4 วัยซนตะลุยดินแดนเหนือจินตนาการใน บิดพิภพทะลุโลก
"บิดพิภพทะลุโลก" หรือ "The Scout" เป็นภาพยนตร์ฝีมือการกำกับของ "เปลว ศิริสุวรรณ" ที่อยากสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับเด็กในแนวผจญภัย ทั้งยังมีคอมพิวเตอร์กราฟฟิกเข้ามาเป็นส่วนผสมผสานอีกด้วย โดยเลือก 4 นักแสดงเด็กหน้าใหม่อย่าง "โบกัส - นราธิษณ์ น้ำค้าง" "แซร่า - พิมพ์ ปวีณ์ เครื่องสาย" "อิง - ชนินทร์ อุตสาหวนิช" และ "โอ๊ต - ชนะพล แสนใหม่" มาถ่ายทอดเรื่องราว ซึ่งก็ได้ฤกษ์ลงจอภาพยนตร์เป็นที่แน่นอนแล้ว โดยเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม ที่ผ่านมา ณ เอสเอฟเอ็กซ์ ซีเนม่า เซ็นทรัล ลาดพร้าว
เปิดงานด้วยแขกรับเชิญพิเศษ "แจ๊ส ชวนชื่น" ที่ชวนน้องๆ ทั้ง 4 คน มาประลองไหวพริบดวลมุกตลกเรียกเสียงหัวเราะกันก่อนที่จะไปพูดคุยกับผู้กำกับ เหล่านักแสดง และ "เคน - ภาคถูมิ สุวัติพานิช" ผู้กำกับพิเศษด้านภาพของภาพยนตร์เรื่องนี้
เปลว บอกที่มาของภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า "จริงๆ เราอยากจะทำหนังซีจีอยู่แล้วนะครับ โดยพล็อตเรื่องก็เป็นหนังซีจีอยู่แล้ว ทีนี้เรามองว่าถ้าทำเป็นหนังเด็กแล้วมีซีจีด้วยมันน่าจะสนุก เหมือนในวัยเด็กของทุกๆ คนที่มีจินตนาการ การผจญภัยของเราไปในที่ๆ มันอันตรายแต่ไม่โหดร้าย ได้เจอได้ต่อสู้กับสัตว์ประหลาด"
ส่วนผู้กำกับพิเศษด้านภาพก็เล่าถึงเทคนิคที่ใส่เข้าไปในภาพยนตร์ว่า "ก็คงไม่ได้โดดเด่นจากหนังฮอลลีวูดเรื่องไหน แต่ว่ามันสามารถที่จะแอ็กติ้งนักแสดงให้เข้ากับตัวละครทั้งหมด ทำให้คนดูสามารถเชื่อได้ว่ามันอยู่มีจริง เรื่องของบทมีส่วนที่ช่วยทำให้การแสดงนั้นน่าติดตาม ในส่วนของซีจี คนดูก็จะได้เห็นสัตว์ประหลาดที่เล่นกับเด็ก สามารถเชื่อได้ว่ามีอยู่จริง การันตีได้ว่ามันดูเนียนๆ ไปกับหนังจะไม่โดดออกมา อาจจะไม่อลังการเท่ากับหนังฮอลลีวูดที่ทุนมหาศาล"
