จากความแค้นสู่กำเนิดวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ในนาม อินทรีแดง
เปิดตัวรอบสื่อมวลชนไปอย่างยิ่งใหญ่อลังการกับการกลับมาของตำนานวีรบุรุษที่เคยสร้างชื่อบนแผ่นฟิล์มของไทยเมื่อประมาณ 40-50 ปีก่อน วันนี้ภาพยนตร์เรื่อง "อินทรีแดง" กลับมาอีกครั้งกับเนื้อหาที่อิงความเป็นปัจจุบัน โดยได้ผู้กำกับที่เป็นที่รู้จักอย่าง "วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง" มานั่งแท่นกำกับ ส่วนผู้ที่รับบทสำคัญอย่าง อินทรีแดง หรือ โรม ฤทธิไกร ได้แก่หนุ่มหล่อ "อนันดา เอเวอริงแฮม" ประกบกับนักร้องนักแสดงสาว "นินา - ญารินดา บุนนาค"
นอกจากนี้ก็ยังมีนักแสดงคนอื่นๆ ที่จะมาร่วมสร้างสีสันให้กับ อินทรีแดง ในภาคปัจจุบันนี้ด้วย อาทิ นักดนตรีและนักเขียนรุ่นใหม่อย่าง "สิงห์ - วรรณสิงห์ ประเสริฐกุล" กับบท หมวดชาติ "แจ็ค - โจนาธาน โฮลแมน" กับบท หมวดซิงห์ และ "ใหญ่ - พรวุฒิ สารสิน" ในบทบาทของ นายกรัฐมนตรี ซึ่งผู้กำกับและเหล่านักแสดงนำก็ได้มาร่วมพูดคุยถึงภาพยนตร์เรื่องนี้กันด้วย
เริ่มจาก วิศิษฏ์ ที่ยอมรับว่าการทำภาพยนตร์ในครั้งนี้ของเขานั้น ค่อนข้างจะกดดันพอสมควร "ก็รู้สึกกดดันนะครับ แล้วก็กลัวจะทำได้ไม่ดี กลัวแฟนเก่าจะว่ากลัวคนรุ่นใหม่จะไม่ชอบ" ส่วนคำถามที่ว่าแท้จริงแล้ว อินทรีแดง เป็นวีรบุรุษหรือฆาตกรนั้น เป็นเรื่องที่แล้วแต่คนดูจะคิด "ในหนังมันจะตั้งคำถามกับคนดูนะครับว่าวีรบุรุษเนี่ยคืออะไร คนที่ออกไปเที่ยวไล่ฆ่าคนเป็นวีรบุรุษหรือเปล่า หรือคนที่ออกไปช่วยเหลือคนอื่นโดยไม่หวังผลตอบแทนเป็นวีรบุรุษมากกว่า"
เมื่อถามว่าพอใจกับงานในครั้งนี้ที่ออกมาแค่ไหนนั้น ผู้กำกับตอบว่าสำหรับคนทำงานแล้ว ไม่มีคำว่าพอใจเสียที "จริงๆ สำหรับคนทำงานเนี่ย มันก็ไม่เคยพอใจสักทีนะครับ ถ้ามีเวลาให้เราแก้ เราก็แก้แล้วแก้อีกเรื่อยๆ แล้วคนก็จะไม่ได้ดูกัน สุดท้ายก็เอาพอแค่นี้แล้วกัน"
มาถึงพระเอกอย่าง อนันดา เผยว่า รู้สึกตื่นเต้นมากกว่าครั้งไหนๆ "ตื่นเต้นมากครับ เรียกว่าตื่นเต้นที่สุดที่เคยตื่นเต้นมา" ส่วนกระแสตอบรับหลังจากมีตัวอย่างให้ได้ชมกันบ้างแล้วนั้น อนันดา กล่าวว่าก็มีหลายคนที่บอกว่าอยากจะชมภาพยนตร์เรื่องนี้ "ที่แน่นอนคือมีคนอยากดูเยอะฮะ รวมถึงตัวเราด้วย เท่าที่ผมได้ยินมาเนี่ยก็จะมีแบบ หนังดีนะ มันจะเหมือนเรื่องนี้ไหม มันจะเหมือนเรื่องนั้นหรือเปล่า ก็ต้องเข้าไปดูกันอีกที"
