งานแถลงข่าว Final Score 365 วัน ตามติดชีวิตเด็กเอ็นท์
งานแถลงข่าวเพื่อร่วมประเดิมเปิดสนามสอบภาพยนตร์ "Final Score 365 วัน ตามติดชีวิตเด็กเอ็นท์" ได้จัดไปเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม ที่ผ่านมา ภาพยนตร์จากความคิดของ "จิระ มะลิกุล" กับเรื่องราวชีวิตจริงยิ่งกว่าจริง ที่ตามถ่ายชีวิตเด็กเอ็นท์ตลอดระยะเวลา 365 วัน โดยทีมงานและผู้กำกับ ต้องทำงานตลอด 1 ปี แบบไม่มีวันหยุดจน เก้ง ถึงกับต้องดื่มน้ำสาบานกับทีมงานของเรื่องนี้ ซึ่งมีทั้งหมดแค่ 5 คนว่าทุกคนห้ามลาออกเลยทีเดียว
เริ่มงานกันที่พิธีกร "กนก รัตน์วงศ์สกุล" เชิญชวนทุกท่านชมวีทีอาร์มิวสิกวิดีโอเพลงประกอบภาพยนตร์ "วัน เดือน ปี" จากนั้นจึงได้แนะนำตัวแทนผู้ผ่านสมรภูมิการเอ็นทรานซ์มาแล้ว ได้แก่ "เต๊ด - ยุทธนา บุญอ้อม" เด็กเอ็นท์ปี 29 "โหน่ง - วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์" เด็กเอ็นท์ปี 30 "ป๊อด - ธนชัย อุชชิน" หรือ "ป๊อด - โมเดิร์น ด๊อก" เด็กเอ็นท์ปี 33
รวมไปถึงกลุ่มนักแสดงวัยรุ่นจากภาพยนตร์ Seasons Change หรือ เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย "พลุ - เฉลิมพล ตันติ์ทวิสุทธิ์" เด็กเอ็นท์ปี 49 "ต่าย - ชุติมา ทีปะนาถ" เด็กเอ็นท์ปี 50 "ว่าน - รัชชุ สุระจรัส" เด็กเอ็นท์ปี 52 ซึ่งทั้งหมดก็มาร่วมพูดคุยถึงประสบการณ์ในช่วงเอ็นทรานซ์ที่ผ่านมา ขณะที่ ต่าย และ ว่าน นั้นมาบอกกล่าวถึงการเตรียมตัวเอ็นทรานซ์ของตนเองเช่นกัน
ทั้งนี้ เต๊ด ได้สรุปชีวิตของเด็กเตรียมเอ็นท์ให้ได้ฟังกันว่า "ผมว่าเป็นปีที่สับสนมากที่สุดครั้งหนึ่งของการเป็นมนุษย์เรา คือการอยู่ ม.6 เป็นปีที่โตที่สุดในระดับชั้นมัธยม ดังนั้นอะไรที่เราเคยทำไม่ได้ตอน ม.1 - ม.5 พอ ม.6 จะทำได้หมด กิจกรรมเราก็จะเป็นระดับหัวหน้าชมรม แต่ในขณะเดียวกันเรายังต้องอ่านหนังสือเตรียมเอ็นทรานซ์ แล้วความที่เราสนิทกับเพื่อนมา 6 ปีเนี่ย อะไรที่ฮาๆ เฮๆ สนุกสนาน ก็จะมากที่สุดในตอนปีที่ 6 นี้ เลยเป็นปีที่สับสนมาก เพราะต้องดูแลชีวิตทั้งสองฝั่งให้บาลานซ์กัน"
ถึงช่วงพบกับผู้เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์ตัวจริง ได้แก่ "แอน - โสรยา นาคะวรรณ" ผู้กำกับสาวร่างเล็กแต่อึด เด็กเอ็นท์ปี 37 "หมู - อนุรักษ์ คงทา" ช่างภาพผู้มีกล้องอยู่บนบ่าตลอด 365 วัน เด็กเอ็นท์ ปี 41 "เปอร์ - สุวิกรม อัมระนันท์" เด็กเอ็นท์ปี 49 ซึ่งชีวิตจริงของเขาตลอด 1 ปี ได้ถูกถ่ายทอดลงบนจอภาพยนตร์ และสุดท้าย "ดวงพร อัมระนันท์" คุณแม่ของน้องเปอร์ ผู้ยินยอมให้มีกล้องตามไปถ่ายทำได้ถึงในบ้าน
คำถามแรกที่หลายคนสงสัยว่าทำไมคุณแม่ถึงยินยอมให้ลูกชายร่วมทำงานครั้งนี้ ก็มีคำตอบว่า "ทีมงานเข้ามาติดต่อลูกแล้วก็ตามไปที่โรงเรียน ตอนนั้นเปอร์ก็ไปเล่นคอนเสิร์ตดนตรีไทย ก็บอกให้เค้าระวังว่าสมัยนี้อาจจะถูกหลอกได้ แต่พอน้องเปอร์ได้รับเลือกจากเด็ก 6-7 คน เค้าก็มาถามว่าคุณแม่จะยินยอมมั้ยที่จะถูกติดตาม เราก็คิดว่าเด็กพวกนี้เป็นเด็กรุ่นใหม่ที่กำลังจะทำงาน ถ้าเราไปปิดโอกาสเค้า เค้าก็ไม่มีโอกาสที่จะนำเสนอ มองในแง่สนับสนุนคนรุ่นใหม่ค่ะ เราก็เลยให้โอกาส"
มาที่ฝ่ายผู้กำกับบ้าง แอน ก็มีคำตอบเช่นกันว่าเหตุใดจึงเลือกชีวิตของ น้องเปอร์ มาบอกเล่าลงบนแผ่นฟิล์ม "ตอนแรกที่เข้าไปคุยกับเปอร์เราก็มีช้อยส์เด็กคนอื่นอยู่แล้ว ไม่ได้มีเปอร์คนเดียวที่ทีมงานสนใจ แต่พอยิ่งเข้าไปคุย ยิ่งทำความรู้จัก เราก็รู้สึกว่าเปอร์เนี่ยสามารถที่จะตามติดได้ตลอด 365 วันจริงๆ เพราะแต่ละวันนี่เค้าจะมีเรื่องแต่ละเรื่องมาไม่เหมือนกัน อย่างตอนช่วงแรกๆ ที่เราไปถ่ายก็จะมีอกหัก อะไรแบบนี้ ซึ่งก็จะมาปรึกษาพี่หมูว่ายังไงดี เลยเป็นความสนิทสนมและรู้สึกว่าจะต้องเป็นเด็กคนนี้ค่ะ แล้วเปอร์จะเป็นเด็กที่ธรรมชาติไม่กลัวกล้อง คือถ้าพี่อยู่ผมจะทำแบบนี้ และถึงพี่ไม่อยู่ผมก็จะทำแบบนี้ค่ะ"
ปิดท้ายงานกันที่วีทีอาร์มิวสิกวิดีโอเพลงประกอบภาพยนตร์ "กันและกัน" รวมทั้งตัวอย่างภาพยนตร์ ซึ่งเปิดให้ผู้มาร่วมงานได้ชมกันด้วย ส่วนภาพยนตร์ของจริงแบบเต็มๆ นั้น Final Score 365 วัน ตามติดชีวิตเด็กเอ็นท์ ก็จะประกาศผลกัน 1 กุมภาพันธ์ ปีหน้า