เจอะเจอ คนหิ้วหัว ผลงานเรื่องที่ 2 ของ พิง ลำพระเพลิง
หลังจากที่ฝากผลงานภาพยนตร์ซาบซึ้งใน "โคตรรักเอ็งเลย" กันไปแล้ว คราวนี้ผู้กำกับอารมณ์ดี "ภูพิงค์ พังสะอาด" หรือ "พิง ลำพระเพลิง" กลับมาอีกครั้งกับภาพยนตร์เรื่องที่ 2 "คนหิ้วหัว" ซึ่งเปิดตัวให้สื่อมวลชนมาร่วมเป็นสักขีพยาน เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ที่ผ่านมา ณ โรงภาพยนตร์ เอสเอฟ เวิลด์ ซีเนม่า
งานนี้นอกจากผู้กำกับแล้ว ยังมีนักแสดงนำและสมทบตบเท้ากันมาครบครัน ตั้งแต่ "ภูริ หิรัญพฤกษ์" "กระแต - ศุภักษร ไชยมงคล" "ไหม - วิสา สารสาส" "ปุ๊ย - คืนสิทธิ์ สุวรรณวัฒกี" หรือ "ปุ๊ย ตีสิบ" "หมึก - อภิชาต ชูสกุล" และ "ฟร็องซ์ - รัชชานนท์ สุขสกุล" มาร่วมพูดคุย โดยมี "เอก - วิชัย จงประสิทธิ์พร" เป็นพิธีกร
เข้าสู่ช่วงของการสนทนาเมื่อ พิง ให้นิยามของภาพยนตร์ คนหิ้วหัว ไว้ว่า "เป็นหนังอะไรบอกไม่ถูกจริงๆ แต่บอกได้เลยว่าไม่ใช่หนังผีนะครับ เป็นหนังหลากแนว คล้ายๆ โคตรรักเอ็งเลย มันกำหนดแนวหนังไม่ค่อยได้ว่าเป็นรัก ตลก ซึ้งหรือเปล่า แต่ผมเชื่อว่าทุกคนที่มาดู เมื่อชมจบแล้วก็จะได้ข้อคิดที่ว่า วันนี้เราใช้เวลาอยู่กับคนที่เรารักคุ้มค่าแล้วหรือยัง ต้องรอให้หัวขาดก่อนไหม คุณถึงจะกลับไปอยู่กับคนที่คุณรักได้"
พิง ยังเล่าถึงที่มาของภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย "คือผมชอบทำหนังจากปมด้อยของตัวเองครับ ผมรู้สึกว่าเขียนง่ายดี อย่างเรื่องที่แล้ว ผมรู้สึกว่าตัวเองทำผิดกับผู้หญิงคนหนึ่งไว้ ก็เลยทำหนังเพื่อขอโทษเค้า แต่เค้าก็ไม่มีโอกาสได้มาดู แต่เรื่องนี้ ผมรู้สึกว่าผมมีเวลาอยู่กับลูกน้อยเหลือเกิน ก็อยากจะทำหนังเพื่อให้ลูกมาดูหนังกับผม และจดจำได้ว่าเหตุการณ์นี้ผมกับลูกเคยทำร่วมกัน เพื่อจะได้ให้ลูกได้รู้ว่าพ่อไม่เคยลืมเรื่องราวที่เคยทำร่วมกับกับเค้าครับ"
มาถึงคำถามว่าอะไรดลใจให้มาเล่นภาพยนตร์เรื่องนี้ ภูริ ตอบว่า "พี่พิงบอกไว้ว่าอยากทำหนังเรื่องหนึ่งที่เล่าเรื่องเหมือนหนังเรื่อง Snatch ซึ่งเป็นหนังที่ผมชอบมาก และได้อ่านบทแล้วน่าสนใจจึงตกลงรับเล่น" ด้าน กระแต เล่าว่า "จริงๆ แล้ว กระแต ชอบ โคตรรักเอ็งเลย อยู่แล้ว ก็เลยรับเล่น" ส่วน ไหม พูดสั้นๆ ว่า "หลักๆ ก็คือชอบบท และช่วงเวลาก็ได้พอดี ก็เลยเล่น"
