วิจารณ์ Cloud Atlas
-
ma_meaw
(เลขที่ 285844)
เมื่อ 3 ก.พ. 57 01:24
In past present or future
However we have a same cloud.
ครั้งแรกเลยที่เห็น cloud atlas คือใน tv spot ไม่กี่วิ คิดว่าน่าจะออกแนวสี่แพร่งห้าแพร่งเหมือนบ้านเราอะไรอย่างงี้ ใครจะไปรู้ว่าจะเล่นเทคนิคสลับฉากไปมา แต่ก็ต้องชมแนวคิดนี้เหมือนกันเพราะว่ามันมีความเสี่ยงอยู่เยอะ ถ้าหากคนดูชอบก็ไม่เป็นไรน่ะ แต่ถ้าหากภาพมันเกิดมั่วไปหมด ต่อเรื่องราวกันไม่ค่อยได้แถมเป็นทั่งเรื่องอีก ถ้าไม่เก่งจริงคงทำกันยาก แต่เรื่องนี้ดูแล้วไม่มึน ดูแล้วเข้าใจถือว่าทำออกมาได้ดีครับ
แนะนำว่าก่อนดูหนังเรื่องนี้ให้ลืมข้อมูลทั้งหมดของหนังก่อน ทั้งเรื่องย่อต่างๆลองทำใจให้สบาย ซึมซับหนังไปเรื่อยๆเพราะมันจะงงเล็กน้อย แถมอาจจะออกน่าเบื่อไปเลยสำหรับบางคน ตลอดทั้งเรื่องมีฉากให้ระทึกบ้างก็มีตอนหลังๆเองล่ะมั้ง แต่ยังไง cloud atlas ก็ไม่ใช่หนังดูยากอะไรอันนี้บอกได้เลย มีฉากอมยิ้มสลับกับฉากซึ้งๆให้เห็นกันเยอะ ดร่าม่าจริงๆนั้นแทบจะไม่มีเลย
cloud atlas หนังที่เล่าถึงชีวิตของมนุษย์ทุกชีวิตที่ล้วนก็มีความผูกพันกันมาก่อน ทั้งอดีตปัจจุบันและอนาคตที่ทุกตัวละครต้องมาเจอกัน เหมือนเมฆนั่นแหละจะเป็นตอนไหนมันก็อยู่บนหัวเราอยู่ดี ไม่ว่าวันนี้เราจะทำอะไร ก็จะส่งผลต่อวันพรุ่งนี้เสมอ ถึงแม้เราจะรู้อยู่แล้วว่าผลมันจะออกมาไม่ดีนักแต่เราก็มีสิทธิ์ที่จะ"เลือก" และทำในสิ่งที่ต่างออกไป ที่จริงนั้นหนังจะป้อนคำคมต่างๆมากมายตลอดเยอะมาก แต่เข้าใจง่ายเนอะ
มีอย่างนึงที่เป็นตัวชูหนังขึ้นมาได้นั่นคือ soundtrack เป็นอะไรที่อธิบายไม่ได้จริงๆและค่อนค่างจะเกินคาดเอามาก สำหรับผมแล้วถ้าจะทำหนังแนวนี้เพลงประกอบถือว่ามีความสำคัญน่ะ เพราะผมเองคงจินตนาการไม่ออกจริงๆถ้าหากหนังมีภาพสวยๆแต่คาดเสียงเพลงนั้นคงจะเรียกว่าเป็นหนังมี่ดีอย่างเต็มปากไม่ได้ โดยเฉพาะ(อันนี้ชอบส่วนตัว:))เพลงประกอบ sextet เป็นอะไรที่บ่งบอกถึงหนังเรื่องนี้ได้ดีที่สุดแล้ว
ถ้าเรามาลองแยกตอนแต่ละตอนออกเป็นส่วนๆก็จะเห็นว่าฉากแต่ละฉากก็ไม่ได้ดีอะไรขนาดนั้น ทุกฉากล้วนเคยเห็นจากหนังเรื่องอื่นมาแล้ว แต่มันแค่นำเสนอในรูปแบบใหม่+ภาพสวย+เนื้อเรื่องดี+เพลงประกอบเยี่ยม และอะไรหลายๆอย่างคงจะบอกได้ว่านี่เป็นภาพยนตร์อีกเรื่องที่มีค่าแก่การจดจำครับ # ทั้ง 6 ตอนชอบตอนซอนมีมากที่สุด ^^
" Our lives are not our own. We are bound to others. Past and present. And by each crime; and every kindness we birth our future. "
A- -
IppitsuSoujou
(เลขที่ 248291)
เมื่อ 6 ก.ค. 56 21:01
โคตรชอบเรื่องนี้เลย
ตอนเข้าเรื่องแรกๆโคตรจะงงอ่ะ
แบบสลับไปสลับมา แล้วตัวละครก็เยอะ เลยงง
แต่ดูไปเรื่อยๆก็เริ่มเข้าใจ ลุ้นตลอดเลยเวลาเจอฉากตื่นเต้น
