วิจารณ์ ฤดูร้อนนั้น ฉันตาย
-
Watchmen_Since_1985
(เลขที่ 296622)
เมื่อ 11 พ.ย. 56 18:41
"เป็นวัยรุ่นมันเหนื่อย"
เชื่อวาหนังเรื่องนี้มีการวางแผนมาค่อนข้างดีเลย เรียกได้ว่าถ้าเมื่อสี่ห้าปีก่อน มีหนังแบบนี้ออกมาต้องเป็นกระแสอยู่พักหนึ่งเลย แต่เมื่อหนังมาช้า และยังทำเก๋ด้วยการเล่นท่ายากที่มันซ้ำรอยหนังเรื่องอื่น ผลลัพธ์มันเลยออกมาก่ำกึ่งระหว่างคนที่ชอบและไม่ชอบ
คนที่ดูหนังเรื่องนี้เดาๆว่าคงมีสองประเภทหนึ่งเลยคือดูดารา และสองคือมาดูหนังคุณภาพ
ดาราที่ว่าก็คือ เก้า จิรายุ ละอองมณี ที่นับวันจะฮอตมากขึ้นทุกวันๆ โดยส่วนตัวเคยมีโอกาสใกล้ชิดกับนักแสดงคนนี้ จากงาน event ต้องบอกว่า เก้า มีความเป็นกันเองสูงมาก ไม่รู้นะว่าคนอื่นคิดยังไงกับนักแสดงคนนี้ แต่ผมบอกเลยผมเป็น FC ของเก้าแบบว่า 'สุดติ่ง' และ ปันปัน สุทัตตา อุดมศิลป์ รายนี้ก็เป็นที่รักของวัยรุ่นยุคนี้รวมทั้งผมที่ชื่นชอบน้องเขาตั้งแต่ลัดดาแลนด์ จนมาถึง รัก 7 ปี ดี 7 หน ที่ได้มาคู่กับ เก้า และกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งใน Last Summer นี้ ซึ่งเดิมทีก็แอบสงสัยนะว่า ทำไม ต้อง เก้า กับ ปันปัน !? ไหนๆก็พูดถึงนักแสดงแล้ว สองคนที่กล่าวไปแล้ว ได้ผ่านผลานมากมาย เรื่องการแสดงคงไม่ต้องพูดถึงว่ามีความ expert มากแค่ไหน แต่ที่เป็นเซอร์ไพร์สจริงๆ คงเป็นนักแสดงอีกสองคน คนแรกคือ อาย พิมพกานต์ แพร่คุณธรรม รับบท จอย ซึ่งว่ากันตามจริงแล้ว แสดงได้ดีกว่า นักแสดง เด็กในรุ่นราวคราวเดียวกัน(อันจะเห็นได้จากหนังเรื่องอื่นๆ คงไม่ต้องยกตัวอย่างนะ ในปีนี้ก็มีให้เเห็น ) จะว่าไปก็ไม่แปลกเพราะ อาย เคยเข้าประกวดเวที The Acting Queen มาแล้ว อีกคนที่เซอร์ไพร์สของจริงคือ เบสท์ เอกวัฒน์ เอกอัจฉริยา ในเรื่องรับบทเป็น ติ่ง น้องชายของ จอย ซึ่งเบสถ่ายทอดบทนี้ออกมาได้น่าประทับใจ นี่ถ้าบทหนังสามารถส่งอีกนิดให้เวลากับตัวละครตัวนี้อีกหน่อย จะดีมาก เพราะโดยรวมๆแล้ว หนังใช้เวลาไปราวๆชั่วโมงครึ่ง และหนังไปอืดใช่วงพาร์ทสอง ซึ่งเป็นตอนของปันปัน ที่ยืดย้วยไปกับมุกหลอกผีที่ไม่ชวนให้น่าหวาดกลัวแต่อย่างใด
