คิมยองฮวา ควง สวี่เจียว เปิดตัวภาพยนตร์ Mr. Go ในไทย

จากความตั้งใจที่อยากจะดัดแปลงการ์ตูน "The 7th Baseball Club" ซึ่งเป็นที่โด่งดังมากในประเทศเกาหลีเมื่อปี 1984 มาสู่ภาพยนตร์จอใหญ่ ทำให้ "คิมยองฮวา" (Kim Yong-Hwa) ตัดสินใจสร้าง "Mr. Go" เพื่อสื่อสารการอยู่ร่วมกันระหว่างสัตว์กับมนุษย์ ด้วยทุนสร้าง 22,500 ล้านวอน และใช้เวลาในการสร้างนานถึง 4 ปี นำแสดงโดย "สวี่เจียว" (Xu Jiao) เด็กน้อยชาวจีนจากภาพยนตร์ "CJ7" ที่วันนี้เติบใหญ่เป็นสาวเข้าสู่วัย 16 ปี ร่วมด้วยนักแสดงเกาหลี "คิมคังอู" (Kim Gang-Woo) และ "ซองดงอิล" (Sung Dong-Il) อีกทั้งยังมีนักร้องสาว "แทยอน" (Taeyeon) จาก "เกิร์ลส เจเนอเรชั่น" (Girls' Generation) มาร้องเพลง "Bye" ประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้

ผู้กำกับ คิมยองฮวา และสาวหน้าใส สวี่เจียว นักแสดงนำของเรื่อง ได้ให้เกียรติมางานแถลงข่าวเปิดตัวเรื่อง "Mr. Go" ในประเทศไทยด้วยตัวเอง เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ที่โรงแรม วี โฮเต็ล กรุงเทพ ซึ่ง สวี่เจียว กล่าวว่าเป็นการมาประเทศไทยเป็นครั้งแรก "เป็นครั้งแรกที่มาเมืองไทย ก็เสียดายนิดนึงที่ว่ากำหนดการค่อนข้างกระชั้น ก็เลยมาถึงยังไม่มีโอกาสเที่ยวประเทศไทยเลย" ด้านผู้กำกับ คิมยองฮวา ก็เช่นเดียวกัน "ก็เป็นครั้งแรกที่ได้มาที่เมืองไทย มีความรู้สึกว่าพอเห็นคนไทยแล้วยิ้มแย้มแจ่มใส ดูเหมือนใจดี มีความรู้สึกผูกพัน"

ผู้กำกับเผยที่มาของการสร้าง Mr. Go ว่า "(ปี 1984) มีการ์ตูนเรื่องหนึ่ง (The 7th Baseball Club) เป็นที่นิยมและมีชื่อเสียงมากที่เกาหลี ตอนนั้นอยากจะสร้างเรื่องนี้ขึ้นมาเป็นภาพยนตร์ แต่เรื่องเทคนิคหรืออะไรหลายๆ อย่างยังไม่พร้อม มีอยู่วันหนึ่งได้ดูคลิปสิงโตคริสเตียน Christian the Lion ก็เกิดความรู้สึกว่าเอาการ์ตูนน่ารักๆ กับคลิปมาผสมผสานสร้างเป็นภาพยนตร์สัตว์และก็มนุษย์อยู่ด้วยกัน เห็นความเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องมีคำพูดก็สื่อสารถึงความรู้สึกได้"

ส่วนแรงบันดาลใจที่ทำให้ภาพยนตร์ Mr. Go เกิดขึ้นนั้น ผู้กำกับของเรื่องเล่าว่า "อย่างแรกเลยมีความคิดว่าภาพยนตร์ฮอลลีวูดชื่อดังอย่าง Transformers ซึ่งเป็นเรื่องของหุ่นยนต์ก็เป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับซีจีเหมือนกัน ในความรู้สึกของผม คิดว่าทางเอเชียของเราน่าจะทำภาพยนตร์แบบนี้ที่มีคุณภาพมีเทคนิคที่สูงที่ดีได้เหมือนกัน ก็เลยทำภาพยนตร์เรื่องนี้ขึ้นมา ส่วนเหตุผลถัดมาโดยส่วนตัวแล้วมีความรู้สึกว่าอยากจะทำภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับสัตว์และมนุษย์อยู่ด้วยกัน ดูเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องมีคำพูดก็สื่อสารถึงความรู้สึกได้"

