SIAMZONE.COM

เนื่อเรื่องดี นะ
ชอบ ชอบ
ดูได้ เลย หนังดี อีก เรื่อง
ชอบพระเอก จัง (แสดง ได้ ดี)
นักแสดงหญิง ก็ น่ารัก ดี แก้มป่อง

หนังดีมากๆ แบรดลี่ เล่นได้กวนตีน ฮาดีครับ แบบจิตๆอะนะ นางเอกน่ารักมากก
เฮีย โรเบริต เดนิโร ได้เล่นเป็นพ่อละ 5555 ถึงะแก่แล้วแต่ก็ยังเล่นดีไม่เปลี่ยนนะ
ดูหนังเรื่องนี้แล้วมัน ฟิลลกู้ดดีครับ 10/10

เรื่องเศร้าเล่าแล้วขำ

David O. Russell คือผู้กำกับที่ผมคาดหวังในทุกๆผลงานของเค้า และไม่มีเลยสักครั้งที่ทำให้ผมผิดหวัง กลับกันในทุกๆผลงานที่ออกมายิ่งทำให้ผมหลงรักผู้กำกับรายนี้มากขึ้นเป็นทวีคูณ แต่จะว่าไปผมเองก็เคยดูหนังของเค้าไม่กี่เรื่องจากเครดิตการกำกับทั้งหมด 6 เรื่อง ผมดูไปแล้วสามคือ Three Kings,The Fighter และล่าสุด Silver Linings Playbook

เมื่อดูโดยรวมๆแล้วหนังของ Russell นั้นมีอารมณ์ร่วมกันอย่างน่าประหลาด โดยเฉพาะตัวละครในเรื่องที่มักจะเพี้ยน แม้แต่ในหนังดราม่าอย่าง The Fighter ก็อารมณ์ขำแบบแปลกๆ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวหรือที่เขาเรียกกันว่า ลายเซ็น

Silver Linings Playbook ดัดแปลงมาจากนิยายของ Matthew Quick โดยเนื้อหาของหนังพูดถึง Pat ชายคนหนึ่งที่เห็นภรรยาของตนมีความสัมพันธ์ชู้สาวกับเพื่อนร่วมงาน จนเขาคลุ้มคลั่งลงมือทำร้ายชายผู้นั้น "เหตุการณ์เดียวก็เปลี่ยนแปลงชีวิตเราได้" นับจากวันนั้นชีวิตของเขาก็ไม่เหมือนเดิม เขากลายเป็นคนอารมณ์แปรปรวน ต้องพบจิตแพทย์ และถูกเรียกว่า คนบ้า เขายังคงหาทางกลับไม่คืนดีกับภรรยาของเขาตลอดเวลา โดยมีครอบครัวเป็นแรงสนับสนุน(หรือเปล่า) ครอบครัวของเขาประกอบไปด้วยผู้เป็นพ่อที่เชื่อในเรื่องดวงและชอบพนันเป็นชีวิตจิตใจ แม่ผู้ซึ่งดูเหมือนจะปกติที่สุดในบ้าน พี่ชายที่ชอบคุยโว เขาพยายามทุกวิถีทางที่จะรักษาตัวเอง ทั้งออกกำลังกาย(ถรรยาเคยบ่นว่าเขาอ้วน) ทั้งอ่านหนังสือที่ภรรยาเขาใช้สอนนักเรียน จนวันนึงเขาไปหาเพื่อนเก่า และมีนัดทานอาหารค่ำในวันอาทิตย์ที่ใกล้จะถึง เขาเคยรักวันอาทิตย์แต่นั่นมันก่อนที่จะเกิดพายุซึ่งพัดพาชีวิตเขา ในค่ำวันอาทิตย์นั้นเขาได้เจอกับหญิงสาว ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรจากเขามากนั้น โลกเบี้ยวๆของคนสองคนที่บังเอิญโคจรมาพบกัน ความโรแมนติก ปนซึ้ง ผสมความเศร้า ก็เริ่มขึ้น

ในขณะที่ตัวละครเอกของเรื่องทั้ง Pat และ Tiffany ถูกตีตราว่าคนบ้า แต่เมื่อเรายิ่งดูเรากลับยิ่งพบว่าเขาคือคนที่แสนจะปกติ ถึงคนต่างมีลูกบ้าอยู่ในตัวบ้า เหมือนระเบิดเวลา เมื่อใดที่มันระเบิดออกมาแน่นอนคือความเสียหายที่จะเกิดขึ้น และหลังจากนั้นเราควรทำอะไร เราจะรับมือกับสถานการณ์ตรงนั้นยังไง think positive สิ ตัวละครในเรื่องดูราวกับหลุดมาจากหนังคอเมดี้ แต่หนังให้สัดส่วนออกมาได้อย่างพอเหมาะ ไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป การตัดต่อ มุมกล้องที่ดูหวือหวาในขณะเดียวกันมันดูอินดี้ ดูเคาต์ อยู่ไม่น้อย ดนตรีประกอบที่ตอบรับกับตัวหนังเป็นอย่างดี