อีกอย่างที่น่าจะเรียกแขกได้ สำหรับผู้ที่คาดหวังในคุณภาพ คือ การขายชื่อของ คงเดช จาตุรันต์รัศมี ในฐานะคนเขียนบท เครดิตของเขานั้นมากมายเหลือหลายทั้งงานเขียนบทและกำกับ ยกตัวอย่างที่ชัดเจน เรื่อง กอด, แต่เพียงผู้เดียว และล่าสุดกับ ตั้งวง ที่เหมือนจะไปไกลถึงเวทีโลกแล้วซึ่งในส่วนนี้น่าจะทำให้ใครหลายคนรวมทั้งผมตั้งข้อสังเกตไว้ว่า มันน่าจะมีอะไร มากกว่าหนังไทยเรื่องอื่นๆนะ
หนังแบ่งออกเป็นสามพาร์ทโดยจะเป็นเรื่องราวของบุคคลี่รายล้อมตัวละคร จอย ในส่วนแรกจะเน้นไปที่ตัวละคร เก้า จิรายุ และในส่วนแรกนี้คือความสนุกที่สุดของหนัง เพราะหนังวางโครงเรื่อง ปริศนาให้ขบคิดได้เป็นอย่างดี ย้ำว่าดีจริงๆ มุมกล้องการจัดวางภาพ จังหวะหนังดูลื่นไหล
แต่พอเข้าสู่แอ๊คสอง หนังลิงค์ไปที่ตัวละครของปันปัน หนังเริ่มเสียหลักเพราะแทนที่หนังจะไปช่วยตอบคำถามที่ปูไว้ในช่วงต้น หนังกลับใส่ประเด็นใหม่เข้ามาอีก และอย่างที่บอกไปคือ ช่วงนี้หนังอืดมาก มุกหลอกผีไม่ทำงานเลย เหมือนกับว่าแค่มาดูในช่วงสองนาทีก่อนจบพาร์ทสองก็เพียงพอแล้ว
หลังจากนั้นหนังโยนคนดูไปที่ตัวละครลับ อย่างน้องชายของจอย หรือ ติ่ง รับบทโดย เบส นั่นเอง หนังก็ไปผูกประเด็นใหม่มาอีก นั่นคือ ครอบครัว ซึ่งหนังทำออกมาไม่สุด และเช่นเคยมุกหลอกผีที่เฉย รวมถึงที่ว่ามันไม่ make sense เมื่อมองจากภาพรวมแล้วหนังดรอปลงเรื่อยๆ และไม่อิมแพคในช่วงท้ายอย่างที่มันควรจะเป็น
ผมไม่รู้นะว่าการดำเนินเรื่องมันคล้ายๆกับหนังฝรั่งบางเรื่อง ซึ่งผมไม่มีปัญหากับการได้รับแรงบันดาลใจมากจากหนังเรื่องอื่นๆ ขอแค่มันไม่ใช่การ copy มาทั้งดุ้นก็พอ อย่างใน 'แต่เพียงผู้เดียว' ไม่บอกก็รู้ว่าต้องมีหนังเรื่อง Following ของ โนแลน เจืออยู่ แต่มันเป็นการประดิษฐ์ใหม่ที่น่าพอใจ พูดถึงในทางทฤษฎี Last Summer มันก็ดูดีในแบบที่เป็น แต่อาจเป็นเพราะการกำกับของผู้กำกับทั้งสามคน ไม่รู้ว่าแบ่งการทำงานกันยังไง อาจมีการพูดถึงภาพรวมก่อน หรืออาจจะแยกงานกันทำคนละพาร์ทแล้วมารวมกันหรือเปล่า เนื่องจากอารมณ์หนังมันขึ้นๆลงๆ ขาดๆเกินๆ ซึ่งหากใครเคยดู บอกเล่า เก้าศพ แล้วเปรียบเทียบจะพบว่าเรื่องหลังนั้นดูดีกว่า
