กุ๊ก ตัดสินใจเลือก หนุ่ม เป็นคู่ชีวิต จูงมือเข้าพิธีวิวาห์หวาน
มีข่าวน่ายินดีอีกหนึ่งคู่ สำหรับผู้ประกาศข่าวสาว "กุ๊ก - กฤติกา ศักดิ์มณี" จากรายการ "เรื่องเล่าเช้านี้" ที่จูงมือแฟนหนุ่มทายาทของผู้ผลิต แบตเตอรี่ สามเค อย่าง "หนุ่ม - วีรวิน ขอไพบูลย์" เข้าพิธีวิวาห์หวานไปเมื่อวันที่ 9 มกราคม ที่ผ่านมา ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล
โดยในช่วงเช้าได้มีพิธีหมั้นที่บ้านของฝ่ายชายในซอยสุขุมวิท 101 หลังจากนั้นในช่วงเย็นเป็นการจดทะเบียนสมรส ต่อด้วยพิธีการหลั่งน้ำสังข์ และฉลองมงคลสมรส สำหรับของชำร่วยที่มอบให้ในงานนั้นเป็นพวงกุญแจรูปหัวใจ ที่มีตัวอักษรย่อชื่อจริงของ กุ๊ก และ หนุ่ม สลักไว้ที่พวงกุญแจ ซึ่งก่อนที่จะมีพิธีการดั่งกล่าวในช่วงเย็น ทั้ง กุ๊ก และ หนุ่ม ก็ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องราวต่างๆ ของทั้งคู่ ซึ่งรวมไปถึงการพบรักกัน ที่มีพี่ชายแท้ๆ ของ หนุ่ม นั่นก็คือ "หนึ่ง - วีรวัฒน์ ขอไพบูลย์" เป็นพ่อสื่อ จุดประกายทั้งสองคนให้ได้มารู้จักกันด้วย
เจอกันได้อย่างไร
กุ๊ก "เจอกันเพราะว่าทำงานนะคะ ไปสัมภาษณ์พี่ชายคุณหนุ่ม เราก็ทำหน้าที่ของเราปกติค่ะ แล้วก็พี่ชายคุณหนุ่มชื่อคุณวีรวัฒน์เขาก็พูดขึ้นมาเล่นๆ ว่าเขามีน้องชายคนหนึ่งหน้าตาดี แต่นิสัยไม่ค่อยดีเนี่ย กุ๊กสนใจไหม กุ๊กก็คิดว่าคงจะเป็นการพูดเล่นใช่ไหมคะ กุ๊กก็เลยบอกไปว่าคือวัยนี้แล้วเนี่ยขอนิสัยดีๆ หน้าตาไม่เกี่ยงแล้วอะไรอย่างนี้ ก็พูดเล่นกลับไปไม่ได้คิดอะไร เขาก็ย้ำอีกว่าทำไมล่ะ เขารู้สึกว่าผู้หญิงชอบคนอาจจะแบบเกเรนิดๆ ไม่ใช่เหรอ วัยรุ่นก็คงพอไหวนะ วัยเราไม่เอาแล้ว เพราะหน้าตายังไงก็ได้แต่นิสัยดีๆ ก็พูดกันเล่นๆ
หลังจากนั้นได้ไปทำงานพิธีกรให้กับครอบครัวของคุณหนุ่ม แล้วก็พอไปทำงานพิธีกรเนี่ย ก็ได้เจอกับคุณหนุ่ม แล้วก็ยังไม่ได้จีบกันหรือว่าอะไรกันหรอกค่ะ แต่พี่ชายเขาก็พยายามที่จะสานต่อให้ได้เจอกัน คุณแม่พี่หนุ่มเองก็พยายามที่จะสานต่อให้ได้เจอกันอะไรอย่างนี้ค่ะ"
หนุ่ม ประทับใจอะไรในตัว กุ๊ก
