1. สยามโซน
  2. ภาพยนตร์
  3. ข่าววงการภาพยนตร์

บลู เอลิกา จูงมือหนุ่มนอกวงการ เข้าพิธีสมรสสาบานรักหวาน

บลู เอลิกา จูงมือหนุ่มนอกวงการ เข้าพิธีสมรสสาบานรักหวาน

หลังจากแห่ขันหมากไปขอหมั้นนักแสดงสาว "บลู - เอลิกา พลอยอัมพร" หรือชื่อจริง "บลู - ปทุมวดี พลอยอัมพร" กันที่บ้านของฝ่ายสาวที่ จ.จันทบุรี เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2553 หนุ่มนักธุรกิจ "ตี๋ - ธัญร์นากร จันทร์อ่อน" ก็ได้ฤกษ์งามยามดีในวันที่ 20 มีนาคม ที่ผ่านมา จูงมือเจ้าสาวคนสวย เข้าโบสถ์จัดพิธีมงคลสมรสตามแบบศาสนาคริสต์ ณ คริสตจักรวัฒนา ย่านอโศก หลังจากทั้งคู่คบหาดูใจกันมา 1 ปี

ในการส่วนของการจัดง่ายเน้นบรรยากาศให้ดูอบอุ่นตามความต้องการของคู่บ่าวสาว โดยใช้สีฟ้าและชมพูเป็นหลัก ตามความหมายชื่อและตามสีที่ชอบของสาว บลู สำหรับของชำร่วยที่ใช้แทนคำขอบคุณเป็นหนังสือซึ่งมี 2 แบบด้วยกัน โดยแบบแรกบนหน้าปกเขียนว่า "สื่อรัก" ส่วนอีกเล่มเขียนว่า "มหัศจรรย์แห่งรัก" ซึ่งก่อนเริ่มพิธีการสำคัญ คู่บ่าวสาวก็ได้ควงคู่กันมาเปิดเผยรักหวานฉบับ บลู และ ตี๋ ให้ได้ทราบกัน

เล่าถึงตอนเแรกกันครั้งแรก

ตี๋ "ไปเจอกันที่โบสถ์คริสตจักรไทย ยังไม่ได้ติดต่ออะไรกัน แค่มองเขาเฉยๆ ยังไม่รู้จักว่าเขาเป็นใคร จนไปดูบอลที่มาเลเซีย ดูบอลแมนยู (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) เจอมาเลเซีย ไปเจอเขาที่นู่นอีกครับ แล้วเขาเป็นรุ่นน้องที่ ม.กรุงเทพ บูอิค ก็เลยติดต่อกันมา เลยรู้จักกัน"

ต่างคนก็ต่างขอให้เจอคู่ชีวิตที่ใช่

ตี๋ "ก่อนที่เราจะเจอกัน เราเป็นคริสเตียน เรามีความเชื่อเรื่องการขออธิษฐาน อธิษฐานขอคู่ครองที่เป็นชีวิตคู่ให้กับเรา พระเจ้าก็ตอบคำอธิษฐานของเขาและของเรา เราต่างคนต่างขอ เขาขอช่วงที่ก่อนจะถึงวันเกิดเขาอีกประมาณ 3-4 วัน เขาขอ 1 ใน 10 ข้อ ต้องถามเขาเองว่าตรงหรือเปล่า"

บลู "ตรงค่ะ (หัวเราะ) เรารู้สึกว่าเราทำงานมาหลายปีแล้ว ทำตั้งแต่ 16 รู้สึกว่าอยากมีความรัก อยากมีคู่ชีวิต ก็อธิษฐานขอวันเกิดปีนี้ว่าอยากเจอคนที่ใช่แล้วนะ ตอนเจอเขาก็ยังไม่รู้ว่าเขาเป็นคนที่ใช่ พอยิ่งคุยไป คุยไม่นานก็เริ่มรู้ว่าผู้ชายคนนี้ใช่แน่ๆ เลย ที่เราเคยขอไว้ค่ะ"

ตี๋ "ก็ใช่ครับ ตรงครับ ก็อธิษฐาน พูดกับพระเจ้าเหมือนลูกพูดกับพ่อแม่ปกติ ขอสิ่งที่เราอยากจะได้ ขอสเปกเป็นผู้หญิงที่มีความเชื่อเดียวกัน มีความเชื่อในพระเจ้า รักครอบครัว ดูแลครอบครัวได้ มีความรับผิดชอบ โตเป็นผู้ใหญ่ คุยกันเข้าใจ แล้วก็ชอบท่องเที่ยวเหมือนกัน ชอบกีฬาฟุตบอลเหมือนกัน ถึงจะเชียร์คนละทีมก็แล้วแต่ (หัวเราะ)"

คำมั่นสัญญา

ตี๋ "เราให้มั่นสัญญาต่อทั้งคู่ ต่อแขกผู้มีเกียรติวันนี้ แล้วก็ต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยว่าเราจะสัตย์ซื่อต่อกัน จะดูแลกันตลอดชีวิตไม่ว่าจะสุขจะทุกข์ จะดูแลซึ่งกันและกันครับ"

บลู "คงเป็นคำมั่นสัญญาเดียวกันค่ะ เราจะซื่อสัตย์ต่อกัน รักเดียวใจเดียว จะดูแลกันไป อดทนต่อกัน ให้อภัยกัน รักกันจนแก่จนเฒ่าค่ะ"

บรรยากาศตอนขอแต่งงาน

ตี๋ "ความคิดผมนะครับ (หัวเราะ) ผมดูความพร้อม เราโตกันทั้งคู่เป็นผู้ใหญ่แล้ว มีอาชีพการงานที่มั่นคงทั้งคู่ คุยกับเขา เราก็ทดสอบเขาว่าเขาเป็นคนยังไง มีความคิดยังไง วางแผนอนาคตยังไง คุยกันไปคุยกันมาคือเข้าทางครับ ตรงสเปกที่เราขอไว้กับพระเจ้า เขาคือคนที่ใช่ครับ ไม่มีเซอร์ไพรส์อะไรมากมาย ตั้งใจไปคุยเรื่องครอบครัวเรื่องอนาคตกับเขา ให้ความมั่นใจกับเขา สุดท้ายเขาก็เซย์เยสครับ ก็มีด่านนะ ไม่ใช่แค่เขาคนเดียว ด่านพี่เลี้ยงเขา อาจารย์ที่โบสถ์ พ่อแม่ ญาติเขาทุกคนต้องผ่านหมด ถ้าไม่ผ่านแสดงว่าไม่ใช่ แต่ว่าผ่านทุกสเต็ปครับ"

บูล "จริงๆ ก่อนหน้าที่เขาจะขอแต่งงาน ก็รู้สึกว่ารักเขา รู้สึกว่าเขาเป็นคนที่ใช่ พอพี่ตี๋เขาเริ่มปูเรื่องไปเรื่อยอย่างที่เขาเล่า ถามว่าอยากมีครอบครัวไหม หรือคิดว่าอยากจะมีลูกกี่คน มองอนาคตไว้ว่ายังไงบ้าง สุดท้ายเขาก็บอกว่าแต่งงานกับพี่ตี๋นะ หนูก็โอเค ในใจเราก็รู้สึกว่ารักเขา อยากใช้ชีวิตกับเขาอยู่แล้ว สุดท้ายเขาถามมาเราก็เลยโอเค แต่ว่าจะไปช็อกหลังจากนั้นไปสักพัก 2-3 วัน เราเจอหน้ากัน นี่เราแต่งงานกันเหรอเนี่ย เริ่มมาช็อกกันทีหลัง ว่าเอ๊ะแล้วเราต้องทำอะไรบ้างที่เราบอกว่าเราจะแต่งงานกัน"

วางแผนชีวิตครอบครัวยังไงบ้าง

ตี๋ "ก่อนที่เราจะแต่งงานกัน เราเข้าคอร์สแต่งงานกับที่โบสถ์นะครับ เพราะว่าเป็นสิ่งจำเป็นมาก เรียนประมาณ 5-6 เดือน ประมาณ 12-16 ชั่วโมง เพื่อให้รู้ว่าการใช้ชีวิตคู่เป็นยังไง การมีชีวิตคู่ไม่ได้พึ่งพาครอบครัวแล้ว ต้องพึ่งพากัน 2 คน การดำเนินชีวิตทุกอย่างต้องตัดสินใจร่วมกัน 2 คน พอได้ทราบถึงความหมายของการแต่งงาน การใช้ชีวิตครอบครัว การมีลูกในอนาคต การทำงาน เป้าหมายต่างๆ เราก็มีเริ่มวางแพลนว่าจะทำยังไง เรื่องอาชีพการงาน เรื่องการมีลูกในอนาคตครับ"