แม้หนังจะขาดๆเกินๆ แต่หนังก็ไม่ได้ไร้แก่นสาร เพราะหนังมาพร้อมกับประเด็นที่หนักและการนำเสนอที่จริงจัง ว่าด้วยเรื่องราวของวัยรุ่นี่ต้องใช้ชีวิตในช่วงเวลาที่เป็นจุดเปลี่ยนหลายๆอย่าง ทั้งภายนอกและภายใน เรื่องของความรัก sex เพศ (ในพาร์ทแรก) เรื่องของเพื่อน มิตรภาพ (ในพาร์ทสอง) และครอบครัว สายสัมพันธ์ที่เปราะบาง คามคาดหวังต่างๆนานา (ในพาร์ทสาม) เหมือนหนังกำลังจะบอกว่า "เป็นวัยรุ่นน่ะ มันเหนื่อย" -
witm3
(เลขที่ 339552)
เมื่อ 19 ต.ค. 56 22:28
ตัวหนังก็พอใช้ได้อยู่ ก็หลอนพอน่าติดตามอยู่ ดาราดังไม่ดัง เล่นมากน้อยก็ช่างเถอะเห็นด้วยกับคุณ PunaFilM ไปดูหนัง ไม่ได้ไปดูดารา
แต่ดูแล้วรู้สึกว่าผีมันงี่เง่า มันแก้แค้นโง่เง่าเรื่อยเปื่อย
ตัวละครหลักในในเรื่อง นิสัยงี่เง่าทุกคนเลยแม่ยันลูกๆ เพื่อนๆ (ก็หนังอ่ะ)
ไม่ใช่นักวิจารณ์ครับ เขียนไปตามความรู้สึกส่วนตัว -
iamคนติดหนัง
(เลขที่ 155368)
เมื่อ 10 ต.ค. 56 16:07
เนื้อเรื่องดูล้ำลึกมาก แปลกมาก ๆ ความเป็นหนังผีที่อัดแน่นไปด้วย ความสยอง
ความหลอน ที่ดูจะเป็นหนังผีที่ไม่อาจคาดเดาว่าเป็นมายังไงได้เลยจริง ๆ
แต่ในบางตอนมักจะกดดันอยู่มาก ส่วน CG ถือว่าดีใช้ได้สุด ๆ ดูได้โอเคเพลิน ๆ ไปพร้อมกับความสยองสุดระทึกเท่าที่เคยดูมามาก ๆ ครับ
โดยรวมให้ 7.25/10 B ครับ
โดยรวมส่วนตัวให้ 7.5/10 B+ ครับ
( บทความที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นเป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ) -
PunaFilM
(เลขที่ 51151)
เมื่อ 7 ก.ค. 56 01:08
ไปดูหนัง ไม่ได้ไปดูดารา ให้ 8.5 เต็ม 10 (ปัดเป็น 9)
สำหรับค่ายใหม่ที่ทำหนังเรื่องแรก ถึงไม่ดีมาก แต่ก็ไม่ได้แย่ หนังสอดแทรกคุณธรรมไว้ และสอนใจวัยรุ่นได้ ...ถ้าเป็นวัยรุ่นที่รับสาส์นเป็นนะ -
ประกาศิตจอมราชันย์
(เลขที่ 300959)
เมื่อ 4 ก.ค. 56 10:27
แปลกมาก ผมว่าเนื้อเรื่องสนุก แต่สั้นไปมาก ถือว่าใช้ได้ อารมก็พอๆกับคุณ ยูส-[เยอะแยะ]
ตั้งแต่ดูหนังผีมา ผมปิดตาหนังเรื่องนี้มากที่สุด เนื้อเรื่องกดดันมากหายใจแทบไม่ทัน เสียงกดดันมาก ไม่ได้ เงียบแล้วให้ตกใจ
ถ้าจะดูเรื่องนี้ ต้องคิดตาม
7/10 -
ยามาดะ
(เลขที่ 303302)
เมื่อ 2 ก.ค. 56 11:26
