ระทึกขำๆ ชวนหวาดเสียวไปกับภาพยนตร์ เท่งโหน่งจีวรบิน
"เท่งโหน่งจีวรบิน" ภาพยนตร์แนวตลกเรื่องล่าสุดผลงานการกำกับของ "เท่ง - พงษ์ศักดิ์ พงษ์สุวรรณ" หรือ "เท่ง เถิดเทิง" ร่วมด้วย "โอ๋ - สมิทธิ์ ทิมสวัสดิ์" ที่ขนมุกตลกมาฝากคนดู พร้อมด้วยฉากที่อลังการงานสร้าง และสอดแทรกข้อคิดต่างๆ ในเรื่อง ซึ่งได้มีงานเปิดตัวรอบปฐมทัศน์ไปเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ณ โรงภาพยนตร์พารากอน ซีนีเพล็กซ์
ในงานเริ่มต้นด้วยมินิคอนเสิร์ตจากผู้กำกับและนักแสดงนำของเรื่องอย่าง เท่ง กับเพลง "กินตับ" ซึ่งถูกนำมาใช้ประกอบภาพยนตร์ ต่อด้วยการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องราวความสนุกสนานร่วมกับผู้กำกับ โอ๋ รวมถึง "โหน่ง ชะชะช่า" หรือ "โหน่ง - ชูศักดิ์ เอี่ยมสุข" "เต๋า - สมชาย เข็มกลัด" "โม - อมีนา พินิจ" และ "เล็ก - สมชาย ศักดิกุล" หรือ "สมเล็ก ศักดิกุล"
โหน่ง เผยสาเหตุที่เรื่องนี้ยอมให้ เท่ง เด่นอยู่คนเดียวว่า "เรื่องนี้ต้องให้เขา หนังเขาดี เพลงก็ดีควบคู่กันไป ปีนี้ปีของคุณเท่ง" นอกจากนี้ก็ยังเล่าถึงผลตอบรับของ เท่งโหน่งจีวรบิน หลังจากที่ได้ปล่อยภาพยนตร์ตัวอย่างออกไปแล้วว่า "ก็จะมีคนถามเยอะ เข้าเมื่อไรพี่โหน่ง เข้าเมื่อไร"
มาที่ โอ๋ ผู้กำกับอีกคนที่กล่าวถึงการทำงานร่วมกับเหล่านักแสดงทุกคนในเรื่องนี้ว่า "ก็ดีครับ คือเราก็เจอกันอยู่แล้ว เคยทำงานกันมาก่อนแล้ว ก็ดีครับ คิดว่าจะโดนนะครับ เพราะว่ามันมีอะไรหลายๆ อย่างที่ให้คนดูได้รู้สึก มีทั้งตลก มีทั้งแอ็กชัน มีทั้งคติเตือนใจคนดูด้วย ผมว่าน่าจะมีอะไรให้คนดูเยอะ" ด้าน โหน่ง กล้ารับประกันว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่มีคำหยาบแน่นอน "ผมรับประกันครับ พี่ชายผมไม่มีหยาบแน่นอน ถ้ามีคำหยาบอยู่ในหนังผมให้ปรับคำละ 2 พัน ไม่มีๆๆ"
เท่ง ที่รับบทเป็นพระในเรื่องเล่าที่มาที่ไปของการทำภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า "ตั้งใจคือทำให้เป็นหนังของครอบครัว เพราะวันหน้าหรือวันไหนก็ช่างถ้าเกิดเอามาดูอีก ลูกเต้าเอามาดูอีก เด็กๆ ดูได้สบายเลย คือแรกเราทำเรื่อง จีวรบิน คือผมเป็นพระ เราก็ได้คุยกับโอ๋แล้วว่า เอ๊ะ เอาเราเล่นเป็นพระหรือให้โหน่งเล่น กลัวอย่างเดียวเลยว่าพอไปสวมจีวรพระ แล้วเอาพระไปเล่นอย่างไหน เอาไปเล่นแบบไหน เพราะว่าบ้านเราศาสนาพุทธค่อนข้างที่จะถือเรื่องพระมาก แล้วเอาพระไปขับเครื่องบิน เอาพระไปกระโดดจากเครื่องบินและก็เหินเวหาเป็นจีวรบินอย่างนี้แล้วจะเซ็นเซอร์ไหม ก็ถามว่าถ้าดูตรงนี้แล้วโดนเซ็นเซอร์แน่นอน แต่มันก็มีเหตุและผล มีเนื้อเรื่องพาไป คุณเป็นพระ ผมว่าคุณน่าจะทำมากกว่าพระรูปนี้"
