ป๊อก-ตั๊ก จัดงานหวานฉลองวิวาห์ เน้นความเป็นไทยร่วมสมัย

นางเอกสาว "ป๊อก - ปิยธิดา วรมุสิก" และนักแสดงหนุ่ม "ตั๊ก - นภัสรัญชน์ มิตรธีรโรจน์" หรือชื่อในวงการ "ตั๊ก - นภัสกร มิตรเอม" ประกาศใช้ชีวิตคู่ร่วมกันหลังจากทั้งคู่คบหาดูใจกันมากว่า 10 ปี โดยได้ประกอบพิธีหมั้นไปเมื่อ 16 มิถุนายน 2555 ก่อนจะเข้ารับพระราชทานน้ำสังข์จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต ในวันที่ 19 มิถุนายน 2555 และได้ฤกษ์ดีของวันที่ 22 ธันวาคม ที่ผ่านมา จัดงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรส ณ ลานสังคีตศาลา พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ

สำหรับรูปแบบการจัดงานเน้นความเป็นไทยแบบร่วมสมัย ผสมความเป็นศิลปวัฒนธรรมตามแบบที่ทั้งคู่ชอบ โดยของชำร่วยที่ใช้มอบแทนคำขอบคุณเป็นที่ปั๊มที่มีข้อความว่า ขอรับรองว่าเป็นความจริง ซึ่งเวลาประมาณ 17.20 น. ป๊อก และ ตั๊ก ก็ได้ควงคู่กันมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในชุดไทยสีทอง

การเตรียมตัวกับการจัดงานฉลองสมรสพระราชทาน

ป๊อก "ก็จะบอกว่าทางส่วนของป๊อกคือนอกเหนือจากการเตรียมตัวส่วนตัวแล้วไม่ได้ทำอะไรเลย (หัวเราะ) ทั้งหมดพี่ตั๊กเป็นคนจัดการทั้งหมดทุกเรื่องเลยค่ะ ปล่อยให้เราสบายๆ ให้เราไม่ต้องกังวล"

ตั๊ก "หลังจากที่เราทำพิธีหมั้นกันเรียบร้อย เข้ารับพระราชทานน้ำสังข์จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ก็มาทำเรื่องขออนุญาตใช้สถานที่ที่ตั้งใจไว้นานมากแล้ว คือที่บริเวณสนามสังคีตศาลา ก็ทำการขออนุญาตอยู่นานครับ นานพอสมควรกว่าผู้ใหญ่จะเมตตาแต่ว่าด้วยเหตุและผลอันดีอันงามที่ทางท่านอธิบดีกรมศิลปากร คุณสหวัฒน์ แน่นหนา ท่านได้ให้ไว้แล้วท่านก็เมตตาเรา ในที่สุดก็ได้อนุญาตก่อนหน้านี้ประมาณ 2 เดือนนะครับ

จริงๆ ก็ต้องบอกว่ามีหลายส่วนฝ่าย ทั้งอาจารย์ ผู้ใหญ่ที่เราเคารพรักหลายท่านเลยที่ช่วย ท่านเมตตาช่วยเหลือทุกอย่างครับ อย่างวันนี้สถานที่ก็จะมีทั้งท่านอธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ท่านผู้อำนวยการสำนักพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ พระนคร ร่ายยาวไปจนถึงท่านอธิบดีกรมศิลปากร ที่เหลือก็มีทั้งท่านรองอธิการบดี อีกเยอะครับ ถ้าจะให้พูดถึงตอนนี้สงสัยจะเป็นชั่วโมงครับ ถ้าจะพูดตอนนี้มีความยินดีมาก มีความดีใจมาก น้องเขาบอกว่าผมทำคนเดียว จริงๆ ไม่ใช่ผมทำคนเดียว ผมทำนิดเดียวแต่มีคนช่วยผมเยอะมาก มีคนเมตตาเราเยอะมาก ต้องบอกว่าเป็นความดีใจมาก"

