วิจารณ์ Star Trek Into Darkness

ไปที่หน้า
วิจารณ์ภาพยนตร์
  • เมื่อ 20 ก.ย. 56 01:27

    Power of Star Trek

    สำหรับคนที่ไม่รู้ว่าอะไรคือ สตาร์แทรค คงคิดว่าไม่ต่างอะไรกับ สตาวอร์ มากนัก (ประกอบกับดูtrailerมาบ้าง) บอกตามตรงก่อนที่จะมาดูเรื่องนี้คิดว่าหนังคงออกแนวกึ่งๆหนังสงครามทหารรถถัง ที่มีผู้บัญชาการคอยสั่งการ แค่นั้นเอง...แค่เปลี่ยนที่มาเป็นบนอวกาศ แต่พอเริ่มมีกระแสประกอบกับคะแนนหนังที่ไม่ค่อยมีให้เห็นกันบ่อยนักกับหนังแนวนี้(A เป็นต้น) ทำให้ผมเริ่มคิดแล้วว่าพลาดอะไรไปแล้ว

    สิ่งที่เป็นจุดเด่นของ star trek ไม่ใช่สเปเชียลเอฟเฟคต์ ไม่ใช่ระเบิดแบบตูมตาม ซึ่งเกือบทำให้ผมเชื่อไปหลายนาทีเหมือนกัน เพราะหนังอวกาศอย่าง star wars หรืออย่างน้อยๆ transformers ถ้าไม่มีภาพที่สวยจริงๆหรือฉากสุดมันก็ยากที่จะทำให้หนังดูสนุกได้ ซึ่งใน star trek นั้นไม่มีอะไรแบบนั้น ถึงมีก็น้อย และเท่าที่สังเกตได้ก็แอบมีบางฉากที่ "ไม่เนียน" อยู่เหมือนกัน แต่ก็เหมาะกับผู้กำกับอย่าง J.J. Abrams ดีน่ะ ดูแล้วไม่ใช่ผู้ชำนาญด้านนี้โดยเฉพาะ แต่กับใช้จุดความสัมพันธ์ของตัวละครได้ทุกรูปแบบ ทั้งๆที่เป็นฉากง่ายๆอย่างฉากหยอกล้อกัน หรือฉากที่พูดด้วยคารมของตัวร้าย อย่างประโยค "after all . no ship should go down without her captain" ไม่รู้ทำไมดูแต่ตอนช่วงนี้สลับไปสลับมา คงจะเป็นเพราะการแสดงของ Benedict Cumberbatch มาช่วยได้เยอะและออกจะเด่นกว่าพระเอกด้วยซ้ำในความคิดของผม

    แต่ไม่ว่าจะตกอยู๋ในสถานะการณ์ไหน ที่สังเกตได้ว่าในเรื่องไม่ได้มุ่งเน้นเรื่องหลักไปในจุดใดจุดหนึ่งมากไป อย่างฉากไล่หัวหน้าห้องเครื่องออก ที่ทั้งเศร้าทั้งฮาทำให้เหมือนเราดูหนัง"ครอบครัวอวกาศ" ที่มีความสัมพันธ์วนไปวนมาอย่างไม่น่าเบื่อ หลังจากนั้นฉากก็เข้มข้นขึ้น เอาจริงมากขึ้นซึ่งบอกได้เลยว่าทีมงานต้องมีการวางแผนมาอย่างดี มีสิ่งหนึ่งที่หนังเรื่องนี้ทำได้แต่เรื่องอื่นทำไม่ได้คือการใช้ฉากง่ายๆที่เราเห็นกันในหนังหลายๆเรื่อง แต่กลับนำมาเป็นฉากน่าสนใจหลายๆฉากเพียงแค่มี"ไอเดีย" ใส่ลงไปก็เท่านั้น

    10/10

    ***ความแตกต่างระหว่างสตาร์วอร์กับสตาร์แทรคนั้นมีความแตกต่างกันมาก อย่างแรกสตาร์วอร์นั้นจะเน้นชนิดแบบสงคราม เกี่ยวกับดาวดวงอื่น สตาร์แทรคนั้นจะเน้นเรื่องที่ใกล้ตัวเรามากกว่า เกี่ยวกับการค้นพบดวงดาวใหม่ๆ J.J. Abrams สามารถควบคุมโทนหนังให้ไม่รู้สึกกดดันมากไป แถมยังมีความสนุกแทรกเข้ามา ดูแล้วผ่อนคลายดีครับแล้วก็ลุ้นไปด้วย ซึ่งเป็นหัวใจหลักสำคัญของเรื่องนี้ที่ทำให้หนังเดินหน้าไปแบบสบายๆ***


