1. สยามโซน
  2. ภาพยนตร์
  3. ข่าววงการภาพยนตร์

อังเคิล วางมือบริหารกลับมากำกับภาพยนตร์ วาไรตี้ผีฉลุย

อังเคิล วางมือบริหารกลับมากำกับภาพยนตร์ วาไรตี้ผีฉลุย

ย้อนหลังไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ถ้าถามว่าภาพยนตร์เรื่องไหนครองใจวัยโจ๋ยุคนั้นมากที่สุด คงจะมีเรื่อง "ฉลุย" ติดโผอย่างแน่นอน และถ้าถามว่าผู้กำกับคนใดเป็นผู้กำกับในดวงใจ ก็คงจะมีชื่อ "อังเคิล - อดิเรก วัฏลีลา" อยู่ในลำดับต้นๆ วันนี้อังเคิลวางมือจากการเป็นนักบริหารหันกลับมารับหน้าที่ผู้กำกับ งานที่เขาบอกว่าถนัดที่สุดกับภาพยนตร์ผี-ตลกเรื่องใหม่ ที่ได้นักแสดงตลกชื่อดังของเมืองไทยอย่าง "หม่ำ จ๊กมก" หรือ "เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา" มารับบทนำใน "วาไรตี้ผีฉลุย" ซึ่ง อังเคิล ได้เล่าถึงการทำงานว่า

วาไรตี้ผีฉลุยเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร

"เรื่องราวโดยรวมจะเกี่ยวกับคนที่กลัวผีมาก แต่ไม่เคยเห็นผีและก็ไม่รู้ว่าจะเชื่อดีหรือไม่เชื่อดี ตัวละครหลักไม่ว่าจะเป็น ต้อม (หม่ำ จ๊กมก) ติ๊ก เดอะสตาร์ (ติ๊ก กลิ่นสี) ซุปเปอร์เน็ก (บริบูรณ์ จันทร์เรือง) แป่ว (พิชญ์นาฏ สาขากร) และ น้องลูกหมี (เฉลิมพล ฑิฆัมพรธีรวงศ์) จะเป็นคนที่ไม่มีซิกเซนต์ ไม่ใช่คนที่สามารถเห็นผีได้ แต่ผีจะอยู่รอบตัวเขา คือผู้ชมในเรื่องจะเป็นคนที่มีสัมผัสที่หก สามารถเห็นผีได้แทน แต่งานที่พวกเขาทำคือรายการ Ghost Variety ซึ่งจะต้องตามไปถ่ายผีในบ้านร้างต่างๆ มันก็ท้าทายดี เพราะพวกเขาต้องกลัวผีก็เป็นเรื่องราวชุลมุนกันไป"

นักแสดงนำในเรื่อง

"นักแสดงนำในเรื่องก็จะมีคุณหม่ำ จ๊กมก, คุณติ๊ก กลิ่นสี, น้องเมย์ - พิชญ์นาฏ สาขากร, ตั๊ก - บริบูรณ์ จันทร์เรือง, เจี๊ยบ - วัชระ ปานเอี่ยม และ แจ๊ค - เฉลิมพล ฑิฆัมพรธีรวงศ์ ซึ่งแต่ละคนก็จะมีคาแรกเตอร์ที่ต่างกันไปแต่จะมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันหมด คือ เป็นคนที่กลัวผีมาก ซึ่งกว่าจะได้คิวของแต่ละคนก็ยากเป็นปรกติครับ แต่ถือว่าเราโชคดีที่หลายคนที่มาเล่นคาแรกเตอร์จริงตรงกับในหนัง

อย่างคาแรกเตอร์ของ ต้อม จะเป็นคนที่อยากเป็นผู้กำกับ อยากทำหนังใหญ่ประมาณว่าหุ่นไม่ให้แต่ใจรักและเป็นหนังตลกด้วย ผมว่าหม่ำเหมาะสมที่สุดแล้ว เขาค่อนข้างเป็นที่ยอมรับของคนทั่วไป เป็นคนที่มีความสามารถมาก และตอนนี้หม่ำเองเขาก็ได้เป็นผู้กำกับแล้วจึงค่อนข้างตรง ส่วน เมย์ พิชญ์นาฏ ผมเคยร่วมงานกับเขาในฐานะนักแสดงเรื่อง บุปผาราตรี 2 ซึ่งตัวจริงเขาค่อนข้างตลก ติ๊งต๊อง ก็ตรงกับคาแรกเตอร์ของแป่ว ซึ่งจะโก๊ะๆ หน่อย

