SIAMZONE.COM

สนุกดีค่ะ พระเอกเท่ห์ มาก เก็บไปฝันเลย ฮ่ะ ฮ่ะ
จบแฮบปี้เอ็นดิ้งแบบเว่อร์ ๆ คือ ไม่ค่อยสมเหตุสมผลเพราะพอนางเอกพระเอกจะหายดีก็หายดีซะงั้น
แต่ก็ดีกว่าจบเศร้าหล่ะน่า ถือว่าออกจากโรงอย่างมีความสุขตามประสาแฟนคลับไอรอนแมน ที่ตามดูทุกภาคอ่ะ

แต่ขอบ่นหน่อยหนังหลอกให้นั่งรอดูตอนต่อหลังเครดิตซึ่งรอนานมาก แต่พอฉายเป็นหลังเครดิตที่ไร้สาระมากๆๆๆๆๆๆๆ

โดยส่วนตัวผมว่าหมดความขลังของหุ่นเหล็กแล้วครับ ที่ทำรายได้เยอะๆ คงเป็นเพราะกระแสมากกว่า เนื้อหนังแทบไม่มีอะไรเลย , , , , บ่องตง สู้ Star Trek ไม่ได้เลย

ได้เวลา ถอดเกราะ

ในที่สุด เราก็ได้เห็น ไอออนแมน ในแบบที่ควรจะเป็น

ภาคแรกเราได้เห็นถึงคน คนนึงที่เปลี่ยนแปลงตัวเองจากวายร้ายค้าอาวุธ มาสวมชุดเกราะ

ภาคสองเราได้เห็นถึงผลร้ายจากสิ่งที่ถกเรียกว่า ผู้พิทักษ์

ภาคนี้เราจะได้เห็น ฮีโร่ ตัวจริง

เราชอบภาคนี้มากๆๆเลยนะ เรารู้สึกว่ามันไม่ยัดเยียด มันไม่หนัก มันคือหนังฮีโร่อย่างที่มันควรจะเป็น เราคิดถึงหนังแบบ สไปร์ดี้ภาคสอง นั่นล่ะ เราคิดว่าคือหนังฮีโร่ที่ดีที่สุด และตอนนี้เราอาจต้องพ่วงคำว่า ไอออนแมนสาม ไปด้วย

ตัวอย่างหนังอาจโปรโมทออกมาแบบ ดราม่าหนักๆๆ แต่ตัวหนังจริงๆ มันไม่ใช่เลย มีความเป็นหนังตลกแบบเอาใจผู้ชมผู้ใหญ่มากเลย และมันเข้าถึงคนทุกชนชาติ ทุกภาษาอยู่แล้ว ไม่ใช่แค่อเมริกาที่ต้องการฮีโร่ แต่ทุกคนบนโลกต่างก็ต้องการ

ที่ชอบคือ หนังแอบด่า ประเทศตัวเอง คือ แมนดาริน ถูกวางตัวว่าเป็นผู้ร้ายจากต่างชาติ แต่พอ บทหักมุม เล่นเอาอึ้งไปเลย แบบเราว่าหนังมันค่อนข้างแรงไปในแบบ ตลกร้าย แต่ผมพึงพอใจนะ กับจุดๆๆนั้น

รวมทั้งการทำในสิ่งที่ควรจะทำมาตั้งแต่แรกคือ การสละทุกสิ่งที่ถูกสร้างขึ้น ชุดเกราะเหล่านั้นที่ถอดออกและทำร้ายลง มันสื่อไปในทางที่ดีมากๆ

บทสรุปของภาคนี้(ผมคิดว่ามันไม่ใช่บทสรุปของหนังชุด ไอออนแมน) มันเป็นอะไรที่เจ๋งมากๆ แม้ว่าชุดเกราะ(ที่เป็นตัวแทนของคำว่า ฮีโร่)จะถูกทำลายไป แต่แท้จริงแล้ว ฮีโร่ ยังคงอยู่ ก็ โทนี่เค้าเป็นฮีโร่ ไม่ใช่ชุดเกราะ

ฉากแอ็คชั่น ที่ผมขอบอกว่า น่าตื่นตาตื่นใจ มากกกก ยิ่งได้ดูจากจอใหญ่ๆแล้ว มันมันส์เข้าไส้ ลุ้นระทึกจนตับหลุด ฉากเหิรเวหาแต่ละฉากมันน่าเสียวไส้มากๆ โดยเฉพาะฉากช่วยคนจากเครื่องบินแอร์ ฟอช วัน ผมบอกเลยว่าโครตลุ้น