หนังเรื่องนี้โปรโมทมาก มากเสียจนทำร้ายตัวหนังเอง เพราะมันทำให้คนดูคาดหวังว่าหนังจะต้องออกมาอย่างที่เห็นในตัวอย่าง และมันก็ทำให้่หนังได้รับคำติมากกว่าคำชม ไม่รู้ผู้กำกับจะรู้มั้ย ว่าเค้าได้หักหลังคนไทยด้วยหนังเรื่องนี้เสียแล้ว
-
ยูส-[เยอะแยะ]-
(เลขที่ 276815)
เมื่อ 1 ก.ค. 56 21:50
*อาจทีสปอย ใครยังไม่ดูข้ามเลยก็ได้นะ*
คะแนนที่เราให้คือ 8/10 มาดูเหตุผลดีกว่า
ตามที่เราเข้าใจนะ เรื่องแบ่งออกเป็น 3พาท คือพาท สิงห์(เก้า) มีน(ปันปัน) และติ่ง(เบสท์)
ซึ้งเมื่อดูหนังตอนจะจบๆพาทๆนั้น มันจะมีบทสรุปออกมาเองว่าทำไมจอยวึ่งเป็นตัวผีเนี่ย ต้องมาหลอก
เริ่มด้วย สิงห์(เก้า) เราเข้าใจว่า น่าจะเป็นสัญญาที่ให้ไว้ว่าจะไม่ทิ้งจอนแต่ดันจะทิ้งจอยลงทะเล โน้นนี่นั้น แต่แอบสงสารเพื่อนของสิงห์หน่ะ เดินกลับมาโดนเชือดคอ เฉ้ยยยยย
ต่อมาเป็นพาทของ มีน(ปันปัน) ปัจจัยเกิดจากความอิจฉาของมีน ซึ่งเพราะตัวจอยเองเป็นดารามีแต่คนจับจ้ิอง แต่ตัวมีนเองเด่งแค่เรื่องเรียน ไม่ได้กล้าแสดงออก ซึ่งตอนจบจะบอกเองว่าเหตุใดถึงอิจฉาแล้วอิจฉาเรื่องอะไีร
สุดท้าย พาทของติ่ง(เบสท์) ซึ่งเป็นตัวน้องของจอยเอง เหตุเกิดมาจากความอิจฉาเหมือนกัน ซึ่งติ่งเป็นกีฬากระโดดน้ำ พยายามทำทุกอย่างให้แม่สนใจตัวเอง เพราะติ่งรู้ว่าแม่สนใจแต่จอย จึ่งพยายามทำทุกอย่างให้ตัวเองเด่นเหมือนพี่สาว และจะมีจุดเฉลยว่า ทำไมจอยต้องมาหลอกตัวของติ่ง
เราว่าทุกอย่างมีเหตุมีผลนะในการที่ตัวจอยเองออกมาหลอก ซึ่งทั้ง4ตัวละครนี่ ก็เกี่ยวข้องกับตัวจอยทั้งสิ้น
ฉากที่ชอบในเรื่องนี้ : เพราชอบ 3 ฉากนะ ได้อารมณ์เรามาก คือฉากที่ตัวสิงห์ปิดท้ายรถ ฉากที่มีนเดินขึ้นมาเอาของบนตึก (2ทุ่มแล้วยังไม่กลับบ้านอีก - -*) แล้วก็ฉากตัวติ่งกินน้ำปี๋ -//-
เราว่าหนังมันก็ไม่ได้แย่หรอก หลายคนอาจดูมาแล้วไม่เข้าใจ แต่ถ้าลองตั้งใจดูแล้ว จะรู้ว่าทำไมตัวจอยถึงออกมาทำแบบนี้ๆ ซึ่งเชื่อว่าหลายคนน่าจะตีความออกแบบเรา ความน่ากลัวก็หลอนใช่ีได้ ทำให้เราอึดอัดมากถึงมากที่สุด ส่วนมากหนังผีบางเรื่องไม่สามารถทำให้เราอึดอัดได้มันน่าเบื่อเนอะ 55555
ก็ถือว่าเป็นหนังอีกเรื่องที่ทำให้เราตกใจได้ 555555555
สำหรับคนอย่างดูแนวหนังผีใหม่ๆ ก็ซื้อตั๋วเข้าไปดูได้เลย หนังบางทีอาจจะไม่ได้แย่แบบท่ี่หลายคนคิด เราควรเปิดใจยอมรับแนวใหม่ๆที่เข้ามาดีกว่า