    **เรื่องนี้เป็น star trek เรื่องแรกของผมที่ได้ดู ว่างๆจะหาภาคแรกมาดูแนนอน ^^

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 8 มิ.ย. 56 22:28

    สปอค์ หล่อมากอ่ะ

    หนังก็สนุก

    ปล.เป็นคนเน้นดูแต่หนังที่สนุก เท่านั้นค่ะ ถ้าไม่สนุกหรือทำให้หลับเราไม่ดู เสียดายเงินที่จ่ายไป

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 28 พ.ค. 56 18:54

    ไม่อยากทำให้รกพื้นที่

    บอกสั้นๆว่า "หนังดีโคตรๆๆๆๆ ครับ"

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 22 พ.ค. 56 05:45

    มายืนยันอีกเสียง !!
    คอนเฟริมเลยว่า Star Trek : Into Darkness สนุกจริง ๆ !!

    จากภาคแรก ที่ค่อนข้างเฉย ๆ เอียงไปทางด้านลบ นิด ๆ
    พอได้ดูภาคนี้ ทำให้ตัวเองกลายเป็นแฟนหนัง Star Trek ไปโดยปริยาย
    3D อลังการงานสร้าง และค่อนข้างดีกว่าหนังเกรด A หลาย ๆ เรื่องที่ผ่านมาด้วย

    ถ้ามาเทียบในเรื่องของความมันส์ ฉาก Action กับ Iron man 3
    (บอกได้เลย Star Trek อยู่ระดับมหาวิทยาลัย ส่วน Iron man 3 นี่ระดับ ม.ต้นเลยนะ)
    หนังมันส์แทบจะทุกวินาที มีปูเนื้อเรื่่องเป็นมาอะไร อย่างชัดเจน
    ตัวผมคงต้องตีตั๋วไปดูอีกรอบแน่นอน

    ผมไม่ได้บอกให้คุณเชื่อคำพูดผม คุณต้องไปพิสูจน์ด้วยตาของคุณเอง ไม่ผิดหวังแน่นอน !!

    10/10

    ** ใครคิดที่จะมองข้าม หรือใครที่คิดจะรอซื้อแผ่นไปดูที่บ้าน ผมบอกได้เลย คุณพลาดมาก ๆ **

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 21 พ.ค. 56 16:16

    ผมว่าสนุกว่า ไอ้ออ่อนแมน 3 นะ , , , , หนังดูมีมิติมากกว่า ฉากสวยงาม ฉากที่แสดงให้ใหญ่ก็ใหญ่ได้ตามต้องการ ครบเครื่อง ครบรส และมาน่าเชื่อว่า สป๊อก จะมีลูกบ้าเตะ ต่อยเป็นแฮะ 55555 "For my crew USS Enterprise"

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 18 พ.ค. 56 18:53

    คนอื่นวิจารณ์กันว่าสนุกกัน ผมเลยไปดูกับเพื่อน ส่วนตัวเคยดูภาคแรกแล้ว คราวนี้เลยคาดหวังว่าจะสนุกเช่นเดิม แต่แล้วก็ผิดหวัง (ความเห็นส่วนตัว) เพื่อนหลับเกือบทั้งเรื่อง ผมว่าภาคนี้เน้นดราม่า เพื่อปูเนื้อเรื่องไปยังภาคต่อไป ผมว่าอย่างนั้นนะ ผมดูภาคแรกแล้วน่าติดตามมากกว่าลุ้นระทึกมากกว่า ภาคนี้พูดเยอะจริงๆ จนผมคิดมันจะพูดอีกเยอะไหม ตอนที่ลุ้นๆ แปปเดียว ก็ตัดไปดราม่า ซะนาน มันเหมือนช่วงมันสะดุดไป ความเห็นส่วนตัวนะครับ ไม่ได้ว่าหนังเขาไม่ดี

