ม้ง สงครามวีรบุรุษ อิงประวัติศาสตร์ปลุกคนไทยให้รักชาติ
"ม้ง สงครามวีรบุรุษ" ภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์ ซึ่งหยิบเอาเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงจากสมรภูมิเขาค้อ เมื่อปี พ.ศ. 2511 มาสร้างเป็นภาพยนตร์เพื่อปลุกกระแสให้คนรุ่นหลังรักชาติ ผลิตโดย บริษัท ป้าเย้ง เรซ อัพ โปรดั๊กชั่น จำกัด บริษัทภาพยนตร์ของชาวม้งแห่งแรกในไทย ซึ่งเป็นการกำกับร่วมกันระหว่างผู้กำกับฝั่งไทย "โหน่ง - เสรี พงศ์นิธิ" และ "เจมมี่ ว่างลี" ผู้กำกับสายเลือดม้งที่ลงมือเขียนบทภาพยนตร์ด้วยตัวเอง และภาพยนตร์เรื่องนี้ยังได้รับคำชมเชยยกให้เป็น "เบสต์ ออฟ เดอะ เฟสติวัล" หลังจากนำไปฉายใน "เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ มินนีแอโพลิส เซนต์ พอล อินเตอร์เนชั่นแนล ฟิล์ม 2012" ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา อีกด้วย
เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ที่ผ่านมา ได้มีงานเปิดตัวภาพยนตร์ ณ ลานอินฟินิซิตี้ พารากอน ซีนีเพล็กซ์ โดยมีผู้บริหาร "ณัฐพงษ์ ชญาพิพรรธน์กุล" "มานิตย์ แซ่ว่าง" โปรดิวเซอร์ของภาพยนตร์ทั้งฝั่งม้ง "ไหล่ - วิชัย แซ่อื้อ" และฝ่ายไทย "มิ้งค์ - เพ็ญจันทร์ วงศ์สมเพ็ชร" รวมไปถึงนักแสดงในเรื่องมาร่วมงานกันอย่างคับคั่งทั้ง "โบวี่ - อัฐมา ชีวนิชพันธ์" "อัค - อัครัฐ นิมิตชัย" "โอ๊ค - พีระพันธ์ อารียาพันธ์" "นัฐพงษ์ สืบศักดิ์วงศ์" "โชค - โชคชัย เจริญสุข" "สุเชาว์ พงษ์วิไล" "ปู - นาตยา จันทร์รุ่ง" "ฤทธิ์ ลือชา" "สุเอจ พูลสวน" และ "ศานติ สันติเวชชกุล" เริ่มเปิดงานด้วยเพลงประกอบภาพยนตร์ "เพื่อเธอ" ที่ร้องโดย "ปอ - อธิวัฒน์ ส่งประเสริฐฐากูร" และ "สแนร์ - ศิริพร อรุณบุญสวัสดิ์"
ไหล่ พูดถึงภาพยนตร์ว่า "เป็นภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาสาระเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ แล้วก็ได้ความบันเทิงด้วยนะครับ ถ้าได้เข้าไปดูแล้วจะเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์แล้วก็จะได้รับความบันเทิงไปพร้อมๆ กันด้วย เดี๋ยวเข้าไปชมกันแล้วจะรู้ว่ามันเป็นยังไง แล้วก็บทสรุปของตัวละครแต่ละตัว ท้ายที่สุดแล้วมีบางตัวละครมาถามตัวเองว่าสิ่งที่เขาทำนั้นน่ะถูกไหม ซึ่งคนที่ตอบก็คือผู้ชมครับ เพราะงั้นไปดูว่าทำไมเขาถึงกลับมาอย่างนั้น"
ส่วนเหตุผลที่หยิบยกเรื่องราวของชาวม้งมาสร้างเป็นภาพยนตร์นั้น โปรดิวเซอร์ ไหล่ บอกว่า "เนื่องจากว่าบริษัทเราเป็นบริษัทม้งบริษัทแรกที่ทำเกี่ยวกับภาพยนตร์ เพราะงั้นเราจึงอยากจะทำอะไรที่เกี่ยวกับม้ง มีม้งเป็นส่วนเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งประวัติศาสตร์ก็มีส่วนคาบเกี่ยวระหว่างม้งกับไทย ก็เลยหยิบยกประเด็นตรงเขาค้อเอามาทำครับ"
โหน่ง กล่าวถึงสิ่งที่ผู้ชมจะได้รับจากการชมภาพยนตร์ว่า "ส่วนนึงก็คือความบันเทิงนะครับ ผมเน้นเรื่องความบันเทิงมาก่อน ดูแล้วมีฉากต่อสู้ มีฉากดราม่าที่ตัวละครผูกพันกันต้องพลัดพรากจากกัน นอกจากนี้ส่วนที่จะเสริมก็คือว่าประวัติศาสตร์เป็นเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นจริง เป็นบทเรียนนึงที่ทุกวันนี้คนที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นยังจดจำกันอยู่"
