วิจารณ์ The Hunger Games: Mockingjay - Part 1

ไปที่หน้า
วิจารณ์ภาพยนตร์
  • เมื่อ 28 พ.ย. 57 11:24

    Life on Fire

    มองในฐานะหนังที่ถูกสร้างจากวรรณกรรม ยังไงซะ Mockingjay - Part 1 ย่อมอยู่อันดับต้นๆ แต่เมื่อเทียบกับ The Hunger Games สองภาคก่อนหน้าแล้ว Mockingjay - Part 1 กลับลดระดับคุณภาพลงมามากพอตัว เนื่องด้วยเหตุทางเทคนิคจากการแบ่งครึ่งตัวนิยาย อีกทั้งตัวนิยายเองก็ไม่ได้สนุกมากขนาดนั้น ส่วนตัวขณะอ่านยังรู้สึกว่า ผู้เขียน คลายปมได้ไม่ดีพอ ทั้งตัวนิยายยังไปเน้นพาร์ทความรักมากเสียจนเกร่อด้วยซ้ำไป

    Mockingjay - Part 1 ดำเนินเรื่องด้วยบทสนทนามากกว่าฉากแอ็คชั่น ฉะนั้นใครที่คาดหวังจะได้เห็นระเบิดภูเขา เผากระท่อม ตูมตาม แนะนำให้หยิบหนังของไมเคิล เบย์ มาดูซักเรื่อง คงตอบสนองความต้องการได้ดีกว่า หนังเล่าเรื่องต่อจาก Catching Fire โดยไม่ต้องไปเสียเวลา บ่น เพ้อ ข้อดีก็คือ แฟนๆจะได้เดินตามหนังไปอย่างต่อเนื่อง แต่กลับใครที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน ควรทำการบ้าน ด้วยการดูภาคก่อนหน้ามาเสียก่อน แคนนิส ต้องตื่นมาเพื่อพบว่า เขต 12 ของเธอนั้นถูก สโนว์ ทำร้ายเสียจนราบคาบ และเธอยังกายเป็นสัญลักษณ์ของการกบฎเสียอย่างนั้น เขต 13 ซึ่งหลายคนเชื่อว่าสูญสลายกลับยังดำรงอยู่ และใช้เธอเป็น Mockingjay โฆษณา Propaganda เช่นเดียวกับฝั่ง Capital ที่ได้ล้างสมอง พีต้า และใช้พีต้าเป็นตัวตอบกลับ หนังดำเนินเรื่องไปบนสถานการณ์ที่ดูหม่น มืด เน้นอารมณ์ ซึ่งนับว่าเป็นข้อดี รวมถึงฉากที่ Jennifer ร้องเพลง The Hanging Tree ก็สะท้อนอะไรออกมามากกว่าเป็นบทเพลง (แต่แอบนึกถึงเพลง Do You Hear The People Sing ใน Les Miserable)

    ส่วนตัวแล้วไม่ผิดหวัง แต่ก็ไม่ได้เหนือความคาดหมาย อย่างที่บอกไปข้างต้นว่า ตัวนิยายเล่มสามก็ไม่ได้โดนใจอะไรขนาดนั้น ส่วนตัวชอบ Catching Fire ที่สุดแล้ว แต่ก็ต้องยอมรับว่า ตัวหนังทำออกมาได้ดีกว่าหนังสือหลายเท่าตัว แต่ถ้าเทียบกับหนังด้วยกันแล้ว หนังเป็นรองอย่างเห็นได้ชัด

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 23 พ.ย. 57 17:38

    ดูเมื่อวันเสาร์เองครับ คนเยอะมาก
    สนุกดีน่ะ ปูทางไปภาคจบได้เด็ดขาดจริงๆ
    ดราม่าการเมืองหนักกว่า2ภาคที่แล้ว แอ๊คชั่นพอปรุงแต่งไม่มาก
    กลมกล่อมดี ลงตัวทุกหย่อมหญ้าเลย รอพาร์ท 2 ไม่ไหวแล้ว

    ส่วนตัวให้ 10 / 10
    ส่วนตัวผม catching fire ยังคงความเป็นภาคที่ดีที่สุดอยู่ล่ะ

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 23 พ.ย. 57 14:57

    เคยอ่านหนังสือ The Hunger Games ,ไม่เคยดูหนังภาคก่อนหน้านี้มาก่อน เคยดูหนังของนางเอกคนนี้มาก่อนจากเรื่องอื่นๆๆ ใน Mockingjay Part 1 ก็แสดงได้ดีพูดภาษาอังกฤาฟังง่าย ลำดับเนื้อหาหนังไม่ดีเลย อืดมากๆๆตอนต้นเรื่อง ก็หลงหลับไปงีบหนึ่งเหมือนกัน ไม่ตื่นเต้นสมเป็น Schi-Fi Fantasy เท่าที่ควร ถ่ายภาพก็มีสวยงามขนาดปานกลางกลาง ระบบเสียงก็ปานกลาง สรุปก็คงขายนางเอกตุ๊กตาทอง Jenifer Lawrence นั่นและ เป็นหนังมีฟอร์มระดับ 4 ดาว ดูได้แบบหลับไป ให้ 7

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 22 พ.ย. 57 21:09

    ไม่มีอะไรน่าจดจำ เหมือนดูสารคดีบิ๊วอารมณ์ หลับ3 ตื่น เนื้อเรื่องวนอยู่ที่เดิม เหมือนดู หนังสั้น 5 นาที