ส่วน ตั๊ก บริบูรณ์ เขาเป็นคนตลกอยู่แล้ว คาแรกเตอร์ในหนังก็จะเป็นนักร้องวัยรุ่นชื่อดัง ออกแนวฮิปฮอปหน่อยซึ่งตัวตั๊กเองก็ไม่ได้เล่นหนังนาน 10 ปี จึงทาบทามเขามาเล่น ซึ่งเขาก็โอเค เจี๊ยบ วัชระ ก็เคยร่วมงานกันมาก่อน ส่วน แจ๊ค คาแรกเตอร์จะแตกต่างไปเลย คือเป็นกะเทยเสิร์ฟน้ำในกองถ่าย ซึ่งเขาเล่นออกมาได้ดีและตลกมากครับ การทำงานร่วมกับนักแสดงทุกคนก็รู้สึกประทับใจมาก ทุกคนเป็นมืออาชีพครับ ประสบการณ์เพียบ การทำงานจึงง่ายขึ้นทุกคนรู้หน้าที่เพราะผ่านงานแสดงมาก่อน"

เรื่องนี้ใช้เวลาในการเตรียมงานและถ่ายทำกี่เดือน

"ถ้าพูดถึงเรื่องบทก็เตรียมมานาน แต่เนื่องจากคิวคุณหม่ำที่เราได้มา ทำให้เราต้องรีบเปิดกล้องทันทีและใช้เวลาในการถ่ายทำนาน 2 เดือน แม้ว่าผมจะทำงานมานาน แต่ถือว่าเรื่องนี้เป็นการทำงานที่ท้าทายนะ ได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ อุปสรรคโดยส่วนใหญ่ที่เราเจอคือฝน คิวรวนเพราะฝน จึงบานปลาย ถ้าไม่ติดปัญหาเรื่องของฝนคงจะราบรื่นกว่านี้ อย่างนักแสดงแทนที่จะหมดคิวเที่ยงคืนกลายเป็นเสร็จเช้า ต้องอดนอนก็กลายเป็นเรื่องลำบากของทุกฝ่าย"

สิ่งที่ประทับใจที่สุด

"คงจะอยู่ที่การเข้าไปบ้านผี เพราะทุกอย่างเราอิงกับสถานที่จริง อิงกับความน่ากลัวจริง แทบจะไม่ต้องเซ็ต ให้เข้าไปคนเดียวก็ไม่ไปครับ เพราะบางสถานที่เขาก็เตือนเรื่องความเฮี้ยน แต่พอไปกันเป็นกลุ่ม ผีก็กระเจิงแล้ว รอดมาได้ก็ดีมากแล้ว ผมว่านี่คือความประทับใจ เพราะผมเป็นคนที่กลัวผีมาก และส่วนใหญ่จะถ่ายทำช่วงกลางคืน บรรยากาศสยองมาก แต่ในกองถ่ายไม่มีใครเคยเจออะไรนะ อาจจะเพราะหน้ามืดตามัวอยู่กับการทำงาน หรืออาจจะมีคนเจอก็ได้ แต่ผมไม่เจอ อาจเพราะไม่มีเวลามานั่งสังเกตตรงนี้"

โปรดักชั่นดีไซน์

"ผมว่าความน่ากลัวของหนังเรื่องนี้ โปรดักชั่นดีไซน์มีส่วนช่วยมาก แต่ส่วนใหญ่เราจะอิงกับสถานที่จริง อิงกับความน่ากลัวจริง โปรดักชั่นดีไซน์ก็ช่วยแต่งเติมอย่างเช่นฉากพิธีกรรมที่หมู่บ้านดอนผีเปรต ซึ่งทีมงานจะต้องบุกไปพิสูจน์ผี เราก็เซ็ตต้นไม้ใหญ่กลางลานพิธีขึ้นมาซึ่งดูขลัง ดูน่ากลัวมากและเหมือนจริงทุกอย่าง มีของเซ่นไหว้หัวหมูไก่ต้ม ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีส่วนทำให้หนังดูน่ากลัวสมบูรณ์แบบ ส่วนการไปพิสูจน์ตามบ้านร้างต่างๆ นั้นทางทีมงานก็๋เลือกโลเกชั่นที่มีอยู่จริงและแต่งเติมให้ดูน่ากลัวขึ้น"

จุดเด่นหรือเสน่ห์ของเรื่องนี้

"เสน่ห์คงอยู่ที่แฟนของฉลุยในภาคก่อนๆ อย่างคนที่เป็นแฟนคลับฉลุย เขาคงตามมาดูว่าฉลุยภาคนี้จะดำเนินไปอย่างไร จะมีเนื้อหายังไง ส่วนคนที่ไม่เคยดูฉลุยมาก่อน วาไรตี้ผีฉลุยก็เป็นหนังตลกคลายเครียดที่มีนักแสดงมืออาชีพอย่างคุณหม่ำ จ๊กมก, คุณติ๊ก กลิ่นสี ก็คงเป็นหนังที่ให้ความบันเทิงแก่ผู้ชม และคงจะแตกต่างจากหนังผีเรื่องอื่นๆ ก็ถือว่าน่าท้าทายที่จะให้คนดูมาค้นหา"