งานในวันนี้ออกมาสวยสมใจไหม

ตั๊ก "ต้องถามเจ้าสาวครับ เพราะว่าวันเนี้ยเพื่อเขา"

ป๊อก "สวยงามค่ะ รู้สึกดีใจค่ะทุกอย่างออกมาสวยงามเกินกว่าที่เราตั้งใจเอาไว้ ซึ่งเราเองก็ไม่คาดคิดมาก่อน ว่าที่พี่ตั๊กทำให้เราถึงขนาดนี้เนี่ย มันผ่านอะไรมาเยอะมากจนได้มาแบบนี้ เขาก็ทำให้เราอย่างดี ให้เกียรติเราอย่างเต็มที่"

ตื่นเต้นไหม

ป๊อก "ตอนแรกมีคนถามว่ามันจะเหมือนกับตอนไปถ่ายละครถ่ายซีนแต่งงานหรือเปล่า ป๊อกก็เลยบอกว่าความรู้สึกรวมๆ ต้องพิเศษกว่า เพราะว่าวันนี้อาหารในงานทานได้จริง (หัวเราะ) ไม่เหมือนตอนถ่ายละครซึ่งอันนั้นเราต้องยืนดูเฉยๆ แต่วันนี้ทุกอย่างเป็นของจริง แล้วความรู้สึกมันมากกว่านั้นเยอะจริงๆ แค่รู้สึกว่าคนที่เขาผ่านการแต่งงาน ผ่านการมีงานแต่งงานที่ดีที่ครบที่สมบูรณ์อย่างนี้ เขามีความอิ่มเอมใจแบบนี้นี่เอง"

เตรียมอะไรพิเศษเอาไว้ให้ ป๊อก

ตั๊ก "เตรียมไหมก็มีครับ เพราะว่าจริงๆ แล้วผมไม่ค่อยจะมีอะไรให้เขามากในฐานะเป็นคนที่เรารักกัน ผมไม่ค่อยเป็นคนโรแมนติก ออกไปทางโหดๆ ซะมากกว่า เพิ่งจะมาโกนหนวดออกนี่แหละครับ คิดว่าวันนี้ก็จะมีของขวัญให้เขาสักชิ้นนึง เป็นการแสดงเล็กๆ น้อยๆ จากผมเอง"

ป๊อก "เดี๋ยวรอชม"

รูปแบบการจัดงานเน้นความเป็นไทย

ตั๊ก "เราตั้งธีมไว้ว่าเป็นไทยร่วมสมัย มีหลายท่านที่ได้เห็นการ์ดผมแล้วถามว่าชุดไทยร่วมสมัยเป็นยังไง ก็บอกว่าเดี๋ยวผมค่อยตอบแล้วกันในงาน ยังไม่ตอบเพราะว่าผมจะถามไปเรื่อยๆ ว่าความคิดท่านเป็นยังไง ตั้งแต่แจกการ์ดให้กับผู้ใหญ่อย่างเช่น ผู้ใหญ่ทางฝั่งผมเองก็ถามว่า ตั๊กชุดไทยร่วมสมัยเป็นยังไง ผมบอกว่าไม่ตอบครับแล้วแต่ท่านจะคิด"

ป๊อก "ที่ถามเพราะว่าเป็นการแชร์ความคิดเห็นกันมากกว่า ว่าในความรู้สึกของแต่ละคนความเป็นไทยคือตรงไหน ซึ่งป๊อกว่าตรงนี้คือความเป็นไทย เราเป็นประชาธิปไตยที่จะถามทุกๆ คนถามความคิดเห็น ไม่ได้จำกัดว่าจะต้องแบบนี้แบบนั้น ความเป็นไทยคือความเป็นอิสระแล้วก็มีสิทธิเสรีภาพในความคิดมากกว่าค่ะ"

ในพิธีการจะมีการลอดซุ้มกระบี่ที่แตกต่างจากที่เคยเห็นมาก่อนด้วย

ตั๊ก "ใครบอกเนี่ย"

