1. สยามโซน
  2. ภาพยนตร์
  3. ข่าววงการภาพยนตร์

แจ็ก นีโอ กับการมองสังคมสิงคโปร์ผ่านภาพยนตร์แนวตลก

แจ็ก นีโอ กับการมองสังคมสิงคโปร์ผ่านภาพยนตร์แนวตลก

ชื่อ "แจ็ก นีโอ" (Jack Neo) หรือ "เหลียงจื้อเฉียง" (Liang Zhi Qiang) อาจจะไม่คุ้นเคยสำหรับคอภาพยนตร์บ้านเรามากนัก แต่ในประเทศสิงคโปร์แล้ว แจ็ก เป็นทั้งเจ้าของรายการโทรทัศน์ นักแสดง นักเขียนบท และผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง ที่มีผลงานยอดนิยม "I Not Stupid" ซึ่งเคยเข้าฉายในประเทศไทย และภาพยนตร์ตลกทำรายได้ถล่มทลายที่สิงคโปร์มาแล้วอย่างเรื่อง "Money No Enough"

แจ็ก ได้เดินทางมาประเทศไทยเพื่อร่วมงานเทศกาลภาพยนตร์ตลกโลก 2009 (World Comedy Film Festival 2009) พร้อมทั้งนำภาพยนตร์สร้างชื่อของเขาอย่าง Money No Enough ภาค 1 และ 2 รวมทั้งภาพยนตร์เรื่องใหม่อย่าง "Love Matters" มาร่วมฉายในเทศกาลฯ ครั้งนี้ด้วย อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนไทยและแฟนๆ ได้ร่วมพูดคุยเกี่ยวกับภาพยนตร์แนวตลกที่สร้างชื่อของเขา เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ที่ผ่านมา บริเวณโรงภาพยนตร์พารากอน ซีนีเพล็กซ์

ก่อนทำภาพยนตร์ ทำอะไรมาก่อน

"ผมทำรายการทีวีของตัวเองมาตั้งแต่อายุ 15 จนตอนนี้ก็ 30 กว่าปี แล้วที่อยู่ในแวดวงทีวี ที่สิงคโปร์ไม่ได้มีหลายช่องสักเท่าไหร่ รายการผมชื่อ Comedy Night ผมเป็นทั้งพิธีกร คนเขียนบท เหมือนรายการวาไรตีโชว์ แต่ละตอนก็จะมีละครครึ่งชั่วโมง เป็นการล้อเลียนชีวิตของคนสิงคโปร์เองครับ"

เริ่มต้นมาทำภาพยนตร์ได้อย่างไร

"ที่สิงคโปร์ถือว่าไม่ได้มีอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ไม่ได้มีการสร้างภาพยนตร์อย่างจริงจัง ส่วนใหญ่คนสิงคโปร์จะดูหนังที่มาจากประเทศอื่น ส่วนตัวผมเองหลังจากทำรายการทีวีมาหลายปี ก็คิดว่ามันคงถึงเวลาที่จะไปต่อ ไม่งั้นจะตันอยู่แค่นั้น ผมคิดว่าการสร้างหนังเป็นสิ่งที่ดีครับ"

ทำไมถึงเขียนบทเรื่อง Money No Enough ขึ้นมา

"สำหรับเรื่อง Money No Enough ผมจะดูก่อนว่าเรื่องอะไรที่คนสิงคโปร์น่าจะสนใจ ตอนที่ผมเขียนสคริปต์ ผมคิดว่าเรื่องเงิน เรื่องคนที่มีเงินไม่พอ มันเป็นปัญหาใหญ่ของทุกคน เลยคิดว่าเรื่องนี้น่าจะเอามาเป็นเรื่องตลกได้ และคนดูจะสนใจ ตอนที่ผมทำทีวีมุกตลกหลายๆ อย่างไปด่ารัฐบาล ไม่สามารถออกทีวีได้ แต่พอมาทำเป็นหนัง หลายๆ มุก เล่นได้ในหนัง เพราะรัฐบาลไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่"

