จอห์น แนช ปฏิเสธข่าวเป็นเกย์ มีชู้ และเป็นพวกต่อต้านยิว
หลังจากที่ภาพยนตร์เรื่อง A Beautiful Mind เรื่องราวของ จอห์น แนช นักคณิตศาสตร์อัจฉริยะผู้ป่วยเป็นโรคจิตหลอน แต่สุดท้ายก็สามารถเอาชนะโรคร้ายและค้นพบทฤษฎียิ่งใหญ่ ที่ทำให้เขาเป็นเจ้าของรางวัลโนเบลในที่สุด กวาดรางวัลมาแล้วจากหลายเวทีด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น
- รางวัลลูกโลกทองคำ ในสาขาภาพยนตร์ดรามายอดเยี่ยม ดารานำชายยอดเยี่ยม ดาราประกอบหญิงยอดเยี่ยม และบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
- รางวัลจากสมาคมผู้กำกับหรือ DGA Awards ครั้งที่ 54 ซึ่ง รอน โฮเวิร์ด ผู้กำกับการแสดงเรื่องนี้ได้รับรางวัลผู้กำกับการแสดงยอดเยี่ยม
- รางวัล BAFTA หรือออสการ์อังกฤษ A Beautiful Mind กวาดรางวัลดารานำชายยอดเยี่ยม ดาราสมทบหญิงยอดเยี่ยม
- รางวัล SAG Awards หรือรางวัลจากสมาคมนักแสดงอเมริกา A Beautiful Mind ได้รางวัลสาขาดารานำชายยอดเยี่ยม
- รางวัลจากสมาคมผู้เขียนบทภาพยนตร์แห่งอเมริกาหรือ Writer Guild of America โดย อากิว่า โกลด์สแมน ได้รับรางวัลในสาขาบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม
สำหรับรางวัลออสการ์ที่กำลังจะประกาศผลในคืนวันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคมหรือเช้าตรู่วันจันทร์ที่ 25 มีนาคมตามเวลาในประเทศไทย A Beautiful Mind ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลทั้งหมด 8 สาขา คือ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ผู้กำกับการแสดงยอดเยี่ยม บทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม ดารานำชายยอดเยี่ยม ดาราสมทบหญิงยอดเยี่ยม ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม ตัดต่อยอดเยี่ยม และแต่งหน้ายอดเยี่ยม
กระแสของ A Beautiful Mind จึงนับว่าเป็นภาพยนตร์ที่มาแรงที่สุดในออสการ์ปีนี้ รวมถึงนโยบายการโปรโมตของทางบริษัทสร้างหนัง คือ ยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส ที่ให้ จอห์น ฟอร์บส์ แนช จูเนียร์ ตัวจริงเสียงจริงวัย 72 ปีออกมาให้สัมภาษณ์ออกรายการ 60 minutes โดยให้แนชพูดถึงชีวประวัติตัวเอง ซึ่งเป็นการปลุกกระแสหนังเรื่องนี้อีกทางอ้อม
แต่กระแสในแง่ลบของหนังเรื่องนี้ก็มีอยู่มากมายเช่นเดียวกันตั้งแต่ รัสเซล โครว์ ผู้รับบท จอห์น แนช ในหนังออกอาการโมโหจนเกือบมีเรื่องชกต่อยกับโปรดิวเซอร์งานประกาศผลรางวัล BAFTA หรือออสการ์อังกฤษเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ด้วยสาเหตุทางรายการได้ตัดสุนทรพจน์ของเขาออกไปในส่วนที่เป็นบทกวี จนทำให้สื่อทั้งอังกฤษและอเมริกาจำนวนหนึ่งไม่พอใจในการกระทำของดาราหนุ่มผู้นี้
หรือจะเป็นนักวิจารณ์และสตูดิโอสร้างหนังคู่แข่งที่กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า A Beautiful Mind เป็นหนังที่จงใจไม่นำเสนอความจริงเกี่ยวกับชีวิตของ จอห์น แนช ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแนชเป็นเกย์ เคยมีความสัมพันธ์กับผู้ชาย แอนตี้ยิว และทำผู้หญิงท้องแล้วไม่รับผิดชอบ แต่ทางผู้กำกับ คือ รอน โฮเวิร์ดได้เลือกที่จะเสนอแต่เรื่องราวในด้านดีๆ ในชีวิตของนักคณิตศาสตร์อัจฉริยะที่ป่วยเป็นโรคจิตหลอน ตลอดจนถึงความรัก ความเอาใจใส่จากอลิเชีย แนชภรรยาผู้เสียสละ จนทำให้หนังเรื่องนี้กลายเป็นแค่หนังรักเรื่องหนึ่งเท่านั้น