ใครจะรู้ว่าเรื่องนี้เกือบทำให้ ภูริ เอาชีวิตไม่รอดมาแล้ว เมื่อเขาเล่าถึงประสบการณ์หวิดตายว่า "จริงๆ แล้ว พี่พิง อยากให้เรามีส่วนร่วมในการแสดงทุกฉาก มีฉากรถชน แล้วรถต้องคว่ำ พี่พิง ถามว่าไหวไหม เค้าอยากให้เราเล่นฉากนี้ เอฟเฟ็กต์นิดเดียว แต่สุดท้ายผมก็ขอร้อง พี่พิง ว่าไม่เล่น เพราะเดี๋ยวกลัวถ่ายต่อไม่ได้ โชคดีมากครับ เพราะถ้าได้ไปดูหนังก็จะเห็นว่าตอนที่รถพลิกลงมาแล้วกระจกระเบิดนี่ ระเบิดได้แบบ โอ้โห! เราตัดสินใจถูกแล้ว ไฟนี่ลุกท่วมเลย" ซึ่ง พิง ก็แก้ต่างว่า "คือไม่ได้หลอก ภูริ แต่งบรักษาความปลอดภัยหมด ระเบิดแบบปลอดภัยมันแพง เลยต้องใช้ระเบิดที่ถูกลงมาหน่อย"
กระแต เผยถึงการทำงานร่วมกับ พิง ว่า "มีอยู่ 2-3 ฉากที่ พี่พิง ชอบเล่นแล้วไม่ยอมบอก คือตอนซ้อมไม่มี แล้วเราก็ตกใจจริงๆ อย่างฉากในห้องเก็บศพที่หัวขาดแล้วก็ลุกขึ้น อันนั้นตกใจจริงๆ หรือฉากที่ต้องเข้าไปในบ้านที่มีกระจกแตกเต็มไปหมด พี่พิง ก็จะอินมาก กระทืบกระจกเสียงดังจนพวกเราตกใจ"
จากนั้นเหล่าบรรดานักแสดงสมทบ หมึก ปุ๊ย ซึ่งเล่นเป็นโจรในเรื่อง และ ฟร็องซ์ ในบทลูกชายของ พิง ก็เข้ามาร่วมพูดคุย โดย พิง บอกเหตุผลที่เลือก 3 คนนี้มาเล่นในภาพยนตร์ว่า "ผมไม่ได้เลือกเค้า ผมต้องขอบคุณที่เค้ามาเล่นหนังของผมมากกว่า ดาราระดับ พี่หมึก ระดับ น้องฟร็องซ์ สองคนนี้ไม่ธรรมดานะครับ ผมต้องไปง้อเค้ามาเล่น ส่วนอีกคนนี่ ผมไม่โทรหาแต่มันโทรจิกตลอดเลย พี่ครับ บทเสร็จหรือยัง บทเสร็จหรือยัง" ทำเอา ปุ๊ย แก้ต่างให้ตัวเองแทบไม่ทัน
พิง ยังได้พูดถึงฉากวันเกิดของเต้ยที่เรียกน้ำตาได้ท่วมกองถ่าย "คือฉากนั้นผมรู้สึกว่าเป็นฉากไคลแม็กซ์ของเรื่องนะครับ ซึ่งนักแสดงเค้าเล่นได้แบบว่าทะลุจุดเดือดมาก โดยเฉพาะแมนๆ อย่าง ภูริ ที่อินไปกับบท หน้าแดงก่ำ ถูกใจผมมาก ซึ่งตัวที่สร้างความเศร้าให้กับเรื่อง คือผ้าห่มที่ เตี้ย ทำให้ลูก เป็นเสื้อผ้าของลูกตอนเล็กๆ ที่เตี้ยเย็บเป็นผ้าห่ม ผ้าห่มผืนนั้นมีชีวิตอยู่จริงๆ เป็นผ้าห่มที่ผมกับภรรยาเป็นคนเย็บให้"
จากนั้น "หนามเตย" ลูกชายของ พิง และเป็นแรงบันดาลใจให้ พิง ทำภาพยนตร์เรื่องนี้ขึ้นมาบนเวทีพร้อมกับผ้าห่มที่พูดถึง โดย พิง เสริมถึงผ้าห่มผืนนี้ว่า "ผ้าห่มผืนนี้ห่มแล้วผีอำเพราะมันหนัก ห่มแล้วเหน็บชาไปทั้งตัว ผ้าห่มผืนนี้หายไปนานมาก หายไป 7 เดือนแน่ะ เพิ่งมาเจอวันนี้ วันนี้จริงๆ"
ท้ายสุด พิง ยังฝากข้อคิดเอาไว้ก่อนปิดงานด้วยว่า "ใครจะเอาไปทำก็ได้นะครับ เสื้อผ้าของลูกคุณในวันนี้ วันที่เค้ายังเล็กๆ อาจจะยังไม่มีค่า แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป คุณกลับมานั่งมองมัน มันจะกลายเป็นของที่มีค่า อย่างที่ผมบอกในหนัง 2 เรื่องของผมว่า เวลาที่คุณมีอยู่ ใช้ไปกับคนที่คุณรักอย่างคุ้มค่าดีกว่าครับ อย่ารอให้คอขาดก่อนแล้วถึงจะมาโหยหาเวลาเหล่านั้นครับ"
มาช่วยกันลุ้นว่า ไอ้เตี้ย จะหาหัวของเขาเจอหรือไม่ ในภาพยนตร์เรื่อง "คนหิ้วหัว" ได้แล้ววันนี้ทุกโรงภาพยนตร์