หนุ่ม "คือเคยเห็นเขาในทีวีมาก่อนอันนี้คงจะแน่นอน ไม่ได้คิดอะไรในวันแรก เพราะว่าต่างคนต่างมาทำงาน เขามาเป็นพิธีกรในงานแถลงข่าว แล้วผมก็มีหน้าที่แถลงในสิ่งที่ผมต้องคุย ซึ่งบังเอิญเวลาทำงานผมค่อนข้างจะจริงจัง จะซีเรียสมาก ก็ไม่ได้คิดอะไรวันนั้น พอหลังจากนั้นไปเนี่ย คุณแม่นัดคุณกุ๊กมาทานข้าวเลี้ยงขอบคุณ และผมได้เจอเขา คุณกุ๊กที่ผมเจอวันนั้นเนี่ยไม่ได้แต่งหน้าแต่งตัวอะไรมากมาย เป็นปกติมากๆ เลย ซึ่งผมเองเนี่ยก็ชอบคนที่ง่ายๆ ไม่วุ่นวายครับ ก็เลยเริ่มสนใจว่า เออ เขาน่ารักนะ แล้วก็มีความติดดินในตัวเอง"
บรรยากาศการขอแต่งงาน
หนุ่ม "ก็ไปขอที่มัลดีฟส์นะฮะ ไปตั้งแต่เย็นเลย พอไปปุ๊บเนี่ย คือผมเป็นคนขี้ลืม ผมก็กลัวว่าผมไปวันที่ 11 (เมษายน 2553) ถ้าเกิดไปขอวันที่ 11 เนี่ย เดี๋ยวผมลืมหลายๆ ปีว่าขอแต่งงานเมื่อไร เดี๋ยวจะมีปัญหา ก็เลยขอแต่งงานวันวันที่ 13 เพราะมันเป็นคืนวันสงกรานต์ ก็ต้องรอถึง 2 วัน ทีนี้ระหว่างที่รอเนี่ยเราก็เกร็ง เกร็งมาก ผมเตรียมเป็นโน้ตไป กะว่าตอนที่ขอเนี่ยก็คงจะพูดอะไรหวานๆ ถึงเวลาจริงๆ ตื่นเต้น จำไม่ได้ พยายามที่จะท่องโน้ตอันนี้ จำไม่ได้ ผมก็เลยขยำโน้ตทิ้ง แล้วก็แบบว่าไม่เอาแล้ว เราก็เป็นตัวของตัวเอง แล้วก็ขอไปนะฮะ ก็บอกเขาบอกว่า เนี่ย เขาจะดูแลผมได้ไหม เพราะว่าตัวผมเองผมทำงานค่อนข้างเยอะ แล้วก็จริงจัง แล้วก็ไม่ค่อยได้ดูแลตัวเองเท่าไร เขาก็บอกว่าได้สิ"
คบกันมานานแค่ไหนแล้ว
หนุ่ม "ไม่นานครับ ไม่นาน ไม่กี่เดือนครับ"
คบกันในระยะเวลาไม่นาน ทำไมถึงตัดสินใจแต่งงาน
หนุ่ม "สำหรับผมจริงๆ เวลามันเป็นแค่สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมา มันไม่ได้มีความหมายอะไรมากกว่านั้นนะฮะ ช้าหรือเร็วเราเป็นคนกำหนด อยู่ใกล้ๆ คุณกุ๊กเนี่ยผมเป็นตัวของตัวเอง สบายๆ ผมเป็นอีกคนหนึ่งไม่ใช่ภาพที่บริษัทเห็น หรือที่อะไรต่างๆ เป็นคนขี้อ้อน แล้วก็บางทีผมเป็นคนเหมือนขี้น้อยใจ เป็นลูกคนสุดท้องอะไรอย่างนี้ครับ ซึ่งเป็นตัวผมเองค่อนข้างมากเวลาอยู่ใกล้เขา ด้วยเหตุผลบางอย่างที่คุยกับเขาเนี่ย ผมจะค่อนข้างฟัง เขาให้เหตุผลผมได้ดี เวลามีปัญหาอะไรเขาจะคุยกับผมด้วยเหตุผล ก็เลยมั่นใจว่าเขาดูแลเราได้ อนาคตเนี่ยจะต้องเป็นแม่ของลูกได้ดีเลย"
กุ๊ก "ก็จริงๆ ที่พี่ชายพี่หนุ่มพูดนะคะว่าหน้าตาดีแต่นิสัยไม่ค่อยดี แต่จริงๆ เนี่ยพอมาคบกัน คือเราพยายามมองหาว่าเขานิสัยไม่ดีตรงไหน ตามที่พี่ชายบอกเนี่ยนะคะ แต่ว่าสิ่งที่เราพยายามมองหามันกลับกลายว่าเราก็ยิ่งเจอสิ่งดีๆ ที่เขาทำให้ พี่ชายเนี่ยมาบอกตอนหลังว่าพูดไว้ให้มันเหมือนเป็นกิมมิกให้แบบน่าสนใจ แล้วก็ให้เราพยายามที่จะมองหา คือแน่นอนมีใครมาบอกอะไรอย่างนี้เราจะพยายามมองว่าไม่ดีตรงไหน ต้องเรื่องนั้นเรื่องนี้ แต่ยิ่งมองยิ่งดูก็ยิ่งไปเราก็รู้สึกว่าเราก็ยิ่งเจอแต่สิ่งที่ดีๆ และเขาก็เป็นคนเอาการเอางาน และก็เป็นคนที่ดูแลเอาใจใส่อะไรดี เข้าอกเข้าใจเป็นห่วงเป็นใยตลอด เพราะฉะนั้นก็เลยคิดว่ามั่นใจได้กับคนๆ นี้นะคะ คือบอกไม่ถูกเหมือนกันว่ารู้สึกยังไงว่า ตอบตกลงภายในระยะเวลาที่คบกันไม่นาน
แต่ว่าพอเราคบกันไปถึงวันที่พี่หนุ่มมาขอแต่งงาน มันมีความรู้สึกว่าถึงแม้เราจะเจอกันไม่นาน แต่ว่าเราคิดว่าคนนี้ใช่ อธิบายไม่ถูกว่าทำไมเหมือนกัน แต่ว่าเรารู้สึกว่าสบายๆ เมื่ออยู่กับเขา แล้วเรารู้สึกว่าเราเป็นตัวของตัวเอง เรารู้สึกว่าเขาชอบในสิ่งที่เราเป็นจริงๆ เขาไม่ได้ชอบให้เราแต่งหน้ามากมาย เขาไม่ได้ชอบให้เราแต่งตัวเวอร์ๆ เหมือนในทีวี แต่ว่าเขาชอบที่เราเป็นธรรมชาติ เวลาเจอกันวันเสาร์อาทิตย์เนี่ย กุ๊กก็ใส่แว่นสายตาปกติเลย แล้วก็แต่งตัวเหมือนทุกๆ คนที่อยู่ข้างล่างนี้เลย แต่ว่ามันกลายเป็นว่าพี่หนุ่มชอบความกล้าเป็นตัวของตัวเองของเรา เพราะว่าเวลาออกงานเราก็แต่งอีกแบบหนึ่ง มันเหมือนเขาก็ถูกใจว่าเราเป็นแบบนี้ เราก็ถูกใจว่าเราก็ไม่ชอบคนที่จะมาชอบเราว่า เราต้องสวยอยู่ตลอดเวลา ต้องแต่งหน้าเยอะ"
กุ๊ก หลังแต่งแล้วเตรียมตัวหรือบริหารเวลาอย่างไรบ้าง
กุ๊ก "ก็จะพยายามเป็นแม่บ้านให้ดีที่สุดนะคะ (หัวเราะ) ถึงอายุอานามระดับนี้ทั้งคู่แล้วเนี่ย ก็คงจะให้ครอบครัวสำคัญอันดับที่หนึ่ง และเราก็เป็นครอบครัวใหม่ด้วย แต่ว่าเรื่องงานที่เราทำอยู่เนี่ยเราก็ยังจะรับผิดชอบหน้าที่การงานที่เรายังทำได้ ตามเวลาที่เราสามารถที่จะบริหารจัดการได้
คือถามว่าพี่หนุ่มอยากให้เราไปอยู่บ้านเฉยๆ เป็นคนที่ไม่ทำงานหรือเปล่า แล้วก็ถามว่าเราอยากเป็นแบบนั้นหรือเปล่า คำตอบก็คือไม่ใช่ เราก็ยังเป็นคนทำงานคนหนึ่ง พี่หนุ่มก็ยังอยากให้คนที่เป็นภรรยาก็ออกไปทำงาน ไปเจอผู้คน แล้วก็เหมือนได้บริหารความคิด ได้บริหารสิ่งที่เราได้ทำมาตลอด ก็คือเรื่องของการพูดอะไรอย่างนี้ ยังทำงานเท่าที่เวลาจะเอื้ออำนวย แต่ว่าอันไหนที่กระทบกับครอบครัว อันนี้ก็เมื่อแต่งงานแล้วเนี่ย จะให้ครอบครัวเป็นอันดับที่หนึ่งค่ะ"
วางแผนดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ไว้อย่างไร