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 17 พ.ค. 56 22:54

    รีวิว Star Trek Into Darkness ( สตาร์เทร็ค ทะยานสู่ห้วงมืด )
    " มันคือความสมบูรณ์แบบที่ไร้ที่ติ "
    สำหรับคนที่ชอบมาตั้งแต่ Star Trek ( 2009 ) ภาคแรกแลัว ภาคนี้ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอนครับ สนุก , มันส์ , ฮา , ซึ้ง เข้มข้นคนละแบบกับภาคแรก ภาพสวยอลังการ เอฟเฟกต์งาม Soundtrack เยี่ยมดีกว่าภาคแรกเยอะ เนื้อเรื่องน่าติดตามตลอดทั้งเรื่องเลยจริงๆ บทตัวละครดีทุกตัวไม่มีใครเด่นกว่าใคร สำหรับผมแลัว Star Trek ของ J.J. Abrams ผมว่ามันสมบูรณ์แบบแลัว ไม่จำเป็นต้องมีภาคก็ได้ หรือ จะมีก็ได้ครับ มันเป็นความรู้สึกสนุกที่อธิบายออกมาไม่ถูกจริงๆ ครับผมบอกตรงๆ สำหรับเรื่องนี้คือหนัง แอคชั่น , ไซไฟ ที่ดีที่สุดแห่งปีสำหรับผมครับหนังมี เอกลักษณ์ ของตัวเองดีชอบมากๆ ครับ
    ( เป็นความชอบส่วนตัว ควรไปชมดัวยตนเอง )

    ผมให้คะแนนเต็ม 10 เต็ม 10 เลยครัาบไม่มีอะไรจะติจะว่าจริงๆ ^O^

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 17 พ.ค. 56 01:50

    ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าได้ชม "STAR TREK INTO DARKNESS สตาร์เทรค ทะยานสู่ห้วงมืด" มา 3 ระบบแล้ว ได้แก่ RealD3D, 2D Digital ปกติ และวันนี้ในระบบ IMAX3D ที่เพิ่งเข้าเป็นวันแรก ครั้งนี้จะขอพูดถึงความรู้สึกที่แตกต่างแต่ละระบบ

    ครั้งแรกในระบบ RealD3D ก็โอเคในระดับนึง งานสามมิติเนี้ยบมีทั้งแบบพุ่ง แบบลึกนูน สร้างความประทับใจว่า เออหนังสามมิติมันต้องแบบนี้สิวะ มีลูกเล่นดี แต่ประเด็นคือมันก็เป็นโรงไซส์ปกติ จอเล็กๆดูไกลๆ เหมือนคุณมองออกนอกหน้าต่าง แล้วมียานบินผ่านหน้าต่างบ้านคุณ

    แต่พออีก 4 วันถัดมาก็ได้ไปชมในระบบ 2D Digital ธรรมดากับเพื่อน กะจะประหยัด พอดูปุ๊บจะบอกว่าตายห่า เสียดายลูกตามาก คนละฟีลเลย** เหมือนดูแบบดีๆมาแล้วแล้วมาดูแบบห่วย อย่าได้คิดดูหนังเรื่องนี้ในระบบธรรมดาเชียว จากที่ดูสามมิติทุกอย่างดูอลังการ พอดูระบบปกติแล้วมันทำให้หนังดูเล็กลงเยอะมากตามความรู้สึก ยานที่รู้สึกว่ามันใหญ่กลับดูธรรมดา

