วิจารณ์ The Hobbit: An Unexpected Journey

วิจารณ์ภาพยนตร์
  • เมื่อ 13 ม.ค. 56 15:39

    ไม่เคยดู the lord ด้วย เคยดูแต่ Outlander (คนสร้างเดียวกันหมด)
    บรรยากาศก็คล้ายๆเรื่องนั้น

    ก็ดีนะ ไม่ได้แย่อะไร
    เผอิญไมใช่คอหนังแนวแฟนตาซีน่ะ แต่วันนั้นเพื่อนลากไปดู

    ปล.บางมุขไม่ฮา

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 2 ม.ค. 56 18:59

    ?มีฮอบบิทคนหนึ่ง อาศัยอยู่ในรู?
    เหนือกาลเวลา
    ปี 1892 John Ronald Reuel หรือที่ใครๆต่างรู้จักกันในนาม J.R.R. Tolkien ผู้ให้กำเนิดแห่ง Middle Earth ได้ลืมตาดูโลกขึ้น
    ปี 1995 ผู้กำกับโนเนมในช่วงเวลานั้นอย่าง Peter Jackson ตัดสินใจผลักดันโครงการหนัง The Lord of The Ring ขึ้น มีคนบอกกับเขาว่า ?คุณบ้าไปแล้วพีท?
    ปี 2011 ในช่วงหยุดเรียนซัมเมอร์ หลังความเบื่อหน่ายจากการดูหนังเก่าๆ ผมเข้าไปในเว็บที่ผมคุ้นเคยก็เห็นหัวข้อหนึ่งซึ่งผมไม่เคยอยากจะกดเข้าไปดู The Lord of The Ring Trilogy แม้จะรู้ดีถึงความยิ่งใหญ่และกิตติศัพท์มากมายที่กล่าวถึง แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่กระตุ้นให้ผมคลิก Download ไม่ใช่เลย ผมกดไปเพราะความไม่รู้ว่าจะดูอะไรดีต่างหาก
    ปี 1914 ? 1918 ในระหว่างช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง Tolkien ตัดสินใจเข้าร่วมเป็นทหาร เหตุการณ์ครั้งนั้นได้พรากเขากับบุคคลอันเป็นที่รักไปตลอดกาล ความเศร้า ความสูญเสีย อำนาจ การกดขี่ ห่มเหง ความโหดร้าย มิตรภาพ สิ่งต่างๆเหล่านั้นปรากฏชัดในผลงานของ Tolkien โลก Middle Earth อาณาจักรส่วนตัวของ Tolkien ถูกหล่อหลอมขึ้นจากเหตุการณ์นั้นรวมทั้งช่วงเวลาที่ไม่สมบูรณ์ในวัยเด็กของเขาเอง
    ปี 2001 ภาพยนตร์ที่สร้างปรากฏการณ์ฮิต ติดลมบน อย่างโครงการที่ถูกตราหน้าว่ามีสิทธิ์ล้ม อย่าง The Lord of The Ring The Fellowship of The Ring เข้าฉาย ลบการตราหน้าของหนังและเป็นการแจ้งเกิดสุดยอดผู้กำกับ Peter Jackson อย่างภาคภูมิ
    ปี 2001 หลังจากผมกด Download นั้น ผมไม่เคยคิดเลยว่ามันจะเป็นการเปลี่ยนแปลงชีวิตผม เช่นที่เคยเกิดขึ้นมาเมื่อหลายปีก่อน Harry Potter เพื่อนสนิทของผมทำให้ผมได้ก้าวเข้ามาในแวดวงของการเป็นนักอ่าน และคราวนี้ Frodo และผองเพื่อน ฮอบบิท ได้พาผมเข้าไปผมกับโลกใหม่ โลกที่เต็มไปด้วยความอัศจรรย์ใจ ผมกลายเป็นหนึ่งในฮอบบิท ไปแล้ว
    ปี 1918 - ? หลังสงครามจบสิ้น Tolkien ได้เข้ารับการศึกษา จนได้เป็นศาสตราจารย์ทางภาษาในมหาวิทยาลัยออกฟอร์ด ต้นกำเนิดของมัชฌิมโลกเริ้มต้นขึ้นที่นี่ ณ กระดาษคำตอบที่ว่างเปล่าของนักศึกษาคนหนึ่ง Tolkien เขียนลงไปว่า ?มีฮอบบิทคนหนึ่ง อาศัยอยู่ในรู?
    ปี 2003 ภาพยนตร์ลำดับท้ายสุดของมหากาพย์โลกไม่ลืมอย่าง The Lord of The Ring The Return of The King เข้าฉาย ซึ่งทำเงินไปกว่า $1,119.1 ล้าน จากทุนสร้างเพียง $94 ล้าน ไม่เพียงแต่หนังจะโกยเงินเท่านั้นยังคว้ารางวัลจากเวทีออสการ์ไปอีก 11 รางวัล รวมทั้งสาขาใหญ่ๆอย่าง ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ผู้กำกับยอดเยี่ยม ใครเล่าจะกล้าเถียงว่า The Return of The King ไม่ใช่ที่สุดของที่สุดในปี 2003
    ปี 2012 ผมติดตามข่าวคราวของหนัง The Hobbit ตลอดเวลา หาข้อมูลเกี่ยวกับหนังมากมาย รวมทั้งไปสั่งจองหนังสือ The Lord of The Ring และ The Hobbit แต่แล้วกลับผิดคาด เนื่องจากขาดตลาด แต่ข่าวดีคือ แพรว สำนักพิมพ์เตรียที่จะจัดพิมพ์ขึ้นใหม่ ผมอดใจรอแทบไม่ไหวเลยที่จะได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งใน Middle Earth