ด้านนักแสดงหน้าใหม่ โบกัส ก็ยอมรับว่าแสดงยาก โดยเฉพาะเวลาถ่ายฉากที่มีคอมพิวเตอร์กราฟฟิกเข้ามาเกี่ยวข้อง "ก็ยากครับ อย่างฉากที่โดนงูรัดขึ้นไป ต้องใส่สลิงรัดตัวแล้วต้องถ่ายในถ้ำด้วย ซึ่งในถ้ำก็ร้อน สู้กับงูไม่เท่าไรครับ แต่ว่ามันยากตรงที่ว่าจะต้องจินตนาการ เราจะต้องเห็นว่าเป็นงูยักษ์จริงๆ เห็นว่ามีกบบินได้จริงๆ ขณะที่พี่เปลวบอกเราก็ต้องจินตนาการตามไปด้วย เพราะบางทีจินตนาการก็ไม่ตรงกันบ้าง อารมณ์ไม่เท่ากัน แต่พี่เปลวเขาก็ช่วยปรับอารมณ์ให้เท่ากันจนได้ครับ เรื่องนี้จะแสดงออกถึงเรื่องความสามัคคีครับ ในเรื่องเราจะหลุดไปอีกมิตินึง เราก็ต้องพยายามออกจากมิตินี้ให้ได้ เพราะฉะนั้นเราก็จะต้องสามัคคีกันไว้ ร่วมมือร่วมใจกันให้เราออกไปจากมิตินี้ให้ได้ครับ"
แม้ แซร่า จะเคยแสดงในเรื่อง "โอเคเบตง" แต่พอมาเล่นเรื่องนี้ก็ถึงกับบอกว่า "แตกต่างกันมากค่ะ เพราะเรื่องนั้นเล่นเหมือนหนังชีวิต แต่เรื่องนี้ซีจีเต็มที่ ซึ่งเคยเล่นแต่ซีจีในละครเป็นซีจีที่ไม่น่ากลัวมาก แต่ในเรื่องนี้เป็นซีจีที่เป็นพญานาค แต่ละคนก็ไม่ได้ผ่านการเล่นละครมาทุกคน คราวนี้ก็เลยเป็นปัญหา เพราะว่าจินตนาการของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน บางทีบางฉากอารมณ์ก็ยังไม่เท่ากัน ก็เลยถ่ายยากตรงนี้ค่ะ แล้วอยู่ในถ้ำก็อึดอัดมาก แล้วก็เหนื่อย อยากให้ทุกคนได้ไปชมเรื่องนี้เพราะว่าเป็นความตั้งใจของพวกเราทุกคนจริงๆ ค่ะ" ส่วน อิง พูดถึงบทบาทที่ได้รับว่า "อิงเล่นเป็นบอลครับ ในเรื่องเป็นคนที่นิสัยขี้กลัว ก็ยากนะครับ เพราะว่าต้องแสดงอารมณ์กลัวแล้วก็อยากกลับบ้านตลอด พี่เปลวเขาก็ช่วยบอกให้เราจินตนาการตาม แล้วก็ให้มองไปในที่ที่เดียวกัน"
ด้าน โอ๊ต กล่าวว่า "ในเรื่องชื่อเบิ้มครับ มีนิสัยชอบแกล้งเพื่อน หนังเรื่องนี้สนุกตรงที่ว่ามีแอนิเมชันเยอะ มีกบบิน เด็กๆ น่าจะชอบกันครับ ฉากที่ยากของผมจะเป็นช่วงที่จะต้องแปลงร่างเป็นกบ เพราะถูกกบบินจับก็เลยต้องกลายร่างเป็นกบ พอเวลาตอนถ่ายต้องใช้เวลาในการแต่งหน้านานมากเป็นชั่วโมง แล้วทุกคนก็ต้องมานั่งรอ เพราะว่าต้องเข้าฉากด้วยกัน เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกแต่ว่ายากมากครับ เราต้องเล่นกับจินตนาการของเรา แต่จินตนาการของเราทั้ง 4 คนต้องตรงกัน ทั้งการแอ็กติ้ง การมอง พอทำออกมาแล้วจะได้เหมือนกันหมดครับ"
