วิจารณ์ Hotel Transylvania

วิจารณ์ภาพยนตร์
  • เมื่อ 31 ธ.ค. 55 20:49

    โรงแรมผี หนีไปพักร้อน

    การ์ตูนพ่อลูกที่เข้าฉายได้เป๊ะมาก วันที่ 5 ธันวา วันพ่อพอดี
    เป็นการ์ตูนพ่อลูกเรื่องที่สองที่ได้ดู #เรื่องแรกคือนีโม
    พล็อตของเรื่องถือว่าไม่ธรรมดาครับ เป็นพล็อตที่เน้นแวมไพร์ครับ โดยลูกสาวของแคล็กคิวล่าิอยากใช้ชีวิตอิสระ อยากออกนอกปราสาท แต่ผู้เป้นพ่อเคยมีประสบการ์ณเลวร้ายมา จึงไม่อยากใหู้ลูกสาวออกไปข้างนอกซักเท่าไหร้่ เนื้อเรื่องเข้มข้นมากครับ และดราม่าโครตซับซันครับ เช่น

    นางเอกชอบพระเอก นางเอกกำลังจะจูบพระเอก พระเอกหันไปเห็นพ่อนางเอกที่กำลังจ้องอยุ่ พระเอกก็กลัวแล้วบอกว่าเกลียดนางเอกแล้วก็วิ่งออกไป นางเอกก็เข้าใจผิด
    มันซับซ้อนครับ แนะนำให้ไปดุเอง #แต่หนังออกโรงไปแย้ว 555

    หนังเรื่องนี้ ไม่ฮาอย่างที่คิดครับ แต่ฮาฉากฝูงแกะครับ ฉากนี้ชอบมาก
    ฉากที่ร้องเพลง ใส่ Autotune เยอะไปครับ เพลงเสียเลย - -
    ในหนังบางฉาก ท่านเคาท์ทำให้เราตกใจหลายครั้งครับ โดยเฉพาะฉากดีดอูคูเลเล่ ระวังให้ดีครับฉากนั้น

    คะแนนครับ
    ข้อดี
    +หนังเรื่องนี้มีข้อคิดที่ดีมากครับ
    +แนะนำให้พ่อหรือแม่ที่ยังห้ามไม่ให้มีความรักไปดูครับ เผื่อพ่อแม่จะได้เข้าใจเราบ้าง
    +ลูกก็ควรเข้าใจพ่อแม่อย่างที่หนังสอนด้วยครับ
    +รวบรวมผีจากหลายๆที่ มารวมกันในเรื่องเดียวสร้างความสมบูรณ์ไปอีกแบบ
    +มีมุขเสียดสีหนัง Twilight อยู่ ฮามาก XD
    +คาแรคเตอร์ของท่านเคาืท์ แลคคิวล่า ยกนิ้วให้เลย
    +หนังซับซ้อนครับ ดูแล้วได้อารมณ์

    ข้อเสีย
    -หนังจะพยายามให้เราฮา แต่แป้กหลายมุข
    -หนังง่ายเกินไปครับ #แต่เหมาะให้เด็กดู ข้อนี้ยกให้ครับ
    -ฉากร้องเพลง ใส่ Autotune เยอะจนเพลงเน่าไปเลยครับ

    สรุปครับ ใ้ห้คะแนนไป 8.5 คะแนนครับ

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 13 ธ.ค. 55 22:47

    ฮาขี้แตกขี้แตนเลย ครับ ขอบอก
    ส่วนตัวชอบเหล่าผีในตำนานฝรั่งอยู่แล้ว พอไปดูยิ่งชอบ เหมือนเอามาล้อ

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 11 ธ.ค. 55 16:59

    แอนิเมชั่นเรื่อง Hotel Transylvania หรือชื่อภาษาไทยว่า โรงแรมผี หนีไปพักร้อน ซึ่งเป็นภาพยนต์แอนิเมชั่นจากค่าย Sony Pictures Animation ซึ่งต้องบอกว่า เป็นหนังที่มีเนื้อหาดีมากๆ เรื่องหนึ่ง ทว่า เป็นหนังเรื่องที่ 2 ที่ดันมาฉายผิดเวลา เหมือนกับปีที่แล้วกับเรื่อง Arthur Christmas ที่เป็นหนังที่เนื้อหาดีมาก (ดีกว่า Hotel Transylvania อีก) แต่เรื่องนี้จะโดนกระแสหนังดังๆ อย่าง Rise Of The Guardians , The Impossible และในวันพฤหัสกับเรื่อง ฮ็อบบิท ซึ่งคิดว่าคงโดนกลบจนไม่เหลือแน่ เอาหละครับ ก่อนที่หนังมันจะโดนฝัง เรามาดูกันดีกว่าว่าเรื่องนี้เป็นอย่างไรบ้าง