มาที่นางเอกสาวของเรื่องอย่าง โม ที่เพิ่งมาชิมลางงานด้านภาพยนตร์เรื่องแรกกับบทเลขานุการส่วนตัวของ เสี่ยโหน่ง ได้เผยความรู้สึกกับการร่วมงานกับพี่ๆ ตลกทุกคนว่า "ดีค่ะ สนุกสนานมีแต่เสียงหัวเราะตลอดเวลา" ซึ่ง โม เล่าบรรยากาศในกองถ่ายว่าจะหลุดขำตลอด "อุ๊ยบ่อยค่ะ บ่อยจนพี่เท่งบอกว่าให้ถ่ายใหม่ ให้ถ่ายใหม่ตลอด โมเป็นคนยิ้มง่าย พอโมถ่ายแล้วไปดูในจอมอนิเตอร์คือโมยิ้มอยู่คนเดียว บางฉากบางซีนเนี่ยโมไม่ทัน มุกพี่เขาเล่นสดกันแต่หลังๆ เริ่มชิน"
ด้าน เต๋า ที่พอถูกถามว่ารู้สึกอย่างไรที่เรื่องนี้เป็นคนที่ขี้เหร่ที่สุดและร้ายสุดๆ เจ้าตัวถึงกับหัวเราะพร้อมกับบอกว่า "ถูกต้องครับ มันเป็นระเบียบของคณะเขาอยู่แล้วครับ และก็บอกว่าดีใจครับที่ได้มาเป็นผู้ร้ายและเจอพระเอกหน้าตาดีทั้งสองคนนี้" นอกจากนี้ผู้ร้ายในเรื่องยังได้เล่าถึงความรู้สึกที่ได้มาร่วมงานกับตลกชื่อดังทั้ง เท่ง และ โหน่ง ว่า "ตลกครับ ก็แต่มีอย่างหนึ่งซึ่งตอนที่ถ่ายทำกันคือผมไม่ได้ตลก"
ส่วนหัวหน้าโจรอย่าง เล็ก ที่คราวนี้มาแปลกจากที่เคยเห็นกันในบทตลกสุดๆ หรือไม่ก็ร้ายสุดๆ แต่มาครั้งนี้กลับเล่นเป็นหัวหน้าโจรที่มีธรรมะในใจ ซึ่งชายหนุ่มผู้มีหนวดเป็นเอกลักษณ์เปิดเผยกับบทบาทที่ได้รับว่า "จริงๆ โจรมันต้องเลวใช่ไหม จริงผมก็เลวอยู่แล้ว ไม่เลวหรอก แต่ว่าทำไมเวลาโจรที่เลวๆ เวลาเจอพระมันถึงมีพฤติกรรมที่แปลกๆ"
เท่ง กล่าวเพิ่มเติมตัวละครของโจรในเรื่องว่า "คือคาแรกเตอร์พี่สมเล็กกับเต๋าเป็นโจรด้วยกัน แต่ว่าโจรคนละรูปแบบอย่างพี่เล็กหัวหน้าโจร แต่อีกมุมหนึ่งเขาจะยังเป็นคนที่มีศาสนา ยังยกมือไหว้พระได้ ยังเคยคิดจะบวชให้แม่ได้ แต่มุมของเต๋านี่คือเป็นมุมของคนที่ไม่มีศาสนา ผมต้องการคาแรกเตอร์นี้ เลยให้เต๋าแบบทำอะไรกับพระ แล้วก็คาแรกเตอร์ตั้งแต่เริ่มแรกมา เต๋ามีคาแรกเตอร์ที่ชัดเจนคือเป็นคนใจร้อนและก็ความใจร้อนนี่เองไปหาคำตอบเอา"
นอกจากนี้ โอ๋ ผู้กำกับยังได้เปิดเผยถึงความอลังการของฉากต่างๆ ในภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า "ก็คือก่อนที่เราจะไปถ่ายทำเนี่ยเราต้องมีการวางแผนก่อนว่าวันนี้เราจะถ่ายอะไร เตรียมอะไร คือเราเตรียมงานค่อนข้างดีนะถึงได้ออกมาดี" และยังบอกต่อถึงฉากที่อยากให้คนดูจับตาดู "ก็มีซีจีครับ ค่อนข้างที่จะอลังการพอสมควร ให้ดูคาแรกเตอร์ของพี่เท่งมากกว่า จะไม่เคยเห็นพระหรือพี่เท่งในบทแบบนี้"
ด้าน โหน่ง พูดถึงฉากแย่งชิงตู้เซฟว่า "ทำไมสองมหาโจรถึงอยากได้เซฟนี่ และตรงที่ผมบอกรหัสเซฟนะ อยากให้ติดตามตรงนั้น มันมีอะไรหลายอย่างตอนที่ผมบอกรหัสเซฟ" ส่วน เท่ง เผยถึงฉากนี้ว่า "เซฟเนี่ยเป็นของเสี่ยโหน่ง เสี่ยโหน่งเขาค้าขายทับทิมระหว่างประเทศไทยกับทิเบต และเขาก็จะไปค้าทับทิม และก็ได้ข่าวว่าพระเนี่ยจะกลับเมืองไทย ก็เลยรับพระองค์นี้กลับเมืองไทย แค่นั้นเอง"
เหตุการณ์การแย่งชิงตู้นิรภัยนี้จะเป็นอย่างไร เหล่าโจรจะสามารถเปิดตู้นิรภัยได้หรือไม่ และในตู้นั้นมีอะไร ทำไมพวกโจรถึงอยากได้มากมาย เชิญหาคำตอบได้ใน เท่งโหน่งจีวรบิน ตั้งแต่วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2554 เป็นต้นไปในโรงภาพยนตร์