ฝนตกขึ้นฟ้า ความซับซ้อนที่ตั้งใจให้ติดตามง่ายโดย เป็นเอก
"ฝนตกขึ้นฟ้า" ภาพยนตร์ฟิล์มนัว เนื้อหาสะท้อนด้านมืดของสังคม เป็นผลงานอีกหนึ่งเรื่องที่ได้รับความสนใจทั้งจากคนไทยและชาวต่างชาติ จากฝีมือของผู้กำกับเลื่องชื่อ "ต้อม - เป็นเอก รัตนเรือง" ดัดแปลงมาจากบทประพันธ์ที่มีชื่อเรื่องเดียวกันว่า "ฝนตกขึ้นฟ้า" ของ "วินทร์ เลียววาริณ" นักเขียนเจ้าของ 2 รางวัลซีไรต์
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการร่วมทุนสร้าง จากงบสนับสนุนของกระทรวงวัฒนธรรม ตามโครงการส่งเสริมสนับสนุนการสร้างภาพยนตร์และวิดีทัศน์แห่งชาติภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง และทุนสนับสนุนจากประเทศฝรั่งเศสอีกด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้รับเลือกให้ไปฉายในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ โตรอนโต อินเตอร์เนชั่นแนล ฟิล์ม เฟสติวัล ประเทศแคนาดา และเทศกาลภาพยนตร์โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น มาแล้ว
งานเปิดตัวรอบปฐมทัศน์ในไทยของ ฝนตกขึ้นฟ้า มีขึ้นเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ณ โรงภาพยนตร์เอสเอฟเวิลด์ ซีเนม่า เซ็นทรัลเวิลด์ โดยมีผู้กำกับและนักแสดงนำ "ปีเตอร์ - นพชัย ชัยนาม" "คริส - ศิริน หอวัง" "โจ้ - อภิสิทธิ์ โอภาสเอี่ยมลิขิต" หรือ "โจอี้ บอย" และนักแสดงสาวน้องใหม่ "ดรีม - ชนกพร สยังกูล" ที่มาประชันบทบาทในเรื่อง มาร่วมพูดคุยถึงเรื่องราวในภาพยนตร์
ต้อม พูดถึงความน่าสนใจในภาพยนตร์ว่าอยู่ตรงการนำเสนอของเรื่องที่เข้าถึงคนดูได้มากกว่าเรื่องก่อนๆ "คิดว่าสิ่งที่น่าสนใจที่สุดกับหนังเรื่องนี้ ก็คงจะเป็นว่าในที่สุดแล้วเป็นเอกทำหนังดูง่ายๆ สักที ทำให้คนอื่นดูบ้าง คิดว่าอันนี้เป็นสิ่งที่น่าตกใจที่สุด มันก็ซับซ้อน เป็นความซับซ้อนที่จะต้องมีในเรื่องแต่ว่าติดตามได้ง่าย" ส่วนที่มีผู้ชมบางส่วนบอกว่าภาพยนตร์ที่ ต้อม สร้างนั้น ดูแล้วไม่เข้าใจ เจ้าตัวบอกว่า "ไม่ครับ เรื่องนี้ไม่ครับ เพราะว่าถึงตอนนี้มีคนดูมาแล้วเยอะเหมือนกัน เพราะว่าเรื่องนี้ทำหนังให้คนอื่นดู ระหว่างตัดต่อก็ต้องเอาคนมาดูบ่อยๆ ดีหรือยัง รู้เรื่องไหม งงไหม สนุกไหม ก็ต้องเอาคนมาดูเยอะ ส่วนมากที่มาดูก็ยังไม่มีประโยคคลาสสิกอันนั้น"
ผู้กำกับเผยว่าการหยิบบทประพันธ์มาสร้างเป็นภาพยนตร์ มีทั้งความยากและง่ายผสมกัน "มีความง่ายหน่อยตรงที่ว่าเราไม่ได้คิดเรื่องเอง เขาคิดเรื่องมาให้เราแล้ว เราก็แค่ตัดต่อ อะแดปต์ เปลี่ยนแปลงนิดหน่อยตรงที่เราว่าเห็นสมควรไม่สมควร ไม่ยากเท่าเขียนบทเอง ข้อดีของการเขียนบทเองคือเราไม่ต้องกลัวใคร อันนี้ผมก็จะกลัวพี่วินทร์มากระหว่างที่ทำไป ผมไม่ได้ปรึกษาเขาเลยมันเลยน่ากลัว เพราะเขาบอกว่าโทรปรึกษาได้ แต่ว่าเราก็เกรงใจด้วยก็เลยทำเอง"
คริส เอ่ยประทับใจ ต้อม กับการมาร่วมงานกันครั้งแรก "รู้สึกเป็นเกียรติมากค่ะ เพราะว่าคริสมีโอกาสได้ไป โตเกียว ฟิล์ม เฟสติวัล กับเขา ยิ่งได้เห็นใหญ่เลยว่าเขายิ่งใหญ่ขนาดไหน นอกจากประเทศไทยของเราเนี่ยเขาก็ดังมากอยู่แล้ว เขาดังทั่วโลกเลยค่ะ ก็รู้สึกเป็นเกียรติมาก ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ" สำหรับบทบาทที่ได้รับก็ขัดกับบุคลิกส่วนตัว "คนละแบบ คนละเรื่องเลยค่ะ บทคริสจะเป็นคนนิ่งๆ หน่อย ยากสำหรับคริส เพราะว่าคริสเป็นคนที่ร่าเริงหน่อย คือคราวนี้พอต้องกดและเก็บทุกอย่าง ก็เลยรู้สึกว่ามันน้อยไปไหม ต้องออกตัวมากกว่านี้ไหม เวลาพูดต้องมีอารมณ์มากกว่านี้ไหม แต่พี่ต้อมเขาเอาเรียบๆ ค่ะ ของพี่ปีเตอร์เนี่ยเยอะมากแล้วก็หล่อมากเรื่องนี้"