    จนกระทั่งวันนี้ 2วันถัดมา ถึงคิวลงโรง IMAX3D อย่างที่รู้กันมาบ้าง หนังเรื่องนี้ใช้กล้องไอแม็กซ์ถ่ายกว่า 30 นาทีสำหรับฉากเด็ดๆ ทำให้ต้องมาดูโรงไอแม็กซ์ของมัน คือมันจะมีฉากที่ขยายอัตราส่วนที่จะได้เห็นฉากใหญ่โตมากกว่าโรงอื่นๆ เพราะคุณจะได้ดูแบบนี้ที่ไอแม็กซ์ที่เดียว ใหญ่แล้วไงวะ คุณอาจถาม ถ้าคุณไม่รู้จักไอแม็กซ์ดีพอ บอกตรงๆว่า ฉากที่ขยายนั้นช่วยให้หนังดูใหญ่มาก มันจะดูดกลื่นคุณจนจะรู้สึกว่าคุณอยู่ในสถานการณ์เดียวกับตัวละคร ไม่มีความรู้สึกเหมือนมองหน้าต่างบ้านแบบ RealD3D ตอนแรกคิดว่างานสามมิติคงพุ่ง ลึกนูน ไม่ต่างอะไรกับ RealD3D มากนัก แต่กลับกลายเป็นว่าต่างกันสุดขั้ว ด้วยความที่จอใหญ่ ระยะจอกับสายตาจากที่นั่งใกล้กัน มันจะเห็นอะไรชัดขึ้น สิ่งที่ทำมาเป็นสามมิติมันจะอยู่ตรงหน้าคุณเน้นๆ เหมือนมันบิน ลอย แยกชั้นเป็นชิ้นๆอยู่จริงๆ จนนับชิ้นได้ สมกับเป็นฉากอวกาศ สวยมาก เป็นงานที่พิถีพิถันมากสำหรับการทำสามมิติ เพราะผู้กำกับ เจ.เจ. อับรามห์ คุมงานด้วยตัวเอง

    มาพูดถึงในด้านระบบเสียงกันบ้าง 2 ระบบแรกเสียงก็ดูทั่วไปเหมือนที่ดูหนังกันปกติ แต่ขอเน้นในด้านระบบเสียงของ IMAX บอกก่อนคือผมได้ไปดู IMAX ที่สาขาพารากอน ซึ่งเพิ่งเปลี่ยนชุดลำโพงเมื่อปลายปี ซึ่งเป็นรุ่นใหม่กว่าสาขารัชโยธินและปิ่นเกล้า ซึ่งให้เสียงกระหึ่มกว่ามากๆ มากกว่าอีกสองสาขา เทียบกับตอนไอรอนแมน3 ที่ไปดู IMAX สาขารัชโยธิน เสียงนี่คนละเรื่องเลย พารากอนเสียงดีกว่ามากๆ มันกระหึ่มจนแบบว่าบิ้วท์คุณจนตัวสั่นลุ้นไปกับหนังโคตรสุดชีวิต เสียงระเบิดบูมออกมาเป็นก้อนๆ เสียงยิงเลเซอร์ต่างๆชัดเจนมาก ใสกิ๊ง ยิ่งตอนยานวาร์ปแทบจะระเบิด ประกอบกับซาวด์นดนตรีของ Michael Giacchino ทำให้ลำโพงของไอแม็กซ์ขับประสิทธิภาพของเสียงเต็มที่จนคุณรู้สึกอินกับมัน

    ทั้งนี้ผมไม่ได้ดูแบบ 4DX แต่เรื่องภาพและเสียงคงไม่ต่างกับ RealD3D จอเล็ก เสียงธรรมดา ก็แค่มีลูกเล่นเอ็ฟเฟ็คต์ต่างๆเพิ่มเข้ามาเท่านั้น

    ในด้านขอตัวหนังขอบอกสั้นๆว่าทำเนื้อเรื่องออกมาได้ดีและเข้มข้นมาก นอกจากจะต้องเดินเรื่องเพื่อคลายปมต่างๆแต่ก็แฝงเรื่องจิตใจตัวละครแต่ละตัวควบคุ่กันไปด้วย และตัวร้ายก็เท่มากๆ ความสนุก ลุ้น มันส์มาเต็มกว่าภาคแรก แต่ภาคแรกอาจจะได้คะแนนความสดใหม่มากกว่าภาคนี้นิดนึง ง่ายๆอ่ะ ทุกอย่างดีกว่า Iron Man 3

    สุดท้ายผมขอยืนยันให้คุณดู STAR TREK INTO DARKNESS ในระบบ IMAX3D เท่านั้น หากคุณไม่มีปัญหาเรื่องราคา ขอแนะนำอย่างยิ่งให้ดูที่สาขาพารากอน (280-430) ถ้าจะประหยัดหน่อยไปที่สาขารัชโยธิน (200-220) แต่ไม่แนะนำของสาขาปิ่นเกล้าเหมือนไอแม็กซ์พิการไม่สมประกอบ คุณจะไม่ได้อรรถรสเท่า หรือใครไปดูแบบธรรมดาหรือสามมิติปกติมาแล้ว ถ้าคุณใจกล้าไปดูอีกรอบใน IMAX3D แล้วคุณบอกว่ามันไม่เห็นจะต่างกัน ให้คุณเผาพริกเผาเกลือแช่งผมได้เลย

