ป๊อก ปิ๊งเรื่องจริงสร้าง ไทยถีบ โครงการแรกของ นาคาเซีย
หลังจากที่ประสบความสำเร็จจากภาพยนตร์ไทยเรื่อง พันธุ์ร็อกหน้าย่น ทำให้ ป๊อก - พิสุทธิ์ แพร่แสงเอี่ยม ผู้กำกับภาพยนตร์ไฟแรงก็ไม่รอช้าเดินหน้าถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง ไทยถีบ ต่อทันที ซึ่งเป็นเรื่องราวในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อกองทัพญี่ปุ่น อาศัยการเดินทัพผ่านประเทศไทยโดยมีการแอบขนทองคำมาด้วย
ทองคำเป็นสิ่งเย้ายวนใจที่ทำให้ คม วังหิน มารับจ้างปล้นทองคำมูลค่ามหาศาล อีกทั้งยังมี โต ตีนหนัก ที่ต้องการปล้นเพื่อเอามาแจกจ่ายให้คนไทย การขับเคี่ยวการตามล่าทองคำ เล่ห์เหลี่ยมสารพัดถูกขุดขึ้นมาเพื่อหลอกล่อฝ่ายตรงข้ามที่ต้องการทองคำนี้เช่นกัน
ทีมงานได้ยกกองไปถ่ายทำที่อำเภอพุแค จ.สระบุรี ซึ่งเป็นฉากของการปล้นซ้อนปล้น งานนี้ มีนักแสดงเข้าฉากในเรื่องเกือบครบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น หมอก - ทศพร รถกิจ (รับบทเป็น คม วังหิน) เทพ โพธิ์งาม (รับบทเป็น โต ตีนหนัก) ธันน์ ธนากร (รับบทเป็น ใหญ่ ท่าเรือ) ซาร่า เล็กจ์ (รับบทเป็น ซีน่า) และ อัมธิดา กองคำ (รับบทเป็น เพ็ตตี้) ร่วมด้วยนักแสดงชั้นนำอีกหลายคน ทั้งฉากสถานที่นี้ ยังเคยเป็นที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง อเล็กซ์ซานเดอร์มหาราช ของโอลิเวอร์ สโตน อีกด้วย เรียกว่าใช้ฉากหลังเหมือนกันเลยทีเดียว
หมอก กล่าวถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า "ในเรื่องนี้ผมรับบทเป็น คม วังหิน ซึ่งเป็นโจรประเภท ต้อง หล่อ เนี้ยบ เฉียบ ต้องตาสาวๆ เป็นคนกะล่อนเพื่อเอาตัวรอด เรื่องนี้ต้องมีบทบู๊ตลอด แต่ก็ไม่มีฉากที่โหดร้ายอะไรนะครับ มันจะออกแนวสนุกๆ มากกว่า"
สำหรับนางเอกสาวรับบทคู่กับ หมอก คือ ซาร่า เล็กจ์ เล่าว่า "ในเรื่อง ซาร่า รับบทเป็นซีน่า สายลับลูกครึ่งไทยอินเดีย ที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยแล้วถูกญี่ปุ่นจับไว้เป็นตัวประกัน สำหรับวันนี้ฉากไม่ยากเท่าไหร่ ไม่เหมือนกับวันแรกๆ ที่ถ่ายทำ ต้องมีฉากโหนสลิงด้วย แต่ก็สนุกดีค่ะ"
มาที่นักแสดงรุ่นใหญ่ที่มารับบท โต ตีนหนัก โดย เทพ โพธิ์งาม กล่าวว่า "สำหรับเรื่องนี้ เล่นเป็นหัวขโมยที่รวมตัวกันออกโจรกรรมทรัพย์สินของพวกญี่ปุ่น โตนั้นจะเป็นที่ยอมรับของคนไทยด้วยกัน เพราะเวลานั้นทุกคนไม่ชอบชาวต่างชาติ หนังเรื่องนี้ผมจะแสดงแตกต่างจากที่ผมเคยเล่นหนังมา คือไม่เน้นการแสดงออกตลก แต่โดยบทที่ได้รับนั้นจะทำให้คุณหัวเราะหรืออมยิ้มได้ตลอดเวลาแน่ๆ"
ผู้กำกับภาพยนตร์ ป๊อก - พิสุทธ์ แพร่แสงเอี่ยม เผยถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า "สำหรับเรื่องนี้ ผมต้องการให้เป็นหนังที่เด็กๆ หรือใครๆ ก็ดูได้ คือเป็นหนังที่ดูง่ายๆ ไม่มีฉากที่โหดร้าย คือทุกคนมองว่า หนังที่สร้างเรื่องราวของสงครามเนี่ย ส่วนใหญ่จะเป็นหนังแนวพีเรียด หนักๆ แต่เรื่องนี้จะเป็นหนังไทยเรื่องแรกที่มองสงครามไปในแนวแอ๊กชั่นคอมเมอดี้ คือ สนุกสนานกับเรื่องของทุกคนที่ต้องเข้ามาพบกันด้วยจุดมุ่งหมายเดียวกันคือทองคำของญี่ปุ่น ซึ่งเรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากการที่มีข่าวการขุดหาทองคำของญี่ปุ่น ที่ จ. กาญจนบุรี จึงปิ๊งไอเดียพล็อตเรื่อง ไทยถีบ ขึ้นมาครับ" ผู้กำกับกล่าวปิดท้าย