1. สยามโซน
  2. ภาพยนตร์
  3. ข่าววงการภาพยนตร์

ลีจุนกี เอาใจแฟนๆ จัดงานตั้งชื่อกลุ่มแฟนคลับเป็นทางการ

ลีจุนกี เอาใจแฟนๆ จัดงานตั้งชื่อกลุ่มแฟนคลับเป็นทางการ

กลับมาเรียกเสียงกรี๊ดอีกครั้งสำหรับ "ลีจุนกี" (Lee Jun-Ki) หนุ่มหน้าสวยชาวเกาหลีที่สาวไทยรู้จักกันดีจากบทบาทการแสดงในภาพยนตร์ "The King and the Clown" และละคร "My Girl" กลับมาประเทศไทยอีกครั้ง หลังจากเคยมาถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง "Time of Dog and Wolf" ที่ประเทศไทยไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยครั้งนี้เขากลับมาอีกครั้ง เพื่อถ่ายทำอัลบั้มภาพสำหรับใช้ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พร้อมทั้งจัดงานเปิดตัวและตั้งชื่อกลุ่มแฟนคลับอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเป็นครั้งแรก

วันที่ 30 พฤศจิกายน เหล่าชมรมคนรัก ลีจุนกี ต่างยกพลไปปักหลักกัน ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เพื่อคอยให้กำลังใจหนุ่มตี๋หน้าหวานขวัญใจสาวน้อยสาวใหญ่ทั้งหลาย ในงาน "Be Happy With Lee Jun Ki's Official Thai FC Opening" โดยครั้งนี้มีแฟนคลับที่ถูกคัดเลือกจำนวน 300 คนลงทะเบียนรับบัตรเพื่อเข้าสู่บริเวณงานด้วย

เริ่มเปิดงานโดย "จ๋า - ณัฐฐาวีรนุช ทองมี" ซึ่งรับหน้าที่พิธีกรของงานกล่าวเชิญ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมด้วย กรรมการผู้จัดการบริษัท เคทีซีซี จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนผู้ดูแล ลีจุนกี ในประเทศไทย และผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ออกมาพูดคุยกันถึงแผนการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวในประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ผ่านบันทึกการเดินทางของนักแสดงหนุ่มชาวเกาหลีผู้นี้ โดยจะเดินทางไปถ่ายที่ พัทยา กรุงเทพฯ และเชียงใหม่ ก่อนจะนำไปจัดทำเป็นดีวีดีและอัลบั้มภาพ เพื่อวางจำหน่ายทั่วภูมิภาคเอเชียต่อไป

จากนั้นเสียงกรี๊ดก็อื้ออึงไปทั่ว เมื่อ ลีจุนกี ปรากฏตัวออกมา เพื่อให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมกัน โดยหนุ่มหน้าหวานก็ทำคะแนนกุมหัวใจสาวๆ ได้อยู่หมัด เพราะไม่ว่าจะถามอะไร หนุ่มคนนี้ก็ปากหวานตอบเสียจนพิธีกรสาว แทบจะอายตามไปด้วยเลยทีเดียว

กลับมาเมืองไทยอีกครั้งหนึ่ง คิดว่าคราวนี้มีแฟนๆ เยอะกว่าเดิมไหม

"ไม่แน่ใจว่าเยอะกว่าเดิมหรือเปล่า แต่รู้สึกว่าดีเหมือนเดิมที่ยังมีคนชอบอยู่"

การได้มาไทยครั้งนี้รู้สึกว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้างหรือเปล่า

"ไม่แน่ใจว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือเปล่า เพราะว่ายังไม่มีเวลาดูอะไรเลย แต่ก็ยังรู้สึกดีเหมือนเดิม แล้วก็ยังรักเมืองไทยเหมือนเดิม"

ชอบเมืองไทยหรือประทับใจเมืองไทยตรงจุดไหนบ้าง

"จริงๆ แล้วก่อนที่จะถ่ายละครเรื่อง Time of Dog and Wolf เคยได้มาเที่ยวแป๊บเดียว แต่ก็ยังไม่ได้รู้สึกอะไรกับเมืองไทยมากนัก แต่หลังจากถ่ายละครเรื่องนี้ไปแล้วรู้สึกรักประเทศไทยมากขึ้นแล้ว เพราะได้อยู่นานถึง 1 เดือนเต็มๆ รู้สึกดีมาก สบายเหมือนอยู่บ้านตัวเอง แล้วก็รู้สึกว่าคนไทยทุกคนใจดีมากเลย"