ด้านสาวน้อย สวี่เจียว พูดถึงการรับบทบาทในภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า "จากหนังเรื่องแรก (CJ7) บทบาทค่อนข้างฉีกแนวมาถึงก็เป็นเด็กผู้ชายเลย สำหรับเรื่องนี้ผู้กำกับมองว่าฉันเล่นได้ ส่วนตัวเองก็รู้สึกว่าอยากลองแสดงหลายๆ บทบาท" พร้อมออกตัวว่าตัวจริงของเธอต่างจากบทบาทในเรื่อง "คิดว่าถ้าเทียบกับตัวละครในเรื่อง ก็คือตัวเหว่ยเหวยเนี่ยเป็นเด็กที่ค่อนข้างมุทะลุ เป็นเด็กที่ค่อนข้างอารมณ์ร้อน แต่ว่าโดยส่วนตัวเนี่ยตัวเองไม่ถึงกับเป็นสาวหวาน แต่ว่ามีความเป็นตัวของตัวเอง มีความคิดของตัวเองในระดับหนึ่ง แต่ไม่ถึงขั้นหวานจ๋า"

ส่วนสาเหตุที่เลือก สวี่เจียว มารับบทนำนั้น ผู้กำกับคนเก่งให้เหตุผลว่า "ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ร่วมทุนระหว่างจีนและเกาหลี ได้มีการวางตัวไว้แล้วว่าจะใช้ดาราเป็นคนจีน ดังนั้นจึงได้รับแนะนำจากทางบริษัททางเมืองจีนโดยเลือกดาราประมาณ 3 คนมาเล่นประมาณ 15 ซีน โดยได้เจอสวี่เจียวเป็นคนแรก พอได้เจอได้พูดคุยกันแล้วประมาณ 30 นาที ความรู้สึกแรกมีความรู้สึกว่าตรงกับคาแรกเตอร์ในภาพยนตร์เรื่องนี้ มีความรู้สึกและสัมผัสได้ในความเป็นธรรมชาติของการพูดคุย และเป็นนักแสดงที่น่าจะแสดงได้เยี่ยมยอดในภาพยนตร์เรื่องนี้"

คิมยองฮวา เล่าว่ามีการเตรียมงานพอสมควรสำหรับการสร้างภาพยนตร์ที่ใช้คอมพิวเตอร์กราฟิกหรือซีจี "เคยได้ยินมาว่าหนังที่ใช้ซีจีใช้ทุนสูงมาก ถามว่าใช้ทุนประมาณเท่าไร ก็ได้ยินมาว่าพอสมควร เป็นเท่าหนึ่งของการทำหนังธรรมดา ก็มีความคิดว่าควรมีการทดสอบเตรียมทีมก่อน ประมาณ 180 คน รวบรวมทีมงานซีจีหลายๆ ท่านมาร่วมกันค่อยๆ ปะติดปะต่อ มีการเตรียมซ้อมศึกษาพฤติกรรมของสัตว์ว่าจะต้องทำยังไง ใช้เวลาประมาณ 4 ปีในการทำภาพยนตร์เรื่องนี้ ทีมงานทุกคนก็ทุ่มเทในการทำเรื่องนี้มาก"