ด้านนักแสดงหน้าใหม่ อัค เล่าถึงบทบาทที่ได้รับว่า "ในเรื่องรับบทเป็นเก๊งครับ เป็นเด็กม้งที่ไม่ได้โตที่ชุมชนม้ง แต่ว่ารับราชการเป็นทหาร ต้องเลือกระหว่างความผูกพันระหว่างพี่น้องม้งแล้วก็ประเทศชาติครับ" โบวี่ พูดว่า "รับบทเป็นอารียานะคะ ในเรื่องพ่อของอารียาเป็นทหารที่เสียชีวิตในสมรภูมิเขาค้อค่ะ พอเราโตขึ้นมาเราก็เรียนหมอ แล้วก็มีเหตุให้กลับไปเขาค้ออีกครั้งในขณะที่ยังมีการรบกันอยู่ สงครามยังไม่จบค่ะ"
ฟากนักแสดงชาวม้ง นัฐพงษ์ เผยความรู้สึกที่ได้ร่วมงานในเรื่องนี้ว่า "รู้สึกเป็นเกียรติแล้วก็ได้เอาตำนานของวีรบุรุษทุกท่านที่ได้สู้รบกันอยู่ตรงเขาค้อ ทุกท่านทุกฝ่ายได้มีโอกาสแสดงเรื่องนี้เท่ากับเป็นการยกย่องวีรบุรุษทุกท่าน ก็เป็นเกียรติมากแล้วก็เป็นหนังที่คนไทยน่าจะมาดู เพราะว่าประเทศชาติทุกวันนี้ผมคิดว่าทุกคนถ้าชมเสร็จจะรักประเทศชาติมากกว่าทุกวันนี้ครับ ในฐานะที่ผมเป็นชาวไทยเชื้อสายม้ง ผมเกิดที่เมืองไทย โตที่เมืองไทย รักประเทศไทยเหมือนกับคนไทยทุกๆ คนครับ คิดว่าหนังเรื่องนี้จะเป็นหนังที่ได้เปิดเผยความจริงที่ 40 กว่าปีที่แล้วที่เกิดปัญหาความคิดที่แตกแยกกัน แล้วเราได้ข้อคิดนั้นมาสรุปในการดำรงชีวิตหรืออยู่ในประเทศนี้อย่างไร ก็คิดแล้วก็หวังว่าคนไทยทุกคนน่าจะได้ชม หลังจากที่ชมเสร็จจะได้ข้อคิดได้คติจากหนังเรื่องนี้แล้วจะรักประเทศไทยมากกว่านี้ครับ"
โบวี่ บอกความรู้สึกที่เป็นส่วนหนึ่งในภาพยนตร์ว่า "โบก็มีความรู้สึกภาคภูมิใจมากที่โบได้เล่นภาพยนตร์เรื่องนี้ เพราะโบคิดว่าเนื้อหาของมันมีคุณค่ามากๆ นะคะ เป็นภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์ซึ่งเราได้เห็นถึงผู้ที่เสียสละเพื่อคนอื่น คำว่าสงครามวีรบุรุษ วีรบุรุษในที่นี่หมายถึงทุกๆ คนที่เสียสละ ไม่ว่าจะเป็นฝั่งคอมมิวนิสต์ ฝั่งทหารไทย ม้ง หรือนักศึกษาไทย ทุกคนทำเพื่ออุดมการณ์และตายเพื่อคนอื่น เพราะฉะนั้นทุกคนเป็นวีรบุรุษหมดค่ะ ก็รู้สึกภาคภูมิใจ ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้แสดงให้คนเห็นถึงเหล่าวีรบุรุษเหล่านี้ค่ะ ที่สำคัญก็ยังกล่าวถึงพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงด้วยที่ทำให้ประเทศชาติเรา คนทุกเผ่าพันธุ์ในชาติไทยเรารวมเป็นหนึ่งเดียวได้ค่ะ"
โอ๊ค กล่าวว่า "เป็นหนังสงครามอิงประวัติศาสตร์นะครับ เป็นเรื่องจริงที่สร้างขึ้นมา เมื่อก่อน 40 ปีที่แล้วนะครับ ถือว่าเป็นเรื่องดีเรื่องนึงเลยนะครับ บทพล็อตเรื่องก็ดีมากแล้วก็ได้รางวัลมาด้วยนะครับ ก็อยากให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคนติดตามชมผลงานภาพยนตร์ของไทย เรื่องนี้ดีไม่แพ้เมืองนอกครับ"
โบวี่ พูดถึงการนำภาพยนตร์ไปฉายที่อเมริกาว่า "ภาพยนตร์เรื่องนี้ ม้ง สงครามวีรบุรุษ ได้มีโอกาสไปฉายโชว์ที่เทศกาลหนังที่ประเทศอเมริกานะคะ ที่เมืองมินนีแอโพลิส แล้วทางเทศกาลหนังเขาก็ชมเชยภาพยนตร์เราว่าเป็น เบสต์ ออฟ เดอะ เฟสติวัล นะคะ คือฝรั่งเขายังมองว่าภาพยนตร์เรื่องนี้มีคุณค่าแล้วก็มีเสน่ห์นะคะ โอเคเรื่องเทคนิคเปรียบเทียบกับหนังฮอลลีวูดอาจจะยากนิดนึง เพราะว่างบประมาณไม่เหมือนกัน แต่แน่นอนว่าต้องมีอะไรบางอย่างแหละ เขาถึงได้ชอบเขาถึงได้ชมมา ยังไงโบก็อยากฝากให้คนไทยมาช่วยกันอุดหนุนด้วยนะคะ ฝรั่งเขายังชื่นชมก็ลองมาดูว่าภาพยนตร์เรื่องนี้มีอะไรค่ะ"
ติดตามเรื่องราวประวัติศาสตร์พร้อมบทสรุปของปัญหาความขัดแย้งทางความคิด ไปพร้อมๆ กับภาพยนตร์เรื่อง ม้ง สงครามวีรบุรุษ เข้าฉายวันที่ 30 สิงหาคม นี้ในโรงภาพยนตร์