ป๊อก "จะบอกว่าเป็นเจ้าสาวที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย คือแค่เตรียมตัวอย่างเดียวมาเลย พี่ตั๊กบอกว่าเดี๋ยวทั้งหมดพี่ตั๊กจัดการให้เอง ป๊อกแค่รับผิดชอบในเรื่องส่วนตัว คิดว่าตัวเองคงเป็นเจ้าสาวที่มีความรับผิดชอบน้อยที่สุด ไม่ต้องแบกภาระน้อยที่สุดเท่าที่มีมา (หัวเราะ)"

คืนนี้จะมีการแสดงโขนเองด้วย

ตั๊ก "มีบางส่วนครับ เป็นการแสดงชุดนึงจากโขน มีให้เห็นแน่นอนครับ ก็มีการแสดง เราเป็นนักแสดง เราถือได้ว่าเป็นผู้ที่ศึกษา มีความรู้ ผมคิดว่าถ้าเราจะแสดงออกให้เขา ผมก็ควรใช้ความสามารถของตัวผมด้วย ไม่ใช่ว่าการที่ผมบอกว่าผมทำนิดเดียว แล้วคนอื่นทำให้เยอะแยะเลย ผมจะรู้สึกผิดมากถ้าทุกคนทำให้ผมหมดเลยแล้วผมยืนเฉยๆ แล้วผมจะบอกเขายังไงว่าผมรักเขา"

ศึกษาคบกันมากี่ปีแล้ว

ป๊อก "คบกันมา 10 จะ 11 ปีค่ะ"

ตั๊ก "พฤษภาคม"

ป๊อก "มีนา"

ตั๊ก "อ่อ มีนา ถึงขั้นช็อก โถ่ แหย่เล่น"

ได้ไปรำลึกสถานที่ที่เจอกันหรือยัง

ตั๊ก "คือจริงๆ วันนี้ก็กะจะไปเดินเล่นนะครับ แต่เผอิญว่าเขายังไม่เปิด ถัดจากหน้าพิพิธภัณฑ์ไปหนึ่งล็อกก็จะเป็นอนุสาวรีย์สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท แล้วก็เลยไปอีกด้านหน้าวิทยาลัยกรมศิลป์หัวโค้ง เราเจอกันแถวๆ นั้น"

ป๊อก "เจอกันแถวนั้น แต่ว่าตอนช่วงที่เริ่มคบกันใหม่ๆ เราก็จะใช้ชีวิตตระเวนอยู่แถวนี้ ทำตัวเหมือนนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น มาเดินดูละคร เข้าวัดพระแก้ว ทำตัวเหมือนนักท่องเที่ยวจริงๆ ตอนนั้น"

ตั๊ก "เดินท่าพระจันทร์ไปท่าเตียน"

ป๊อก "ทานข้าว บ้านอยู่แถวนี้ด้วย จีบกันโดยอิงศิลปวัฒนธรรม"

ตั๊ก "ก็เป็นความบังเอิญที่ว่าพอเราเจอกันเมื่อ 10 ปีที่แล้ว จากแค่ 2 ล็อกถนนไปเนี่ย เราก็มาจัดงานที่นี่ จริงๆ แถวๆ นี้รวมๆ มักจะเรียกว่าวังหน้า"

ทำไมของชำร่วยถึงต้องเป็นที่ปั๊ม ขอรับรองว่าเป็นความจริง

ตั๊ก "ขอรับรองว่าเป็นความจริง คือธีมของงานที่ผมจะแสดงในคืนนี้ครับ"

ป๊อก "อยากให้ใช้งานได้ด้วย แล้วก็บอกว่าวันนี้มันเป็นความจริงค่ะ"

ตั๊ก "อย่างน้อยคุณก็มางานผม ก็ขอรับรองว่าเป็นความจริงว่าคุณมางานผมแล้ว"