สิ่งที่อยากทำในเมืองไทยมีอะไรบ้าง

"อยากจะเดินเล่นเหมือนคนธรรมดา เพราะคราวที่แล้วมาถ่ายละครอย่างเดียวเลยไปไหนมาไหนไม่ได้ แต่คราวนี้อยากเดินเที่ยวเป็นคนธรรมดา"

แฟนคลับในเมืองไทยเหมือนหรือต่างกับแฟนคลับเกาหลี

"คล้ายๆ กันครับ แต่สิ่งที่ต่างกันคือแฟนคลับที่เกาหลีจะเป็นแบบสนับสนุนเบื้องหลัง แต่แฟนคลับเมืองไทยจะแอ็กทีฟมากกว่า"

หลังตอบคำถามนี้จบ เสียงกรี๊ดแฟนๆ ก็กระหึ่มขึ้นมาจนเขาหันไปพูดกับแฟนๆ ว่า "คัมซาฮัมนิดะ จุนกีรักคุณ (ภาษาไทย)"

รู้สึกอย่างไรที่ Time of Dog and Wolf ได้รับความนิยมมากๆ

"รู้สึกดีใจมากแล้วก็อยากขอบคุณคนไทยและประเทศไทยมากๆ ก็ไม่คิดว่าที่เกาหลีจะดังขนาดนี้ และตอนนี้ยังฉายในประเทศอื่นๆ ที่เอเชียด้วย แต่เมืองไทยอีกไม่นานคงจะได้ดู"

คุณลีจุนกีร้องไห้ได้เก่งมากๆ มีเทคนิคอย่างไรบ้าง

"คำถามนี้ผมเคยโดนรุ่นน้องถามหลายครั้งแล้ว ผมก็ไม่มีเทคนิคอะไรเป็นพิเศษ ก็พยายามจะอินกับตัวละครของตัวเอง ก็จะทำให้ร้องไห้ได้ดีตามอารมณ์"

เข็มกลัดตรงหน้าอกนี้คืออะไร อวดให้แฟนๆ ดูหน่อยได้ไหม

"รู้สึกเป็นเกียรติมากครับที่ได้รับเข็มกลัดนี้ เมื่อกี้เจอผู้ว่า ททท. (การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย) มา เลยถามเล่นๆ ว่าขอได้ไหม มันสวยมาก แต่ให้จริง ตกใจมาก และรู้สึกเป็นเกียรติแล้วก็รู้สึกดี อิจฉาคนไทยที่มีในหลวงที่ยิ่งใหญ่ที่ดีมาก"

ถ้าให้ชวนเพื่อนๆ ไปเที่ยวที่ไหนสักที่ในเมืองไทยนี่จะชวนไปไหน

"เป็นคำถามที่ตอบยากมากเลยครับ ชอบกรุงเทพฯ พัทยา เชียงใหม่ ชอบทุกที่เลยครับ แต่ว่ายังมีภูเก็ตที่ยังไม่เคยไป ก็เลยอยากจะไปครับ"

เมื่อจบการสัมภาษณ์ก็ถึงเวลาตั้งชื่อกลุ่มแฟนคลับอย่างเป็นทางการกันแล้ว โดยมีชื่อให้ ลีจุนกี ได้เลือกด้วยกันหลายชื่อได้แก่ "Jun Ki Sawasdee Club" "LJK Club" "Arie(s)" "Heroman - Junkichi - FC" "Aquila" และ "LJK WONDERFUL CLUB" แต่ละชื่อก็ทำเอาเขาต้องหนักใจไม่น้อย หลังจากใช้เวลาคิดหนักอยู่พักใหญ่ในที่สุด หนุ่มตี๋ของเราก็เลือกชื่อ Jun Ki Sawasdee Club มาใช้เป็นชื่อกลุ่มแฟนคลับอย่างเป็นทางการ

จากนั้น วีเจจ๋า เชิญ แฟนคลับ 3 คนขึ้นมาบนเวที เพื่อสอนภาษาไทยให้เขาเล็กๆ น้อยๆ เริ่มจากคนแรก มากับคำว่า "รักแฟนไทย" เมื่อ ลีจุนกี พูดตามบรรดาแม่ยกก็กรี๊ดกันใหญ่ ประโยคต่อมา "คุณน่ารักจัง" คราวนี้พอ ลีจุนกี รู้ความหมายก็แอบอายไปเหมือนกัน และมาถึงประโยคสุดท้าย "ผมเท่มั้ยครับ" ซึ่งเขาก็ยกมือขึ้นมาทำท่าหล่อให้สาวๆ ได้กรี๊ดกันอีกเช่นเคย

