ร่วมเดินทางค้นหาคำตอบของหัวใจในภาพยนตร์ ณ ขณะรัก

เข้าฉายรับเทศกาลแห่งความรักพอดิบพอดี สำหรับภาพยนตร์ชีวิตสุดซึ้ง "ณ ขณะรัก" หรือ "A Moment in June" เรื่องราวความสัมพันธ์ของคน 6 คนกับโอกาสครั้งที่ 2 ของความรัก จากฝีมือการกำกับของผู้กำกับคลื่นลูกใหม่ "โอ - ณัฐพล วงศ์ตรีเนตรกุล" ซึ่งบทภาพยนตร์เรื่องนี้เคยได้รับรางวัลจากโครงการ โพรดุยร์ โอ ซุด (Produire au Sud) ในเทศกาลภาพยนตร์โลกกรุงเทพฯ ครั้งที่ 3 และยังได้รับเกียรติให้ฉายในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติทั้งในและนอกประเทศมาแล้ว โดยได้ฤกษ์เปิดตัวและฉายรอบสื่อมวลชน ไปเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

ภายในงานอบอวลด้วยความรักจากเสียงร้องของหนุ่มเสียงนุ่ม "แสตมป์ - อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข" ที่ออกมาขับกล่อมบรรดาสื่อมวลชนและแขกผู้มีเกียรติ ด้วย 2 บทเพลงรักซึ้งๆ ที่ใช้ประกอบภาพยนตร์ คือเพลง "20202" และ "ความคิด" เสริมบรรยากาศแห่งความรักให้หวานขึ้นไปอีก จากนั้นก็ถึงเวลาของนักแสดงฝีมือดี ที่มากันพร้อมหน้าทั้ง "ชาคริต แย้มนาม" "ตั๊ก - นภัสกร มิตรเอม" "น้อย - กฤษดา สุโกศล แคลปป์" "นุ่น - สินิทธา บุญยศักดิ์" รวมไปถึงนักแสดงรุ่นใหญ่ "สุเชาว์ พงษ์วิไล" "ตุ๊ก - เดือนเต็ม สาลิตุล" และที่ขาดไม่ได้คือ โอ ผู้กำกับภาพยนตร์

โอ ผู้กำกับไฟแรง เล่าถึงเหตุผลที่หยิบเอามุมมองเรื่องโอกาสครั้งที่ 2 ของความรัก มาทำเป็นภาพยนตร์ว่า "เพราะว่าจากประสบการณ์ในช่วงชีวิตที่ผ่านมา ทำให้เรารู้ว่าโอกาสดีๆ ในชีวิตไม่ได้เกิดได้ทุกวัน แล้วเราคิดว่าถ้ามันเกิดได้ครั้งหนึ่งก็เยอะแล้ว ครั้งที่สองก็ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน เป็นอะไรที่ฝังใจครับ"

ฝ่ายนักแสดง ชาคริต ที่มารับบท ปกรณ์ ซึ่งเป็นคู่รักกับ ตั๊ก พูดถึงบทบาทของตัวเองว่า "ผมกับพี่ตั๊กคงเป็นเรื่องของคู่รักที่มีปัญหา ต่างคนต่างแยกทางกันสักพักเพื่อไปตามหาว่าจริงๆ แล้วตัวเองต้องการอะไร นั่นก็คือโอกาส เหมือนกับคำพูดที่ว่ามีเพชรอยู่ในมือแล้วเราเสียไป เพราะโมเมนต์ทุกโมเมนต์ที่เกิดขึ้นในชีวิตเรา ก็อยู่ที่ว่าเรารู้จักที่จะใส่ใจมันไหม เป็นความรักแบบชายชายครับ แต่เป็นความรักที่ไม่ได้พูดถึงเรื่องเพศเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าเกิดไปดูในเรื่องแล้วเป็นชีวิตของกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่ไม่ได้เจาะจง แต่กลมกลืนกันไป"

ส่วน ตั๊ก ในบท พล บอกว่า "เรื่องเพศเป็นเรื่องของโครงสร้างภายนอกที่เห็นได้ แต่เรื่องของภายในเป็นเรื่องของจิตใจครับ ผมไม่มั่นใจว่าพอดูหนังเรื่องนี้จบแล้ว คนเค้าจะมองผมกับชาคริตเป็นยังไง (หัวเราะ) แต่เรามั่นใจว่าเรื่องที่เราเล่นไป มีพื้นฐานที่ดี มีเนื้อเรื่องที่น่าสนใจครับ"

สำหรับเรื่องราวความรักของอีกคู่ นุ่น ซึ่งรับบทเป็นว่าที่เจ้าสาว บอกว่า "คู่นี้จะแอบรักกัน มีความรู้สึกดีๆ ให้กัน แต่ไม่มีโอกาสที่จะอยู่ด้วยกันค่ะ" ส่วน น้อย กับบทบาทเพื่อนเจ้าบ่าวที่ดันไปรักกับเจ้าสาวนั้น เล่าว่า "ผมเป็นคนที่แต่งงานแล้ว และเผอิญไปเจอคนที่ใช่มากกว่าภรรยาของเราครับ"