'โหยแม่ นี่มันน้ำปี๋นี่น่าาา ' < เราชอบฉากนี้ อย่าลืมเข้าไปดูกันนะ -
michaelangarano
(เลขที่ 342844)
เมื่อ 1 ก.ค. 56 00:13
หลายๆคนที่ได้ดูอาจจะรู้สึกไม่ค่อยสนุกอย่างที่หวัง
เนื่องจากเป็นหนังผีแนวทางใหม่ เล่าเรื่องแบบใหม่
ถ้าเป็นเมื่อก่อนผีจะต้องมาตามหลอกทุกคนพร้อมๆกัน แล้วทุกคนก็จะบังเอิญมาเจอกันเพื่อทำบางอย่างให้หมดอาถรรพ์ เช่น
ไปทำบุญ, ทำพิธี, หาสิ่งของที่ผีต้องการ ซึ่งเราว่าแบบนั้นมันไม่เรียลเลย
คือมันมีความสนุกแบบเป็นหนังอยู่สูง..ซึ่งเราก็ชอบนะ แต่มันไม่ค่อยเรียล
หนังเรื่องนี้คือ ผีจะหลอกคนดูจะไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องหลอก หนังเดินเรื่องไวมากๆ
เราจะทราบเหตุผลว่าทำไมผีต้องหลอก ก็ตอนใกล้จบ (จบซึ้งดีชอบ)
ซึ่งระหว่างทาง ตัวละครจะไม่มีใครหาว่าทำไมผีต้องหลอกเรา
เพราะตัวละครรู้อยู่แก่ใจอยู่แล้ว ว่าทำอะไรไว้กับผีบ้าง
ยกเว้นคนดูที่ไม่รู้.
.. ซึ่งตรงนี้ต่างกับผีเรื่องอื่นอีก
ที่ตัวละครไม่รู้ว่าผีหลอกทำไม แล้วก็มารวมตัวกันค้นหาอะไรบางอย่างจากบางคน
ว่าผีตนนี้คือใคร ต้องการอะไร แล้วล้างอาถรรพ์ (สูตรสำเร็จมั๊ย?)
คือ อันนี้พวกเค้ารู้อยู่แล้ว ก็เลยทำได้แค่หนี...หนีความกลัว
หนังจะเฉลยให้เรารู้อีกทีตอนจบ ซึ่งเป็นปมแบบกระทบกันมาเป็นช่วงๆ บอกไม่ได้ว่าใครเลวที่สุด
ที่ชอบอีกอย่างคือ หนังใส่รายละเอียดของหนังอยู่รอบๆฉากก่อนหน้า
ตัวหนังเองไม่ได้บทพูดให้ยืดเยื้อ เข้าใจว่าด้วยความที่หนังเดินเรื่องเร็ว
แต่ถ้าดูไม่ดี ก็จะรู้สึกว่าหนังโดดๆ ซึ่ง item ที่มีอยู่ในฉากนี้มันโผล่ตั้งแต่ฉากเมื่อกี้แล้ว
สรุปว่าชอบในความแปลกใหม่ แม้ความเป็นหนังผีจะไม่ได้สุดมาก
แต่ก็ไม่ได้แย่ มีสะดุ้งเป็นช่วงๆ มีฉากผีใหม่ๆหลายฉากที่หลอน
ถ้าจะดูความเป็นหนังผี ก็ดูสนุกๆได้อยู่ -
ยอดมนฺุษย์
(เลขที่ 145550)
เมื่อ 30 มิ.ย. 56 13:21
เสียดายตังครับ ชื่อหนังเอย คำโปรยเอย ไม่ได้เข้ากับตัวเนื้อเรื่องจริงๆเท่าไหร่เลย
เก้ามีบทนิดเดียว ปันปันก็เยอะกว่าเก้าอีกหน่อยนึง จะไปเน้นหนักที่น้องชายจอย
ก็ถือว่าแสดงดีนะครับ แต่ตัวหนังห่วย ผมว่าโครงเรื่องดี ถ้าตั้งใจกับบทมากกว่านี้