    เป็นเวลานานกว่า 11 ปี นับจากวันที่หนังสือ The Hobbit ฉบับแรกถูกตีพิมพ์ นักอ่านต่างเรียกร้องให้ Tolkien เขียนภาคต่อตามมา แล้ว The Lord of The Ring ก็ถูกตีพิมพ์ออกมา Tolkien จะรู้ไหมว่า นิยาย ที่เขาเป็นผู้เขียนจะกลายเป็นต้นแบบของนิยายแฟนตาซี ผจญภัย ในยุคต่อมา และขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในวรรณกรรมที่ดีที่สุดในโลก

    ปี 2008 ? 2010 ประกาศสร้าง The Hobbit สร้างความยินดีแก่ชาวมัชฌิมโลกและมนุษย์ปุถุชนเป็นอย่างมาก พร้อมกับการประกาศชื่อผู้กำกับอย่างเป็นทางการกับผู้กำกับเปี่ยมจินตนาการอย่าง Guillermo Del Toro โดยมี PJ (Peter Jackson) เป็น Producer ต่อมา Del Toro ขอถอนตัวทำให้เก้าอี้ผู้กำกับว่างชั่วขณะ แล้วจะมีใครเล่ามาทำหน้าที่นี้ แน่นอน PJ หวนกลับคืนสู่ Middle Earth อีกครั้ง ?I?ll save the Hobbit?เชื่อว่านักดูหนัง นักอ่าน ใครหลายๆคนคงสงสัยว่าเมื่อ PJ สงสัยว่าควรทำ Scene นี้ออกมาในรูปแบบไหน ยังไง สงสัยในบางช่วงบางตอนของนิยาย เขาทำเช่นไร เมื่อ Tolkien เองก็ลาลับโลกใบนี้ไปแล้ว คงต้องเรียกว่า ?พรสวรรค์? ใครเล่าจะล่วงรู้หรือบางที PJ อาจเป็น Gandalf ก็ได้

    ปลายปี 2012 ช่วงเวลาที่ผมรอคอยก็มาถึง ต้องอขบคุณเพื่อนๆที่ทราบว่าผมคลั่งไคล้และรอคอยหนังสือชุด The Lord of The Ring มาดเพียงไหน ในวันเกิดผมได้รับของขวัญเป็นหนังสือชุด The Lord of The Ring ครบทั้งสามเล่ม รวมทั้ง The Hobbit ขาดก็แต่ Synmarillon หนังสือว่าด้วยต้นกำเนิดแห่งมัชฌิมโลก และก่อนหนัง The Hobbit จะเข้าฉายผมไม่ลืมที่ตามเก็บหนังชุด The Lord of The Ring มาไว้ครอบครองอย่างถูกกฎหมาย เพื่อเตรียมตัวออกผจญภัยพร้อมกับเหล่าคนแคระไร้บ้าน พ่อมดสีเทาช่างทำผลุไฟ และ บิลโบ แบ๊กกิ้นส์ ผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นหัวขโมย