จากความรักของวัยหนุ่มสาว มาถึงความรักของของคนรุ่นใหญ่กันบ้าง โดย ตุ๊ก พูดถึงบทที่ได้รับว่า "ในเรื่อง อรัญญา เป็นนักเขียน และเป็นคนมุ่งมั่นในความรักมาก และมีความรักฝังใจกับผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งมันเกิดความพลิกผันจนต้องจากกันไป จะตัดใจก็ตัดใจไม่ได้ ก็เลยกลับมาเพื่อโอกาสครั้งที่ 2 ว่าเราจะได้โอกาสนั้นไหม แต่ถ้าอยากจะรู้ว่าได้รับไหม ก็ต้องเข้าไปดูนะคะ" ส่วน สุเชาว์ ก็บอกสั้นๆ ว่า "เราเป็นคู่รักที่เคยรักกันมา และรอเวลาเพื่อจะมาพบกันครับ"

เนื่องจากที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ตระเวนฉายให้ชาวต่างชาติได้ชื่นชมมาแล้วหลายประเทศ โอ ผู้กำกับหนุ่ม ก็ได้เผยถึงความรู้สึกที่ภาพยนตร์เรื่องนี้กำลังจะเข้าฉายให้คนไทยได้ดูกันว่า "ตื่นเต้นครับ และรู้สึกเป็นเกียรติ เพราะจริงๆ แล้วหนังเรื่องนี้มันเกิดมาเพราะน้ำใจของนักแสดง และถ้าเกิดไม่ได้ทางสหมงคลฟิล์มเห็นคุณค่าของหนังเรื่องนี้และมอบโอกาสดีๆ ให้เกิดขึ้น ก็คงจะไม่มีวันนี้ครับ"

ด้านนักแสดงรุ่นใหญ่ฝีมือเยี่ยมอย่าง ตุ๊ก ก็เล่าถึงความประทับใจในตัวผู้กำกับว่า "รู้สึกดีใจที่ได้มาร่วมงานกับเด็กหนุ่มไฟแรง ซึ่งจริงๆ แล้วเราเคยร่วมงานกับเค้ามาแล้วตอนที่เค้าเป็นนักเรียน และเค้ามีความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งทุกวันนี้หนังส่วนใหญ่จะตามกระแส แต่พอเราได้รับบทนี้ อ่านบทแล้วเรามีความรู้สึกว่ามันใกล้ตัวว่า ชีวิตของคนเราทุกวันนี้ไม่ได้จบลงแค่แต่งงานแล้วจบเลย แต่มันต้องดำเนินต่อไป ต้องเกิดเรื่องราวอีกมากมาย และยังมีเด็กคนหนึ่งที่สามารถเข้าใจถึงชีวิตที่แท้จริงได้"

ฟากนักแสดงหนุ่ม ชาคริต พูดถึงภาพยนตร์เรื่อง ณ ขณะรัก ว่า "เรื่องนี้ก็เป็นแรงกายแรงสมองของทุกคน และความรักที่ทุกคนมีให้กับโปรเจกต์หนังเรื่องนี้ เพราะฉะนั้นมันเป็นหนังของพวกเรา และเรารู้สึกว่าเราได้การอุปถัมภ์จากผู้ใหญ่หลายๆ คน และกับเพื่อนหลายๆ คนที่ไม่เกี่ยวข้อง แต่พอได้เห็นงานก็เข้ามาช่วยกัน ถ้าพูดง่ายๆ ก็เหมือนกับเด็กกลุ่มหนึ่งที่มีความฝันและมันเป็นจริง ก็ต้องขอบคุณทุกคน เพราะทุกคนทำให้มันเกิดขึ้นมาได้ครับ"

ด้าน น้อย บอกว่า "หนังเรื่องนี้ได้ไปฉายตามเทศกาลที่เมืองนอกมาหลายประเทศ เป็นหนังไทย ที่ใช้นักแสดงไทย เราดีใจมากที่มีโอกาสให้ทุกคนชมหนังเรื่องนี้ครับ" ส่วนสาว นุ่น เผยว่า "รู้สึกดีใจที่ความฝันเล็กๆ ถูกมองเห็น และทำให้เกิดเป็นรูปธรรมขึ้นมา สุดท้ายก็นำมาถึงโรงหนัง รู้สึกดีใจว่าอย่างน้อยเราก็ไม่ได้มองข้ามไป" ในขณะที่ สุเชาว์ พูดถึงความรู้สึกว่า "ผมก็ดีใจมากที่มีวันนี้ ตอนเริ่มถ่ายเรื่องนี้ ผมก็ยังวิตกอยู่ กลัวว่าจะไม่ได้ฉายให้คนส่วนใหญ่ดู หลายคนคิดว่าเป็นหนังอาร์ตจะดูยาก แต่วันนี้ก็จะได้ฉายให้คนส่วนใหญ่ได้ดู ผมดีใจมากครับ"

ผู้กำกับยังขอฝากภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า "12 กุมภานี้ ณ ขณะรัก ครับ ผมว่ามันเป็นแนวทางของหนังไทยที่หาดูไม่ได้ทั่วไป แต่รับรองว่าดูไม่ยากครับ" ส่วนหนุ่ม ชาคริต ขอทิ้งท้ายไว้ว่า "อยากให้ทุกคนใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าบนพื้นฐานของความรัก อย่าทะเลาะกัน และทุกวันก็น่าจะมีความสุข โลกจะสวยขึ้นเยอะเลย และอย่าลืมดูหนังเรื่องนี้ด้วยนะครับ"

บททดสอบความรักของคู่รักแต่ละคู่ กับโอกาสครั้งที่สองจะมีผลสรุปอย่างไร ติดตามได้ใน ณ ขณะรัก วันที่ 12 กุมภาพันธ์ นี้ ที่โรงภาพยนตร์