ด้าน แจ็ค กล่าวถึงสิ่งที่จะได้จากการชม อินทรีแดง ในยุคปัจจุบันนี้ว่า "ในหนังเรื่องนี้ก็มีทุกรสชาติที่คุณต้องการครับผม เด็ก ผู้ใหญ่ดูได้หมดนะครับ แต่ที่สำคัญคือเป็นเหมือนการสร้างประวัติศาสตร์อีกอย่างหนึ่งครับ อยากให้ทุกคนติดตามครับผม"
ส่วนอีกหนึ่งนักแสดงที่ได้รับบทบาทสำคัญอย่าง สิงห์ บอกว่าไม่คิดว่าจะได้มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์ที่เป็นโครงการใหญ่ขนาดนี้ และรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ชมภาพยนตร์แบบเต็มๆ "ยังไม่ได้ดูตัวเต็มครับ แต่ว่าได้ดูบางฉากก็เจ๋งกว่าที่คิดไว้เยอะ ตอนแรกที่มาร่วมโปรเจ็กต์นี้ก็ยังไม่ได้ตระหนักว่าจะมาร่วมโปรเจ็กต์ใหญ่ขนาดนี้ พอได้เห็นภาพที่ตัดมานี่ก็อึ้งไปเลย แล้วก็ตื่นเต้นมากๆ ที่จะได้ดู"
ข้ามมาที่ฝ่ายนางเอก นินา ที่ของพูดถึงฉากเข้าพระเข้านางแบบสั้นๆ ว่า "ฉากนั้นเหรอคะ ก็ตัวเองก็ยังไม่ได้เห็นเหมือนกัน หวาดเสียวอยู่เหมือนกัน" เรียกได้ว่าร้อนแรงหรือไม่นั้น นินา หัวเราะก่อนบอกว่าหนาวมากกว่าเพราะต้องอยู่ในห้องเย็นที่มีแต่น้ำแข็ง
ทั้งนี้ท้ายสุด นินา เป็นตัวแทนนักแสดงฝากถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า "คือจริงๆ พอคนพูดถึง อินทรีแดง ก็คงคิดถึงหนังบู๊อยู่แล้วนะคะ ซึ่งอันนั้นเนี่ยได้ชัวร์แน่นอน เห็นทีเซอร์ก็รู้แล้ว แต่ว่าจริงๆ แล้วอยากจะให้มาดูกันเพราะว่ามันไม่ใช่แค่หนังบู๊ จริงๆ มันมีทั้งเป็นหนังรัก มันเป็นหนังตลก แล้วอีกอย่างหนึ่งเนี่ยมันเป็นหนังที่ให้ข้อคิดเกี่ยวกับการเป็นไทยมากๆ แล้วก็ให้คนได้ตระหนักแล้วก็รักที่จะชมมากขึ้น ซึ่งนาว่ามันเหมาะกับยุคสมัย แล้วก็เป็นอะไรที่ทุกคนน่าจะได้ดู ได้ข้อคิดอะไรไป"
ส่วน วิศิษฏ์ ขอฝากทิ้งท้ายว่าอยากให้คนดูรักตัวละคร อินทรีแดง เหมือนกับที่เขารัก "ก็อยากให้คนวงกว้างรับมันได้ เพราะว่าเรารักตัวละครตัวนี้ เราอยากให้ตัวละครตัวนี้กลับมาอีกครั้ง ก็อยากให้เขารักมันด้วยเหมือนที่เรารัก เราก็จะทำตามใจตัวเองมากไม่ได้ ก็คิดถึงคนอื่นมากขึ้น"
การกลับมาของวีรบุรุษในตำนาน ที่มาพร้อมเรื่องราวและเนื้อหาความเป็นปัจจุบันในครั้งนี้ จะสร้างความประทับใจให้คนไทยได้ขนาดไหนนั้น ติดตามชมได้ในภาพยนตร์เรื่อง อินทรีแดง เข้าฉาย 7 ตุลาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์