อนันดา ขอร่วมงาน น้อย ปะทะบทบาทในภาพยนตร์ ขุนพันธ์
"ขุนพันธ์" ภาพยนตร์แอ็กชันประจำปีของค่ายใบโพธิ์ สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล ร่วมกับบาแรมยู ผลงานของผู้กำกับ "โขม - ก้องเกียรติ โขมศิริ" ที่รวมตัวเหล่านักแสดงระดับคุณภาพมาร่วมงาน ทั้ง "อนันดา เอเวอริงแฮม" ที่มาสวมบท ขุนพันธ์ หรือ "พลตำรวจตรี ขุนพันธรักษ์ราชเดช" ตำนานยอดตำรวจวีรบุรุษที่มีฉายาว่า นายพลตำรวจหนังเหนียวผู้จับเสือมือเปล่า ผู้มีตัวตนจริงอยู่ในประวัติศาสตร์ มาปะทะกับ "น้อย - กฤษดา สุโกศล แคลปป์" หรือ "น้อย วงพรู" ที่มาสวมบทบาท อะแวสะดอ หรือ "อะแวสะดอ ตาและ" ขุนโจรจอมวายร้ายคู่ปรับคนสำคัญของ ขุนพันธ์ รวมไปถึงนักแสดงอย่าง "เดี่ยว - ชูพงษ์ ช่างปรุง" "กบ - พิมลรัตน์ พิศลยบุตร" "แฟรงค์ - ภคชนก์ โวอ่อนศรี" "สน - สนธยา ชิตมณี" และ "อ้อม - กานต์พิศชา เกตุมณี"
ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เล่าถึง ขุนพันธ์ ผู้เป็นทั้งนักสืบ มือปราบและจอมขมังเวทย์ ซึ่งยังคงเป็นที่เคารพและศรัทธาของเหล่าตำรวจและเป็นสัญลักษณ์ของความดีในสมัยนั้น โดย โขม เล่าถึงแรงบันดาลใจในการหยิบยกเรื่องราวของบุคคลในตำนานมาสร้างเป็นภาพยนตร์ว่า
"แรงบันดาลใจมาจากการที่ผมอยากทำเรื่องของคนดีๆ คนหนึ่งที่ไม่ว่าจะมีแรงบีบคั้นจากบ้านเมือง จากภาวะต่างๆ แต่เขาก็เชื่อมั่นที่จะทำความดีเพื่อแผ่นดิน ทำเพื่อในหลวง คือมีอยู่ภาพหนึ่งในหนังสืองานศพที่ท่านต่อเทียนจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ แล้วขุนพันธ์ต่อเทียนเล่มนั้นมา ผมก็เรียกทีมงานมาแล้วบอกว่าเราจะสร้างหนังเรื่องนี้จากภาพๆ นี้ เราจะเป็นเทียนเล่มต่อไป เราจะเป็นเทียนต่อจากท่านนะ แต่เราจะไม่ทำหนังแบบยัดเยียดให้คนรู้ว่าท่านคือคนดีนะ แต่เขาเป็นมนุษย์คนหนึ่งที่เจอปัญหาจริงๆ ซึ่งเป็นปัญหาที่หนักกว่าสมัยนี้มาก เราตั้งใจจะต่อเทียนเล่มนั้นต่อจากท่านในฐานะคนทำหนัง หลายๆ ครั้งที่เราทำเพื่อบำบัดตัวเอง แต่จังหวะหนึ่งในชีวิตเราก็คิดว่า เราจะทำหนังยังไงให้เกิดประโยชน์กับคนอื่นในแบบที่เราถนัดนะ เราจะให้อะไรกับคนดู นอกจากความบันเทิง ความมัน ที่ต้องให้กับคนดูอยู่แล้ว เราก็คิดว่าคุณงามความดีที่อยู่ในตัวหนังนี้จะมีผลต่อประเทศชาติ ตอนนี้ผมเชื่อว่าบ้านเมืองเราต้องการสัญลักษณ์ที่จะบอกว่าคนดีมีที่อยู่"