    ก่อนถึงปี 2013 อีก 8 วัน ผมอดใจรอแทบไม่ไหวที่จะได้รับชมภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่กว่าจะจัดการทำธุระให้เสร็จเรียบร้อย หนังก็เข้าฉายไปหลายวันแล้ว ผมตัดสินใจไปดูเพียงลำพัง ในรอบดึกของคืนวันนั้น และผมดีใจเหลือเกินที่ได้กลับสู่โลกของ Tolkien อีกครั้ง

    หวนคืนสู่มัชฌิมโลก
    จากนิยายต้นกำเนิดของ The Lord of The Ring และความสำเร็จอีกมากมายของ Tolkien ในที่สุด The Hobbit ซึ่งมีความหนาเพียง 332 หน้า (ฉบับแปลไทย โดย แพรว สำนักพิมพ์) แต่ได้แบ่งออกเป็นไตรภาคในฉบับภาพยนตร์ The Hobbit An Unexpected Journey ภาคแรกก็ได้เข้าฉาย กว่า 80 ปีให้หลังจากต้นฉบับนิยาย ความรู้สึกก่อนดูผมยอมรับว่า หวั่นใจ ไม่น้อย ในขณะที่ The Lord of The Ring ถูกลดขนาด ตัดทอน เนื้อหาลงเพื่อให้เป็นไตรภาค แต่ ครั้งนี้ The Hobbit กลับต้องขยายเพื่อให้พอกับจำนวนเวลาความยาวของหนังไตรภาค ?แล้วมันจะมีแต่น้ำไหมนะ ?? ผมเก็บคำถามนี้ไว้ในใจ ผมรักหนังเรื่องนี้สุดๆ ถึงขั้นสติขาด เมื่อมีใครบางคนกล่าวร้ายหนังเรื่องนี้ แต่ความว้าวุ่นใจของผมก็ได้อันตรธานหายไปเมื่อผมดูจบ ไม่เลย มันไม่ได้เพ้อฝัน พายเรือวนในอ่าง หนังดำเนินเรื่องไปอย่างลื่นไหล เปี่ยมมนต์เสน่ห์ เนื้อหาที่ถูกเสริมเพิ่มเข้ามาต่างก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาคผนวกในหนังสือ The Return of The King ทั้งสิ้น และนั่นไม่ได้ทำให้หนังยืดเยื้อ แต่กลับเป็นส่วนเติมเต็มที่สำคัญทั้งสิ้นให้กับมัชฌิมโลกได้อย่างสมบูรณ์แบบ
    ขณะที่ โฟรโด ออกเดินทางโดยไม่เต็มใจนัก(บางส่วนในตัวเขาบอกให้ต้องออกเดินทาง) แต่บิลโบกลับต่างออกไป เขากล้าที่จะออกไปผจญภัยจากการเชิญชวนของแกนดัล์ฟ พ่อมดสีเทาและเหล่าคนแคระสิบสามคน บิลโบออกเดินทางเพื่อช่วยเหลอเหล่าคนแคระด้วยของแลกเปลี่ยนเป็นทรัพย์สินของเหล่าคนแคระ ซึ่งถูกยึดไปโดยมังกรกระหายเลือดนาม สม็อก ซึ่งทำลายบ้านเมืองของพวกเขาไปจนสิ้น และไม่มีใครเลยที่จะเข้าร่วมช่วยพวกคนแคระ แม้แต่กษัตริย์พรายธรันดูอิล (พ่อของเลโกลัส) ก็นิ่งเฉย นี่กระมังจึงเป็นสาเหตุทำให้คนแคระและเอล์ฟ ไม่ถูกใจกัน 60 ปีต่อมาลูกหลานของคนแคระที่รอดชีวิตได้มาอยูในโพรงของบิลโบ เพื่อขอให้เขาเข้าเป็นส่วนหนึ่งของคณะเดินทางกับภารกิจนี้
    การผจญภัยสุดคาดคิด
    ให้ความหมายที่ลงตัวกับการเดินทาง ไปผจญภัย บิลโบและผองเพื่อนคณะร่วมเดินทางต้องพบเจอกับภยันตรายนานาชนิด ทั้งการเอาตัวรอดจากเหล่าสามสหายโทร์ล พวกออร์คศัตรูเก่าแก่ของธอรินราชาของเหล่าคนแคระ เหล่าเอล์ฟแห่งริเวนเดล เหล่าโทร์ลที่เกิดจากภูเขาในค่ำคืนอันแสนอันตราย ถ้ำของฝูงกอบลินตัวร้ายที่หมายปองชีวิตของพวกเขา ผู้ครองแหวนอย่าง สมีกอล หรือที่รู้จักกันดีในนามกอลลั่ม

