สัมผัสเสียงเพลงบรรเลงชีวิตราชินีลูกทุ่ง พุ่มพวง ดวงจันทร์
"พุ่มพวง" ภาพยนตร์ที่หยิบเอาเรื่องราวในชีวิตของ "ผึ้ง - พุ่มพวง ดวงจันทร์" ตั้งแต่วัยเด็กที่ต้องฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ จนประสบความสำเร็จกลายเป็นราชินีลูกทุ่งที่เป็นขวัญใจคนไทยทั้งประเทศ มาถ่ายทอดลงบนแผ่นฟิล์ม ฝีมือการกำกับของ "อ๊อด - บัณฑิต ทองดี" และมี "ปรัชญา ปิ่นแก้ว" นั่งแท่นเป็นผู้อำนวยการสร้าง ซึ่งบทภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ดัดแปลงมาจากนวนิยายชีวประวัติเรื่อง "ดวงจันทร์ที่จากไป" ฝีมือการเขียนของนักเขียนรางวัลซีไรต์ "บินหลา สันกาลาคีรี"
ก่อนจะเริ่มงานเปิดตัวภาพยนตร์เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ณ โรงภาพยนตร์ พารากอน ซีนีเพล็กซ์ เหล่านักแสดงนำอย่างนักร้องน้องใหม่ "เปา - เปาวลี พรพิมล" ผู้รับบทเป็น พุ่มพวง ดวงจันทร์ "ป๋อ - ณัฐวุฒิ สกิดใจ" "ถนอม - วิทยา เจตะภัย" "บุญโทน คนหนุ่ม" และทีมงานได้จุดธูปไหว้เพื่อบอกกล่าวต่อหน้ารูปของราชินีลูกทุ่ง จากนั้น เปา ก็มาอวดเสียงร้อง โดยหยิบบทเพลงดังของ พุ่มพวง มาขับกล่อมให้ได้ฟังกัน เริ่มต้นที่เพลง "นักร้องบ้านนอก" ต่อด้วย "ผู้ชายในฝัน" "กระแซะเข้ามาซิ" และปิดท้ายด้วย "โลกของผึ้ง"
อ๊อด บอกถึงความยากในการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า "การที่เราจะเริ่มทำภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้องกับประวัติของคน เราต้องทำโดยความรัก เพราะว่าเราไม่รู้ว่าเราทำไปแล้ว จะทำให้คนที่เขาชื่นชอบ เขากลับมาหาว่าเปลี่ยนบทหรือเปล่า การที่เอาชีวิตของคนที่อยู่รอบข้างพี่ผึ้งมาใช้ทำเป็นหนังก็เป็นเรื่องที่จะต้องระวัง ค่อนข้างยากกับการเตรียมงาน การเขียนบท การพูดคุย การสืบประวัติ ทุกอย่างใช้เวลาในการทำงานนานมากครับ ถ้ามาถึงวันนี้ก็ประมาณ 3 ปีกว่าแล้วครับ"
ส่วนเรื่องราวที่จะได้ชมในภาพยนตร์ ผู้กำกับเผยว่า "เราจะเห็นผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนึงนะครับ ซึ่งผมใช้คำว่าเป็นผู้หญิงที่มหัศจรรย์มากสำหรับวงการบันเทิง ก็คือผู้หญิงที่อ่านหนังสือไม่ออก เขียนหนังสือไม่ได้ เพราะว่าฐานะทางบ้านค่อนข้างจะยากจน แต่สามารถฝ่าฟันอุปสรรคแล้วก็ต่อสู้เอาชนะความฝัน ทำตามความฝันจนวันนึงกลายเป็นราชินีลูกทุ่งได้ เป็นขวัญใจของคนทั้งประเทศมาเป็นเวลากว่า 30 ปี ผมว่าไม่ใช่เรื่องธรรมดา อีกเรื่องที่เห็นก็คือชีวิตของเขาว่าเขาฝ่าฟันต่อสู้ยังไงถึงได้มาเป็นราชินีลูกทุ่งครับ"