นอกจากนั้นผู้กำกับยังพูดถึงการจับเอาสุดยอดนักแสดงแถวหน้าของเมืองไทยอย่าง อนันดา กับ น้อย วงพรู มาเป็นคู่ปรับกันในภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า "คือจริงๆ มันจะเป็นแอ็กชันซึ่งสัดส่วนของความเป็นดราม่าก็ยังมีอยู่บ้าง ผมยกตัวอย่างอย่างเรื่อง Heat ที่เป็นการเผชิญหน้ากันระหว่าง อัล ปาชิโน (Al Pacino) กับ โรเบิร์ต เดอ นีโร (Robert De Niro) อันนี้คือการเปรียบเทียบ แต่ตอนนี้ถ้านึกถึงนักแสดงที่มีอินเนอร์มากๆ ในประเทศไทย ก็คืออนันดาที่มารับบทขุนพันธ์ ตัวร้ายคือพี่น้อย วงพรู ที่ชื่อว่าอะแวสะดอ แค่นี้มันก็ก่อให้เกิดดราม่าโดยธรรมชาติแล้ว พลังงานของสองคนนี้มาเจอกันมันก็เกิดแอ็กชันได้แล้ว"
ด้าน อนันดา กล่าวถึงการได้มารับบทบาทสำคัญในเรื่องนี้ รวมไปถึงการต้องมาปะทะการแสดงสุดเข้มข้นกับ น้อย ว่า "คือจริงๆ ผมเป็นแฟนหนังของพี่โขมอยู่แล้ว ก็รู้จักกันเป็นการส่วนตัว เราได้คุยกันหลายครั้งแล้ว จริงๆ ต้องถามพี่โขมว่าทำไมถึงเลือกผม ใจผมพี่โขมอยากให้เล่นอะไรผมเล่นอยู่แล้ว สำหรับตัวละครขุนพันธ์ผมว่าเป็นตำนานสำหรับคนไทย แล้วก็มีตัวตนอยู่จริงๆ จุดที่ผมอินที่สุดคือมันค่อนข้างต่างจากตัวผมบ้าง มีเนื้อหาบางอย่างของตัวละครตัวนี้ที่ผมไม่รู้จักเลย จับต้องยากสำหรับผม เหมือนเป็นการผลักดันให้เราพัฒนาตัวเอง ขยายโลกทัศน์ให้เราเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ แล้วเราก็ได้เป็นส่วนหนึ่งในตำนานของขุนพันธ์ด้วย
สำหรับคาแรกเตอร์ของขุนพันธ์ก็เป็นคนที่กล้าหาญมุ่งมั่น ดุดัน ซื่อสัตย์ มีคุณธรรม เป็นตัวอย่างที่ดีของบ้านเมือง แต่ในขณะเดียวกันท่านก็มีอะไรบางอย่างที่พิเศษด้วย ยอมรับว่าเรื่องนี้ยาก มีสิ่งที่ต้องทำหลายอย่างมาก ต้องเก่งอาวุธหลายอย่าง ต้องยิงปืนคล่องแคล่ว ต้องฟันดาบเป็น ต่อสู้ระยะใกล้ชิด ภาษาใต้เยอะมาก แค่คิดก็ยากแล้ว ที่หนักใจคือการพูดใต้เพราะผมติดสำเนียงฝรั่งถือว่าเป็นบทที่ยากที่สุดที่เคยเล่นมา ส่วนการได้มาร่วมงานกับพี่น้อยคือต้องบอกว่าผมเป็นแฟนคลับพี่น้อยอยู่แล้ว จริงๆ คือผมเป็นคนที่แอบขอพี่โขมเองด้วยว่าตัวละครตัวนี้ต้องเป็นพี่น้อย ผมชื่นชมแกมานานแล้ว ก็รู้สึกว่าแฮปปี้ ก็รู้สึกดีใจที่ได้มาเล่นคู่กับพี่น้อยครับ"
สำหรับแฟนๆ ที่รอดูผลงานของสุดยอดผู้กำกับ โขม และการประชันฝีมือกันระหว่าง อนันดา กับ น้อย ในภาพยนตร์เรื่อง ขุนพันธ์ คงต้องอดใจรอกันอีกนิด คาดว่าภายในปีนี้จะได้ชมกันอย่างแน่นอน