น่าจะสร้างสรรค์หนังที่มีจุดพลิกผันได้มากมาย ไม่ใช่ทื่อๆดื้อๆแบบนี้ เสียอารมณ์
3/10 ก็มากไปละ ให้เพราะปันปันแล้วกัน ไปดูเพราะปันปันเลย
อย่างน้อยถ้าปันปันเดินเรื่องยังดูได้เรื่อยๆ แต่นี้เอาดาราดังมาขาย
แต่ตัวเดินเรื่องจริงๆเป็นดาราวัยรุ่นหน้าใหม่ ถ้าจะขายหน้าใหม่นะ
ทำแบบ เกรียนฟิคชั่น ยังจะดีกว่า ไอ้เด็กที่โดนดันจะได้รู้สึกดีด้วย -
Jack_Frost
(เลขที่ 344248)
เมื่อ 29 มิ.ย. 56 14:54
ความคิดเห็นส่วนตัว :
สนุก......ตรงไหนเหรอครับ
แฟนตั้งใจจะไปดูเก้า เก้าก็เล่นดีใช้ได้เลย แต่ไหงบทมีแค่นั้นอ่ะ บทเก้ากับปันปัน ผมคิดว่าแทบจะไม่ใช่พระเอกนางเอกด้วยซ้ำ อยากจะถามเลยว่า เอา2คนนี้มาขึ้นPoster ทำไม?!
หนังเหมือนจะแบ่งเป็นPartๆ แต่ไม่ได้แบ่งอย่างชัดเจน มั่วมาก เล่าออกไปเรื่อย
น่ากลัวมั้ย? ก็ใช้ได้เลย CGก็ถือว่าดี
แต่สุดท้ายผมกับแฟนและเพื่อนอีก6คน ก็ "เซ็ง" กันไปตามกัน
4/10
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google+ หรือ Facebook ก็ได้
Facebook | Google+
advertisement
วันนี้ในอดีต
- Quantum of Solaceเข้าฉายปี 2008 แสดง Daniel Craig, Olga Kurylenko, Mathieu Amalric
- The Matrix Revolutionsเข้าฉายปี 2003 แสดง Keanu Reeves, Carrie-Anne Moss, Laurence Fishburne
- สวย ซามูไรเข้าฉายปี 2009 แสดง โสภิตา ศรีบาลชื่น, แจ็คเกอลิน อภิธนานนท์, เกศริน เอกธวัชกุล
เกร็ดภาพยนตร์
- The Theory of Everything - สตีเฟน ฮอว์คิง พูดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ค่อนข้างเป็นเรื่องจริง จึงอนุญาตให้ใช้เสียงของเขาในตอนจบ และให้ยืมเหรียญแห่งอิสรภาพ กับวิทยานิพนธ์ที่ลงชื่อ สตีเฟน ฮอว์คิง ไปใช้เป็นอุปกรณ์ประกอบฉากด้วย อ่านต่อ»
- Jupiter Ascending - แชนนิง เททัม ต้องสวมอุปกรณ์บริเวณปากที่ทำให้ลักษณะของขากรรไกรของเขาเปลี่ยนไป เพื่อรับบท เคน อุปกรณ์ชิ้นนั้นทำให้ แชนนิง หุบปากไม่ได้ แถมยังทำให้เขาพูดลำบากอีกด้วย อ่านต่อ»
เปิดกรุภาพยนตร์
Ode to Joy เรื่องราวของ ชาร์ลี (มาร์ติน ฟรีแมน) ชายหนุ่มที่มีความผิดปกติทางระบบประสาท เขามีความรู้สึกทางอารมณ์ที่รุนแรง โดยเฉพาะอย...อ่านต่อ»