    เนื้อเรื่อง

    แม้ว่าตัวหนังจะมีกลิ่้นอายคล้ายๆ กับการ์ตูนเรื่องหนึ่งที่ทาง Cartoon Network เคยเอามาฉายในอดีต แต่ต้องบอกว่าเนื้อเรื่องไม่เกี่ยวกัน เรื่องเอ่ยถึงประมาณว่า แดรกคูล่า ผู้ที่ต้องการปกป้องลูกสาวตนเองจากโลกภายนอก จึงได้สร้างโรมแรมขึ้นมาเพื่อให้เหล่าภูติผีปีศาจที่ต้องซ่อนตัวจากเงามืดมาพักผ่อนกันแบบปลอดภัยโดยไม่มีมนุษย์มาเกี่ยวข้อง แต่ในวันเกิดครบรอบอายุ 118 ของลูกสาวเขา ดันมีมนุษย์ชายหนุ่มหลงเข้ามา ทำให้เรื่องวุ่นเกิดขึ้น

    วิจารณ์

    Hotel Transylvania นั้นบอกได้เลยว่าเป็นหนังพล็อตเรื่องสูตรสำเร็จตามสไตล์ของหนังแอนิเมชั่นทั่วไปที่ยังไม่เห็นความสดใหม่เท่าไหร่นัก ตัวเนื้อเรื่องนั้นก็คือการนำแนว Soap Opera เอามาเล่าใหม่ในมุมมองของโลกปัจจุบันและมุมมองอื่นๆ และใส่ความเป็นแฟนตาซีเข้าไปด้วย แต่ตัวเนื้อหาได้นำเนื้อหาความแปลกใหม่เข้ามาเกี่ยวข้องผสมไปอยู่บ้างจึงทำให้เนื้อเรื่องนี้มีความโดดเด่นในระดับหนึ่ง แม้จะไม่มากเมื่อเทียบกับ Arthur Christmas ที่เนื้อเรื่องลึกกว่าก็ตาม

    หนังได้ถ่ายทอดมุมมองของความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูก ระหว่างท่านแดรกคูล่าและ มาวิส ลูกสาวของเขา (แวมไพร์สาวน่ารักมาก) ช่วงเวลาหนัง 10 นาทีแรกสร้างความประทับใจให้กับคนดูได้ถึงความสัมพันธ์ของสองพ่อลูกนี้ได้เป็นอย่างดี จากนั้นตัวเนื้อเรื่องก็ค่อยๆ ทวีความสนุกมากขึ้นเมื่อแวมไพร์สาวอยากที่จะออกไปดูโลกภายนอก และเมื่อคนดูคุ้นชินกับเนื้อหาของหนังแล้ว หนังได้โยนชายหนุ่มสุดเกรียนที่เป็นมนุษย์เข้ามาเพื่อให้เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจมากขึ้น

    ความสนุกของหนังเรื่องนี้ดูเหมือนว่าคนเขียนบทจะได้ทำการบ้านจากเรื่อง Arthur Christmas มาไม่น้อย แม้ว่าเมื่อเทียบกับความสนุกแล้วจะยังสู้ 15 นาทีแรกของ Arthur Christmas ไม่ได้ แต่ช่วงเวลาของหนังก็ไม่ทำให้คนดูรู้สึกเบื่อ ไม่มีให้หยุดพักและแทรกเสียงฮาใส่คนดูเป็นระยะๆ เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกว่า Hotel Transylvania กำลังเจริญรอยตาม DreamWork ตรงที่ว่าเน้นมุขฮาๆ ยัดเข้ามาไม่ยั้ง

    หากดูธีมของหนังแล้วอาจจะคิดว่านี่มันเป็นหนังที่น่าจะเหมาะสมกับเทศกาลฮัลโลวีน แต่ไม่ใช่ครับ มันเป็นหนังเรื่องของพ่อลูกซะเป็นส่วนใหญ่ ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมหนังถึงย้ายโปรแกรมฉายมาเป็นวันที่ 5 ธ.ค. ซึ่งตรงกับวันพ่อทันที แต่ก็น่าแปลกที่ไม่เห็นมีการประชาสัมพันธ์หนังเรื่องนี้เท่าไหร่นัก ทั้งๆ ที่ตัวเนื้อหาหนังเข้ากับวันพ่อมากๆ