ตัวร้ายของเรื่อง ที่ดู ค่อนข้างหลุดโลก แต่หนังก็บอกไว้แล้วนี่ ว่า ถ้ามีเทพเจ้าโผล่มาจากฟ้าพร้อมกับขวานแล้วล่ะก็ อะไรก็เป็นไปได้

ผู้กำกับเชน แบล็ค สานต่อเรื่องราวที่ จอน แพฟโรว์เริ่มไว้ได้เนียนมากเลยครับ มันไม่หลุด หรือเปลี่ยนโทนหนังเลยสักนิด

และนี่ล่ะคือหนังเปิดตัวซัมเมอร์ปีนี้ อย่างถึงใจ มันไม่ใช่แค่ดี แต่มันเยี่ยมไปเลย !

10/10

#มีสิ่งหนึ่งที่เรารู้สึกหงุดหงิดคือ หนังใช้ประโยชน์จากเหตุการณ์ในนิวยอร์กได้ไม่ไดีพอ คือรู้สึกว่า มันน่าจะมีอะไรที่ไปได้ไกลกว่า แต่เท่าที่เป็นอยู่นี้ เรากชอบมากเลยล่ะครับ ไปดูกันเลยครับ ไม่มีผิดหวัง

สำหรับผมนะ
ภาค 1
ชอบมาก บททุกอย่างลงตัว น่าติดตาม แอคชั่นไม่เยอะแต่สนุกและลุ้นดี ภาพรวมมันดีมาก สำหรับหนังhero เรื่องหนึ่ง
ภาค 2
เกลียดมาก ไม่ชอบเลย ไม่มีความสนุกเลย ไม่น่าติดตาม และฉากที่พระเอกกะนางเอกเถียงกันนั่น มันน่ารำคาญมากๆ
ภาค 3
ภาคนี้ โอเคสำหรับผมนะ อาจจะไม่ดีเท่ากับภาคแรก(สำหรับผม) แต่แทนที่ด้วยบทที่แตกต่างและสดใหม่ขึ้น ทำให้สนุกไปกับลูกเล่นใหม่ในภาคนี้

มันส์ที่สุดใน 3 ภาค

เอาใจไปเต็มๆ 10 คะเเนน

เสียอย่างเดียว หนังการ์ตูน,หนังฮีโร่ ทีไร พวกพ่อแม่เด็กชอบพาลูกงอเเงเข้าโรง

ต่อไปโรงหนังน่าจะจำกัจตรงจุดนี้หรือมีอะไรๆตรงนี้บ้างนะครับ

เด็กงอเเง ร้องไห้ อยากกลับบ้านอย่างเดียว บ้างก็คุณพ่อพามาดูหลายรอบเล่าซะหมดอารมณ์ดูเลย

เซนทรัลปิ่นเกล้า , เมเจอร์ศาลายา , เมเจอร์ปิ่นเกล้า ผมโดนมาตลอด T T

การดำเนินเรื่องเรื่อยๆ ไม่ช้าไม่ไว เนื้อเรื่องก็ทั่วๆไป แบบนี้แหละหนัง Marvel.. ไอเรื่องหักมุมที่ว่าๆกัน ส่วนตัวผมเฉยๆ ไม่ถึงกับหักแบบเงิบ.... หนังตอนเริ่มเรื่องมันก็บอกอยู่แล้วว่าไงๆตัวร้ายที่พระเอกเล่าก็ไม่ใช่ The Mandarin แต่คนติด Comic เลยเอามาโยงและคาดหวังกันไป.... ที่ผมเดาไว้มันก็ไม่ได้ถูกซะหมด แค่เดาว่า Aldrich Killian คงจะหลอกใช้ The Mandarin อยู่เบื้องหลังมากกว่า... แต่หนังมันก็เฉลยว่า Aldrich Killian สร้าง The Mandarin ขึ้นมาหลอกทุกคน... ความสวยงามและงานด้าน graphic ก็คงไม่ต้องพูดถึง... ส่วน Action ที่ผมมองว่าทำได้เตะตาผมมีอยู่ 3 ฉาก(ฉากที่ 2 ไม่เชิง Action ซะทีเดียว ออก Thriller มากกว่า...)