ทำไมจึงเลือกทำภาพยนตร์ผี-ตลก

"ผมว่าตอนนี้กระแสหนังผีมาแรง เป็นเทรนด์ของหนังทั่วโลก เราจึงจับมาล้อเลียน มันมีมุมให้ต้องเสียดสี ก็เป็นอารมณ์แบบสนุกสนาน"

จุดเริ่มต้นของการกลับมากำกับภาพยนตร์อีกครั้งในรอบ 10 ปี

"หลังจากเรื่องฉลุยหินคนไข่สุดขอบโลก ผมก็ผันตัวไปอยู่เบื้องหลัง เป็นโปรดิวเซอร์มามากกว่า 20 เรื่อง ผลักดันผู้กำกับกว่า 20 คน ก็คงต้องถึงเวลาพัก อีกอย่างหนึ่งคือถ้าไม่ได้กำกับหนังเกินกว่า 10 ปี จะหมดอายุการเป็นสมาชิกสมาคมผู้กำกับจึงเหมือนต่ออายุไปในตัว"

จุดร่วมหรือแกนสำคัญของ ฉลุย ทั้ง 4 ภาค

"ผมสังเกตจากงานตัวเองส่วนใหญ่จะพูดเกี่ยวกับความฝัน บางคนอยากเป็นนักร้อง เป็นแอร์โฮสเตส ฉลุยก็พูดถึงตรงนี้ทุกภาค พูดถึงคนที่พยายามต่อสู้กับปัญหารอบข้างให้สำเร็จ แต่โดยส่วนตัวอยากดึงกลับมาว่าถ้าคุณเลือกที่จะเป็นอะไรแล้วก็ให้ตั้งใจทำสิ่งนั้นให้ดี และเรื่องของความเป็นเพื่อน การช่วยเหลือให้กำลังใจกัน นี่คือประเด็นสำคัญที่ผมต้องการนำเสนอ"

มาจนถึงวันนี้คิดว่าชีวิตของตนเองผูกพันกับการทำหนังอย่างไรบ้าง

"ผมเริ่มทำหนังมาตั้งแต่ปี 2525 จนถึงปี 2548 ก็เกือบ 20 ปีแล้ว ก็คงต้องทำกันต่อไป หนังบางเรื่องเรายังไม่สามารถสื่อสารกับคนดูได้ เราก็ต้องแก้ไข ต้องปรับปรุงพัฒนากันต่อไป หรือส่วนไหนที่ลงตัวแล้วก็อยากลองอะไรใหม่ๆ ไปเรื่อย"

คิดว่าการทำหนังอยู่ในสายเลือดหรือเปล่า

"สายเลือดเหรอ คงมีแต่ดีเอ็นเอมั้ง (หัวเราะ) จริงๆ แล้วการทำหนังถือเป็นงานอาร์ต เป็นศิลปะสาขาหนึ่ง คือตั้งแต่เด็กผมก็วาดรูป เขียนรูป โตขึ้นมาก็ทำงานด้านวาดเขียนอีก การทำหนังก็มีมุมที่ทำให้เราได้ใช้เทคนิค การเขียนรูปได้ใช้ความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นด้านแสงเงา การคอมโพสภาพหรือเรื่องของมุมกล้อง จนมาถึงการใช้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติมาควบคุมภาพยนตร์ เรียกว่าเป็นความถนัด ความชอบส่วนตัว และสนุกที่จะได้ทำมากกว่า

อีกอย่างคือเป็นคนที่ชอบดูหนังมาก คือทำอย่างอื่นไม่เป็น ในแง่ของความบันเทิงนะ ตีกอล์ฟก็ไม่เป็น เล่นบันจี้จัมพ์ก็ไม่กล้า กลัวความสูง ตกปลาก็กลัวบาป การดูหนังจึงง่ายที่สุดแล้ว มันเอามาพัฒนาหนังเราได้ด้วย บางครั้งหลับคาโรงหนังก็มีนะ อาจจะดูทุลักทุเล แต่มันคือความสุข เหมือนสิ่งเสพติดได้เห็นในสิ่งที่ไม่เคยรู้ โดยไม่ต้องไปหาจากที่ไหน"