สวี่เจียว เผยความยากของภาพยนตร์ที่ใช้คอมพิวเตอร์กราฟิก น่าจะอยู่ที่ผู้กำกับและทีมงานมากกว่านักแสดง "ในส่วนของการแสดง ขณะที่แสดงสมมติว่าเป็นตัวกอริลลาก็จะมีคนมาแสดงสีหน้าท่าทางไปด้วย ฉะนั้นเวลาที่เล่นกับคนๆ นั้นเนี่ย ส่วนตัวคิดว่าไม่ได้ยากเกินไป ความยากน่าจะอยู่ที่ตัวผู้กำกับและทีมงานซีจีมากกว่า เพราะว่าจะต้องชัดเจนทุกๆ ภาพทุกๆ ซีนที่ออกมา" เจ้าตัวรู้สึกท้าทายที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องนี้ "บทบาทนี้เป็นบทบาทที่ไม่เคยได้รับมาก่อน รู้สึกว่ามีความท้าทาย ทำให้ฉันได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะเทคนิคการแสดงต่างๆ จากที่ผู้กำกับสอน เช่น เวลาเราเสียใจไม่จำเป็นต้องร้องไห้เสมอไป การยิ้มออกมาแบบเจ็บปวด บางครั้งให้ความรู้สึกที่สะเทือนใจมากกว่าการร้องไห้ออกมาตรงๆ ซะอีก"

ผู้กำกับเปิดใจอยากให้ทุกคนติดตามชมภาพยนตร์ "Mr. Go เป็นภาพยนตร์ที่ทุกเพศทุกวัยทั้งหญิงและชายสามารถดูได้อย่างสบายๆ ถ้าได้ดูแล้วจะมีความรู้สึกว่าไม่ผิดหวังแน่นอน มีทั้งอารมณ์ของความผูกพันระหว่างมนุษย์กับสัตว์ ฝากทุกท่านติดตามภาพยนตร์เรื่องนี้ ช่วยบอกหลายๆ คนให้ไปดูเรื่องนี้ด้วย" ฟาก สวี่เจียว บอกว่า "ตัวเหว่ยเหวยในเรื่องต้องรับภาระหนี้ก้อนมหาศาล แล้วยังต้องดูแลคณะละครสัตว์ สาเหตุที่พากอริลลาตัวนี้ไปเล่นเบสบอลที่เกาหลีก็เพื่อหาเงินมาใช้หนี้ หากจะฝากบอกอะไรกับคนจีนในไทยหรือว่าคนที่อายุใกล้เคียงกัน อยากให้เห็นว่าเวลาที่เราเผชิญหน้ากับปัญหาอะไรหรือเผชิญหน้ากับปัญหาชีวิต ก็ต้องมีความเข้มแข็งยืนหยัดที่จะฝ่าฟันไปให้ได้" พร้อมกับฝากภาพยนตร์แบบเอาใจคนไทยว่า "ไปดู Mr. Go กันนะคะ (ภาษาไทย)"

หลังจากเสร็จสิ้นจากงานแถลงข่าว นักแสดงสาวน้อย สวี่เจียว และผู้กำกับ คิมยองฮวา ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกลุ่มย่อยกับสื่อมวลชนอีกครั้ง ซึ่งทีมงานสยามโซน.คอม ก็ได้เข้าร่วมสัมภาษณ์ครั้งนี้ด้วย

เรื่องนี้ใช้ทุนการสร้างเท่าไร ขายลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ไปกี่ประเทศแล้ว

คิมยองฮวา "ทุนการสร้างประมาณ 600 ล้าน (บาท) กำลังอยู่ในระหว่างการขายหนังทั่วเอเชียยกเว้นญี่ปุ่น"

แล้วทางฝั่งยุโรปหรืออเมริกา ติดต่อซื้อไปฉายบ้างหรือยัง

คิมยองฮวา "ภาพยนตร์ที่ออกฉายทั่วเอเชียเนี่ยจะเป็นเวอร์ชันของเอเชีย ส่วนทางยุโรปกับอเมริกาอาจจจะมีการทำเป็นอีกเวอร์ชันครับ"