ส่วนในเรื่องการทำงานร่วมกับเด็กๆ ผู้กำกับเผยว่าไม่ได้หนักใจเท่าไรนัก "ตอนแรกก็หนักใจ เพราะว่าผมไม่เคยกำกับนักแสดงเด็กมาก่อน แต่ผมว่าน้องเขามีพื้นฐานทางด้านแอ็กติ้งอยู่แล้วด้วยก็เลยทำให้การแสดงง่ายขึ้นครับ แต่ว่าน้องๆ พวกนี้จะใหม่มากกับการทำงานกับสลิง ซึ่งยอมรับว่าเขาเหนื่อย แต่ด้วยความที่เขาเป็นเด็ก เขามีความอดทน เขาสนุกกับงานมาก ทำให้การถ่ายทำกับเด็ก สลิง ซีจี ถ่ายทำกันไปได้ด้วยดีครับ"
โบกัส ฝากถึงภาพยนตร์ว่า "ก็ขอเชิญชวนทุกคนนะครับ ไม่ใช่ดูได้เฉพาะแค่เด็กหรือว่าดูได้แค่รุ่นเรา แต่ว่าสามารถดูได้ทุกเพศทุกวัย สามารถพาครอบครัวทั้งครอบครัวมาดูกันเยอะๆ นะครับ เพราะว่าคนไทยควรจะอุดหนุนหนังไทยนะครับ แล้วยิ่งเศรษฐกิจเป็นอย่างนี้ด้วย ก็ควรจะสามัคคีกันไว้ ชาติเราจะได้แข็งแรงขึ้นครับ" โอ๊ต พูดว่า "หนังเรื่องนี้จะเน้นเรื่องความสามัคคีของเพื่อน เหมือนกับตอนนี้ถึงจะแตกแยกยังไงคนไทยก็คือคนไทย ก็ควรมีความสามัคคีกันเข้าไว้ครับ ประเทศไทยถึงจะมั่นคง ก็อยากให้พี่ๆ น้องๆ ไปดูหนังกันด้วยนะครับ ส่งเสริมความสามัคคีครับ"
ด้าน อิง เชิญชวนให้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า "ก็อยากจะให้น้องๆ พี่ๆ ทุกคนมาดูหนังเรื่องนี้กันนะครับ ถึงจะแตกแยกกันยังไง พอเรามาดูหนังเรื่องนี้เราก็เห็นถึงความรักสามัคคีว่าเป็นยังไงครับ" แซร่า กล่าวว่า "แซร่าก็อยากให้ไปดูกันเยอะๆ นะคะ เพราะว่านานๆ ทีจะหนังไทยที่ทำซีจีได้ออกมาอย่างนี้นะคะ ก็เลยอยากให้มาอุดหนุนหนังไทยกันหน่อยนะคะ เพราะซีจีของเราก็ไม่แพ้คนอื่นค่ะ"
ส่วนผู้กำกับฝากว่า "หวังว่าจะไปดูหนังสำหรับครอบครัวที่สามารถดูได้ทุกเพศทุกวัย สามารถดูด้วยกันได้หมด เพราะเป็นเจตนารมณ์ที่อยากให้ทุกคนดูแล้วสนุก ไม่มีพิษไม่มีภัยจริงๆ เป็นหนังเยาวชนหนังครอบครัวจริงๆ ถ้ามาดูแบบเอาแต่สนุกอย่างเดียวก็จะมีอยู่ในหนังด้วย อย่างน้อยๆ ก็มีเรื่องของการผจญภัย เรื่องของจินตนาการด้วยครับ" และสุดท้ายที่ เคน กล่าวเชิญชวนว่า "มาดูซีจีของคนไทยนะครับ มาให้กำลังใจกับคนไทยทำหนังไทยด้วยนะครับ"
ร่วมผจญภัยไปกับเด็กน้อย 4 คน ที่หลงเข้าไปในดินแดนของมิติแห่งกาลเวลา แล้วมาร่วมลุ้นกันว่าพวกเขาจะเอาชนะอุปสรรคแล้วกลับมาสู่ยุคปัจจุบันได้อย่างไรใน บิดพิภพทะลุโลก เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ 29 ตุลาคม นี้