วางแผนเรื่องทายาท

ตี๋ "จริงๆ อยากตั้งทีมฟุตบอล (หัวเราะ) ประมาณสัก 2-3 คนครับ อยากได้ผู้ชายกับผู้หญิง ประมาณอีกสัก 3 ปีครับ ตอนนี้เขา 25 ผม 28 เข้า 29 ให้เขาทำงานที่เขารักเต็มที่ก่อน เราชอบท่องเที่ยว เราแพลนจองเที่ยวไว้เต็มไปหมดเลย"

บลู "ตอนที่เราคุยกันก่อนแต่งก็มีถาม ก็บอกไปแล้วว่าบลูอยากได้ผู้ชายคนโต แล้วก็ผู้หญิงคนที่ 2 ส่วนคนที่ 3 ผู้หญิงหรือว่าผู้ชายก็ได้ค่ะ"

ยังทำงานในวงการเหมือนเดิมไหม

บลู "อย่างที่พี่ตี๋บอก คงทำอีกสัก 2-3 ปี เพราะบลูเองก็รักงานตรงนี้อยู่ แล้วตอนนี้ก็ยังถ่ายละครอยู่ด้วย แต่งงานเสร็จเราก็กลับไปทำงานได้เหมือนเดิม ปกติค่ะ"

ห้ามถ่ายแบบวาบหวามไหม

ตี๋ "ผมว่าเขาคงให้เกียรติผม เชื่อใจเขาครับ"

วางแผนไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ที่ไหน

ตี๋ "ไปอเมริกาครับ เพิ่งได้วีซ่ากันมาครับ ไปประมาณ 2 อาทิตย์ ช่วงสงกรานต์ ไปที่แคลิฟอร์เนีย ลาสเวกัส"

บลู "ไปวันที่ 8 เมษา ค่ะ"

ตี๋ "จริงๆ ก่อนที่ผมจะเจอเขา เขามีแพลนไปอเมริกา เขาได้วีซ่าก่อนผมอีกนะครับ เขากะจะไปเที่ยวไปใช้ชีวิตกับเพื่อนเขาที่นู่น ผมก็เลยเบรกไว้ก่อน ไปด้วยกันดีกว่า ฮันนีมูนทีเดียวเลย"

ของขวัญแทนใจ

ตี๋ "ผมว่าหัวใจสำคัญที่สุดครับ (หัวเราะ)"

มีให้แหวนแทนใจไหม

ตี๋ "ผมให้ในพิธีหมั้นไปแล้วครับ อันนั้นไปขุดมาจากแอฟริกาเลยนะ เอาเพชรเม็ดที่ดีที่สุดในแอฟริกามาเลยนะครับ น่าจะกะรัตกว่านะครับ"

จดทะเบียนสมรส

ตี๋ "เรียบร้อยแล้วครับ เพราะว่าเวลาจะทำพิธีศักดิ์สิทธิ์ที่โบสถ์ เราต้องมีการจดทะเบียนสมรสล่วงหน้า ไปจดเรียบร้อยแล้วที่เขตบางรัก ตอนแรกตั้งใจว่าจะไปวันที่ 14 กุมภา แต่พอดีเขาติดถ่ายละคร แล้วเราก็ยุ่ง ช่วงนั้นเตรียมงานกันเยอะ เลยไม่ได้ไปวันที่ 14 กุมภา เพิ่งไปจดวันที่ 16 มีนา ที่ผ่านมาครับ"

เปลี่ยนนามสกุลเรียบร้อยแล้วหรือยัง

บลู "ตอนนี้ยังไม่ได้เปลี่ยนนะคะ เพราะว่าต้องเปลี่ยนพาสปอร์ต ต้องเปลี่ยนอะไรเยอะแยะมากมาย ก็เลยยังค่ะ"

ตี๋ "มันยุ่งยาก เอาไว้วันหลังก่อน"

บลู "จริงๆ เขาถามนะว่าจะใช้นางหรือว่านางสาว หนูเลือกนางสาวไปแล้ว (หัวเราะ) ก็คุยกันอยู่ว่าจะเลือกนามสกุลอะไรดี จริงๆ ก็ไม่ค่อยซีเรียสเรื่องนามสกุลเท่าไรค่ะ"

ตี๋ "อนุญาตครับ ไม่ซีเรียสตรงนี้ครับ"

ปกติทั้งคู่หวานกันมากน้อยขนาดไหน

ตี๋ "ก็มีการเซอร์ไพรส์ซึ่งกันและกัน เช่น การซื้อของที่เราชอบให้กัน"