แต่สิ่งที่แนชพูดในรายการ 60 Minutes เหมือนเป็นการแก้ข้อกล่าวหาและสยบเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่ออกมาทั้งหมด แนชกล่าวปฏิเสธอย่างสิ้นเชิงในข้อกล่าวหาทั้งหมดที่พูดๆ กัน โดยเฉพาะข้อที่ว่าเขาเป็นพวกต่อต้านยิว แนชกล่าวว่าเป็นผลพวงของอาการป่วยเป็นโรคประสาทหลอน ซึ่งทำให้พูดจาออกไปอย่างไม่รู้ตัว
"ผมทำอะไรแปลกๆในบางช่วงของชีวิต" แนชกล่าวกับไมค์ วอลเลซพิธีกรรายการ 60 Minutes ทางช่องซีบีเอสของอเมริกา "มันเป็นเสียงที่จิตใต้สำนึกของผมพูดออกมา ซึ่งตอนนั้นผมไม่รู้ตัว"
แนชได้ปฏิเสธอีกข้อกล่าวหาที่ว่าเขาเป็นเกย์ และมีความสัมพันธ์กับผู้ชายมาก่อนด้วยประโยคสั้นๆ เพียงแค่ว่า "ผมคิดว่าผมไม่พูดถึงเรื่องนั้นจะดีกว่า" ในเรื่องนี้ได้ความคิดเห็นของ อลิเชีย ภรรยาของแนชที่ปฏิเสธเรื่องดังกล่าวอย่างหัวชนฝามาเป็นเสียงสนับสนุนสำคัญว่าสามีของตนไม่ได้เป็นเกย์ว่า "ฉันรู้จักเขาตั้งแต่ฉันอายุได้ 20 ปี เรื่องแนชเป็นเกย์ไม่เป็นความจริงแน่ๆ ฉันยืนยัน"
ข้าง ซิลเวีย นาซาร์ ผู้เขียนหนังสือชีวประวัติของ จอห์น แนช นักคณิตศาสตร์รางวัลโนเบลเมื่อปี 1998 ที่รอน โฮเวิร์ดหยิบเอาไปสร้างเป็นหนังได้เขียนจดหมายชี้แจงไปยังหนังสือพิมพ์ลอสแองเจลีสไทม์ส ซึ่งเคยตีพิมพ์ว่าแนชมีพฤติกรรมเป็นพวกรักร่วมเพศ ประพฤติผิดศีลธรรม มีชู้ และเป็นพวกต่อต้านยิวว่าข้อความเหล่านั้นไม่เป็นความจริง โดยจดหมายของซิลเวียตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าวเมื่อวันพุธที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา มีเนื้อความสำคัญว่า
"ไม่มีใครที่ฉันสัมภาษณ์ พูดเลยสักคนว่าแนชเคยมีความสัมพันธ์ทางเพศกับผู้ชายด้วยกัน" นอกจากเรื่องเกย์แล้ว นาซาร์ยังชี้แจงเรื่องต่อต้านยิวของแนชว่าแนชพูดสิ่งเหล่านั้นไปในขณะที่เขากำลังป่วยทางจิตอยู่ ไม่ใช่ว่าเขาเป็นคนหัวดื้อขวางโลกหรือเป็นคนเหยียดผิวแต่อย่างใด
รอน โฮเวิร์ด ผู้กำกับเรื่องนี้ก็ออกมาพูดเรื่องที่คนวิพากษ์วิจารณ์หนาหูว่าหนังของเขาบิดเบือนความจริง และเลือกเสนอแต่แง่มุมที่สวยงามของชีวิต จอห์น แนช ว่า เขาเลือกเสนอแต่แง่มุมที่เขาคิดว่าเขาอยากจะเสนอ และเขาก็ไม่ได้สร้างหนังสารคดีชีวประวัติของ จอห์น แนช เพราะฉะนั้นการเลือกนำเสนอบางอย่างมันไม่ใช่สิ่งที่ผิด
การที่จอห์น แนชตัวจริงออกมาพูดออกอากาศ เพื่อแก้ไขเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในทางลบของตัวเองแบบนี้ นับได้ว่าเป็นการปลุกกระแสของภาพยนตร์ A Beautiful Mind บนเวทีออสการ์โดยอ้อมอย่างหนึ่ง แต่ผลการตัดสินที่จะประกาศบนเวทีออสการ์ในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ จะออกหัวออกก้อยอย่างไรก็ต้องขึ้นอยู่กับสมาชิกสถาบันศิลปะและวิทยาศาสตร์การภาพยนตร์แห่งอเมริกา จำนวนกว่า 6,000 คนที่ทำหน้าที่เป็นกรรมการตัดสิน