เป็นหนังที่ต้องดูมากกว่าหนึ่งรอบ
ยิ่งตอนเห็นว่าใครเป็นใครในแต่ละชาติต้องอ้าปากเหวร้องเฮ้ยๆ อ๋อๆ ตามๆกันเลยทีเดียว
เมคอัพเริ่ดมาก แอคติ้งแต่ละคนก็ดีสุดๆ
หลงรักจิม สเตออ่ะ ฮ่าๆ โคตรหล่อเลยโดยเฉพาะบทแฮจู~
หน้างี้ใสวิ๊ง>< -
Shifty_C
(เลขที่ 333350)
เมื่อ 1 พ.ค. 56 09:22
หนังลึกซึ้งแบบนี้ฝรั่งสู้คนเอเชียไม่ได้ นี่พูดเลย
แต่ก็ยังพยายามทำออกมา ดีๆๆ
รู้จัก duna bae จากเรื่องนี้ หน้าโคตรเอกลักษณ์เลย คนอะไร -
directorcut
(เลขที่ 180093)
เมื่อ 3 ธ.ค. 55 17:12
รางวัลแต่งหน้ายอดเยี่ยมปีนี้ โดยส่วนตัวผมให้เรื่องนี้เลยครับ นักแสดง 1 คน ผู้กำกับใช้จนคุ้ม ผมว่าหลายคนคาดไม่ถึงแน่ว่า ใช่คนเดียวกันหรือเปล่า ดูไปเดาไปแล้วดูเฉลยหลังเอนด์ เครดิต ( รอสักประมาณ 2 นาที ชื่อนักแสดง และใบหน้าที่เล่นเป็นแต่ละชาติจะมีให้ชม ) เป็นหนังดีอีกเรื่องหนึ่งครับ
-
.::นู๋กระต่าย::.
(เลขที่ 191053)
เมื่อ 3 ธ.ค. 55 09:15
หนังดีใช้ได้เลย ให้คะแนนความพยายามเรื่องเนื้อหาละเอียดละออมากๆ
ดูรอบเดียวเห็นจะไม่พอ ขอรอแผ่น
7/10 -
yeahh
(เลขที่ 198548)
เมื่อ 29 พ.ย. 55 19:43
8.9/10 อาจจะมีง่วงไปบ้าง เเต่พอเข้าชั่วโมง 2 จนจบเรื่อง สนุกมาก
ตัดต่อดีมาก นักเเสดงดีมาก เจ๋ง เอฟเฟกดีกว่าหลายๆเรื่อง เเต่ซาวเเทรกกับเมคอัพ อลังการสุด -
KaNhom++
(เลขที่ 67786)
เมื่อ 26 พ.ย. 55 10:45
สำหรับหนังเกือบสามชั่วโมง มีบางตอนแอบง่วงอยู่เหมือนกัน
ตัวหนังทำได้ดีนะ แรกๆอาจจะยังงงๆมึนๆ เพราะตัดสลับไปมา แต่หนังก้สอนแล้วก็ให้ข้อคิดอะไรดีๆ บางทีสิ่งที่เราเห็น สิ่งที่เราคิด สิ่งที่เราเข้าใจ มันอาจจะไม่ใช่แบบนั้นจริงๆก็ได้
รวมๆแล้วถือว่าโอเค อยากกลับไปดูต่อจะได้เก็บรายละเอียดของหนังได้มากขึ้น 555 -
ทิชชูไม่ต้อง
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 16 พ.ย. 55 15:35
spectacular + entertaining + great story
เคยอ่านเจอบทความที่เขาพูดถึงหนังสือเรื่องเมฆาสัญจร (Cloud Atlas ฉบับแปลไทยที่ตอนแรกหายากมาก แต่พอหนังเข้า มติชนก็เอามาตีพิมพ์ใหม่จำจวนจำกัด) คิดว่ามันน่าสนใจ สนใจในประเด็นโครงสร้างและจุดเชื่อมโยงของเรื่องราวมากกว่าประเด็นที่จะสื่อเล็กน้อย เลยตั้งใจจะไปดูให้ได้ แต่ก็ไปแบบไม่ได้คาดหวังว่ามันจะดูสนุก entertain คนดูอะไรเลยนะ เรื่องวงกลมซ้อนวงกลมซ้อนวงกลมอย่างงี้คิดว่ายังไงก็สนุกยาก ผู้กำกับก็ปาไปตั้ง 3 คน ถึงจะเป็น 3 คนที่เราค่อนข้างชอบก็เถอ