หนุ่ม "ไปเชียงใหม่ เดือนนี้แหละครับ"
เรื่องทายาท
หนุ่ม "คืออายุผมเยอะ อายุคุณกุ๊กก็เยอะพอสมควร ก็คงจะแพลนที่จะมีบุตร เมื่อมา ก็พร้อม มีความพร้อมเพราะว่าจะหน้าที่การงาน บ้าน อะไรต่างๆ เนี่ย ทุกอย่างพร้อมหมดแล้ว สภาพร่างกายพร้อม ทุกอย่างพร้อม"
สินสอดทองหมั้น
กุ๊ก "คุณแม่ (ศรีสุวรรณ ขอไพบูลย์) จัดให้นะคะ แต่ว่าเป็นอะไรยังไงเท่าไรเนี่ย คือทางบ้านกุ๊กก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรเลย คุณแม่ก็จัดให้ตามสมควร พี่หนุ่มเนี่ยเป็นลูกคนสุดท้อง คือคุณแม่ก็จะให้เหมือนกันทุกคนลูกในบ้านทั้งสามคน เหมือนกันตั้งแต่พี่คนโตก็มีพี่สะใภ้ พี่สาวก็จะมีพี่เขย คุณแม่ก็ให้เท่ากันทุกคนเลย ก็มีแหวน มีสร้อย มีข้อมือ ต่างหูเป็นเพชร เงินรับไหว้"
หนุ่ม "ไม่ได้เป็นอะไรวุ่นวาย"
แหวนกี่กะรัต
หนุ่ม "แหวน 3 กะรัต"
คำสัญญาที่ให้กัน
หนุ่ม "ผมเป็นคนจริงจัง คือคำสัญญาคงไม่ได้มีอะไรพิเศษ ก็คงเป็นเหมือนที่เราไปขอเขามาจากครอบครัวเขา ในวันที่เราขอเขามาเนี่ย เรารับปากเขาว่าเราจะดูแลเขาอย่างดี ฉะนั้นผมว่าแค่นี้ผมรับปากเขามาแล้วเนี่ย หน้าที่ลูกผู้ชายคนหนึ่งก็คือต้องรักษาคำมั่นพวกนี้ไว้ แล้วก็ดูแลเขาอย่างดี"
เมื่อให้สัมภาษณ์เสร็จแล้ว ทั้งสองก็ได้เข้าพิธีหลั่งน้ำสังข์ โดยก็มีญาติของทั้งสองฝ่ายมาร่วมพิธีพร้อมทั้งอวยพรให้กับทั้งคู่ หลังจากนั้นเป็นการจดทะเบียนสมรส ก่อนที่ทั้งสองคนจะขอเวลาไปต้อนรับแขก และเตรียมตัวสำหรับงานฉลองมงคลสมรส ซึ่งก็มีผู้เดินทางมาร่วมแสดงความยินดีมากหน้าหลายตา อาทิ "ประวิทย์ มาลีนนท์" "สรยุทธ์ สุทัศนะจินดา" "กิตติ สิงหาปัด" "ไบรท์ - พิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ" "ไก่ - ภาษิต อภิญญาวาท" "บอมบ์ - พลวรรธก์ บุญลออ" "เอิ้น - ปานระพี รพิพันธุ์" เป็นต้น
นอกจากนั้นก็ยังมี "หมวย - อริสรา กำธรเจริญ" ด้าน "สู่ขวัญ บูลกุล" ก็ควงคู่มากับ "โชค บูลกุล" ส่วน "ดาว - อภิสรา นุตยกุล" ก็มากับ "จ้อ - กิติพันธ์ นุตยกุล" สาวๆ จากรายการ ผู้หญิงถึงผู้หญิง ทั้ง "ปุ้ย - พิมลวรรณ ศุภยางค์" "นีน่า - กุลนัดดา ปัจฉิมสวัสดิ์" และ "กาละแมร์ - พัชรศรี เบญจมาศ" ก็มาร่วมแสดงความยินดีเช่นกัน และสำหรับการโยนดอกไม้ให้แก่สาวโสดนั้น ผู้โชคดีที่ได้รับก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นสาว กาละแมร์ นี่เอง