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 21 พ.ย. 57 22:47

    สนุกครับ น่าติดตามตลอดเรื่อง ถึงบทสนทนาจะค่อนข้างเยอะ แต่ไม่น่าเบื่อ เพราะมันเชื่อมโยงถึงเหตุการณ์ต่างๆ ให้เรื่องเดินไปดูเพลินเลยครับ ฉากแอ๊คชั่นก็มีพอสมควร กำลังดี ไม่เยอะเกินความจำเป็น ภาคนี้จะเป็นแนวดราม่าเกี่ยวกับรัก3เศร้าระหว่าง พีต้า แคทนิส และเกล นางเอกเหมือนรักทั้ง2คน และก็ฉากต่อสู้ระหว่าง2ฝั่ง ชิงไหวชิงพริบกันระหว่างพาเน็มsection13 กับ capital ฉากจบ ก็ชวนติดตามว่า...แต่ดูแล้ว part 2 ฉากแอ๊คชั่นเยอะแน่นอน สงครามครั้งใหญ่กะลังปะทุ
    *อดใจรอPart 2 แทบไม่ไหวแล้ว ให้10/10 เลย

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 20 พ.ย. 57 23:54

    -หนังส่วนใหญ่จะอยู่ในที่ร่ม คุยกันเยอะ (เนื้อเรื่อง) ไม่ค่อยบู๊ มี อยู่ ไม่เกิน 2 ครั้ง
    -ฉากบู๊ (สำหรับ ผม เฉยๆ นะ)
    -ภาค1,2สนุกกว่า เพราะ ได้ลุ้นการไล่ล่า ฉากบู๊ สะใจ แต่ภาคนี้ คุย ซะเยอะ (เนื้อเรื่อง)
    -ดูแล้ว ความตื่นเต้น เร้าใจ อารมณ์ร่วม ก็ เฉยๆ นะ
    -ถ้าคาดหวังว่าจะบู๊ ต้องผ่านเลย ภาคนี้
    -สำหรับ ผม นะ เพื่อน ผม เฉยๆ น่ะ ครับ มันเป็นเนื้อเรื่อง ซะ มากกว่า
    -ดูก็ได้ไม่ดูก็ได้ สำหรับ ผม นะ ภาคนี้

    หมายเหตุ อีกหนึ่งความคิดเห็น ครับ

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 19 พ.ย. 57 09:44

    ได้อ่านหนังสือมาก่อนที่จะมาดูหนังเรื่องนี้ เลยทำให้เข้าใจในเนื้อเรื่อง ความรู้สึกนึกคิดของตัวละครดีอยู่แล้ว แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้สื่อเรื่องราว อารมณ์ความรู้สึก ฉากต่างๆ ออกมาได้ดีสุดๆ โดยเฉพาะฉากปลุกระดมดูแล้วรู้สึกสะเทือนใจมาก ท่าทาง สีหน้า แววตา แคทนิสแสดงออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ผู้ชมถึงกับน้ำตาคลอไปตามๆ กัน แต่ฮังเกอร์เกมนี้ภาคนี้จะมีความแต่งต่างจากภาคแรกและภาคที่ 2 อยู่มาก ภาคนี้จะไม่ใช่การรักษาแค่ชีวิตตัวเองให้รอดอีกต่อไป ไม่ใช่เกมของเด็กในสนามประลอง แต่จะเป็นการรักษาชีวิตของคนทั้งพาเน็ม เขตต่างๆ หรือแคปิตอลที่จะเป็นฝ่ายรอด?

    แจ้งลบ
มีทั้งหมด 7 วิจารณ์
เขียนวิจารณ์
จะต้องลงชื่อเข้าใช้ระบบก่อน จึงจะเขียนวิจารณ์ได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google+ หรือ Facebook ก็ได้
Facebook | Google+

advertisement

วันนี้ในอดีต

เกร็ดภาพยนตร์

  • Still Alice - ตอนที่ได้อ่าน Still Alice ฉบับหนังสือครั้งแรก ริชาร์ด แกลตเซอร์ และ วอช เวสต์มอร์แลนด์ ผู้กำกับทั้งสองคนรู้สึกว่าเรื่องราวของผู้หญิงที่ต้องเผชิญกับโรคสมองเสื่อมชนิดเกิดเร็วเป็นเรื่องที่ใกล้ตัว เพราะก่อนที่ทั้งคู่จะกำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ริชาร์ด ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือเอแอลเอส ที่เป็นสาเหตุให้พูดแล้วลิ้นพันกัน ซึ่งเป็นทำให้ทั้งสองคนต้องรับมือกับความเปลี่ยนแปลงแบบฉับพลัน ทั้งทางร่างกายและทางจิตใจ เหมือนตัวละคร อลิซ ที่แสดงโดย จูเลียนน์ มัวร์ อ่านต่อ»
  • Song One - สก็อตต์ อาเวตต์ จากวง ดิ อาเวตต์ บราเธอร์ส เคยมาทดสอบบท เจมส์ โดย สก็อตต์ เล่าว่า เขาอ่านบทกับ แอนน์ แฮตธาเวย์ ผู้รับบท แฟรนนี ในฉากสะเทือนอารมณ์ และ แอนน์ เริ่มน้ำตาคลอ ตอนนั้นผมรู้สึกว่า โอ้ พระเจ้า เธอทำอย่างนั้นได้อย่างไร และมันก็ชัดเจนเลยว่านี่ไม่ใช่ที่ของผม ซึ่งภายหลังบท เจมส์ นี้ก็ตกเป็นของ จอห์นนี ฟลินน์ อ่านต่อ»

เปิดกรุภาพยนตร์

หน่าฮ่าน หน่าฮ่าน มหากาพย์การผจญภัยของ ยุพิน (สุดารัตน์ โพธิ์อำพล) และพรรคพวก เพื่อเดินทางจากบ้านโนนหินแห่ไปยัง อุดรธานี เป็นครั้งแรก แต่...อ่านต่อ»