    เชื่อว่าการดู STAR TREK INTO DARKNESS ในระบบ IMAX3D จะให้คุณร้องว้าวได้ ขนาดผมดูมา 3 รอบแล้วมาเจอรอบของไอแม็กซ์ ความรู้สึกเหมือนคุณดูหนังอยู่อีกเรื่องเลย

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 17 พ.ค. 56 01:30

    ผมดู Digital 3D ผมว่าเรื่องนี้ไม่ค่อยคุ้ม 3D สุดๆอย่างที่คิดนะ ผมว่าดู Digital เฉยๆสบายตากว่า คมแล้ว (ส่วน Imax ไม่รู้นะ) อันนี้ ความเห็นส่วนตัว

    รวมๆชอบนะ ผู้กำกับคนนี้ ทำได้ดีเลยตั้งแต่ภาคแรก และ เนื้อหาแน่น ภาพสวย คม Effect เยี่ยม เนื้อเรื่องดำเนินกระชับ ไม่เยือดเยื้อ น่าติดตามตลอด

    แต่ส่วนตัวภาคนี้ผมว่าอารมณ์มันไม่พี๊ค สุดๆเท่าภาคแรกนะ จะสุดๆ และแต่ก็ไม่สุด แต่รวมๆก็ชอบแหละ ตัวร้ายนี้ร้ายกาจจริงๆ เล่นดี

    ผมให้ 9.5/10 ครับ ติดที่ภาคแรกรู้สึกอารมณ์มันสุดกว่า แค่นั้นแหละ

    Ps. ผมว่าหนุกกว่า Ironman 3 อีก

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 16 พ.ค. 56 23:50

    สนุก ลุ้นระทึก ภาพยนตร์ ไซไฟยอดเยี่ยมที่สุดในยุคนี้

    แจ้งลบ
มีทั้งหมด 24 วิจารณ์ หน้าที่ 1 [ก่อนหน้า] 1 2 3 [ถัดไป]
เขียนวิจารณ์
จะต้องลงชื่อเข้าใช้ระบบก่อน จึงจะเขียนวิจารณ์ได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google+ หรือ Facebook ก็ได้
Facebook | Google+

advertisement

วันนี้ในอดีต

  • รักแห่งสยามรักแห่งสยามเข้าฉายปี 2007 แสดง มาริโอ้ เมาเร่อ, วิชญ์วิสิฐ หิรัญวงษ์กุล, กัญญา รัตนเพชร์
  • Harry Potter and the Chamber of SecretsHarry Potter and the Chamber of Secretsเข้าฉายปี 2002 แสดง Daniel Radcliffe , Emma Watson , Rupert Grint
  • ตีสาม 3Dตีสาม 3Dเข้าฉายปี 2012 แสดง กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า, โทนี่ รากแก่น, ชาคริต แย้มนาม

เกร็ดภาพยนตร์

  • Badlapur - เป็นภาพยนตร์ที่ไม่ใช่แนวตลกเรื่องแรกที่ วรุณ ธาวาน ผู้รับบท รักฮาฟ แสดง อ่านต่อ»
  • Chappie - ชาร์ลโต คอปลีย์ ผู้รับบท แชปปี้ กับผู้กำกับ นีลล์ บลอมแคมป์ เรียนโรงเรียนเดียวกันสมัยมัธยมศึกษา ทั้งคู่เป็นเพื่อนสนิทกัน ชาร์ลโต จึงร่วมแสดงในภาพยนตร์ทุกเรื่องที่ นีลล์ กำกับก่อนหน้านี้ ได้แก่ District 9 (2009) และ Elysium (2013) อ่านต่อ»

เปิดกรุภาพยนตร์

ฮักมะย๋อมมะแย๋ม ฮักมะย๋อมมะแย๋ม เรื่องราวความรักที่เต็มไปด้วยอุปสรรคของ บักโจ้ (วัชรพงษ์ ปัทมะ) ชายหนุ่มสุดซื่อที่ถูกสถานการณ์บีบคั้นให้ต้องร่วมมือกับ ...อ่านต่อ»