หลังจากที่ได้ใช้ชีวิตคู่ร่วมกันเป็นอย่างไรบ้าง

ตั๊ก "คือต้องแบ่งกันครับ ต้องแบ่งรับแบ่งสู้กันนี่คือชีวิตคู่ที่ผมเรียนรู้กันนะครับ เวลาอยู่ด้วยกันไม่ใช่ว่าเอาเลยผมไม่ยุ่ง ไม่ใช่ว่าผู้หญิงจะเป็นใหญ่ซะทีเดียว แต่จริงๆ ก็เป็น (ยิ้ม) แต่ว่าเราก็จะส่วนแบ่งเบาภาระเขา อย่างงานวันนี้ก็เป็นเครื่องเตือนใจผม เป็นตัวสอนผมอีกอันนึงว่าที่เราเป็นผู้ใหญ่ขึ้น มีคู่ครอง มีครอบครัว เราต้องทำอะไรเพื่อครอบครัวบ้าง เพื่อให้เราได้สิ่งที่เราคิดว่าเหมาะสมและดีที่สุดกับคนที่จะเป็นคู่ครอง เป็นครอบครัวของเราครับ"

ป๊อก "เป็นความอุ่นใจอย่างนึงนะคะที่เวลาเราทำอะไร แล้วเราเหมือนมีเพื่อนมีเราอีกคนนึงที่คอยยืนอยู่ข้างๆ แล้วก็คอยให้คำปรึกษาที่ดี คอยที่จะเป็นเกราะกำบังให้ในเวลาที่เรายังไม่อยากเผชิญกับอะไร เขาก็จะรับหน้าแทนให้ เขาก็จะคอยให้คำปรึกษาในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว เรื่องจิปาถะตั้งแต่ปลายเท้าจรดปลายหัว คือทุกอย่างช่วยดูแลกันหมด อย่างที่ป๊อกเคยบอกเอาไว้ว่าเขาเป็นเหมือนแฝดป๊อกอีกคนนึง เป็นแฝดที่เรารู้สึกว่าเราไม่ต้องรู้สึกว่าเราลำบากใจที่มีเขาอยู่ข้างๆ เราจะไม่รู้สึกว่าเราเหนื่อยหรือว่าเรามีภาระ แต่การที่มีเขาอยู่ข้างๆ เนี่ยทำให้รู้สึกว่าทุกอย่างมันเต็ม ทุกอย่างมันใช่ ทุกอย่างเป็นส่วนสมบูรณ์ของเรา เพราะฉะนั้นก็เลยรู้สึกว่าเป็นเบตเตอร์ฮาล์ฟ เป็นส่วนที่ดีอีกครึ่งนึงของเราที่เราหาเจอ"

ตั๊ก "เราจะเป็นเบตเตอร์ฮาล์ฟของกันและกัน เราจะไม่เป็นบิตเทอร์ฮาล์ฟนะครับ"

มีคำมั่นสัญญาที่มอบให้กันไหม

ตั๊ก "ผมยังไม่บอกตอนนี้ได้ไหม เพราะผมจะบอกคืนนี้"

เป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุด

ป๊อก "ป๊อกว่าทุกคนจะเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดได้ค่ะ ถ้าเผื่อคุณได้ใช้สติในการเลือกแล้วก็ใช้เวลา ทุกอย่างที่เวลามันเหมาะเจาะ สมควรแก่เวลาในทุกๆ อย่าง จะเป็นสิ่งที่มีความสุขที่สุด แล้วป๊อกเชื่อว่าทุกคนจะเป็นได้"

วางแผนเรื่องทายาท

ป๊อก "ยังค่ะ ช่วงนี้ยังทำงานยังทำอะไรกันเยอะแยะมากมาย"

ตั๊ก "ตอนนี้เราทดลองกันอยู่ มีทดลองมาวิ่งๆ อยู่ข้างนอก"

ป๊อก "มีหลานทดลองอยู่ 2 คน ก็เหนื่อยมาก ก็คิดว่าพอเถอะ (หัวเราะ) ก็ไว้ก่อนค่ะ ยังเป็นเรื่องในอนาคต"

ตั๊ก "ขอพักไว้ก่อน เว้นวรรค"

วางแผนไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ยัง

ป๊อก "เดี๋ยวอังคารนี้ก็ไปค่ะ ตอนแรกแพลนกันเอาไว้ว่าอยากไปภูฏาน ป๊อกยังไม่เคยไป พี่ตั๊กไปมาแล้วพี่ตั๊กบอกว่าน่าไปจังเลยก็อยากไป ปรากฏว่ามันติดลบ แล้วจะไปเดินเที่ยววัดวาอารามต้องเดินต้องขึ้นรอกก็คิดว่าไม่ได้ไปแน่ๆ ก็เลยตัดสินใจว่าไปญี่ปุ่น ไปกันเอง"

ตั๊ก "ผมไม่เคยไป ผมก็เลยขออนุญาตเขาว่าไปญี่ปุ่น ขอไปดูขอไปเที่ยวแบบวัฒนธรรม"

ป๊อก "เที่ยววัฒนธรรม เราอยากไปดูกลอง ดูบูโตะ ก็คิดว่าคราวนี้แบกเป้ไปกัน"

ไปฉลองปีใหม่ที่นู่น

ป๊อก "ค่ะ 10 วันค่ะ"

ตั๊ก "ก็คงได้เคาต์ฯ ที่นู่น"

ป๊อก "เพราะว่าถ้าไม่พักตอนนี้ หลังจากนี้เราจะไม่มีโอกาสได้พักเลย เพราะเราทำงานกันตลอดเวลา ก็เลยถือโอกาสช่วงนี้เลย ใครจะขอคิวบอกว่าเดี๋ยวก่อน ขอไปฮันนีมูนก่อน ซึ่งเป็นข้ออ้างในการหยุดพักที่ดีมาก"

รับงานในวงการบันเทิงเหมือนเดิมไหม

ตั๊ก "ผมกลับมาก็มีละครเวทีเรื่อง นางเสือง เลยครับ เล่นเดือนมกราฯ กลับมาก็ต้องซ้อมให้หนักมาก มีทั้งผมทั้งน้องปอ ทฤษฎี (ทฤษฎี สหวงษ์) น้องกรีน เอเอฟ (อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล) น้องวิทย์ เอเอฟ (พชรพล จั่นเที่ยง) เล่นด้วยกัน หลายๆ ส่วนรอผมซ้อมอยู่ กำลังประณามว่าผมหายไป (หัวเราะ)"

ป๊อก "ตอนนี้ถ่ายอยู่ 2 เรื่อง กลับมาก็ต้องถ่ายกันต่อ แล้วก็เปิดของพี่ต้อ มารุต (มารุต สาโรวาท) อีกเรื่องนึงเป็น 3 เรื่อง แล้วตอนนี้ Together เพิ่งเข้าเพิ่งลงโรงไปเมื่อวันที่ 20"

โกนหนวดเพื่อวันนี้โดยเฉพาะ

ตั๊ก "ถ้าตอบว่าใช่เนี่ยจะดูดีเลยใช่ไหมครับ คือก็มีหลายสาเหตุ หนึ่งนเรศวรฯ ผมถ่ายเสร็จแล้ว พอดีมีละครเข้าอีกเรื่องนึงถ่ายคู่กับป๊อกไว้ของจีทีเอชนะครับ ละครสะท้อนสังคมสร้างสรรค์สังคม ก็โกนหนวดพร้อมกับเล่น นางเสือง ด้วย ต้องโกนหนวดเพราะว่ารับบทพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ พระสวามีของนางเสือง ขอเป็นคนไทยบ้าง เพราะเล่นมาหลายเรื่องเป็นพม่าทุกทีเลย"

การแสดงโขนที่เลือกมาแสดงเป็นตอนอะไร

ตั๊ก "เราจะเน้นในเรื่องของความเป็นยักษ์ เราเลือกบทบาทความเป็นยักษ์มานำเสนอ จะเรียกการแสดงชุดนี้ว่า อสุรพงศ์ ที่ทำชุดนี้ขึ้นมาเพราะที่นี่คือวังหน้า พระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท ท่านประทับอยู่ ถ้าย้อนกลับไปกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น โขนส่วนใหญ่จะเล่นเป็นตัวยักษ์ แล้วเผอิญว่าผมก็เป็นยักษ์ ผมเรียนนาฏศิลป์โขนยักษ์ ดังนั้นเราก็เลยใช้ยักษ์เป็นสื่อครับ"