    ถ้าคนดูนั้นได้ดูหนังแนว Soap Opera มาแล้วคนดูจะสามารถเดาการกระทำของตัวละครในเนื้อเรื่องได้เกือบหมด เพียงแต่ว่านี่มันเป็นหนังเด็กดี ฉะนั้นแล้วจึงไม่มีฉากดราม่าชวนเครียด หนังเรื่องนี้ได้ถ่ายทอดถึงการเรียนรู้และการรับสิ่งใหม่ๆ มันเป็นแนวทางการดำเนินเรื่องที่ผมเชื่อเลยว่า ถ้าละคร Soap Opera ในบ้านเราทำแบบนี้บ้าง จะไม่มีคำว่าเครียดสำหรับคนดูเลย แต่จะทำให้คนดูรู้สึกสนุกสนานและยังรับสาระเข้าไปได้มากกว่าอีกด้วย

    นี่ไม่ใช่หนังสยองขวัญ และก็ไม่ใช่หนังแนวคนสู้กับปีศาจ แต่มันคือหนังครอบครัวที่เหมือนเป็นการสะท้อนพวกพ้องของพวกเราเอง สะท้อนถึงครอบครัว สะท้อนถึงกลุ่มเพื่อนที่สนุกสนานเฮฮา และสะท้อนไปจนถึงเรื่องของความรัก แม้ว่าหนังจะมีรายละเอียดเรื่องนี้มาให้คนดู แต่ก็ไม่ได้ถ่ายทอดรายละเอียดที่สูงเมื่อเทียบกับ Arthur Christmas จึงทำให้คุณภาพของเนื้อเรื่องในหนังเรื่องนี้ดูด้อยลงไประดับหนึ่ง

    จุดอ่อนของหนังเรื่องนี้มีอย่างหนึ่งก็คือ ฉากต่างๆ จะอยู่กันในโรมแรมและหมู่บ้านข้างนอกโรมแรมไม่กี่ที่เท่านั้น จึงทำให้เนื้อเรื่องขาดความระดับ "พระกาฬ" ลงไปเมื่อเทียบกับ Arthur Christmas แน่นอน มันเป็นหนังคลายเครียดที่ดูสนุกสนาน แต่เมื่อเทียบกับหนังแอนิเมชั่นเพื่อนบ้านอย่าง Rise Of The Guardians จึงทำให้ตัวหนังดูจืดไปทันตา

    ในส่วนของเสียงพากษ์นั้นผมได้ดูเสียงพากษ์ไทย รับประกันความฮาหลายๆ จุดเลยครับ เสียงพากษ์นั้นดูอบอุ่นและนุ่มนวล ซึ่งผิดกับคาเรกเตอร์ที่ดูจากภาพเฉยๆ มากๆ จึงทำให้เรื่องนี้ดูแล้วรู้สึกผ่อนคลายและอินกับมันได้อย่างเต็มที่ และขอชื่นชมผู็ให้เสียงพากษ์ มาวิส แวมไพร์สาวในเรื่องว่าเป็นอีกเรื่องที่พากษ์เสียงได้น่ารักมากครับ และพากษ์ได้ดีด้วย

    กระนั้นนอกจากข้อเสียของสเกลระดับของเนื้อหาทั้งเชิงลึกและความใหญ่แล้วเรื่องนี้ยังมีจุดอ่อนอีกเรื่อง คือมุขตลกนั้นเป็นมุขที่เน้นเด็กๆ ดูแล้วขำเสียเป็นส่วนใหญ่ หลายๆ มุขนั้นอาจแป้กได้ถ้าคุณผู้ใหญ่เข้าไปดู (รึว่าสมองผมยังไม่โตก็ไม่รู้เหมือนกัน) มุขตลกเรื่องนี้แม้ว่าจะมีใส่คนดูตลอด แต่สำหรับเด็กๆ จะฮาทั้งเรื่อง สำหรับผู้ใหญ่ถ้าคิดจะไปดู ได้โปรดนะครับ ปล่อยวาง แล้วกลายร่างตัวคุณให้เป็นเด็กอายุ 12 ซะบ้าง แล้วรับรองว่าคุณจะได้รับความบันเทิงจากเรื่องนี้ครับ