เหตุการณ์ที่ประทับใจ

ตี๋ "ของผมคงเป็นเรื่องขอเขาแต่งงานครับ อยากใช้ชีวิตคู่ร่วมกับเขา เซอร์ไพรส์ที่สุดแล้วครับ"

คติของการใช้ชีวิตคู่

บลู "จริงๆ แล้วบลูเชื่อว่าทุกคู่เกิดมาจากคนละครอบครัว ต้องมีช่วงเวลาที่จะต้องเรียนรู้กัน ก่อนที่เราจะแต่งงานกันก็มีหลายเรื่องที่เราไม่เข้าใจกัน แต่บลูก็เรียนรู้อยู่แล้วว่าคนเราต้องปรับความเข้าใจกัน คงไม่มีคู่ไหนเข้าใจกันไปซะทุกเรื่อง บลูว่าอยู่ที่คติในใจเรามากกว่าว่าเมื่อเขาทำผิดเราต้องให้อภัยเขานะ ในส่วนข้อเสียของเขา เราต้องอดทนนะ เพราะว่าเราเลือกเขา เหมือนข้อเสียของบลูก็มี พี่ตี๋ก็อดทน ของพี่ตี๋มี บลูก็อดทน แล้วเวลาที่เราต่างคนทำผิด เราขอโทษกัน เราก็ให้อภัยกัน บลูเลยรู้สึกว่าทุกอย่างก็จบลงง่ายๆ ค่ะ แล้วก็ไม่ว่าจะเกิดอะไร บลูรู้สึกว่าความรักสำคัญที่สุด ไม่ว่าจะทำอะไรสมมติว่าเรารักเขาจริง เราก็อยากจะมีเขาแค่คนเดียว เราก็จะอภัยเขาเมื่อเขาทำผิด ทุกอย่างก็จะตามมาเองค่ะ"

ตี๋ "เรามาจากต่างครอบครัว เรามีความบกพร่องของตัวเอง เราก็ไปเรียนคอร์สแต่งงานก่อนให้รู้พื้นฐานของชีวิตครอบครัว กว่าที่จะมาเป็นบลูจริงๆ พ่อแม่ ญาติเขาเป็นยังไง เขาถึงมีนิสัยอย่างนี้ แล้วเราต้องไปเรียนด้วย เพื่อที่เขาจะได้รู้ว่าตัวตนของเราจริงๆ คือยังไง เพื่อให้ยอมรับซึ่งกันและกัน และปรับปรุงแก้ไข บางครั้งผมเองก็บกพร่อง แต่ผมเชื่อว่าการที่เขามาเติมเต็มผม ทำให้ผมมีชีวิตที่สมบูรณ์"

อยู่กันไปนานๆ กลัวความรักจะจืดลงไหม

ตี๋ "เราเพิ่งเป็นต้นไม้ต้นเล็ก เราก็ต้องใส่ปุ๋ย รดน้ำให้โตขึ้นทุกๆ วันครับ เดี๋ยวก็งอกกิ่งก้านสาขาเองครับ"

บลู "ตอนนี้ไม่กลัวค่ะ เพราะบลูรู้สึกว่าเราเติมกันได้ทุกวัน ณ วันนี้เรารู้สึกว่าเรารักซึ่งกันและกัน แล้ววันพรุ่งนี้เราก็ยังจะรักเขา แล้วเขาก็รักหนู วันนี้เราทำให้ดีที่สุด เดี๋ยววันข้างหน้าคงจะดีขึ้นเรื่อยๆ เองค่ะ"

มีขออะไรซึ่งกันและกันเป็นพิเศษไหม

ตี๋ "ความรัก เรามองในส่วนที่ดีของซึ่งกันและกัน ส่วนที่ไม่ดีเราจะให้อภัยซึ่งกันและกัน แล้วก็แก้ไข ไม่การบังคับ ความรักบังคับไม่ได้ครับ เราให้เสรีภาพในการตัดสินใจ"

บลู "หนูก็ไม่เคยขอเขา แต่ถ้าถามว่าผู้หญิงทุกคนก็อยากได้แฟนที่รักเราคนเดียว ไม่เจ้าชู้ ซื่อสัตย์ต่อเรา รักเราเสมอต้นเสมอปลาย บลูเชื่อว่าผู้หญิงทุกคนก็คงใฝ่ฝันแบบนั้น แต่ ณ วันนี้ก็มั่นใจในตัวเขาว่าเขาก็คงไม่ทำให้เราเสียใจหรือผิดหวังค่ะ"