ทำไมถึงไม่เหมือนกัน

คิมยองฮวา "ตอนนี้กำลังวางแผนอยู่ว่าจะส่งเวอร์ชันของเอเชียไปขายทางโน้นหรือเปล่า หรือว่าจะทำเป็นอีกเวอร์ชันหนึ่ง เพราะหนังเอเชียจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งจะเป็นที่เข้าใจเฉพาะในคนเอเชีย"

เป็นเพราะอะไรถึงไม่ไปฉายที่ญี่ปุ่น

คิมยองฮวา "มีความคิดว่าประเทศญี่ปุ่นจะชอบดูแต่ภาพยนตร์จากฮอลลีวูด ตอนนี้ก็กำลังคิดอยู่ว่าจะนำไปฉายที่เป็นเวอร์ชันเดียวกันกับที่เรานำออกมาฉาย ณ ปัจจุบันหรือเปล่า หรือจะทำอีกเวอร์ชันหนึ่งเพื่อขายในตลาดญี่ปุ่น ตอนนี้ก็มีนัดประชุมที่ประเทศญี่ปุ่น วันที่ 8 สิงหาคม ว่าจะเอาเวอร์ชันไหน เป็นเวอร์ชันนี้หรืออีกเวอร์ชันครับ"

การปรับภาพยนตร์เป็นอีกรูปแบบ จะมีการเปลี่ยนแปลงนักแสดงหรือเปล่า

คิมยองฮวา "กำลังอยู่ในขั้นตอนของประชุมกันอยู่ ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงกันไปยังไงบ้างครับ เช่น อาจจะมีดาราฮอลลีวูดมาเล่นด้วย หรือจะเอาดาราเอเชียมาเล่นด้วยกัน ซึ่งมุมมองตอนนี้ก็เป็นไปได้หลายแบบครับ ก็อาจจะเปลี่ยนแปลง ถ้าเอาดาราฮอลลีวูดมาเล่นหนังอาจจะเปลี่ยนสไตล์ไปเลย"

นักแสดงชาวจีนชื่อดังระดับฮอลลีวูดมีหลายคน ทำไมถึงเลือก สวี่เจียว

คิมยองฮวา "ความพิเศษของ Mr. Go อยู่ที่ตัวเอกคือมิสเตอร์โก เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นจะต้องเลือกดาราฮอลลีวูดมาเล่นเรื่องนี้ เราจะเน้นเลือกคนที่เหมาะสมกับบทนี้มากกว่า ไม่จำเป็นจะต้องเลือกคนสวย ขอแค่ให้แสดงเก่ง แสดงเป็นธรรมชาติ แสดงแล้วดูดี มีความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง มีความฉลาดเฉลียว"

พอจะเปิดเผยได้ไหมว่าอีก 2 คนที่มาร่วมทดสอบบท เหว่ยเหวย เป็นใคร

คิมยองฮวา "ตอบลำบากนิดนึง (หัวเราะ) สวี่เจียวเหมาะสมที่สุดแล้ว คนอื่นก็ดีเหมือนกัน แต่สวี่เจียวเหมาะสมที่สุด"

มาแสดงภาพยนตร์ที่เกาหลีมีปัญหาอะไรบ้างไหม

สวี่เจียว "มีอุปสรรคอยู่บ้างในเรื่องของภาษา เพราะว่าทีมงานใช้คนละภาษาหมดเลย ในช่วงแรกๆ รู้สึกว่าค่อนข้างเหงาพอสมควร เพราะว่าจะสื่อสารกับใครไม่ค่อยได้ อีกเรื่องคืออาหาร ตอนที่ไปใหม่ๆ ไม่คุ้นกับอาหารเกาหลีเลย แต่ตอนนี้เริ่มปรับตัวได้ ไม่มีปัญหาอะไรแล้วค่ะ"

