องนี้ก็พลิกคาแรกเตอร์เป็นร้าย ไม่เคยแสดงมาก่อนเหมือนกัน นางเอกจีนรับบทเป็นหญิงสาวบริสุทธิ์สดใส
เรื่องชื่อทางทีมงานช่วยกันหาก็มาลงตัวที่ รักฝังเขี้ยว เนื้อเรื่องมีบู๊ผสมตลกถึง 70 เปอร์เซ็นต์ ดราม่า 30 เปอร์เซ็นต์ รับรองว่าเรื่องนี้ครบรสแต่ไม่ใช่ตลกคาเฟ่นะ มีคนถามเยอะว่า ต๊ะ คุณเก่งนักเหรอมาทำหนังถึงต้องมาพูดว่าไม่ใช่ตลกคาเฟ่ จริงๆ ตลกคาเฟ่ดีนะ และคือครูของผมเพราะผมเคยเล่นตลกคาเฟ่มาก่อน ในความคิดของผมคือมุกของคนที่เขาเล่นไปแล้วเราเอามาเล่นใหม่ก็ขำกันคนละอย่าง มันคือแกงคนละหม้อ แต่ด้วยผมเป็นคนดูหนังเยอะก็เลยเห็นว่าหลายๆ เรื่องก็เป็นมุกเก่าๆ ซ้ำๆ ซึ่งคนดูเขาก็เคยดูทั้งเป็นวีซีดี ดีวีดี ในโรงภาพยนตร์หรือในโทรทัศน์ มุกส่วนใหญ่ก็จะเป็นมุกที่เล่นกันซ้ำๆ ซากๆ ผมก็จะโดนคนถามเสมอว่าถ้า ต๊ะ ทำหนังจะมีมุกพวกนี้อีกไหม ผมก็บอกว่าไม่มีเพราะให้คนเขาดูกันในคาเฟ่กันหมดแล้ว
ที่ผมจะทำคือขำนะ แต่ขำในสตอรี ขำในเรื่องราวของหนัง ไม่จำเป็นต้องตลกเยอะแยะอะไร คือมีตลกมาแสดงก็ไม่จำเป็นว่าต้องตลกก็ได้ หนังของเราก็อาจจะเป็นพระเอกตลกก็ได้ ตัวโกงตลกหรือตัวประกอบตลก คือตลกของการเดินเรื่องก็จะไม่มีมุกซ้ำๆ กับที่เราเห็นในคาเฟ่และจากหนังหลายๆ เรื่อง แต่ผมไม่ได้ว่าใครนะ เป็นการเปลี่ยนแนวของผมมากกว่า หนังสมัยนี้เขาก็ทำกันดี เขาเข้าใจทำให้แตกต่างและฉีกมุม ผมเองก็จะเป็นแนวนั้น ผมไม่ได้ตามใคร แต่ก็คิดเหมือนกันว่าหนังไทยควรจะเป็นแนวไหนคนดูถึงชอบ ก็อยากจะเชิญคนที่ชอบดูหนังที่มักจะเจอแต่สิ่งจำเจ ถ้าท่านกลัวว่าดูหนังไทยเรื่องนี้แล้วจะเจอความจำเจของมุกตลก หรือเห็นว่าตลกมากำกับแล้วจะเจอมุกตลกคาเฟ่ ผมบอกเลยว่าไม่มีแน่นอน ถ้าท่านเจอมุกอย่างนี้ให้มาว่าหรือด่าผมเลย เพราะถ้าใครมาแสดงแล้วเป็นอย่างนั้น ผมจะตัดออกเลย จะเสริมในสิ่งที่เป็นสาระดี บู๊ สนุกมันฮาสตอรีแน่นอนกับภาพยนตร์เรื่อง รักฝังเขี้ยว"
พิสูน์เรื่องฮาปะทะบู๊ของแวมไพร์หนุ่มใน รักฝังเขี้ยว มีกำหนดเข้าฉายอย่างไม่เป็นทางการในปลายปีนี้