อยากให้พูดถึงภาพยนตร์ดังอีกเรื่องอย่าง I Not Stupid

"เรื่อง I Not Stupid เป็นเรื่องเกี่ยวกับระบบการศึกษาของสิงคโปร์ ที่จะแบ่งนักเรียนออกเป็น 3 ระดับ ตั้งแต่ฉลาดมากไปจนถึงโง่มาก ซึ่งคนที่อยู่ในระดับโง่นั้น พวกเค้าไม่ได้คิดว่าตัวเองโง่ แต่โง่เพราะการจัดระบบ ผมคิดว่าระบบนี้มันไม่แฟร์ มันเป็นการแบ่งแยก และทำให้เด็กรู้สึกไม่ดี ผมในฐานะคนสร้างหนัง ก็เลยอยากจะใช้ภาพยนตร์สื่อสารออกไปว่าระบบนี้มันไม่แฟร์ และเพื่อที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง

แล้วพอเรื่องนี้ได้ออกฉาย ก็มีการพูดถึงอย่างกว้างขวาง เรื่องระบบการศึกษาของสิงคโปร์ และในสภาก็มีการเอาไปพูดกันในตัวอย่างของการศึกษาที่มันไม่แฟร์ และสุดท้ายระบบนี้ก็ถูกเปลี่ยนไป ผมคิดว่าหนังเรื่องนี้อาจจะมีส่วนบ้างที่จุดประกายให้มีการเปลี่ยนแปลง"

มีผลกระทบไหมที่ภาพยนตร์ส่วนใหญ่จะล้อเลียนคนสิงคโปร์

"ผมโชคดีที่คนสนับสนุนหนังของผมเยอะ ผมอยากจะนำเสนอความจริง ไม่อยากจะซ่อนมันไว้ ผมเชื่อว่าคนสามารถที่จะเอ็นจอยการที่ดูตัวเองแล้วหัวเราะได้ อย่างเรื่อง I Not Stupid ครูใหญ่ของโรงเรียนยังออกมาพูดเลยว่าดีมากที่ผมทำหนังแบบนี้ ทำให้คนได้รู้ว่านักเรียนที่ถูกตราหน้าว่าไม่ฉลาด เค้าลำบากกันแค่ไหน"

มีคนกล่าวว่า คนสิงคโปร์ไม่มีอารมณ์ขัน จริงไหม

"ผมไม่เห็นด้วย ผมไม่รู้เหมือนกันว่าใครพูดว่าคนสิงคโปร์ไม่มีอารมณ์ขัน แต่อาจจะเป็นเพราะสภาพสังคมของคนสิงคโปร์ ที่คนนอกมองเข้าไป แต่ถ้าดูจากหนังของผมซึ่งเป็นหนังตลก เวลาคนสิงคโปร์มานั่งล้อมวงคุยกัน ก็ตลกมาก"

มุกตลกของสิงคโปร์ คนเอเชียจะเข้าใจไหม

"ผมคิดว่าในเอเชียด้วยกันน่าจะเข้าใจ เพราะสถานการณ์มันใกล้เคียงกัน อย่างเช่น I Not Stupid หรือ Money No Enough ตอนนี้ก็ได้ไปฉายที่เมืองจีน ที่ไต้หวัน และที่ฮ่องกง ไม่ใช่เฉพาะสิงคโปร์เท่านั้น"

ทำไมในภาพยนตร์ของคุณ มีหลายภาษา หลายสำเนียง

"ที่สิงคโปร์ มีหลายเชื้อชาติ และคนก็ใช้กันหลายภาษา แต่รัฐบาลสิงคโปร์ ไม่ชอบให้คนสิงคโปร์พูดภาษาอังกฤษสำเนียงสิงคโปร์ เพราะมันดูน่าอาย ไม่ใช่ภาษาอังกฤษที่ถูกต้อง รัฐบาลอยากให้พูดภาษาอังกฤษสำเนียงกลางมากกว่า แต่ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องนี่น่ายกย่อง เพราะมันเป็นวิธีที่คนในชุมชนพัฒนาภาษา จนกลายเป็นภาษาของตัวเองขึ้นมา สำหรับผมมันไม่ใช่ปัญหา ไม่ใช่เรื่องน่าอาย"