มาถึงช่วงท้ายของงาน นักแสดงหนุ่มบอกลาแฟนๆ ทุกคนว่า "ขอบคุณทุกคนที่มาต้อนรับในวันนี้ ก็อยากจะกลับมาบ่อยๆ สิ่งที่สามารถตอบแทนความรักของทุกคนได้ก็คือการแสดงกับผลงานของผม" เมื่อถามถึงสิ่งที่เขาจะบอกกับชาวเกาหลีเกี่ยวกับประเทศไทย ลีจุนกี กล่าวว่า "สิ่งแรกที่จะบอกกับคนเกาหลีทุกคนและคนประเทศอื่น คือคนไทยใจดีมีน้ำใจ ไปเที่ยวแล้วคงไม่เสียใจ" ก่อนที่ตัวแทนแฟนคลับทั้งหลายจะนำของขวัญมามอบให้ ลีจุนกี เป็นการปิดท้าย

สงวนลิขสิทธิ์ © ห้ามคัดลอก ตัดต่อ
ดัดแปลงหรือเผยแพร่ในสื่อใดๆ ก่อนได้รับอนุญาต
กดเพื่อดูรูปใหญ่ ปัดซ้าย-ขวาเพื่อดูรูปถัดไป
  • รูปภาพ 1
  • รูปภาพ 2
  • รูปภาพ 3
  • รูปภาพ 4
  • รูปภาพ 5
  • รูปภาพ 6
  • รูปภาพ 7
  • รูปภาพ 8
  • รูปภาพ 9
  • รูปภาพ 10
  • รูปภาพ 11
  • รูปภาพ 12
  • รูปภาพ 13
  • รูปภาพ 14
  • รูปภาพ 15
  • รูปภาพ 16
  • รูปภาพ 17
  • รูปภาพ 18
  • รูปภาพ 19
  • รูปภาพ 20
  • รูปภาพ 21
  • รูปภาพ 22
  • รูปภาพ 23
  • รูปภาพ 24
  • รูปภาพ 25
  • รูปภาพ 26
  • รูปภาพ 27
  • รูปภาพ 28
  • รูปภาพ 29

ความคิดเห็น

ภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้อง

วันนี้ในอดีต

  • แจ๋ว
    เข้าฉายปี 2004
    แสดง พรชิตา ณ สงขลา, จารุภัส ปัทมศิริ, จารุณี บุญเสก
  • TRON: Legacy
    เข้าฉายปี 2010
    แสดง Garrett Hedlund, Olivia Wilde, Jeff Bridges
  • รักที่รอคอย
    เข้าฉายปี 2009
    แสดง รัชวิน วงศ์วิริยะ, พิษณุ นิ่มสกุล, ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ

เกร็ดภาพยนตร์

  • The Theory of Everything - สตีเฟน ฮอว์คิง พูดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ค่อนข้างเป็นเรื่องจริง จึงอนุญาตให้ใช้เสียงของเขาในตอนจบ และให้ยืมเหรียญแห่งอิสรภาพ กับวิทยานิพนธ์ที่ลงชื่อ สตีเฟน ฮอว์คิง ไปใช้เป็นอุปกรณ์ประกอบฉากด้วย อ่านต่อ»
  • Jupiter Ascending - แชนนิง เททัม ต้องสวมอุปกรณ์บริเวณปากที่ทำให้ลักษณะของขากรรไกรของเขาเปลี่ยนไป เพื่อรับบท เคน อุปกรณ์ชิ้นนั้นทำให้ แชนนิง หุบปากไม่ได้ แถมยังทำให้เขาพูดลำบากอีกด้วย อ่านต่อ»
เกร็ดจากภาพยนตร์สามารถดูได้ในหน้าข้อมูลภาพยนตร์แต่ละเรื่อง

เปิดกรุภาพยนตร์

เรื่องราวของชายวัยกลางคน ใช้ชีวิตท่ามกลางความแร้นแค้นในชนบทของประเทศลาว และมักเหลือบเห็นวิญญาณของหญิงสาวนางหนึ่ง ที่เขา...อ่านต่อ»