ด้าน ป๋อ ที่เกือบพลาดไม่ได้แสดงภาพยนตร์เรื่องนี้ พูดว่า "มันคือความเชื่อครับ คือเราเชื่อในตัวคุณพุ่มพวง พี่อ๊อดเชื่อในตัวน้องเปากับตัวผมว่าจะสื่อสารกันได้ จริงๆ ผมเกือบเปลี่ยนตัวไปแล้วนะ ผมไม่มีคิว ผมก็บอกผมขอถอนตัว แล้วพี่อ๊อดก็บอกหยุดกองประมาณเดือนกว่าเพื่อจะรอให้ผมเล่นเรื่องนี้ให้ได้ ผมก็รู้สึกขอบคุณและดีใจมาก เพราะฉะนั้นก็คือเราเชื่อในบทภาพยนตร์ด้วย เราเชื่อว่าคนไทยยังรักคุณพุ่มพวงอยู่นะครับ ผมเชื่อว่าคุณพุ่มพวงก็จะมาดูภาพยนตร์เรื่องนี้ไปกับเราครับ"
เปา กล่าวความรู้สึกถึงผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกว่า "มีความรู้สึกตื่นเต้นค่ะ ดีใจที่เราทำมันจนจบ แล้วก็ทำอย่างสุดความสามารถค่ะ" ด้าน ป๋อ เองก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน "ตื่นเต้นมากครับ แล้วพี่อ๊อดเขาบอกว่าเป็นหนังที่เขาตื่นเต้นที่สุดเลยเรื่องนี้กับการทำ ผมเป็นนักแสดงก็ตื่นเต้นไปด้วย เพราะชอบคุณพุ่มพวงมาก แล้วก็เลยอยากให้ทุกอย่างออกมาแล้วประทับใจที่สุดเท่าที่จะทำได้"
อ๊อด พูดถึงเรื่องกระแสความคาดหวังจากหลายๆ ฝ่ายว่า "ตอนแรกทำด้วยความตั้งใจอยู่แล้ว เต็มที่ครับ พอตอนหลังมากระแสของคนคาดหวังเยอะก็ถือว่าทำเต็มที่เต็มความสามารถแล้ว นักแสดง ทีมงานแล้วก็ผู้สร้างทุกคนตั้งใจเต็มที่แล้ว ออกมายังไงก็ให้คนดูเป็นผู้พิสูจน์ แล้วเป็นผู้ให้คำตอบว่าเป็นยังไงบ้าง แต่เราก็ถือว่าเราสุดๆ แล้ว ทำเต็มที่แล้วครับ" ด้านนักแสดงน้องใหม่ก็บอกว่า "ก็ดีใจค่ะที่ทุกคนให้ความสนใจกับภาพยนตร์เรื่องนี้มาก แล้วก็เชื่อว่าแฟนเพลงของแม่ผึ้งทั่วทั้งประเทศกำลังตั้งตารอภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่ ยังไงก็อยากให้สนับสนุนหนังไทยแล้วก็เป็นกำลังใจให้หนูด้วยนะคะ"