แต่พอดูแล้ว โอ้โห สนุกมาก ดูเพลิน (แต่ 3 ชั่วโมงนี่ ยังไงก็เผื่อง่วงบ้างล่ะ) การเชื่อมโยงเรื่องราวนี่สุดๆ เล่ายาก ต้องไปดูเองถึงจะรู้ ผู้กำักับละเอียดมากในการจับจุดร่วมกันของผู้คนทั้งหลายใน 6 ยุค 6 ชาติ แล้วการเล่นของตัวละครโดยเฉพาะ เจมส์ บรอดเบนต์ นี่น่ารักสุดๆ ตอนเล่นเป็นตาแก่นักดนตรีที่เห็นแก่ตัวก็ดูน่าหมั่นไส้ พอเล่นเป็นชายชราที่ถูกจับโยงเข้าบ้านพักคนชราสุดโหดนี่ก็น่ารักน่าเอาใจช่วยมาก พอกลายร่างเป็นกัปตันเรือขี้เมาในยุคที่มองว่าคนผิวสีไม่ใช่คนก็ดูดุดันไปเลย ส่วนสองนักแสดงนำ ทอม แฮงก์ กับ ฮัลลี เบอร์รี นีไม่ไต้องบอกก็รู้เอาอยู่ๆแล้ว แต่ที่ชอบมากก็บรอดเบนต์ ฮิวโก วีฟวิง แล้วก็ จิม สเตอเจสส์ เวอร์ชันไว้หนวด หัวแดง
ส่วนเรื่องของประเด็นที่ต้องการจะสื่อเราจะได้รับรู้อย่างน้อยก็ผ่าน quotaion ที่ตัวละครที่อยู่กันคนละยุคโควทคำพูดของกันและกัน และการกระทำหรือเรื่องราว อย่างการ rebel ต่อการกดขี่ ที่มาให้เห็นในรูปแบบต่างๆ ทั้งเรื่องการค้าทาสในตอนแรก ซึ่งถูกเอาคืนในยุคหลังอารยธรรมล่มสลายที่คนขาวอยู่อย่างคนป่า (หรือถ้าตามที่คนขาวเคยมองคนผิวสีก็คงต้องบอกว่าอยู่อย่างสัตว์ป่า) ขณะที่คนผิวสีกลายเป็นพวกพรีเชียน มีอารยธรรมที่เจริญกว่ามากก มายังกับพระเจ้า ซึ่งการรีเบลนี่เห็นชัดในยุคนีโอโซลที่มีการเพาะพันธุ์มนุษญ์สังเคราะห์ขึ้นมา ซึ่งก็จะเชื่มโยงไไปถึงยุคหลังการล่มสลาย
ภาพรวมของเรื่องราวมันทำให้รู้สึกว่ามันมีอะไรบางอย่างที่ทำให้คนเราตัดสินใจอะไรซ้ำๆ ในสถานการณ์ต่างๆ คนเรานี่จะไม่วิวัฒน์เลยใช่มั้ย เหมือนชีวิตมันก็แค่นี้แหล่ะ ไม่ว่าจะอยู่ท่ามกลางอารยธรรมล้ำสมัย หรืออยู่ในโลกดึดำบรรพ์ มันก็ยังเปราะบาง เห็นแก่ตัว อยากเปลี่ยนแปลง rebellious soul อะไรอย่างงั้น แต่ต่อให้ rebellious ยังไง ก็ไม่มีอะไรคงกระพันหรอก
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google+ หรือ Facebook ก็ได้
Facebook | Google+
advertisement
วันนี้ในอดีต
- รักแห่งสยามเข้าฉายปี 2007 แสดง มาริโอ้ เมาเร่อ, วิชญ์วิสิฐ หิรัญวงษ์กุล, กัญญา รัตนเพชร์
- Harry Potter and the Chamber of Secretsเข้าฉายปี 2002 แสดง Daniel Radcliffe , Emma Watson , Rupert Grint
- ตีสาม 3Dเข้าฉายปี 2012 แสดง กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า, โทนี่ รากแก่น, ชาคริต แย้มนาม
เกร็ดภาพยนตร์
- The Age of Adaline - แองเจลา แลนส์บูรี คือนักแสดงที่ถูกวางตัวให้รับบท เฟลมมิง เมื่อปี 2010 แต่ท้ายสุดแล้ว เอลเลน เบอร์สตีน คือผู้ที่ได้แสดงบทนี้ อ่านต่อ»
- Skin Trade - ดอล์ฟ ลันด์เกรน ผู้รับบท นิก เขียนบทเรื่องนี้ในปี 2006-2007 โดยตั้งใจว่าจะกำกับเอง แต่ภายหลังตัดสินใจมอบหน้าที่กำกับให้แก่ เอกชัย เอื้อครองธรรม โดย ดอล์ฟ จะได้ทำหน้าที่ควบคุมงานสร้างได้อย่างเต็มที่ อ่านต่อ»
เปิดกรุภาพยนตร์
Show Me The Way To The Station ซายากะ (จิเสะ นิอิตสึ) เด็กหญิงวัย 8 ขวบ อาศัยอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ที่เมืองริมชายหาดซึ่งมีรถไฟสีแดงวิ่งผ่าน ระหว่างที่ไปค...อ่านต่อ»