ถนัดงานด้านไหนมากกว่าระหว่างฐานะโปรดิวเซอร์และผู้กำกับ

"คงเป็นผู้กำกับครับ เหมือนกับเราคิดอะไรเราก็ทำไปตามนั้น โปรดิวเซอร์มันเหมือนเป็นคนสนับสนุนผู้กำกับอีกทีหนึ่ง เป็นตำแหน่งเบื้องหลังไม่สามารถเลือกได้ เพราะผู้กำกับเขาก็มีอีกมุมมอง การเป็นโปรดิวเซอร์เป็นช่วงหนึ่งของชีวิต ซึ่งเราได้เห็นผู้กำกับบางคนที่มีฝีมือ แต่ไม่สามารถไปพูดกับนายทุนให้มาลงทุนได้ แต่เรามองเห็นตรงนี้ งานหลายงานที่เราอยากดู แต่ไม่มีความสามารถที่จะทำ เราก็ไปเป็นเบื้องหลังให้เขา ทำให้เราได้เห็นงานที่หลากหลายขึ้น แต่งานแสดงบอกเลยว่าตนเองไม่ถนัดเลย เป็นแค่แขกรับเชิญให้กับคนที่สนิทกันมากกว่า"

พูดถึงปรากฏการณ์ของ ฉลุย ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมากในยุคนั้น

"คือยุคนั้นหนังจะไม่มาก การแข่งขันยังไม่สูง สิ่งที่ฉลุยประสบความสำเร็จเป็นเพราะความแตกต่าง ซึ่งในยุคนั้นไม่มีใครกล้าเอานักแสดงโนเนมมาเล่น แถมยังใส่เสื้อยืด กางเกงยีนส์ ซึ่งเด็กวัยรุ่นสมัยนั้นต้องแต่งตัวแบรนด์เนม พระเอกก็ต้องหล่อล่ำแมน แต่หนังของเราพระเอกแสนจะธรรมดา แต่อาจจะโดนใจใกล้ตัวเด็กวัยรุ่นยุคนั้น คือในฉลุยจะพูดถึงความฝันว่าอยากเป็นนักร้อง ซึ่งใกล้เคียงกับความฝันของวัยรุ่น และพูดถึงความเป็นเพื่อน ซึ่งในสมัยนั้นผู้ใหญ่เขามีกรอบที่แคบและหนา วัยรุ่นสมัยนั้นเขาดูฉลุยเขาสามารถทะลุทะลวงได้ ได้คิดได้ทำอย่างอิสระอยู่ในกลุ่มของเพื่อน"

อยากฝากอะไรถึงแฟนของฉลุยหรือคนที่ติดตามผลงานของตัวเองบ้าง

"สำหรับแฟนฉลุย ผมว่าเหมือนกับการได้กลับไปเที่ยวบ้าน ซึ่งเราก็จะได้เห็นความเปลี่ยนแปลง เช่นต้นไม้ใหญ่ขึ้น บ้านเมืองเจริญขึ้น ก็มารำลึกถึงฉลุยเก่าๆ กัน โดยเฉพาะคุณเอ็มกับคุณบิลลี่ก็จะมารับเชิญในหนังด้วย เราจะได้เห็นบทสรุปของฉลุยว่าเป็นอย่างไร"

เมื่อเจอผี จะหนีหรือจะเหวอ เตรียมพบกับคำตอบได้ในใน วาไรตี้ผีฉลุย วันที่ 29 ธันวาคม นี้ ที่โรงภาพยนตร์

ความคิดเห็น

ภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้อง

วันนี้ในอดีต

เกร็ดภาพยนตร์

  • The Last Five Years - ใช้เวลา 21 วันในการถ่ายทำ และถ่ายทำฉากเพลง Goodbye Until Tomorrow ในวันสุดท้าย อ่านต่อ»
  • Mad Max: Fury Road - ฉากเทคนิคพิเศษประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ ไม่ได้ใช้คอมพิวเตอร์ช่วย แต่เป็นของจริงโดยใช้นักแสดงแทน ฉาก และการแต่งหน้าช่วย ส่วนที่ใช้คอมพิวเตอร์ก็ใช้เพียงลบเชือก ตกแต่งพื้นที่ทะเลทรายนามิบ และสร้างแขนปลอมข้างซ้ายของ ชาร์ลีซ เธอรอน ผู้รับบท ฟิวริโอซา เท่านั้น อ่านต่อ»
เกร็ดจากภาพยนตร์สามารถดูได้ในหน้าข้อมูลภาพยนตร์แต่ละเรื่อง

เปิดกรุภาพยนตร์

เรื่องราวเน้นที่การทุจริตในระบบการศึกษาของประเทศ แนวคิดของการใช้เงินเพื่อซื้ออนาคตไม่ว่าจะเป็นการศึกษา งาน และรายได้ แม...อ่านต่อ»