อยากหยิบประเด็นไหนมาทำภาพยนตร์ตลกอีก

"เรื่องต่อไปผมจะทำหนังผีครับ เป็นหนังผีตลกในแบบของผม ชื่อเรื่อง Where Got Ghost ซึ่งจะแบ่งเป็นสามตอน คือ ผีตามท้องถนน ผีที่อยู่ในป่า และ ผีที่อยู่ในบ้านคนครับ"

ทำไมในภาพยนตร์ตลกของคุณ ถึงยังมีฉากเศร้าด้วย

"หนังของผมจะมีทั้งหัวเราะและร้องไห้ไปพร้อมๆ กัน สิ่งที่แสดงบนจอบางทีทำให้เราคิดต่างออกไป ยกตัวอย่างในหนัง Money No Enough จะมีคนแก่ที่เป็นแม่และมีลูกสามคน สิ่งที่พี่น้องสามคนทำกับแม่มันแย่ แต่พวกเขาก็ไม่ได้ตั้งใจ บางสิ่งที่เราไม่รู้ตัว พอมันไปอยู่บนจอหนัง เราก็จะสะท้อนใจ เพราะบางทีเราก็ทำแบบนี้มันก็ไม่ดี ส่วนใหญ่ตัวละครจะเกี่ยวข้องกับครอบครัว เลยมีมุมมองที่ซึ้งใจ กินใจ ไม่ใช่ตลกอย่างเดียว"

ภาพยนตร์ตลกเรื่องโปรดของคุณคือเรื่องอะไร

"หนังตลกของผมจะเป็นตลกสถานการณ์ เรื่องตลกในชีวิตประจำวันมากกว่าตลกจากร่างกายหรือตลกเจ็บตัว หนังตลกของฝรั่งจะเน้นทางร่างกายมากกว่า แต่ผมชอบหนังตลกของญี่ปุ่นหรือเกาหลีมากกว่า เพราะทางมันตรงกันครับ"

แล้วคุณเป็นคนตลกไหม

"ต้องไปถามลูกของผมดูครับ (หัวเราะ) ผมคงไม่ตลกตลอดเวลา บางทีก็มีช่วงที่ซีเรียสบ้าง"

สงวนลิขสิทธิ์ © ห้ามคัดลอก ตัดต่อ
ดัดแปลงหรือเผยแพร่ในสื่อใดๆ ก่อนได้รับอนุญาต
กดเพื่อดูรูปใหญ่ ปัดซ้าย-ขวาเพื่อดูรูปถัดไป
  • รูปภาพ 1
  • รูปภาพ 2
  • รูปภาพ 3
  • รูปภาพ 4
  • รูปภาพ 5
  • รูปภาพ 6
  • รูปภาพ 7
  • รูปภาพ 8
  • รูปภาพ 9

ความคิดเห็น

ภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้อง

วันนี้ในอดีต

เกร็ดภาพยนตร์

  • The Last Five Years - ใช้เวลา 21 วันในการถ่ายทำ และถ่ายทำฉากเพลง Goodbye Until Tomorrow ในวันสุดท้าย อ่านต่อ»
  • Mad Max: Fury Road - ฉากเทคนิคพิเศษประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ ไม่ได้ใช้คอมพิวเตอร์ช่วย แต่เป็นของจริงโดยใช้นักแสดงแทน ฉาก และการแต่งหน้าช่วย ส่วนที่ใช้คอมพิวเตอร์ก็ใช้เพียงลบเชือก ตกแต่งพื้นที่ทะเลทรายนามิบ และสร้างแขนปลอมข้างซ้ายของ ชาร์ลีซ เธอรอน ผู้รับบท ฟิวริโอซา เท่านั้น อ่านต่อ»
เกร็ดจากภาพยนตร์สามารถดูได้ในหน้าข้อมูลภาพยนตร์แต่ละเรื่อง

เปิดกรุภาพยนตร์

เรื่องราวเน้นที่การทุจริตในระบบการศึกษาของประเทศ แนวคิดของการใช้เงินเพื่อซื้ออนาคตไม่ว่าจะเป็นการศึกษา งาน และรายได้ แม...อ่านต่อ»