ฉากแรกคือ: ฉากสุดท้ายของหนัง แต่ไม่ใช่ทั้งหมด.. แค่เฉพาะตอน Tony Stark ฟัดกับ Aldrich Killian ชนิดแลกหมัด ถอดเกาะใส่เกราะ บลาๆ(ลูกเล่นดีและหนังทำไว ผมชอบหนังทำไวให้คิดตาม ไม่ต้องอธืบายให้เสียเวลา)

ฉากที่ 2 คือ: ตอน Tony Stark บังคับหุ่นไปช่วยผู้โดยสารที่ตกเครื่องบิน หนังค่อนข้างจะเล่นเสียงดนตรีประกอบเด่นมากๆ และวิธีการช่วยนับว่า เจ๋งเลยละ รวมทั้งให้แง่คิด....

และฉากที่ชอบที่สุด(หลายคนน่าจะมองข้าม..): ฉากที่ Tony Stark ใส่เกราะแค่แขนและขาอย่างละข้าง ทำไมถึงชอบ.. ลูกเล่น ทริค และ Movement ของตัว Tony Stark ทำออกมาได้โดนใจครับ มันไม่ใช่แค่การสู้ที่เรียบง่าย หมัดตรง หมัดเฉียง บลาๆ แต่ต้องใช้หัวคิดและการพลิกแพลงเข้าช่วย ซึ่งหนังทำออกมาแล้วท่ามันสวยและเท่ ที่สำคัญ ไวดี ผมชอบ....

ส่วน Action อื่นๆก็สนุกดูเพลินๆครับ ทำได้ดีเช่นกัน.... ความฮา ก็ยิ้มบ้าง.. ไม่ถึงกับก๊าก และไม่ฝืด.. ผมเคยดูที่ยียวนกวนกว่านี้เยอะ...

และบทของตัวละคร บางตัวก็หลวมๆไป(หลายคนน่าจะรู้ แต่ผมชอบความคิด Aldrich Killian นะ ตอนที่โดนทิ้งอยู่บนดาดฟ้า ผมก็ชอบคิดแบบนั้น...)

อีกนิด... เรื่องความคาดหวัง ไม่คิดว่ามันจะ Action หลาอยู่แล้ว รู้มาว่ามันใส่ Drama เข้าไป ผมคาดหวังไว้ว่ามันน่าจะทำได้ประมาณนี้ และมันก็ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกผิดหวัง หรือเกินที่หวังซะทีเดียว....

ผมให้ 8.1/10 นะ Like & Recommend

ภาคนี้ สำหรับผมดีกว่า2ภาคที่แล้ว โดยเฉพาะเนื้อเรื่อง
แต่ที่ประทับใจที่สุด ก็คือฉากที่ช่วยคนที่ตกจากเครื่องบิน
มันทำให้เห็นว่า นี้ละฮีโร่จริงๆ

ให้9.5/10 ตัดคะแนนเรื่องหักมุมละกัน

สนุกมากมากครับ ทั้งฉาก เพลงประกอบ เนื้อเรื่อง ภาพสามมิติ ครบถ้วนไม่มีสะดุด
หักมุมก็เนี๊ยบบาดใจมาก วายร้ายดูโหดเหี้ยมดี คงความเป็น action superhero เกินคาดจริงจริง
มาแรงจนฉุดไม่อยู่เลยหละครับ ชอบมากพอพอกับ พี่มากพระโขนงเลย

100 / 100 คะแนนเลยครับ

ดูรอบ 18.00น. ที่เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ แฟชั่นฯ ระบบ ดิจิติอล 3 มิติ

คนเต็มโรงเลยหละครับ ไม่ผิดหวังเลยรับรองได้เลยเต็มเต็ม

โปรแกรมหน้า Coming Soon

Fast & Furious 6 เร็ว...แรงทะลุนรก 6 ไม่พลาดแน่แน่ ขอบอก

ง่ายๆสั้นๆ มันส์ครับผม

9.5/10

ถ้าลดบทพูดลงบ้างและเพิ่มการต่อสู้ของหุ่นที่มาหลายๆตัว คงจะดีมากๆเนอะ
แต่โดยรวมแล้ว สนุกดีนะ โหดมันส์ฮากันเลยทีเดียวนะเนี่ย
ส่วนตัวให้ 9/10