    จุดเด่น
    - นำเสนอเนื้อหาแบบ Soap Opera ในมุมมองใหม่และสมัยใหม่ขึ้น ทำให้ดูไม่น่าเบื่อ
    - ถ่ายทอดความสัมพันธ์ของพ่อลูกได้ดีเยี่ยม
    - มุขตลกยัดใส่ไม่กั๊กทั้งเรื่อง ถ้าเก๊กมุขก็จะฮาตลอด
    - หนังหาความน่าเบื่อได้น้อยเมื่อเทียบกับ Arthur Christmas จึงทำให้เรื่องนี้เด็กๆ จะสนใจมากกว่า
    - ถ้าคุณรักพ่อ รับรองว่าจะอินกับเรื่องนี้ครับ

    ข้อเสีย
    - เนื้อหาขาดความนุ่มลึกเมื่อเทียบกับ Arthur Christmas เหมือนกับมันดรอปลงไปบ้าง
    - เนื้อหาขาดความใหญ่ จึงทำให้ได้รับความสนใจน้อยกว่า Rise Of The Guardians
    - พล็อตเรื่องเรียบง่าย ยังไม่เห็นความสดใหม่เท่าไหร่ และยังไม่มีอะไรน่าจดจำเมื่อเทียบกับอาเธอร์
    - มุขตลกใส่ตลอดก็จริง แต่ถ้าคนดูคนไหนเป็นผู้ใหญ่จะไม่เก๊กเมื่อเทียบกับเด็กๆ และสาวๆ (ในโรงหนัง สาวๆ จะขำกับมุขมากกว่าผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่ครับ)
    - ตัวหนังยังขาดรายละเอียดหลายอย่างที่ทำให้ยังขาดความสมจริงหลายอย่าง

    ปล. ทำไมผมถึงเทียบหนังเรื่องนี้กับ Arthur Christmas ? คำตอบก็คือ เรื่องนี้เป็นเรื่องถัดมาจาก Arthur Christmas ของค่าย Sony Pictures Animation ที่มาฉายในบ้านเราครับ ส่วนเรื่อง The Pirates! Band of Misfits เรื่องก่อนหน้านี้บ้านเราไม่มีฉายในโรง แต่ลงแผ่นเลยครับ

  • เมื่อ 11 ธ.ค. 55 00:25

    สนุก

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 6 ธ.ค. 55 23:35

    สนุกมากกกกกกกกก ชอบๆๆ
    ไปดูกันเยอะๆ นะ

มีทั้งหมด 5 วิจารณ์
เขียนวิจารณ์
จะต้องลงชื่อเข้าใช้ระบบก่อน จึงจะเขียนวิจารณ์ได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google+ หรือ Facebook ก็ได้
Facebook | Google+

advertisement

วันนี้ในอดีต

  • Lone SurvivorLone Survivorเข้าฉายปี 2014 แสดง Mark Wahlberg, Taylor Kitsch, Emile Hirsch
  • The School of RockThe School of Rockเข้าฉายปี 2004 แสดง Jack Black, Mike White, Joan Cusack
  • มหัศจรรย์...พันธุ์รักมหัศจรรย์...พันธุ์รักเข้าฉายปี 2004 แสดง ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์, รัฐพร วัฒนสมบัติ, สุชาญา ไกรสุวรรณ

เกร็ดภาพยนตร์

  • Badlapur - เป็นภาพยนตร์ที่ไม่ใช่แนวตลกเรื่องแรกที่ วรุณ ธาวาน ผู้รับบท รักฮาฟ แสดง อ่านต่อ»
  • Chappie - ชาร์ลโต คอปลีย์ ผู้รับบท แชปปี้ กับผู้กำกับ นีลล์ บลอมแคมป์ เรียนโรงเรียนเดียวกันสมัยมัธยมศึกษา ทั้งคู่เป็นเพื่อนสนิทกัน ชาร์ลโต จึงร่วมแสดงในภาพยนตร์ทุกเรื่องที่ นีลล์ กำกับก่อนหน้านี้ ได้แก่ District 9 (2009) และ Elysium (2013) อ่านต่อ»

เปิดกรุภาพยนตร์

Onward Onward สองพี่น้องเอลฟ์จอมซ่า เอียน (ทอม ฮอลล์แลนด์) และ บาร์นีย์ (คริส แพรตต์) กับภารกิจตามหาเวทมนตร์ที่หลงเหลืออยู่เพื่อพาพ่อ...อ่านต่อ»