สินสอดทองหมั้น

ตี๋ "วันนั้นมีเงินสด 1 ล้าน มีเพชรกะรัตกว่า (แหวนหมั้น) แล้วก็มีทองประมาณ 10 บาท"

เรือนหอ

ตี๋ "ตอนนี้มี 2 ที่ มีคอนโดของเขาและคอนโดของผม เพิ่งซื้อคอนโดใหม่ ซื้อเพื่องานนี้โดยเฉพาะครับ อนาคตถ้ามีลูกค่อยซื้อบ้าน พอดีพ่อแม่เขาอยู่ต่างจังหวัดด้วยครับ"

แหวนในพิธี

ตี๋ "แหวนทองคำขวาปกติครับ บ่งบอกความหมายถึงวงกลม ไม่มีที่สิ้นสุด แหวนเป็นตัวแทนดวงใจซึ่งกันและกัน ไม่มีที่สิ้นสุด"

รูปแบบงาน

ตี๋ "วันนี้เราเน้นอบอุ่นๆ สีฟ้า ชื่อของเขาครับ"

บลู "ชื่อบลูก็สีฟ้าค่ะ แล้วบลูชอบสีชมพูด้วย ก็เลยเป็นชมพู-ฟ้า ซึ่งธีมงานพี่ตี๋ก็ให้หนูเลือก ส่วนการจัดบรรยากาศในโบสถ์กับข้างนอก บลูกับพี่ตี๋ก็ลงมาจัดกันเองเมื่อคืนถึง 4 ทุ่ม ลงมาช่วยจัด ยิ่งข้างนอกเรามาช่วยปูเก้าอี้มาช่วยทำกันเอง เลยรู้สึกว่างานแต่งงานเป็นงานแต่งงานของเรา ถ้าเรานั่งอยู่ที่บ้านเฉยๆ เราก็จะไม่รู้อะไรเลย แต่เรามาลงด้วยว่าอันไหนมีปัญหา ตรงนี้โอเคไม่โอเค ก็เลยรู้สึกว่าถ้าผ่านวันนี้ไป เราก็คงจะภูมิใจว่าเรา 2 คนช่วยกัน ของชำร่วยก็นั่งทำด้วยกันค่ะ"

เทหมดหน้าตักไหมงานนี้

ตี๋ "เททั้งหัวใจ ทั้งหน้าตักหมดเลยครับ (หัวเราะ)"

รู้สึกว่าเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุด

บลู "รู้สึกอย่างนั้นนะคะ ว่าเราเป็นผู้หญิงที่โชคดี บลูเคยบอกพี่ตี๋ว่าบลูรู้สึกว่าบลูเป็นผู้หญิงที่โชคดีค่ะ"

หลังจากนั้นเวลาประมาณ 16.00 น. ก็ได้เวลาเริ่มพิธีการอันศักดิ์สิทธิ์ เริ่มจากการจุดเทียน ตามมาด้วยขบวนนำเจ้าบ่าวเข้าสู่พระวิหาร และดนตรีบรรเลงเพื่อนำเจ้าสาวเดินเข้าสู่พิธี โดยหนุ่ม ตี๋ ก็มายืนรอรับสาว บลู อยู่ด้านหน้าโบสถ์ ก่อนที่ทั้งคู่จะควงคู่กันไปประกอบพิธีสมรส กล่าวคำมั่นสัญญาพร้อมทั้งสวมแหวนให้แก่กันและกัน โดยในระหว่างพิธี "ปุ๊ - อัญชลี จงคดีกิจ" ก็ได้มาร้องเพลงอวยพรให้กับคู่บ่าวสาว เมื่อเสร็จสิ้นพิธีบาทหลวงก็ได้ประกาศว่า บลู และ ตี๋ ทั้งคู่ได้เป็นคู่สามีภรรยากันอย่างเป็นทางการ