เรื่องราวเกี่ยวข้องทั้งศิลปวัฒนธรรมและความรักของทั้งคู่

ตั๊ก "มีครับ ทั้ง 2 อย่างล่ะครับ เพราะผมถือว่าผมจัดที่นี่ ผมมีความรักด้านศิลปะ ผมก็เชื่อว่ารักก็คือศิลปะ ดังนั้นมาอยู่ที่นี่วันนี้ผมก็อยู่ท่ามกลางความรักทั้งเพื่อน ทั้งมิตร ทั้งคนที่ผมรัก ทั้งศิลปะที่ผมรัก วัฒนธรรมที่ผมรัก ทุกอย่างครับ เรารักเหมือนกัน"

จากนั้นทั้งคู่ก็เตรียมตัวไปต้อนรับแขกญาติผู้ใหญ่ เพื่อนๆ ที่สนิท รวมไปถึงเหล่าคนบันเทิงที่มาร่วมแสดงความยินดี ที่แต่ละคนก็พร้อมใจใส่ชุดไทยมาร่วมงานกันอย่างพร้อมเพรียง ไม่ว่าจะเป็น "ประวิทย์ มาลีนนท์" "ต้อย - เศรษฐา ศิระฉายา" "สุเชาว์ พงษ์วิไล" "แหม่ม - จินตหรา สุขพัฒน์" "ศานติ สันติเวชชกุล" "คุณชายอดัม - ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล" "จิม - โสภณ ศักดาพิศิษฏ์" "จอย - ศิริลักษณ์ ผ่องโชค" "ภูมิ - ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา" "แอปเปิ้ล - อิษฏ์อาณิก อินทรสูต" "หมูตั้ง - ม.ล.อรรถดิศ ดิศกุล" "ตรี - นันทรัตน์ ชาวราษฎร์" "เสนาลิง - สมเกียรติ จันทร์พราหมณ์" "ผู้พันเบิร์ด - พ.ท. วันชนะ สวัสดี" และภรรยา "ปาล์ม - วริญญา ศิริชุมแสง"

สำหรับในส่วนของพิธีการก็ได้ ผู้พันเบิร์ด รับหน้าที่เป็นพิธีกร เริ่มงานด้วยภาพวีทีอาร์ของทั้งคู่ ต่อด้วยบรรยากาศวันหมั้น ตามมาด้วยการแสดงตีกลองจากอาจารย์ "มานพ ยาระณะ" การแสดง "ฟ้อนผาง" ภาพวีทีอาร์การรำฉุยฉายจากเจ้าบ่าว และการแสดงโขนชุด "อสุรพงศ์" ที่ในตอนท้ายมีซุ้มกระบี่ เพื่อให้ ตั๊ก และ ป๊อก ลอดผ่านเปิดตัว

จากนั้น "ท่านมุ้ย - ม.จ. ชาตรีเฉลิม ยุคล" ประธานในพิธีจะขึ้นมากล่าวนำถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และอวยพรให้กับคู่บ่าวสาว ต่อด้วยคุณพ่อคุณแม่ของทั้ง 2 ฝ่ายและตัวบ่าวสาวเองกล่าวขอบคุณแขกที่มาร่วมงาน นอกจากนั้น ตั๊ก ก็ขอให้คำมั่นสัญญาความรักที่มีต่อ ป๊อก แบบหวานๆ ด้วยเพลง "รับรองว่าเป็นความจริง" ที่แต่งขึ้นเป็นพิเศษเพื่อเจ้าสาว ก่อนจะเสร็จสิ้นในช่วงพิธีการด้วยการตีกลองแสดงความเป็นไทยแทนการตัดเค้ก