    หากใครที่คิดว่า The Lord of The Ring นั้นอลังการมากแล้ว คุณอาจต้องกลับมานั่งทบทวนใหม่เพราะสิ่งที่ได้เห็นใน An Unexpected Journey นั้นกลับมีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดทุกอย่างได้รับการพัฒนาขึ้นอย่างมาก PJ ถ่ายทำภาพยนตร์ด้วยระบบ duology 48 fps ให้ภาพที่ดูคมชัด เคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติ มัชฌิมโลกดูสวยดุจสรวงสวรรค์ โดยเฉพาะในริเวนเดล ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของหนังเลยทีเดียว PJ ยังเรียกพลพรรคนักแสดงหน้าเก่ามาร่วมแสดงอย่างมากมายแม้ในรายที่ไม่มีชื่ออยู่ในนิยาย PJ ก็มิวายเสริม เพิ่มเติม ให้พวกเขามาปรากฏตัว ซึ่งต่างก็ล้วนแล้วแต่แพรวพราวไปด้วยมนต์เสน่ห์ โฟรโดและบิลโบวัยชราคือกุญแจเชื่อมระหว่าง The Hobbit และ The Lord of The Ring องค์หญิงกาลาเดรียล และซารูแมนในสภาสีขาว กอลลั่มซึ่งยังคงสร้างสีสันให้กับเนื้อเรื่องได้อย่างดีเยี่ยมและใครรู้สึกบ้างว่ากอลลั่มนั้นดูน่าสงสารมากเลยทีเดียวกับการสูญเสียของรักไป แม้ในปฐมบทนี้จะยังไม่มีเลโกลัส แต่PJ คอนเฟิร์มมาแวว่าได้เห็น บลูม ในบทบาทนี้อย่างแน่นอน สำหรับหน้าใหม่ก็ไม่อะไรให้ต้องติ มาร์ติน ฟรีแมน ทำหน้าที่ถ่ายทอดความเป็น บิลโบ ได้อย่างดี zero to hero และที่เคียงคู่กันมาคือ ริชาร์ด อาร์มิเทจ ในบทธอริน สำหรับรายนี้ผมชอบมากเลยจริง ส่วนรายที่เหลือนั้นแม้จะถูกกลืนหายไปแต่ก็ใช่ว่าจะไร้เสน่ห์ ซึ่งความไม่มีบทบาทมากนักของเหล่าคนแคระลูกทีมนั้นจะโทษตัว PJ เองก็ไม่เข้าทีนัก เพราะแม้แต่ผมเองก็ยังจำไม่ได้เลยว่าใครเป็นใคร แม้ทีมงานจะพยายามสร้างความแตกต่างของแต่ละตัวละครแล้วก็ตาม แต่การแต่งหน้า เพื่อเปลี่ยนโฉมนักแสดงนั้นโดดเด่นมากจนได้รับชื่อเข้าชิงออสการ์ไปแล้ว หนังยังเสริมทัพด้วยดนตรีประกอบ สกอร์เพราะๆจาก โฮเวิร์ด ชอว์
    ผู้ให้กำเนิดรายเดิมที่สร้างมนต์เสน่ห์ให้กัภาพยนตร์ได้อย่างสอดรับกัน ต้องยกความดีความชอบให้จริงๆ