สำหรับงานเลี้ยงฉลองพิธีมงคลสมรสก็จัดแบบน่ารักๆ อยู่ในสวนด้านหลังของโบสถ์ เน้นตกแต่งบรรยากาศด้วยภาพหวานๆ ของคู่บ่าวสาวประดับตามต้นไม้รอบๆ งาน ส่วนเพื่อนสนิทคนบันเทิงที่มาร่วมงาน อาทิ "ไผ่ - พาทิศ พิสิฐกุล" "แพร - พรรัมภา สุขได้พึ่ง" "จิ๊บ - คีตภัทร อันติมานนท์" "ส้ม - สิชา ศรีทองสุข" "แบงค์ - อธิกิตติ์ พริ้งพร้อม" "เบลล์ - มนัญญา ลิ่มเสถียร" "ตู่ - จารุศิริ ภูวนัย" "แดนนี่ - ดานิเอล เบล็สซิ่ง" "ปูไข่ - พงษ์ศิริ บรรลือวงศ์" และ "แซม โชติบัณฑ์" มาร่วมแสดงความยินดี

สงวนลิขสิทธิ์ © ห้ามคัดลอก ตัดต่อ
ดัดแปลงหรือเผยแพร่ในสื่อใดๆ ก่อนได้รับอนุญาต
กดเพื่อดูรูปใหญ่ ปัดซ้าย-ขวาเพื่อดูรูปถัดไป
  • รูปภาพ 1
  • รูปภาพ 2
  • รูปภาพ 3
  • รูปภาพ 4
  • รูปภาพ 5
  • รูปภาพ 6
  • รูปภาพ 7
  • รูปภาพ 8
  • รูปภาพ 9
  • รูปภาพ 10
  • รูปภาพ 11
  • รูปภาพ 12
  • รูปภาพ 13
  • รูปภาพ 14
  • รูปภาพ 15
  • รูปภาพ 16
  • รูปภาพ 17
  • รูปภาพ 18
  • รูปภาพ 19
  • รูปภาพ 20
  • รูปภาพ 21
  • รูปภาพ 22
  • รูปภาพ 23
  • รูปภาพ 24
  • รูปภาพ 25
  • รูปภาพ 26
  • รูปภาพ 27
  • รูปภาพ 28
  • รูปภาพ 29
  • รูปภาพ 30
  • รูปภาพ 31
  • รูปภาพ 32
  • รูปภาพ 33
  • รูปภาพ 34
  • รูปภาพ 35
  • รูปภาพ 36
  • รูปภาพ 37
  • รูปภาพ 38
  • รูปภาพ 39
  • รูปภาพ 40
  • รูปภาพ 41
  • รูปภาพ 42
  • รูปภาพ 43
  • รูปภาพ 44
  • รูปภาพ 45
  • รูปภาพ 46
  • รูปภาพ 47
  • รูปภาพ 48
  • รูปภาพ 49
  • รูปภาพ 50
  • รูปภาพ 51
  • รูปภาพ 52
  • รูปภาพ 53
  • รูปภาพ 54
  • รูปภาพ 55
  • รูปภาพ 56
  • รูปภาพ 57
  • รูปภาพ 58
  • รูปภาพ 59
  • รูปภาพ 60
  • รูปภาพ 61
  • รูปภาพ 62
  • รูปภาพ 63
  • รูปภาพ 64
  • รูปภาพ 65
  • รูปภาพ 66
  • รูปภาพ 67
  • รูปภาพ 68
  • รูปภาพ 69
  • รูปภาพ 70
  • รูปภาพ 71
  • รูปภาพ 72

ความคิดเห็น

วันนี้ในอดีต

เกร็ดภาพยนตร์

  • The Last Five Years - ใช้เวลา 21 วันในการถ่ายทำ และถ่ายทำฉากเพลง Goodbye Until Tomorrow ในวันสุดท้าย อ่านต่อ»
  • Mad Max: Fury Road - ฉากเทคนิคพิเศษประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ ไม่ได้ใช้คอมพิวเตอร์ช่วย แต่เป็นของจริงโดยใช้นักแสดงแทน ฉาก และการแต่งหน้าช่วย ส่วนที่ใช้คอมพิวเตอร์ก็ใช้เพียงลบเชือก ตกแต่งพื้นที่ทะเลทรายนามิบ และสร้างแขนปลอมข้างซ้ายของ ชาร์ลีซ เธอรอน ผู้รับบท ฟิวริโอซา เท่านั้น อ่านต่อ»
เกร็ดจากภาพยนตร์สามารถดูได้ในหน้าข้อมูลภาพยนตร์แต่ละเรื่อง

เปิดกรุภาพยนตร์

เรื่องราวเน้นที่การทุจริตในระบบการศึกษาของประเทศ แนวคิดของการใช้เงินเพื่อซื้ออนาคตไม่ว่าจะเป็นการศึกษา งาน และรายได้ แม...อ่านต่อ»