งานเปิดตัว ขุนแผน หนังไทยในมุมมองของ ธนิตย์ จิตนุกูล
ย้อนเวลากับไปหานักรัก นับรบ จอมขมังเวทย์ที่มีของวิเศษ 3 อย่าง ได้แก่ ดาบฟ้าฟื้น ม้าสีหมอก และกุมารทอง วันนี้ ขุนแผน ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ในมุมมองใหม่ของ ปื๊ด - ธนิตย์ จิตนุกูล ผู้กำกับ 150 ล้านบาทจากบางระจัน
งานแถลงข่าวเปิดตัว ขุนแผน เมื่อวันที่ 7 มีนาคม ที่ผ่านมา ปื๊ด เล่าให้ฟังถึงสาเหตุที่นำมาสร้างเป็นภาพยนตร์อีกครั้งว่า เสภาขุนช้างขุนแผนเป็นเรื่องเล่าจากปากชาวบ้านต่อๆ กันมา และกลายเป็นวรรณกรรมในราชสำนักในสมัยรัชกาลที่ 3 ความน่าสนใจ ก็คือ โดยปกติตัวละครมักจะมีแต่ด้านสว่าง แต่เรื่องนี้ตัวละครเอกมีทั้งด้านมืดและด้านสว่าง มีครบทุกรสชาติ นอกจากนี้ ยังเคยถูกสร้างเป็นภาพยนตร์มาแล้วในชื่อว่า พิมพิลาไลย และถูกนำมาสร้างเป็นละครอีกหลายครั้ง คงจะไม่เหลืออะไรตกค้างให้ผู้ชมสงสัยอีกแล้ว จึงเป็นความท้าทายของคนทำหนัง ถ้าหากสามารถนำมาถ่ายทอดอีกมุมมองหนึ่งได้
มุมมองที่แตกต่าง คือ พระพันวสา น่าจะมีส่วนเกี่ยวพันกับวิถีชีวิตของขุนแผนเป็นอย่างมาก การเล่นเชิงชายของ ขุนช้าง ขุนแผน และพระพันวสา ส่งผลกระทบต่ออิสตรีเพศ เกิดเป็นรักสามเส้า การจะเรียกขุนแผนที่มีภรรยามากกว่า 1 คนว่าน่ายกย่องอาจจะเปลี่ยนไป หากได้ชมขุนแผนเวอร์ชันนี้
ใครที่เคยชมภาพยนตร์ตัวอย่างแล้ว คงจะต้องชื่นชมแน่นอนกับฝีมือคอมพิวเตอร์กราฟิกของคนไทย ปื๊ด ออกปากอย่างภาคภูมิใจว่าไม่อายชาวต่างชาติ ส่วนฉากเลิฟซีนที่เป็นข่าวฮือฮาตั้งแต่ก่อนภาพยนตร์ออกฉายนั้น ปื๊ด เล่าให้ฟังว่าเคยถามตัวเองว่าถ้าทำขุนแผนแล้วไม่มีฉากรักกับนางทั้งห้า ความเป็นขุนแผนจะสมบูรณ์ไหม ซึ่งทีมงานมีความตั้งใจจะนำเสนอฉากรักที่มีความวิจิตร ความงาม ทางด้านอารมณ์ ที่จะสื่อให้ผู้ชมเข้าใจด้านลึกของตัวละครมากกว่าที่ทำให้ฉากรักเป็นตัวดึงดูดให้ผู้คนเข้าไปดูภาพยนตร์เรื่องนี้ ความรับผิดชอบในการเป็นคนทำภาพยนตร์ยังต้องมีอยู่ และยืนยันว่าไม่เป็นพิษเป็นภัยต่อเยาวชนของชาติแน่นอน ปื๊ด เล่าอย่างติดตลกว่า "กำกับฉากเลิฟซีนทำให้เครียดมาก แต่ก็ชอบนะ"
"เมื่อดูจบแล้ว ทุกคนจะมองหรือพูดถึงขุนแผนในมุมที่ต่างออกไปจากก่อนที่จะเข้าไปดูหนังเรื่องนี้ หลายคนจะรักขุนช้าง จริงๆ แล้วผมทำหนังเรื่องนี้เพื่อตัวผมเองด้วย เผื่อว่าสาวๆ จะชอบคนหน้าตาแบบนี้บ้าง แทนที่จะไปเลือกรูปหล่อ รูปงาม อย่างเดียว" ปื๊ด กล่าวทิ้งท้ายได้น่ารักจริงๆ