    เช่นที่ได้บอกไปว่าหนังมีการเพิ่มเนื้อหาเข้าไปในหนังมากขึ้น ซึ่งก็ไม่ได้ทำให้หนังเสียหายแต่อย่างใด ฉากที่ผมชอบมากที่สุดคือคือ ในระหว่างที่เดินทางออกมาจากริเวนเดลแล้วต้องเดินไปตามทางบนหุบเหวลึก แล้วอสนีก็ฟาดลงมาบนหุบเขาก่อกำเนิดเป็นโทรล์ยักษ์ ลุกขึ้นมาเล่นกันอย่างเพลิดเพลินนั้น มุมกล้องโลดโพน น่าหวาดสียวและลุ้นระทึกมาก ทั้งๆที่ในนิยายมีบรรยายไว้เพียงน้อยนิดเท่านั้น ??เขาก็มองเห็นโทร์ลที่เกิดจากหินออกมาเพ่นพ่าน เอาก้อนหินโยนเล่นใส่กันอย่างสนุกสนาน บางก้อนก็รับไว้ได้แล้วก็เหวี่ยงลงไปยังหุบเหวเบื้องล่าง โดนต้นหมากรากไม้ที่อยู่ข้างล่างหรือไม่ก็แตกเปรี้ยงปร้างออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย?? และยังมีอีกหลายฉากเช่นฉากเปิดเรื่องก็ได้รับการเพิ่มเติมขึ้นมาเช่นกัน ซึ่งถ้าจะพูดถึงแล้วคงยาวเป็นล้นพ้น ที่อยากพูดถึงคือฉากช่วงท้ายของหนังในขณะที่ธอรินเข้าตาจนแล้วบิลโบเข้าไปช่วย เป็นการเปิดตัวคู่หูใหม่ที่น่าประทับใจมากจนผมเกือบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ผมเชื่อแน่ว่าใครที่อ่านนิยายมาแล้วคงรู้ว่าท้ายสุดแล้วเกิดอะไรขึ้นกับตัวละครทั้งสองนี้

    ท้ายสุดแล้วหนังอาจไม่ได้สดใหม่เช่นที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน กับ The Lord of The Ring แต่ The Hobbit คือสิ่งที่จะพาคนดูที่ต่างถวิล โหยหากลิ่นอายของมัชฌิมโลก ได้กลับไปเยือนในถิ่นที่คุ้นเคย และ The Hobbit An Unexpected Journey ทำหน้าที่โหมโรงได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ

    เวลาผ่านไปกว่า 80 ปีนับจาก The Lord of The Ring และ The Hobbit ต้นฉบับนิยายได้ตีพิมพ์ออกสู่สาธารณชน ซึ่งกลายเป็นมรดกและแรงบันดาลใจให้กับนิยายแนวแฟนตาซี ผจญภัยในยุคต่อๆมา เวลานี้เรื่องราวเหล่านั้นได้ถูกนำมาเสกสรรให้มีชีวิตชีวาในรูปแบบภาพยนตร์ ผมเชื่อว่าไม่ใช่แค่นิยายเท่านั้นที่จะเป็นมรดกและแรงบันดาลใจ เพราะตัวภาพยนตร์เองนั้นก็นิยามด้วยคำว่า ยอดเยี่ยมเช่นเดียวกัน

    10/10

    จาก หนึ่งในฮอบบิทจากหมู่บ้านไชร์

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 1 ม.ค. 56 19:45

    หนังไม่สนุกเหมือน Lords of the ring, เสียฟอร์ม Peter Jackson หมดเลย ไปเรื่อยๆๆดนตรีไม่ดีเลย ดีมากก็คือถ่ายภาพและผู้แสดงเป็น Hobit ตอนหนุ่มๆๆ นอกนั้นก้ไม่มีอะไรใหม่เลย เห็นภาพเดิมๆๆ

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 31 ธ.ค. 55 21:22

    สนุกมากๆ แอบฮา มีข้อคิดดีๆ เยอะ
    มีน่าเบื่อบางช่วง เอาไป 9.0/10

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 30 ธ.ค. 55 13:55

    หนังยาวมากเลยครับ ช่วงแรกสนุกน่าสนใจดี

    แต่เนื้อเรื่อง โดยส่วนตัวผมไม่ค่อยชอบหนังมั่วๆ เพ้อฝัน

    เลยให้ 7/10 ครับ มีดีที่ลงทุนกว่าหนังไทย และภาพสวย

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 17 ธ.ค. 55 20:50

    ประทับใจสุดๆ ฉากสวยมากอยากดูอีกรอบค่ะ ><

  • เมื่อ 16 ธ.ค. 55 12:44

    ความรู้สึกเดิมๆ กลับมาอีกครั้งนับตั้งแต่ ภาคสุดท้าย ของ LOTR ความตื่นตระการของเอฟเฟคและฉากต่างๆ ที่เดิมๆบ้าง แต่ก็ยังคงความอลังการเหมือนเดิม ที่จะติก็มีเรื่องการเล่าเรื่องที่ดูจะอืดอาดไปสักนิด ทำให้เกือบหลับได้เหมือนกัน โดยรวมโอเคครับ ไปดูกัน ผมรอไปดูภาค2 และ 3 อย่างแน่นอน