นักแสดงต่างทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม มันยอดเยี่ยมมากจริง ผู้กำกับ David O. Russell มีความสามารถในการดึงศุกยภาพของนักแสดงออกมาได้ อันมีรางวัลการันตี แลแน่นอนในปีนี้มีหลักฐานคือ Jennifer Lawrence ได้รับออสการ์ไปนอนกอด แต่นั้นมันไม่สำคัญมากนัก หากจะว่ากันจริงๆแล้วทุกคนในหนังต่างไม่มีใครที่ดูอ่อนด้อยเลยตั้งแต่ขาใหญ่อย่าง Robert De Niro คงไม่ต้องสาธยายว่าลุงแกมีสรรพคุณอะไรบ้าง แต่ที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้คือ Bradley Cooper ระหว่างที่ดูผมลืมไปหมดเลยว่านักแสดงรายนี้เคยรับบทอะไรมาแล้วบ้าง ไม่ว่าคุณจะเคยอคติกับนักแสดงคนนี้อย่างไร เมื่อได้ดูคุณจะคิดว่าเขาคือนักแสดงคุณภาพอีกคนนึงของฮอลลีวู้ด เป็นบทบาททางการแสดงที่ดีมากๆ ดูแล้วก็ได้แต่หวังว่าเขาจะหันหน้าเข้าสู่หนังรางวัลมากกว่าที่เป็นอยู่

ถ้า Jack-Rose, Romeo-Juliet, Tom-Summer, Eve-WallE, Paulie-Juno,Joel -Clementine คือคู่พระนางที่คุณเคยหลงรัก ต่อจากนี้คุณจะต้องเพิ่ม Tiffany และ Pat เข้าไปด้วย


ไม่มีข้อกังขาสำหรับหนังเรื่องนี้ หากใครที่ต้องการดูหนังรัก ฟิลกู้ดที่ไม่ใช่เรื่องของคนรักผี รักสุนัข ดูแล้วมีอะไรให้ได้คิดผมขอแนะนำ และ อวยอย่างออกนอกหน้า Silver Linings Playbook คือหนังที่ไร้ที่ติ

10/10


//นี่ฉันดูหนังเรื่องเดียวกะ รายละเอียด (เลขที่ 87113) ป่ะ

ดูจบแล้วอิ่ม ประทับใจ ดูจบแล้วจิตใจมันชุ่มฉ่ำอ่ะ
ไม่มีอะไรมาก ไม่รู้จะวิจารณ์อะไร เพราะก็ไม่ใช่คนที่จะ
วิจารณ์หนังหรือรู้เรื่องราวอะไรมาก แต่เอาเป็นว่าแค่คุณดูหนังเรื่องหนึ่ง
แล้วพอจบมันประทับใจ มันทำให้คุณได้คิด หรือคุณได้ข้อคิดอะไรหลายๆ
อย่างจากมัน ก็คิดว่าโอเคแล้วค่ะ สมควรแล้วสำหรับรางวัลออสการ์ที่ได้มา
Bradley Cooper เล่นได้ดีมากๆ จนไม่รู้จะอธิบายยังไง (หล่อที่สุด ณ เวลานี้เลย เอาจริงๆ)
Jennifer Lawrence ไม่ต้องพูดถึง ไม่งั้นคงไม่ทำให้เธอได้รางวัล Best Actress มาครอง

ภาพยนตร์ Drama comedy เรื่องเยี่ยมที่สุดแห่งปี สมบูรณ์แบบ และเข้มข้น.
Give A

ผิดหวัง สนุกน้อยกว่าที่คิดเยอะเลยครับ ไม่คิดว่าหนังจะแย่ขนาดนี้

เป็นหนังรักตลกโรแมนติคที่ตลกร้ายและห่างไกลความโรแมนติคหวานแหววแนวเลี่ยนอ๊วก เป็นหนังรักที่ไม่เหมือนเรื่องไหน คนเขียนบท ผู้กำกับ และนักแสดง เก่งมากที่สามารถทำให้เราอินไปกับเรื่องราวที่ไม่ใช่เรื่องใกล้ตัวที่พูดถึงความรักของคนที่จิตไม่ปกติ และใช้ความรักนั้นเยียวยาให้ตัวเองเดินหน้าต่อไปได้ในชีวิต นักแสดงทุกคนแสดงกันได้อย่างสุดโต่ง ถึงพริกถึงขิงมาก Bradley Cooper ได้บทบาทที่ดีที่สุดในชีวิตการแสดงของเขาเลย ทั้งกวนประสาทแต่ก็น่าเห็นใจในบทหนุ่มอดีตครูที่ชีวิตรักพังจากโรคไบโพลาร์ Jennifer Lawrence ได้บทบาทที่ดันให้เธอได้ลูกโลกทองคำและอาจจะออสการ์ด้วยซ้ำ ไม่น่าเชื่อว่าดาราสาวอายุยี่สิบต้นๆคนนี้จะมีฝีม้ายลายได้ถึงขนาดนี้ ในบทบาทสาวหม้ายฮิสทีเรีย ขอปรบมือให้ดังๆกับดารานำ ดาราสมทบก็สร้างสีสันต์ให้หนังได้ไม่แพ้กัน โดยเฉพาะ De Niro ในบทพ่อที่ดูเป็นธรรมชาติและลื่นไหลมาก

เป็นสุดยอดหนังตลกแห่งปี ได้ทั้งความสนุก, ประทับใจและอิ่มเอมในตอนจบ นักแสดงทั้ง 4 แบรดลี่ย์ คูเปอร์ เป็นหนุ่มคนไข้บำบัดทางจิตที่น่าหมั่นไส้ที่สุด, เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ เป็นม่ายสาวขี้วีนที่สร้างความอิ่มใจให้แบบไม่รู้ตัว, แจ็คกี้ วีเวอร์ เป็นคุณแม่ที่รับมือกับลูกชายสติแตกกับคุณพ่อบ้าบอลได้นุ่มนวลอย่างไม่น่าเชื่อ และโรเบิร์ต เดอนีโร เป็นคุณพ่อที่วุ่นวายกับเรื่องโชคลางก่อนดูบอลแต่ก็รักลูกมาก ได้เข้าชิงทั้ง 4 คนครบสาขานักแสดงได้ย่อมไม่ใช่ธรรมดา

9/10