นักแสดงสาวยังกล่าวถึงสิ่งที่ได้เรียนรู้จากบทบาทที่ได้รับว่า "เรียนรู้เยอะมากค่ะ ทั้งเรื่องเลย เพราะว่าแม่ผึ้งเป็นเหมือนแม่แบบค่ะ มีทั้งความอดทน แล้วก็ความกตัญญู แล้วก็ความเป็นอัจฉริยะของแม่ผึ้งค่ะ" พร้อมทั้งเผยว่าก่อนหน้านี้ได้มีการไปขอพรจากราชินีลูกทุ่งมาด้วย "มีค่ะ ก็บอกอยู่ตลอดเลย ขอให้เพลงแม่ผึ้งกลับมาเป็นที่นิยมโด่งดัง แล้วก็ขอให้แฟนเพลงของแม่ผึ้งชมภาพยนตร์เรื่องนี้กันเยอะๆ"
ด้าน บุญโทน ที่เคยมีโอกาสได้ร่วมงานกับ พุ่มพวง ก็พูดถึงราชินีลูกทุ่งให้ฟังว่า "ที่เจ๊ผึ้งมีวันนี้ขึ้นมาได้ เพราะเจ๊ผึ้งเป็นตัวจริง นักร้องเนี่ยเสียงต้องมาก่อนภาพ สมัยก่อนนักร้องเสียงต้องมาก่อนภาพ เดี๋ยวนี้นักร้องภาพต้องมาก่อนเสียง เจ๊ผึ้งเป็นนักร้องตัวจริงเสียงจริง อ่านหนังสือไม่ออกแต่จำบทเพลงที่ครูเพลงเขียนแล้วอัดเทปให้ไปฟัง แล้วสามารถถ่ายทอดบทเพลงนั้นๆ มาตามที่ครูเพลงต้องการอยากให้ร้อง ร้องถูกใจคนแต่ง ดังทุกเพลงครับ ที่เจ๊ผึ้งได้เป็นขวัญใจแฟนเพลงทั่วเมืองไทยทุกวันนี้ ก็เพราะว่าร้องเพลงแล้วตีบทเพลงได้แตกกระจายทุกๆ เพลง เลยเป็นขวัญใจแฟนเพลงชาวไทยครับ ผมว่าผมแหล่แล้วจำได้แม่นแล้วนะ แต่สู้เจ๊ผึ้งไม่ได้ เขาเอาหัวที่ไหนมาจำก็ไม่ทราบนะ เก่งจริงๆ"
บุญโทน กล่าวเพิ่มเติมถึง เปา ที่รับบท พุ่มพวง ว่า "ผมคิดว่าน้องเปาวลี พรพิมล แสดงเป็น พุ่มพวง ดวงจันทร์ ได้ใกล้เคียงที่สุด แล้วทำได้ไม่ได้เนี่ย บางท่านอาจจะไม่รู้ แต่ผมรู้อยู่ว่าทำได้แน่นอน เปาวลี พรพิมล ถ่ายทอดความเป็น พุ่มพวง ดวงจันทร์ ให้ท่านได้ชมแล้วอย่างไม่เขอะไม่เขินเลย เชิญชมได้แล้วจะรู้เองครับ" ส่วน ป๋อ พูดถึงการทำงานร่วมกับ เปา ว่า "สบายครับ ผมชอบเด็กอยู่แล้ว การทำงานกับเด็กมันคล่องเหลือเกิน ไหลลื่น แต่ว่าผู้กำกับเขาเก่งครับ สามารถดึงความสามารถของน้องเปาออกมาได้ ต้องยกให้กับผู้กำกับครับที่สามารถกำกับคนนึงที่ไม่เคยแสดงเลย สามารถถ่ายทอดชีวิตยากๆ มากๆ ของคุณพุ่มพวง เดี๋ยวเราจะได้พิสูจน์กัน"
ส่วนภาพยนตร์เรื่องนี้จะสร้างปรากฏการณ์ความดังให้เกิดขึ้นได้ไหม ถนอม ตอบว่า "จะกลับมาสร้างปรากฏการณ์ได้อีกครั้งนึงหรือไม่ ผมว่าคำตอบน่าจะอยู่กับผู้ชมทุกๆ คนนะครับ ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่พี่น้องรวมทั้งสื่อมวลชนทุกๆ สำนัก ช่วยกันพูด ช่วยกันบอกต่อๆ ไป อยากให้คนที่บ้าน ให้พ่อให้แม่ ให้พี่น้อง ให้ลูกเล็กเด็กแดง ปู่ย่าตายาย ใครก็ได้ที่สามารถมาดูหนังได้ ให้ชวนกันมาดูเยอะๆ มาดูมาช่วยกันสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ของ พุ่มพวง ดวงจันทร์ แล้วไปดูกันว่าชีวิตของ พุ่มพวง ดวงจันทร์ จากก้อนดินกว่าจะขึ้นถึงดวงจันทร์ได้ เขาต้องสู้ ใช้พลังและศรัทธา"