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 14 ธ.ค. 55 19:45

    สนุกดีค่ะ ฉากสวยดี ชอบมากคือฉากหมู่่บ้านของบิลโบ Sound ก็อลัง

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 14 ธ.ค. 55 15:17

    ช่วงแรกของหนัง จะคุยกัน อาจมีวูบหลับได้ แต่พอเข้าเรื่องเดินทาง สนุก ทุกการเดินทางเลย ครับ
    ความรุ้สึกที่ได้จากหนังเรื่องนี้
    ตื่นตา
    อารมณ์ร่วม
    เดินออกจากโรงหนัง อยากดูต่ออีกภาค
    ขอบคุณ ครับ
    อีกหนึ่งความคิดเห้น

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 14 ธ.ค. 55 02:25

    ชื่อไตรภาคเดอะฮอบบิท
    แนะนำให้ดู ไม่มีเบื่อ สนุกมาก

    2012 - The Hobbit: An Unexpected Journey
    2013 - The Hobbit: The Desolation of Smaug
    2014 - The Hobbit: There and Back Again

    รอดูมังกรว่าจะเป็นเนโครมังเกอร์ได้ยังไง

    แจ้งลบ
มีทั้งหมด 14 วิจารณ์ หน้าที่ 1 [ก่อนหน้า] 1 2 [ถัดไป]
เขียนวิจารณ์
จะต้องลงชื่อเข้าใช้ระบบก่อน จึงจะเขียนวิจารณ์ได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google+ หรือ Facebook ก็ได้
Facebook | Google+

advertisement

วันนี้ในอดีต

  • Let Me InLet Me Inเข้าฉายปี 2010 แสดง Kodi Smit-McPhee, Chloe Moretz, Richard Jenkins
  • Vampire Hunter DVampire Hunter Dเข้าฉายปี 2004 แสดง Hideyuki Tanaka, Ichiro Nagai, Koichi Yamadera
  • UnstoppableUnstoppableเข้าฉายปี 2010 แสดง Denzel Washington, Chris Pine, Rosario Dawson

เกร็ดภาพยนตร์

  • Laggies - แอนน์ แฮตธาเวย์ คือนักแสดงเดิมที่จะมารับบท เมแกน แต่ขอถอนตัวเนื่องจากติดถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Song One (2014) และ Interstellar (2014) ด้าน รีเบกกา ฮอลล์ ก็ปฏิเสธบท เมแกน เพื่อแสดง Transcendence (2014) เคียรา ไนต์ลีย์ จึงเข้ามารับบทนี้แทน อ่านต่อ»
  • Into the Woods - บทภาพยนตร์ร่างแรกๆ บทผู้บรรยาย ที่เป็นตัวสำคัญในละครเพลงยังมีบทบาทอยู่ในฉบับภาพยนตร์ และก่อนที่บทนี้จะถูกตัดออกในภายหลัง นักแสดงมากมายได้รับการพิจารณา เจรจา และทาบทามให้สวมบทนี้ นักแสดงเหล่านั้นรวมถึง เจเรมี ไอออนส์, คริสโตเฟอร์ พลัมเมอร์, เจฟฟรีย์ รัช, เจมส์ เอิร์ล โจนส์, จอห์น คลีส, ไมเคิล เคน, ไมเคิล แกมบอน และ อลัน ริกแมน นอกจากนี้ยังมีข่าวลือว่าจะมอบบทนี้ให้นักแสดงผู้หญิงอย่าง จูลี แอนดรูว์ หรือ แองเจลา แลนส์บูรี ที่คุ้นเคยกับลักษณะงานของผู้ประพันธ์เพลง สตีเฟน ซอนด์ไฮม์ เป็นอย่างดี อ่านต่อ»

เปิดกรุภาพยนตร์

Late Night Late Night รายการ เลต ไนท์ โดย แคทเธอรีน นิวบิวรีย์ (เอ็มมา ท็อมป์สัน) รายการที่เคยได้รับความนิยมอย่างสูงสุด กำลังประสบปัญหาความตก...อ่านต่อ»