สะท้อนชีวิต มิตรภาพ และความฝัน ในภาพยนตร์ เด็กสาว
"เด็กสาว" เรื่องราวชีวิต มิตรภาพ และความฝันของ 5 สาวที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งเป็นการนำเนื้อหาจากเรื่องสั้น "สู้เขาสิ อ้อ" ของนักเขียน "ฟ้า พูลวรลักษณ์" ซึ่งเป็นนามปากกาของ "วิเชียร พูลวรลักษณ์" พี่ชายของ "วิสูตร พูลวรลักษณ์" ผู้บริหารบริษัท จีเอ็มเอ็ม ไท หับ จำกัด หรือที่คุ้นเคยกันในชื่อ จีทีเอช มาดัดแปลงเป็นบทภาพยนตร์ โดยเจ้าตัวลงมือทำเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ทั้งทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการสร้าง ผู้กำกับ เขียนบท ตัดต่อ หาสถานที่ถ่ายทำ และคัดเลือกนักแสดง
เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ได้มีการเปิดตัวภาพยนตร์ไปบริเวณหน้าโรงภาพยนตร์สยามภาวลัย ชั้น 6 พารากอน ซีนีเพล็กซ์ โดยมี 5 นักแสดงนำของเรื่อง "เจน - เจนจิรา จำเนียรศรี" "ส้มโอ - วรรณษา ภู่นิเทศ" 3 นักกีฬาเรือพาย "เจน - ศรินธร ยิ่งชาติ" "อะตอม - ศิขะริน ทรัพย์อดิเรก" และ "แป้ง - ธัญกาญจน์ พิเชฐไพศาล" มาร่วมพูดคุย
ฟ้า เผยถึงแรงบันดาลใจที่เลือกหยิบเรื่องสั้นที่ตนเองเขียนมาสร้างเป็นภาพยนตร์ว่า "นานมาแล้ว ไปเจอเด็กผู้หญิงคนนึงชื่อ อ้อ บ้านเขาอยู่อยุธยา เขามาเล่าเรื่องแข่งเรือให้ฟัง ฟังแล้วประทับใจมากก็เลยเก็บเป็นจินตนาการเรื่อยๆ จนกลายเป็นเรื่องสั้นขึ้นมาในอีก 25 ปีต่อมา คิดว่าถ้าได้สร้างก็อยากจะทำเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก"
ฟ้า เล่าถึงการคัดเลือกนักแสดงว่า "น้องเจนจิรารู้จักเขาตั้งแต่สมัยเขาเล่น ฝัน-หวาน-อาย-จูบ คนนี้น่ารักดี คิดในใจว่าให้เขาเล่นเป็นอ้อไปเลย พอตอนจะสร้างก็คิดขึ้นมาว่าเด็กคนเนี่ยเหมาะ เอามาแคสติ้งนิดหน่อย แต่จริงๆ เลือกแล้ว ส่วนน้องส้มโอหรือว่าบทแตนเป็นตัวสำคัญของเรื่อง ผู้ช่วยเอามาเสนอกี่คน ไม่ชอบไม่ถูกใจสักคน ท้ายสุดก็ต้องไปลุยเอง ไปเดินตามโมเดลลิ่ง เดินๆ ไปจนกระทั่งไปดูรูปถ่ายของน้องส้มโอเขา ดูแล้วก็ปิ๊งว่าคนนี้ชอบ แต่น้องที่เหลือ 3 คนเป็นนักกีฬาเรือพาย ตอนถ่ายหนังเรื่องนี้จริงๆ ผมกังวลใจเรื่องฉากแข่งเรือมาก เพราะว่ามันพายยาก กลัวว่าถ้าไม่ใช่นักกีฬานี่กลัวเรือจะคว่ำ ก็เลยไปหาจากสมาคมเรือพายหลายแห่ง ก็เรียกมาแคสติ้ง ในที่สุดก็เลือกทั้ง 3 คนนี้ครับ"
เจน เจนจิรา พูดถึงบทบาทในเรื่องที่แตกต่างจากตัวเองและบทอื่นๆ ที่เคยแสดงมาว่า "รู้สึกดีใจค่ะ พออ่านบทแล้วก็รู้สึกท้าทายเหมือนกัน เพราะว่าแต่ละเรื่องที่เคยเล่นมาก็จะเป็นตัวเอง หลุดโลก บ้าบอ เป็นเด็กไฮเปอร์ แต่พอมาเรื่องนี้เปลี่ยนไปเลย เป็นเด็กพื้นบ้านพื้นเมือง เป็นเด็กเรียบร้อยเหมือนแบบไม่มีสีสันในชีวิตฉูดฉาดอะไร ไม่ฝืน แต่ทำอะไรก็ค่อยๆ ลดๆ" ในบทต้องเป็นนักแข่งเรือพาย แต่ในชีวิตจริง เจ้าตัวว่ายน้ำไม่เป็น "กลัวน้ำ ว่ายน้ำไม่เป็น พี่ฟ้าเขาจัดเวิร์กชอปให้ไปเรียนพายเรือ 10 วัน จากที่กลัวก็เริ่มปรับตัวเข้ากับเรือได้ค่ะ"