ส่วน ปีเตอร์ แม้ว่าจะเคยได้ร่วมงานกับ ต้อม มาแล้วในภาพยนตร์เรื่อง "นางไม้" แต่เจ้าตัวก็ยอมรับว่ายากและต้องมีการปรับใหม่ "คนละเรื่อง คนละวิธี คนละแบบครับ ก็เริ่มต้นใหม่จากศูนย์คุยกันใหม่เลยครับ ยากกว่าเยอะครับ เพราะต้องทำตัวเท่ๆ ตลอดเวลา ตอนต้นเรื่องก็เป็นตำรวจแล้วหลังจากนั้นก็โดนผู้มีอิทธิพลรังแก ชีวิตก็เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ครับ"
โจอี้ บอกถึงบทที่ต้องแสดงว่า "บทนี้ท้าทายครับ เป็นบทที่ทรงอิทธิพลนะครับ ต้องทำตัวน่าเชื่อถือมากๆ นะครับ เป็นที่รักของประชาชน ถึงจะต้องรับบทนี้ ถึงจะต้องมีความรู้สึกอย่างนี้ออกมาได้ คืออยู่บนโลกด้วยเชื่อที่ว่าตัวเองถูกต้องที่สุดนะครับ ก็แตกต่างกันออกไปครับ บทอันนี้ค่อนข้างจะจับง่าย ก็มีตัวอย่างให้เห็นอยู่เยอะแยะ"
ส่วนนักแสดงสาวน้องใหม่ ดรีม ที่มาแสดงเรื่องแรก ก็มีฉากวาบหวิวจนเป็นที่กล่าวถึง เผยว่า "ก็ถือว่าเป็นบททดสอบที่ดีในชีวิตเลยค่ะ เพราะว่ามีนักแสดงหลายๆ ท่านหลายๆ คนก็มีความใฝ่ฝันที่อยากจะได้ร่วมงานกับ พี่ต้อม เป็นเอก นะคะ เรื่องแรกดรีมก็ได้เล่นกับพี่ต้อมเลย ดรีมก็ถือว่าเป็นเกียรติมากๆ แล้วก็ภูมิใจด้วยค่ะ"
สำหรับสิ่งที่ต้องการนำเสนอในภาพยนตร์ ต้อม กล่าวว่า "มาจากบทประพันธ์ ในตัวบทประพันธ์พูดถึงเรื่องคอร์รัปชันของสังคมเรา ซึ่งพี่วินทร์เขียนหนังสือเล่มนี้มานานมากแล้วครับ แต่ว่าปัจจุบันก็ยังเหมือนหนังสือเล่มนี้อยู่ ไม่เคยเปลี่ยน มีอีกเรื่องนึงสำหรับหนังแนวแอ็กชันทริลเลอร์มันมีเรื่องของกรรม เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาว่า คุณทำอะไรไว้ คุณต้องชดใช้มันก่อน ชีวิตคุณถึงจะเดินต่อไปได้ ซึ่งปกติธีมแบบนี้จะไม่ค่อยมีอยู่ในหนังประเภทแอ็กชัน"
ผู้กำกับ เผยได้กระแสตอบรับที่ดีจากการไปฉายในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ "เทศกาลที่เปิดตัวครั้งแรกที่โตรอนโตกระแสตอบรับก็ดี มีเซอร์ไพรส์เล็กน้อย เป็นเอกทำหนังอย่างนี้ได้ด้วยเหรอ การเซอร์ไพรส์ครั้งนี้บางคนก็บอกว่าดีอยากดูอย่างนี้มานานแล้ว แต่บางคนค่อนข้างผิดหวัง ที่ญี่ปุ่นก็ค่อนข้างดีมาก คนที่ชอบส่วนใหญ่ก็จะชอบว่าเป็นหนังเกี่ยวกับมือปืน โลกของยาเสพติด คอร์รัปชัน ที่ไม่ได้ออกมาเป็นหนังแบบว่าไล่ยิงกันทุก 10 วินาที ระเบิดจอเต็มไปหมด มีการทำสงคราม มันไม่ใช่ ที่เขาชอบกันเหมือนกับว่าเราทำหนังประเภทนี้แต่ว่าเป็นอีกแนวนึง"
ต้อม กล่าวทิ้งท้ายฝากถึงภาพยนตร์ว่า "ฝนตกขึ้นฟ้า จะเข้าโรงฉายวันที่ 24 นี้ แล้วก็เข้าเฉพาะในเครือเอฟเอส เพราะฉะนั้นใครที่อยากจะไปดูดาราคับคั่งเหล่านี้ประชันฝีมือกันนะครับ ก็โทรเช็คนิดนึงแล้วก็มาดูกันเยอะๆ นะครับ" จากนั้นปิดท้ายงานด้วยเพลงประกอบภาพยนตร์ "ส่วนที่หายไป" จากเสียงร้องของ "อารักษ์ อาภากาศ"
ติดตามเรื่องราวชีวิตที่พลิกผันของอดีตตำรวจหนุ่มและเรื่องราวของกฎแห่งกรรม ผลงานจากปลายปากกาของ วินทร์ เลียววาริณ เล่าเรื่องเป็นภาพด้วยฝีมือการกำกับของ ต้อม ได้ใน ฝนตกขึ้นฟ้า 24 พฤศจิกายน นี้ เข้าฉายเฉพาะโรงภาพยนตร์ในเครือเอสเอฟ ซีเนม่า เท่านั้น