ป๋อ เปรยถึงเหตุผลที่คนต้องไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า "จริงๆ ต้องบอกนะครับว่าเราทำให้คนไทยดู เราทำหนังสำหรับครอบครัวไทย แล้วคุณพุ่มพวงเป็นฮีโร่ของคนไทยทางเสียงเพลง โดยเฉพาะเพลงลูกทุ่ง เพราะฉะนั้นแน่นอนที่สุด ตำนานฮีโร่ทางเสียงเพลงคนนี้ไม่มีวันตาย วันเวลาผ่านไปไม่ว่าเธอจะเสียชีวิตไปแล้ว เราก็ยังคิดถึงเธออยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นผมว่าพ่อแม่พาลูกมาดูได้ แนะนำว่าเนี่ยคือฮีโร่เมืองไทยสมัยก่อน เขาสู้มาขนาดไหนกว่าเขาจะได้เป็นนักร้องขนาดนี้ รวมถึงลูกๆ สามารถพาคุณพ่อคุณแม่มาเปิดลิ้นชักความทรงจำ แล้วก็ยิ้ม แล้วก็ร้องไห้ไปกับเรื่องราวของคุณพุ่มพวงได้เช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นผมว่าคงไม่มีเหตุผลอะไรที่คนไทยจะไม่ไปดูเรื่องนี้ครับ"
ด้านผู้กำกับก็กล่าวถึงสิ่งที่ได้รับหลังชมภาพยนตร์ว่า "ข้อแรกผมว่าได้รับเรื่องของความรู้สึกเก่าๆ ความรู้สึกผูกพันที่มีต่อพี่ผึ้ง พุ่มพวง ความรู้สึกรักและศรัทธาที่มีต่อพี่ผึ้งจะได้กลับมาอีกครั้งนึงแน่ๆ อีกอันนึงคือสิ่งที่คนดูจะได้รับคือใครที่กำลังมีฝันแล้วอยากจะต่อสู้เพื่อจะเอาชนะ มาดูหนังเรื่องนี้แล้วคุณจะได้กำลังใจและแรงบันดาลใจกลับไปครับ"
เปา ฝากทิ้งท้ายว่า "อยากให้มาดูชีวิตแม่ผึ้งที่หนูเชื่อว่าทุกคนอาจจะยังไม่รู้มาก่อนว่าแม่ผึ้งกว่าจะมาเป็นราชินีลูกทุ่ง กว่าจะทำความฝันของตัวเองให้สำเร็จต้องฝ่าฟันอุปสรรคอะไรมาบ้าง ก็อยากให้ไปชมเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนที่มีความฝัน นอกจากที่จะได้ชมภาพยนตร์แล้วนะคะ แล้วก็ยังได้ฟังกับเสียงเพลงของแม่ผึ้ง ได้ดูชุดที่สวยงามด้วย ก็อยากฝากทุกๆ คนให้มาชมภาพยนตร์เรื่องเรื่อง พุ่มพวง กันเยอะๆ" และ ป๋อ ช่วยเสริมว่า "ถ้าชมแล้วก็บอกต่อด้วย มาชม 2 รอบ 3 รอบได้ เขาไม่ห้ามนะครับ บอกเพื่อนได้เลย"
ติดตามเรื่องราวชีวิตของ พุ่มพวง ดวงจันทร์ ที่กว่าจะมาเป็นราชินีลูกทุ่งได้ไปพร้อมๆ กับภาพยนตร์ พุ่มพวง เข้าฉาย 21 กรกฎาคม นี้ ในโรงภาพยนตร์