ฟากสาว ส้มโอ เรียกได้ว่าได้รับใกล้เคียงกับตัวเอง "บทเข้ากับตัวหนูเองค่ะ เป็นสาวห้าว ประทับใจบทพายเรือ คือที่บ้านหนูอยู่ติดริมคลองค่ะ พายเรือเป็นอยู่แล้วด้วยค่ะ" ส่วนสาวนักกีฬา เจน ศรินธร ที่ต้องพลิกมาเป็นนักแสดง พูดถึงการเข้าฉากครั้งแรกว่า "ครั้งแรกฉากแรกก็รู้สึกเกร็งค่ะ เพราะว่าไม่เคยถ่ายอะไรอย่างนี้นอกจากพายเรือ เกร็งมาก พี่ฟ้าก็เลยบอกว่าให้ตามสบายให้เป็นตัวของเราเองเหมือนไม่ได้ถ่าย"
ด้าน อะตอม บอกความรู้สึกที่ได้แสดงภาพยนตร์เรื่องแรกว่า "ก็รู้สึกตื่นเต้นน่ะค่ะ เพราะว่าไม่เคยแสดงหนังมาก่อน ฉากแรกที่ได้เข้าฉากก็กลัวจะลืม คือเป็นบทพูดคุยกัน จะมีแต่ละคนพูดเสร็จปุ๊บ พอถึงคิวหนูก็จะถึงแล้วก็กลัวจะลืมบทแต่ก็ไม่ลืมค่ะ" แป้ง พูดว่า "ความรู้สึกของแป้งก็คือตอนแรกดีใจก่อน แล้วก็เริ่มรู้สึกเกร็ง เพราะว่าแป้งจะได้บทที่ไม่ค่อยพูด จะได้บทที่แสดงทางสีหน้าเยอะ แล้วก็จะเป็นคนที่ดูโตที่สุดในทีม เพราะว่าต้องคอยดูแลเพื่อนแล้วก็คอยห้ามเพื่อนเวลาทะเลาะกันด้วย"
ส่วนความยากในการกำกับนักแสดงเด็กถึง 3 รุ่น ผู้กำกับก็กล่าวว่า "ผมรักเด็กๆ นะ เวลาทำงานกับเด็กๆ แล้วมีความสุข คิดว่าถ้าเรารักอะไรแล้วไม่ยากหรอกครับ มันไม่เหมือนกัน ผมว่ารุ่นจิ๋วเนี่ยมันไม่ยาก เพราะว่าผมไม่ได้ทำอะไรเลย คือตามเขาให้เขานำแล้วเราค่อยตาม ก็เลยจะออกมาเป็นธรรมชาติ ส่วนรุ่นกลางเนี่ยผมว่าเขาก็เล่นเก่งอยู่แล้ว ผู้กำกับถึงไม่เก่ง เด็กก็เล่นเก่งคือเขาเก่งอยู่แล้ว แต่มารุ่นโตนี่ค่อนข้างมีปัญหา เพราะว่าเขาเป็นนักกีฬาเขาจะไม่มีทักษะเรื่องแสดง ส่วนผมค่อนข้างจะอ่อนแอ็กติ้งก็เลยค่อนข้างลำบากหน่อย พยายามทำเท่าที่ทำได้นะครับ"
แม้ว่าจะเป็นนักกีฬาพายเรืออยู่แล้ว แต่ 3 สาวลงมติเป็นเสียงเดียวกันว่า ฉากยากที่สุดคือฉากพายเรือ ซึ่ง แป้ง เผยว่า "ฉากที่ยากที่สุดของแป้งนะคะ ก็คือฉากที่พายเรือ ถึงแม้ว่าเราจะเป็นนักกีฬาอยู่แล้ว แต่ว่ากระแสน้ำหรืออะไรที่เหนือความคาดหมาย เราก็ไม่สามารถที่จะจัดการกับมันได้ทั้งหมด แล้วก็จะมีการแสดงทั้งสีหน้าท่าทางแล้วก็มีบท ก็เลยคิดว่าเป็นบทที่ยากที่สุด เพราะว่าเป็นสิ่งที่เรากำหนดไม่ได้" อะตอม "เสริมว่า " าจจะเป็นบทที่พูดคุยกันในเรือค่ะ ต้องพูดกันหลายรอบ อารมณ์ทุกสิ่งทุกอย่างต้องได "
ฟ้า กล่าวฝากถึงภาพยนตร์เรื่องแรกของตัวเองแบบสั้นๆ ว่า " ็อยากให้แฟนๆ มาชมนะครับ อยากให้ผู้ชมมีความสุขกับภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วบอกต่อๆ กันไปครับ"
ติดตามเรื่องราวความผูกพันและการแข่งขันได้ในภาพยนตร์เรื่อง เด็กสาว เริ่มเข้าฉายตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 2555 เฉพาะโรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ เท่านั้น