คลินต์ อีสต์วูด คว้ารางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม ประจำปี 2004
ผู้กำกับมือเก๋า "คลินต์ อีสต์วูด" ที่นอกจากจะพาภาพยนตร์และตัวเองเข้าชิงรางวัลออสการ์ได้เพียบแล้ว ยังคว้ารางวัลผู้กำกับแห่งปีจากสมาคมผู้กำกับแห่งอเมริกาหรือ "Directors Guild of America" (DGA) มาครองได้สำเร็จ ทำให้เจ้าตัวมีโอกาสคว้ารางวัลเดียวกันจากเวทีออสการ์มานอนกอดได้มากทีเดียว
อีสต์วูด สามารถคว้ารางวัลผู้กำกับแห่งปีได้เป็นเป็นครั้งที่สองจากเรื่อง "Million Dollar Baby" โดยก่อนหน้านี้ เขาเคยได้จาก "Unforgiven" เมื่อปี 1992 และยังสามารถคว้ารางวัลออสการ์สาขาผู้กำกับยอดเยี่ยมรวมทั้งภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในปีนั้นได้อีกด้วย
การคว้ารางวัลในครั้งนี้ ทำให้ความหวังของ มาร์ติน สกอร์เซซี อีกหนึ่งมือดีจากเรื่อง The Aviator เลือนรางลงไปอีก เพราะนอกจากจะพลาดท่าจากเวทีลูกโลกทองคำมาแล้ว แม้แต่เวทีของ DGA เอง สกอร์เซซีก็เคยได้รับการเสนอชื่อมากถึง 6 ครั้ง แต่ยังไม่สามารถคว้ารางวัลอันทรงเกียรติแก่วงการผู้กำกับตัวนี้ได้เลยเช่นกัน
ทางด้านอีสต์วูดนั้น นอกจากจะกำกับแล้ว ยังร่วมแสดงในบทบาทของที่ปรึกษาอย่างไม่ค่อยจะเต็มใจนักให้กับนักมวยหญิง ซึ่งผู้รับบทนักมวยหญิง คือ ฮิลลารี สแวงก์ ที่คว้ารางวัลลูกโลกทองคำจากบทนี้ไปเรียบร้อย และมี มอร์แกน ฟรีแมน มาร่วมแสดงในบทบาทของอดีตนักมวยและผู้ดูแลโรงยิม
รางวัลที่ได้ในครั้งนี้ ผู้กำกับจากเรื่อง Mystic River ก็ขอยกผลประโยชน์ให้กับสแวงก์และฟรีแมน ในฐานะที่ทำหน้าที่นักแสดงได้อย่างยอดเยี่ยม จนทำให้งานของเขาในฐานะผู้กำกับของเรื่องโดดเด่นจนสามารถคว้ารางวัลนี้มาได้อีกครั้ง
"ผมคงต้องบอกก่อนว่านี่คือรางวัลที่ผมยินดีเป็นที่สุดเลยล่ะครับ ผมได้ทำงานร่วมกับฮิลลารีและมอร์แกน รู้สึกเลยว่ามีแต่คนที่สุดยอดมาร่วมงานกับผมจนเป็นภาพยนตร์เรื่องนี้ขึ้นมา สิ่งที่ผมต้องทำนะ ก็แค่ยืนอยู่ตรงนั้นและก็แนะนำเขาเท่านั้นเอง" ผู้กำกับแห่งปีกล่าวระหว่างรับรางวัล โดยทั้งอีสต์วูด สแวงก์ และ ฟรีแมน ต่างก็ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งที่ 77 พร้อมหน้าพร้อมตาเลยทีเดียว
Million Dollar Baby โผล่ออกมาร่วมล่ารางวัลได้ในนาทีสุดท้ายพอดี เพราะกว่าที่ผู้กำกับจะเริ่มถ่ายทำก็ล่วงเลยไปจนช่วยต้นฤดูร้อนปี 2004 ที่ผ่านมา จนทางผู้จัดจำหน่ายอย่างค่ายวอร์เนอร์บราเดอร์สยังคิดว่าจะได้เข้าฉายในช่วงปี 2005 ด้วย และพออีสต์วูดตัดส่วนหนึ่งของภาพยนตร์มาเป็นตัวอย่าง ก็ทำเอาผู้บริหารของค่ายหลงรักภาพยนตร์เรื่องนี้กันถ้วนหน้า พร้อมใส่เกียร์ห้าจนสามารถดันภาพยนตร์ออกมาฉายได้ในเดือน ธ.ค.และอยู่ในเกณฑ์จนเข้าชิงออสการ์ได้ทันพอดิบพอดี
ส่วนรางวัลของ DGA นั้นชาวฮอลลีวูดถือว่าเป็นรางวัลที่ทำนายผลออสการ์ได้แม่นยำที่สุด เพราะ 56 ปีที่แจกมา มีเพียง 6 ครั้งที่ผู้คว้ารางวัลผู้กำกับแห่งปีจะไม่ได้รางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมล่าสุด สองปีก่อนที่ "ร็อบ มาร์แชล" คว้ารางวัลผู้กำกับแห่งปีจากเรื่อง Chicago มาได้ แต่ผู้กำกับยอดเยี่ยมในฝ่ายของรางวัลออสการ์เป็น "โรมัน โปลันสกี" จาก The Pianist นั่นเอง งานออสการ์งวดนี้สกอร์เซซีจึงต้องลุ้นหนักทีเดียว
ด้านรางวัลอื่นๆ ที่น่าสนใจเป็น "The Story of the Weeping Camel" การช่วยเหลือลูกอูฐให้รอดตายหลังจากแม่ไม่ยอมให้กินนมของสองผู้กำกับ แบมบาสุเร็น ดาวา และ ลุยจิ ฟาลอร์นี (Byambasuren Davaa และ Luigi Falorni) เอาชนะ Fahrenheit 9/11 สารคดีเชือดเฉือนการเมืองของ ไมเคิล มัวร์ คว้ารางวัลผู้กำกับแห่งปีประเภทภาพยนตร์สารคดีมาได้
ส่วน บรูซ กาวเวอร์ส ได้รางวัลจากวาไรตีรายการเพลง Genius: A Night for Ray Charles วัลเตอร์ ฮิลล์ ได้จากประเภทซีรีส์ดรามาเรื่อง Deadwood ทิโมธี ฟาน แพตเทน ได้จากประเภทซีรีส์ขำขันเรื่อง Sex and the City และ โจ ซาร์เจนต์ จากภาพยนตร์จอเล็กเรื่อง Something the Lord Made