วิธีแก้ปัญหาเรื่องภาษาระหว่างการถ่ายทำภาพยนตร์

สวี่เจียว "ในขณะถ่ายทำจะมีพี่ล่ามคนหนึ่งที่คอยประกบอยู่ เวลาที่ทีมงานหรือผู้กำกับจะสื่ออะไรก็จะผ่านล่าม ในส่วนของหนังก็จะมีครึ่งหนึ่งที่ใช้ภาษาเกาหลี อีกครึ่งหนึ่งเป็นภาษาจีนค่ะ"

ต้องหัดพูดภาษาเกาหลีใช่ไหม

สวี่เจียว "ใช่ค่ะ ต้องพูดภาษาเกาหลี เลยต้องเดินทางไปล่วงหน้า 3 เดือน (ก่อนการถ่ายทำ) เพื่อจะไปเรียนภาษาเกาหลีก่อน"

การแสดงฉากที่ใช้คอมพิวเตอร์กราฟิกในเรื่อง Mr. Go แตกต่างจาก CJ7 หรือเปล่า

สวี่เจียว "ก็มีความยากแตกต่างกัน ตอนที่แสดง CJ7 ตอนนั้นเป็นการแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกและยังเด็กมาก ส่วนตัวแล้วคิดว่าโชคดีที่ตัวเองเป็นคนที่มีจินตนาการค่อนข้างมาก เวลาเล่นก็ใส่จินตนาการเข้าไป บวกกับผู้กำกับไม่ว่าจะเป็น โจวซิงฉือ (Chow Sing-Chi หรือ Stephen Chow) หรือผู้กำกับคิมยองฮวาจะมีความเหมือนกัน คือเวลาที่จะสื่อสารในเรื่องของการแสดง เขาจะเล่นให้ดูเลย ทำให้จินตนาการง่ายขึ้น"

ประสบการณ์ที่ได้รับจากการทำงานในเรื่อง Mr. Go

สวี่เจียว "ช่วงเวลาที่ถ่ายทำเรื่องนี้ค่อนข้างนาน ประมาณ 8-9 เดือน เห็นทีมงานทุกคนเหนื่อยมาก แต่ก็ไม่มีใครบ่น ไม่มีใครตัดพ้อ รู้สึกว่าทุกคนเข้มแข็ง จากการทำงานเรื่องนี้ก็ทำให้ตัวเองเข้มแข็งมากขึ้นไปด้วยค่ะ"

อยากแสดงบทบาทแบบไหนอีก

สวี่เจียว "ในแต่ละบทบาทก็มีเสน่ห์ของตัวเอง โดยปกติก็ไม่ได้รู้สึกว่าอยากจะเล่นบทบาทไหนเป็นพิเศษ แต่ถ้าจะให้เลือกก็อยากจะได้คาแรกเตอร์ที่คล้ายๆ กับเหว่ยเหวย คือมีคาแรกเตอร์ที่ดูโดดเด่น เพราะว่าจะได้ทำให้ตัวเองมีพัฒนาการในการเรียนรู้ไปอีกขั้นหนึ่ง"

ช่วงค่ำของวันเดียวกัน ผู้กำกับหนุ่มและนางเอกสาวซึ่งอยู่ในชุดเดรสสั้นสีครีมสวยงามสมวัย ได้ไปร่วมงานเปิดตัว Mr. Go ที่ลานอินฟินิซิตี้ ฮอลล์ บริเวณโรงภาพยนตร์ พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ก่อนที่วันรุ่งขึ้น 26 กรกฎาคม 2556 ทั้งคู่เดินทางไปร่วมถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พร้อมทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายแจกันดอกไม้ ณ ศาลาศิริราช 100 ปี โรงพยาบาลศิริราช

ติดตามเรื่องราวความรัก ความผูกพัน และมิตรภาพระหว่างคนกับเจ้ากอริลลาตัวโตไปพร้อมๆ กับภาพยนตร์ Mr. Go ที่จะมาสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมชาวไทย เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2556 เป็นต้นไป